10 สิงหาคม 2566

คัมภีร์อนุตรธรรมภาคจิตจักรวาล 10/08/2023

(เพื่อยุวจิตจักรวาลยุคสุดท้าย)
 
พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
 
การเป็นมนุษย์ผู้มี “จิตใสใจสวย” นั้น
นอกจากจะหมายถึงผู้มีคุณสมบัติ 2 ประการ
ตามที่เรากล่าวไว้ในบทที่ผ่านมาแล้ว คือ
1.หมุนธรรมจักรในตนเองได้
2.ไม่ปิดอายตนะภายนอกของตนไว้
บทนี้เราจะกล่าวถึงคุณสมบัติประการที่สามต่อ
 
3.#ใช้ขันธ์ห้าได้อย่างถูกต้อง
 
คำว่า “ขันธ์ 5” อันหมายถึง
กระบวนการในการรับรู้ของจิตหยาบ 5 ขั้นตอน
คือ รูป เวทนา สัญญา สังขาร และ วิญญาณ
ซึ่งเป็นกระบวนการที่เกิดขึ้นได้โดยอัตโนมัติ
ไม่ต่างจากการใช้ปัญญาของสมองซีกซ้าย
เพื่อการนึกคิดในชีวิตประจำวันของคุณนั่นแหละ
โดยมีจิต 3 นึก เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการคิด
คือ นึกออก นึกเอา และ นึกเอง
 
ถ้านึกบวกก็คิดบวกหรือนึกดีก็คิดดี
ถ้านึกด้านบวกก็จะคิดแต่ทางด้านบวก
ถ้านึกด้านไหนก็จะคิดแต่ด้านนั้น
คนแบบนี้จะตกหลุมพรางคนชั่วได้ง่าย
ถ้ามองโลกในแง่ดีหรือมองคนอื่นว่าดีด้านเดียว
 
ถ้านึกลบก็จะคิดลบหรือนึกชั่วก็คิดชั่ว
ถ้านึกด้านลบก็จะคิดแต่ทางด้านลบ
ถ้านึกด้านไหนก็จะคิดแต่ด้านนั้น
คนแบบนี้จะมีชีวิตอยู่อย่างหวั่นระแวงไม่ไว้ใจใคร
ถ้ามองโลกในแง่ร้ายหรือมองคนอื่นว่าไม่ดีไปหมด
 
อันที่จริงแล้วคนที่ฉลาดมองโลกอย่างไม่ผิดพลาด
คือคนที่จะต้องรู้จักนึกคิดทั้งด้านบวกและด้านลบ
โดยนึกคิดให้ครบในทุกๆด้านมิใช่มองแค่บางด้าน
มิใช่มองแบบนี้กับทุกคนอย่างไม่มีข้อยกเว้นเลย
คือจง “มองอย่างไม่มีอคติ” มองอย่างไม่ลำเอียง
 
#การมองอย่างไม่มีอคติ หมายถึง
การมองโดยสวมแว่นใสๆไม่ใช่สวมแว่นตาที่มีสี
เพราะแว่นที่มีสีจะทำให้คุณมองไม่เห็นความจริง
แว่นตาสีอะไรคุณจะมองเห็นสิ่งใดเป็นสีนั้นเสมอ
 
การมองผ่านแว่นตาที่มีสีหมายถึงมองด้วยกิเลส
มองด้วยอารมณ์รู้สึกนึกคิดที่ลำเอียงไม่เที่ยงตรง
อันหมายถึงการมองโลกที่ผิดไปจากความเป็นจริง
เมื่อคุณมองไม่เห็นความจริงคุณก็จะ “หลงทาง”
คุณก็จะเดินสะเปะสะปะชนนั่นชนนี่อยู่เรื่อยไป
เหมือนกับคุณนั้นกำลังเดินอยู่ในความมืดโดยแท้
 
ดังนั้น
ถ้าคุณจะใช้ขันธ์ห้าได้อย่างถูกต้องแล้ว
คุณจะต้อง “ฉลาดมองโลก” ในปัจจุบันขณะด้วย
โดยครอง #มหาสติ คือ รู้สติ มีสติ ใช้สติ ให้มั่นไว้
คุณจะเป็นคนที่มีคุณสมบัติพิเศษต่างจากคนอื่นๆ
เพราะคุณจะเปลี่ยนเป็นคนนึกคิดด้านบวก
คุณจะเป็นคนนึกคิดรอบด้านและฉลาดคิดมากขึ้น
โอกาสที่จะใช้ขันธ์ห้า #หมุนกรรมจักร ในตนเอง
ก็จะมีน้อยลงตามไปด้วยในที่สุด
 
เพราะการหมุนกรรมจักรในตนเอง
มันจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อคุณ #ไม่ฉลาดมองโลก
เกิดขึ้นเมื่อคุณมองโลกหรือมองคนอื่นแค่บางด้าน
นั่นคือมองคนอื่นด้วยจิตใจที่ลำเอียงไม่เที่ยงธรรม
ไม่ว่าจะลำเอียงตาม “อารมณ์รู้สึกนึกคิด” ขณะนั้น
ไม่ว่าจะลำเอียงตาม “ทัศนคติ” ที่มีต่อคนนั้นสิ่งนั้น
มันล้วนทำให้คุณ #เสียสมดุลทางจิตใจ ได้เสมอ
เพราะสภาวะจิตคุณจะเกิดการก้าวล่วงผู้อื่นทันที
 
การ #ก้าวล่วงผู้อื่น จากสภาวะจิตที่ไม่สมดุลนั้น
ก็คือการหมุน “กรรมจักร” ในความหมายของเรา
ในพวกคุณชาวโลกเสรีส่วนใหญ่มักจะเป็นกันมาก
มักจะชำนาญในการหมุนกรรมจักรกันแทบทั้งสิ้น
พวกที่หมุนธรรมจักรในตนเองได้นั้นมีน้อยกว่ามาก
สาเหตุที่มีผู้หมุนกรรมจักรในตนเองได้มากกว่า
ก็เพราะเหตุว่า
ชาวโลกถูกคนนำทางตาบอดบิดบิดเบือนสัจธรรม
ให้มุ่งที่ #อริยสัจสี่ มากกว่า #ธรรมจักรกัปปวัตนสูตร
ทั้ง ๆที่อริยสัจสี่นั้นพระศาสดาทรงรู้ได้ด้วยสติปัญญา
ตามหลักคิดที่เรียกว่า #อิทัปปัจจยตา ด้วยเหตุผล
ซึ่งเป็นการคิดวิเคราะห์ของสมองซีกซ้ายนำขวา
ที่ปุถุชนคนธรรมดาก็สามารถคิดรู้เองได้
 
แต่สัจธรรมเรื่อง “ธรรมจักรกัปปวัตนสูตร” นั้น
เป็นสุดยอดแห่งสัจธรรมที่เหนือโลกเหนือจักรวาล
เกินกว่าพลังปัญญาของสมองสองซีกจะคิดรู้เองได้
แต่พระศาสดาทรงมีอัจฉริยภาพทางปัญญาสูงส่ง
ทรงสามารถเข้าถึง #อนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ
จากอำนาจของสมองส่วนกลางนำสมองทั้งระบบ
จนติดต่อสื่อสารกับคลังแห่งความรู้เพียงหนึ่งเดียว
ที่มีพระนามว่า #จิตจักรวาล ขณะทรงเป็นมนุษย์
จนได้องค์ความรู้สำคัญเป็นคำตอบให้ชาวโลกว่า
 
จิตวิญญาณพวกคุณทุกคนนั้น
พากันมาเกิดเพื่อหมุนธรรมจักรในตนเองร่วมกัน
โดยใช้อายตนะภายนอกกับจิตหยาบที่มีขันธ์ 5
รวมทั้งหนึ่งสมองกับสองมือและอวัยวะต่างๆ
สั่นสะเทือนร่วมกันในสองมิติเพื่อกระทำด้านบวก
โดยผลิตพลังงานสะอาดในมิติของจิตวิญญาณ
มอบให้แก่โลกและทุกสรรพสิ่งตามสมการ ∑βₓ
ซึ่ง X หมายถึงคนตั้งแต่สามคนขึ้นไปนั่นเอง
 
พลังงานที่ได้จะมีหน่วยเป็นเม็กกะเฮิร์ท
ซึ่งจะอยู่ในรูปของคลื่นความถี่ทางไฟฟ้าแม่เหล็ก
โดยจะถูกเหนี่ยวรั้งลงไปยังแกนแม่เหล็กโลก
แกนแม่เหล็กโลกที่อยู่ภายในใจกลางของโลก
ถูกสร้างขึ้นด้วยธาตุออกซิเจนบริสุทธิ์ 100%
มีลักษณะเหนียวหนืดคล้ายตังเมยืดหยุ่นได้ดีมาก
มีสีเขียวใสสวยงามดั่งสีขององค์พระแก้วมรกต
เมื่อสะท้อนแสงจะมีเงาวาวๆคล้ายสีปีกแมลงทับ
 
อะตอมของธาตุออกซิเจนบริสุทธิ์นี้
จะมีว่องไวต่อการปฏิสัมพันธ์กับพลังจิตด้านบวก
ซึ่งเป็นพลังงานร่วมของมนุษย์สามคนขึ้นไป
ที่หยัดยืนอยู่บนพื้นที่ 33.33 ตร.กม.เดียวกัน
แล้วร่วมกันเหวี่ยงออกมาสู่อวกาศภายนอกนั้น
ผลจากการปฏิสัมพันธ์กันมันก็จะระเบิดเกิดขึ้น
พระเจ้าทรงเรียกการระเบิดนี้ว่า Nuclear Fission
 
นิวเคลียร์ฟิสชั่น” เป็นระเบิดนิวเคลียร์ในแกนโลก
โดยอะตอมจะเกิดการระเบิดแบบปฏิกิริยาลูกโซ่
ด้วยการระเบิดอย่างต่อเนื่องดั่งพวงลูกประทัดนั่น
ซึ่งมันจะเกิดกระบวนนี้ทางซีกโลกที่เป็นกลางวัน
เพราะชาวโลกยังตื่นอยู่ยังทำหน้าที่รักกันได้
ยังทำให้สมการพลังงานร่วม ∑βₓ เป็นความจริงได้
แรงระเบิดด้านเดียวจะทำให้แกนโลกเกิดการบิดตัว
ถ้าโลกเปลี่ยนจากกลางวันไปเป็นกลางคืนสลับกัน
พลังการบิดตัวของแกนโลกจะทำให้โลกนี้หมุนได้
 
หากกระบวนการนี้สามารถเกิดได้ต่อเนื่อง
ดาวเคราะห์โลกก็จะเหวี่ยงหมุนรอบตัวเองต่อเนื่อง
ถ้าเหวี่ยงหมุนด้วยอัตราความเร็วต่อรอบคงที่ได้
ดาวเคราะห์โลกทั้งระบบก็จะเกิดความสมดุลได้
แปลว่า #ความรักจากจิตมนุษย์ช่วยให้โลกหมุน
หากโลกหมุนได้ต่อเนื่องด้วยความเร็วคงที่แล้ว
โลกทั้งระบบก็จะมีความสมดุลตามพระประสงค์
แสดงว่าพวกคุณใช้ความรัก “ค้ำจุน” โลกได้นั่นเอง
 
ดังนั้น
สิ่งที่พวกคุณจะต้องตระหนักรู้กันก็คือ
จะใช้ขันธ์ห้าของจิตหยาบหมุนธรรมจักรได้อย่างไร
เพื่อช่วยกันผลิตพลังงานจิตด้านบวกมอบให้โลก
ซึ่งเป็นภารกิจของจิตวิญญาณคุณที่อาสามาทำกัน
พระเจ้าจึงทรงมีพระบัญชาให้เราแนะนำให้รู้กันว่า
พวกคุณจะต้องครองมหาสติหรือธรรมชาติสมาธิ
เพื่อแสดงปณิธานแห่งนิพพานสู่การหลุดพ้นให้ได้
เรามายถึง #ลูกแก้วสองดวง ที่ประทานแก่คุณไว้
จงหยิบเอามันขึ้นมาใช้ให้ได้ใช้ให้เป็นกันเถิดคุณ
 
สื่อถ่ายทอดคลื่นความคิดในระบบจิตสู่จิต
จากองค์จิตจักรวาลดวงใหญ่
 
ปัญญาวิสุทธิ์
10/08/2566