29 มิถุนายน 2560

#พระบิดาแห่งจิตวิญญาณ #ทรงโปรดเวไนย (ภาค 7)


#พระบิดาแห่งจิตวิญญาณ
#ทรงโปรดเวไนย (ภาค 7)
To Whom It May Concern
*****************************
"เสียงกัมปนาท กราดเกรี้ยว เสียวระทึก
ดั่งยามดึก ฟ้าผ่า พาแตกตื่น
ครูสั่งศิษย์ กีดกัน ทุกวันคืน
ห้ามยุ่งยื่น เป็นมิตร จิตจักรวาล"

บุตร <3 แห่งบิดาทั้งหลาย
พี่ๆน้องๆที่ <3 แห่งเราทั้งหลาย

เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
ในปลายยุคพลังงานเก่านี้
จะมีปรากฏการณ์หนึ่งเกิดขึ้น
ในท่ามกลางภัยพิบัติโลกแบบแปลกๆ
นั่นคือปฏิบัติการ "ล่าสาวก"
ของเจ้าลัทธิต่างๆทั้งใหม่และเก่า

ขายความงมงายในพิธีกรรมแปลกๆ
ขายศักดิ์สิทธิ์พิสดารของเจ้าลัทธิ
ขายความอุตริอวิชชาของครูอาจารย์
ขายมายาของมารที่เลียนแบบโพธิสัตว์
ขายธรรมะจอมปลอมโดยจอมซาตาน

บทบาทการขายที่เรากล่าวไว้เหล่านี้
ล้วนเป็นฝีมือของรูปธรรมทางวิญญาณ
ซึ่งอยู่เบื้องหลังมิติโลกทางกายภาพ
เข้ามาแอบแฝงตัวตนอยู่แทบทั้งสิ้น

ทุกวันนี้โลกเสรีเสียสมดุลไปมาก
โดยเฉพาะอำนาจแม่เหล็กโลกที่อ่อนแอ
จะทำให้ประตูมิติของโลกและมนุษย์
ที่เชื่อมต่อกับมิติแห่งจิตวิญญาณ
เปิดแง้มอ้าออกกว้างมากขึ้นกว่าเดิม

จิตวิญญาณที่อุตริและมีอำนาจสูง
ก็จะเบียดแทรกตนเองเข้าทับซ้อน
เพื่อทำการยึดอำนาจจากเจ้าสำนักเดิม
ที่กิเลสหนา ปัญญาน้อย ด้อยพลังบารมี
เพราะไม่มีศีลธรรมแท้จริงก็มี

หรือมารร้ายจะเข้าแทรกแซงคนบางคน
ที่อยากดังและฝังใจฝักใฝ่อุตริอวิชาอยู่
ด้วยการแสดงบทบาทเป็นเจ้าสำนัก
แลกเครื่องเซ่นสรวงคาวๆกับเหล้ายา

โดยจะสร้างจุดขายทั้ง 5 ที่ว่ามา
เพื่อหลอกล่อคนดีๆที่โง่ๆ
ให้หลงทิศผิดทางไปสวรรค์นิรันดร
จึงมิอาจหลุดพ้นได้ในชาตินี้

มีเหตุผลหลักอยู่ 4 ประการ
ที่พระบิดาทรงยอมให้โลกมีการล่าสาวก
โดยเราจะขอกล่าวให้ท่านรู้ไว้ดังนี้

1.ทรงยอมให้มีการล่าสาวกด้วยวิธีต่างๆ
เพื่อจะสร้างเงื่อนไขทดสอบจิตตปัญญา
ให้มนุษย์โลกส่วนใหญ่ได้เผชิญว่า
จะฉลาดตัดสินใจหรือไม่อย่างไร

ถ้าใครเลือกที่จะทำตัวโง่และงมงาย
จนตกเป็นสาวกของเจ้าสำนักลัทธิมาร
พระองค์ท่านก็จะทรงทราบทันทีว่า
ผู้นั้นความสามารถใช้ปัญญาเป็นศูนย์
แปลว่า #ตัดสินใจผิด นั่นเอง

คนผู้นั้นจักมิใช่ประชากรของพระองค์
สำหรับโลกเสรีในยุคพลังงานใหม่

เพราะขาดอำนาจทางจิตตปัญญา
จึงมิอาจให้ทำหน้าที่อันยิ่งใหญ่
ค้ำจุนโลกเสรีนี้ในยุคพลังงานใหม่ได้

2.ทรงยอมให้มีการล่าสาวกเกิดขึ้น
เพื่อเปิดโอกาสให้ท่านทั้งหลาย
ได้เรียนรู้ในสิ่งถูกผิดดีชั่วชัดเจนขึ้น

จนฉลาดที่จะแยกแยะได้ง่ายขึ้นว่า
แบบไหนเป็นเส้นทางสู่นรกโลกันตร์
แบบไหนเป็นเส้นทางสู่สวรรค์นิรันดร
เพื่อการตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง
บนครรลองแห่งการหลุดพ้นคือนิพพาน

3.ทรงยอมให้มีการล่าสาวกเกิดขึ้น
เพราะจะมีมนุษย์ด้วยกันเอง
พากันออกมาอ้างอวดอุตริอวิชา
ล่าสาวกแสวงหาประโยชน์ใส่ตน
จากพี่ๆน้องๆที่เป็นคนอ่อนแอมากขึ้น
ซึ่งคนส่วนใหญ่จะมีจุดอ่อนคล้ายๆกัน 

เป็นต้นว่า....
บางคนก็ขาดความเชื่อมั่นในตนเอง
ทั้งๆที่เป็นคนฉลาดและเก่งพอตัว
จึงต้องหันมาพึ่งเจ้าเข้าผี
ขอให้เจ้าลัทธิพวกนี้เป็นกำลังใจให้

บางคนก็อยากร่ำรวยเป็นเศรษฐี
แทนที่จะฉลาดคิด ฉลาดทำ
แต่กลับแสวงหาความร่ำรวย
ด้วยวิธีมักง่ายคือพึ่งเครื่องลางของขลัง
บ้างก็พึ่งผีที่เจ้าลัทธิให้นำมาเลี้ยงดู

บางคนก็อยากโด่งดังมีชื่อเสียง
ต้องการได้รับการยอมรับจากคนอื่นๆ
เมื่อยกระดับตนเองขึ้นมาไม่ได้
ก็จำต้องเที่ยวเสาะหาที่พึ่งหรือตัวช่วย
ประเภทขอ "เจ้าสำนักดัง" ช่วยด้วยบ้าง
ประเภทยอมถวายตัวกับเจ้าสำนักบ้าง

ถ้ายิ่งเข้าสังกัดสำนักดังมากเท่าใด
ตนก็จะได้รับการยอมรับมากขึ้นเท่านั้น

ถ้ายิ่งเป็นสาวกรับใช้ใกล้ชิดเจ้าลัทธิ
ก็จะยิ่งมีโอกาสได้รับการยกย่อง
จากคนทั่วไปมากยิ่งขึ้น

อีกทั้งตนก็อาจจะมีโอกาสได้รับรางวัล
ที่เจ้าลัทธิอุตริปูนบำเหน็จให้
เป็นตำแหน่งสำคัญๆในสำนักนั้น
หรือยอมให้ท่านเปิดสำนักสาขา
แล้วอุปมาตนเป็นเจ้าสำนักได้เอง

4.ทรงยอมให้มีสำนักใหม่ๆเกิดขึ้น
เพื่อให้มารทดสอบจิตสามนึกมนุษย์
ว่าผ่านหรือไม่ รวม 5 ประการต่อไปนี้

4.1 ยังติดอยากได้ใคร่มีในลาภยศหรือไม่
4.2 ใช้ปัญญาของสมองคิดเป็นหรือเปล่า
4.3 รู้จักแยกแยะผิดชอบดีชั่วบ้างไหม
4.4 ระหว่างมารกับพระบิดาจะเลือกใคร
4.5 กล้าหาญและเป็นตัวของตัวเองมั้ย
 
ในท่ามกลางความผันผวนของสังคม
ในท่ามกลางสถานการณ์วิกฤตโลก
ขอท่านทั้งหลายจงรับรู้ไว้ด้วยว่า

1.อย่าประมาทมารจนท่านถูกหลอก
2.อย่าขลาดกลัวมารจนผลักไสครูที่ดี
3.อย่าตกเป็นทาสมารเพราะติดโลภ
4.อย่าทำตัวเป็นเจ้าลัทธิมารเสียเอง
5.อย่าหลงเชื่อมาร
เพราะท่านโง่เขลาเบาปัญญา
โดยแยกไม่ออกว่าไหนมารไหนมิใช่

เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
29-06-2017

หมายเหตุ:

ยังมีภาคต่อไปให้เรียนรู้อีก
เกียจคร้านจะยกมือหรือยังนะ

28 มิถุนายน 2560

ปฏิบัติการชำระโลกครั้งที่สี่



 ท่านที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงไว้ให้นักเรียนรู้ว่า
ปฏิบัติการชำระโลกครั้งที่สี่ในปลายยุคนี้
สิ่งที่พี่ๆน้องๆทั่วโลกจักได้เผชิญภัยกัน
มีมากมายหลายรูปแบบให้เห็นบ้างแล้ว

1.ใช้ "ระเบิดเมฆ"
ที่มีมวลน้ำมากมายหลายๆตัน
ทิ้งบอมบ์ลงมาเฉพาะพื้นที่
เกิดเป็นพายุฝนประจำถิ่นและน้ำท่วม

2.ใช้ "ระเบิดน้ำแข็ง" คือ ฝนน้ำแข็งแห้ง
ทิ้งบอมบ์ลงมาเฉพาะที่ให้ท่วมเมือง
จนเปิดประตูหน้าต่างบ้านออกมาไม่ได้
ทั้งหนาวทั้งเย็น
ใครทนหิวไม่ได้เพราะขาดอาหาร
ใครทนหนาวไม่ได้เพราะไร้เครื่องอบอุ่น
คนนั้นจักถูกชำระก่อน

3.ใช้ "ระเบิดภูเขาไฟ"
ทำให้เกิดแผ่นดินไหวรุนแรง
และพ่นลาวาร้อนแดงฉานไหลออกมา
กลบฝังสิ่งที่เป็นขยะรกโลกไม่เว้นคนชั่ว

4.ใช้ "ระเบิดทราย"
ขนฝุ่นทรายนับล้านคิวเข้ากลบฝัง
เพื่อชำระหนี้เก่าที่ติดค้างต่อแผ่นดินโลก

5.ใช้ "ระเบิดก๊าซ" จากใต้ทะเลลึก
ทำให้เกิดไฟร้อนบนก้อนน้ำแข็ง
ลามไหลไปในมหาสมุทรสู่พื้นที่เป้าหมาย
โดยมิมีใครจะดับได้

6.ใช้ "ระเบิดเพลิง" จากไฟป่า
ลุกลามเข้าหาตัวเมือง
เผาผลาญขยะชำระสิ่งงมงายให้สิ้น

7.ใช้ "ระเบิดควัน"
ผสมผสานกันระหว่างควันไฟป่า
กับฝุ่นขี้เถ้าจากลาวาของภูเขาไฟทั่วโลก
จะยังผลให้ฟ้าต่ำจนไม่มีที่ว่างพอ
ให้กับก๊าซออกซิเจนที่ใช้หายใจ
เพราะใช้ไปกับการเผาไหม้จนมากเกิน
แถมระเบิดควันมันเป็นพิษร้ายแรง
ต่อระบบทางเดินหายใจอีกด้วย

8.ใช้ "ระเบิดลม" จากพายุแบบต่างๆ
ทั้งที่มุ่งโจมตีโดยตรงแบบซึ่งหน้า
ทั้งที่บิดตัวเข้าหาจนเป็นเกลียว
ระเบิดจะถูกนำมาวางยังเป้าหมาย
มีทั้งยามสว่างและท่ามกลางความมืด

9.ใช้ "ระเบิดเสียง" ส่งลงมาจากฟ้า
ในระดับเสียงที่ประสาทหูของคน
ไม่อาจจะทานทนได้ในยามที่ขาดสติ
โดยที่เสียงคำรามหวีดหวิวนั้น
มันจะเบียดแทรกมากับสายลม

10.ใช้ "ระเบิดหินไฟ" ส่งมาจากอวกาศ
ด้วยอำนาจแห่งแรงกระแทก
จะยังผลกระทบต่อแผ่นดินโลก
ให้เกิดการยุบแยกแตกหัก
จะยังผลต่อการเกิดคลื่นไซโคลน
ในท่ามกลางมหาสมุทร
แรงสั่นสะเทือนของระเบิดที่เกิดคลื่น
จะกลืนแผ่นดินเกาะน้อยใหญ่
ในบางพื้นที่ตามแนวชายฝั่งที่ติดทะเล
จนเลือนหายไปจากแผนที่โลก

ที่เรากล่าวมานี้มิได้บอกให้ใครเชื่อ
หรือนำมากล่าวให้ใครก้าวล่วงเรา
เพราะว่าความเชื่อไม่เชื่อ

ความกลัวไม่กลัวของมนุษย์
มันหยุดสิ่งที่จะเผชิญกันนี้ไม่ได้แล้ว
นอกจากจะหมั่นทำความดี มีมหาติไว้
และแสดงปณิธานแห่งนิพพานให้ชัดเจน
นับแต่บัดเดี๋ยวนี้เลย

เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา

27-06-2017

จิตวิญญาณ


meta physics:
#อภิปรัชญา

พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราได้กล่าวเตือนไว้แล้วว่า
จงอย่าเข้าใจสับสนและกล่าวผิดอีกเลย
ระหว่าง #จิตสำนึก กับ #จิตใต้สำนึก
เพราะจิตทั้งสองนี้เป็นคนละตัวกันชัดเจน

เราจึงขอกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลาย
ในเรื่องของจิตสำนึกกับจิตใต้สำนึก
ให้ท่านได้เข้าใจอย่างถูกต้องถ่องแท้
พอสังเขปดังต่อไปนี้

1.#จิตสำนึก 
เป็นเครื่องมือของ "จิตหยาบ"
เพื่อขับเคลื่อนการกระทำต่างๆ
ทั้งทางกายกรรม และวจีกรรม

2.#จิตสำนึก
เพี้ยนมาจากคำว่า "จิตสามนึก"
อันประกอบด้วย 
"นึกออก นึกเอา และนึกเอง"

โดยทุกๆการนึกของจิตที่เกิดขึ้นนั้น
จะต้องส่งสัญญาณไปคิดต่อที่สมองเสมอ
จะนึกอะไรแล้วทำไปตามที่ใจนึกเลยไม่ได้

มนุษย์ทุกคนจึงต้องนึกด้วยจิต
แล้วค่อยนำสิ่งที่ตนนึกมาคิดต่อด้วยสมอง

3.#จิตสำนึก 
แบ่งออกเป็น 2 อย่าง คือ
#จิตรู้สำนึก กับ #จิตไร้สำนึก

"จิตรู้สำนึก" 
หมายถึง จิตที่นึกคิดด้านบวก
แล้วแสดงออกหรือกระทำ
ทั้งต่อตนเองหรือผู้อื่น
ด้วยกายกรรมและวจีกรรมด้านบวก
คือ นึกดี คิดดี พูดดี และทำดี

"จิตไร้สำนึก" 
หมายถึง จิตที่นึกคิดด้านลบ
แล้วแสดงออกหรือกระทำ
ทั้งต่อตนเองหรือผู้อื่น
ด้วยกายกรรมและวจีกรรมด้านลบ
คือ นึกลบ คิดลบ พูดลบ และทำลบ

4.#จิตใต้สำนึก
เป็นเครื่องมือของ "จิตสำนึก"
เพื่อขับเคลื่อนการกระทำใดๆ
ในมิติทางพลังงานด้านของจิตวิญญาณ
ที่สองตาเปล่ามองไม่เห็น

5.#จิตใต้สำนึก
จะสั่นสะเทือนไปตาม "จิตสำนึก" เสมอ
ไม่ว่าจิตสำนึกนั้นจะมีการสั่นสะเทือน
เป็นพฤติกรรมด้านดีหรือว่าด้านชั่ว
จิตใต้สำนึกก็จะสั่นสะเทือนไปตามนั้น
ไม่มีวันสั่นสะเทือนไปเป็นอื่น

เพราะจิตใต้สำนึก
มีคุณสมบัติต่างจากจิตสำนึกก็คือ
คิดเองไม่เป็น รู้เห็นเองไม่ได้
ต้องสั่นสะเทือนไปตามจิตหยาบเท่านั้น

6.#จิตใต้สำนึก
มีหน้าที่สั่นสะเทือนไปตามจิตสำนึก
เพื่อส่งรหัสสัญญาณเป็นคลื่นไฟฟ้าเคมี
บอกให้ "จิตวิญญาณ" ของท่านรู้ว่า
ขณะนั้นจิตหยาบกำลังสั่นสะเทือน
เป็นอารมณ์รู้สึกนึกคิดเช่นไรอย่างไร

จิตวิญญาณผู้เป็นแก่นแท้ของท่าน
ก็มีหน้าที่จะต้องสั่นสะเทือนตนเอง
ไปตามรหัสสัญญาณที่จิตใต้สำนึกส่งมา
ไม่ว่าจิตวิญญาณจะเห็นด้วยหรือไม่ก็ตาม

7.#จิตใต้สำนึก
เมื่อมีการสั่นสะเทือน
ทั้งด้านบวกหรือลบไปตามจิตสำนึก
จนยังผลให้จิตวิญญาณผู้เป็นแก่นแท้
ต้องรับเอาบวกหรือลบนั้นไว้ด้วยแล้ว

ถ้าจิตวิญญาณ
สั่นสะเทือนตนเองด้านลบ
เพราะจิตสำนึกโดยจิตหยาบเป็นลบ
เครื่องยนต์แห่งกรรมรูปธรรมมนุษย์
จะมีต่อมไร้ท่อเป็นเครื่องมือชิ้นสำคัญ
ก็จะสั่นสะเทือนด้านลบตามจิตวิญญาณด้วย

ผลลัพธ์ของการสั่นสะเทือนด้านลบ
ที่จิตวิญญาณของท่านสั่นสะเทือนนั้น
จะเป็นเหตุให้กลไกต่อมไร้ท่อ
ซึ่งติดตั้งอยู่ภายในกระโหลกศีรษะท่าน
ผลิตคลื่นพลังงานไฟฟ้าแม่เหล็กออกมา

เราจะเรียกพลังงานนี้ว่า 
#ผลกรรมด้านลบ

ถ้าจิตวิญญาณสั่นสะเทือนด้านบวก
เพราะจิตสำนึกโดยจิตหยาบเป็นบวก
ก็จะเป็นเหตุให้กลไกต่อมไร้ท่อ
ซึ่งติดตั้งอยู่ภายในกระโหลกศีรษะท่าน
ผลิตคลื่นพลังงานไฟฟ้าแม่เหล็กออกมา

เราจะเรียกพลังงานนี้ว่า 
#ผลกรรมด้านบวก

นี่คือ...
กระบวนการก่อกรรมให้เกิดผลกรรม
ระหว่างด้านกายภาพกับพลังงาน
ซึ่งเป็นมิติคู่ขนานกันอยู่
สำหรับมนุษย์โลก

8.สิ่งที่ท่านต้องรู้ไว้เบื้องต้นก็คือ
ผลกรรมทั้งด้านบวกและลบที่เกิดขึ้น
ในมิติทางพลังงานด้านจิตวิญญาณ
มันคือ "ขยะทางพลังงาน" ที่รกโลก
ที่จิตมนุษย์ผลิตสร้างมันขึ้นมาอย่างไร้สติ
เพราะตกเป็นทาสกิเลส ตัณหา ราคะ

ซึ่งยังผลให้เมื่อตายไปแล้ว
จิตวิญญาณของท่าน
ต้องย้อนกลับมาเกิดอีก

เพื่อชำระขยะพลังงานจิต
ทั้งบวกและลบที่ก่อไว้
ให้สูญหายสลายไปจากระบบโลก
ในลักษณะขยะใคร
คนนั้นต้องรับผิดชอบ

ถ้าได้รับโอกาสมาเกิดใหม่แล้ว
กรรมเก่ายังมิได้รับการชำระแก้ไข
กลับยังก่อกรรมใหม่เพิ่มขึ้นมาอีก
การมีสังสารวัฏของท่านผู้นั้นก็จะเกิดขึ้น
อันหมายถึงหลงทางนิพพานนั่นเอง

9.สิ่งที่ท่านต้องรู้ไว้ลำดับต่อมาก็คือว่า
ถ้าจิตสำนึกของท่านโดยจิตไร้สำนึก
มีการสั่นสะเทือนด้านลบอยู่เป็นนิจ

จะยังผลให้จิตวิญญาณของท่านหลงมิติ
เพราะเขาจะสั่นสะเทือนทางด้านลบ
เป็นโลภ โกรธ หลง งมงาย
ตามนิสัยของจิตหยาบเข้าให้
ทั้งๆที่คุณสมบัติเดิมแท้ของจิตวิญญาณ
คือการสั่นสะเทือนด้านบวกอย่างเดียว

ผลร้ายก็คือ
เมื่อตายไปแล้วจิตวิญญาณของท่าน
ก็ต้องดั้นด้นไปลงนรกน่ะสิ
เพื่อทำการปรับสมดุลทางจิตวิญญาณ
จัดการกับคลื่นความถี่ที่ผิดบาปให้สงบ
จึงจะย้อนกลับสู่การเกิดภพชาติใหม่ได้

หมายเหตุ:

โปรดติดตามตอนต่อไป
จะเสนอภัยร้ายจากการหลอกใช้จิตใต้สำนึก
ใครอยากรู้...ยกมือขึ้นอีกครั้ง

เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
28-06-2017

#พระบิดาแห่งจิตวิญญาณ #ทรงโปรดเวไนย (ภาค 6)


#พระบิดาแห่งจิตวิญญาณ
#ทรงโปรดเวไนย (ภาค 6)
To Whom It May Concern
*****************************
"เสียงกัมปนาท กราดเกรี้ยว เสียวระทึก
ดั่งยามดึก ฟ้าผ่า พาแตกตื่น
ครูสั่งศิษย์ กีดกัน ทุกวันคืน
ห้ามยุ่งยื่น เป็นมิตร จิตจักรวาล"

บุตร <3 แห่งบิดาทั้งหลาย
พี่ๆน้องๆที่ <3 แห่งเราทั้งหลาย

รวมทั้งอาวุโสแห่งสำนักจัดตั้ง
ผู้ที่สั่งห้ามศิษย์สาวกของตน
มิให้ขนกันมาศึกษาจิตจักรวาลด้วย

เราจะกล่าวความจริง
ต่อท่านทั้งหลายและเจ้าสำนักแห่งนี้ว่า
ดวงจิตธรรมญาณทุกรูปธรรม
ที่ขันอาสาพระบิดามาเกิดเป็นมนุษย์
ต่างมีหน้าที่ทางจิตวิญญาณเฉพาะตน
ถือติดตัวกันมาด้วยกันทั้งสิ้น

คนที่จะสอนธรรมะผู้อื่นได้นั้น
ก็ต้องถือพันธะหน้าที่แห่งคุรุมาเช่นกัน
จักต้องมีบารมีทางวิญญาณสูงพอ
จักต้องมีภูมิรู้ ภูมิธรรมและภูมิปัญญา
ในระดับที่สูงส่งกว่าผู้อื่นด้วย
โดยเฉพาะคุรุผู้สื่อสอนธรรมะ
จนถึงขั้นแสดงปณิธานฉุดช่วยเวไนย
มิใช่ใครต่อใครใคร่จะทำก็ทำได้

เพราะการสอนธรรมะให้คนหลงผิด
ด้วยความรู้น้อย รู้ผิดหรืออวดอุตริ
มีนรกขุมที่ 13 ใน 16 ขุมรองรับอยู่
ซึ่งมันค่อนข้างลึกเอาการทีเดียว

คนที่จะสอนธรรมะผู้อื่นได้นั้น
ต้องรอบรู้ธรรมะมากกว่าผู้อื่น
ต้องฉลาดเรียนรู้ตลอดเวลา
ต้องทบทวนให้แม่นยำในองค์ธรรม
มิใช่ค่ำเช้าเอาแต่นั่งนอนเฝ้าสำนัก

คนที่จะสอนธรรมะผู้อื่นได้นั้น
จักต้องเข้าถึงสัจธรรม
ได้ลึกซึ้งยิ่งกว่าผู้อื่น
ในระดับที่มองเห็นธรรมะในธรรมชาติ
ด้วยปัญญาญาณชั้นสูงได้อย่างแยบยล
โดยสามารถรู้เห็นในสิ่งที่คนอื่นไม่เห็น
ต้องรู้เห็นได้ลึกซึ้งยิ่งกว่าคนอื่น

เมื่อเห็นปลาก็ต้องคิดรู้ให้ได้ว่า
พระบิดาทรงให้ปลาสอนอะไร

เมื่อเห็นปู กุ้ง หอย น้อยใหญ่
คนชั้นครูก็ต้องคิดรู้เองให้ได้ว่า
พระบิดาทรงแฝงเร้นธรรมะอะไรไว้

คนที่จะสอนธรรมะผู้อื่นได้นั้น
จักต้องมีความสามารถในการสื่อสาร
เมื่อกล่าวธรรมะใดก็ต้องให้ผู้ฟังรู้เรื่อง
ต้องพูดเรื่องยากๆให้เข้าใจได้ง่าย
มิใช่พูดแทบตายแต่คนฟังไม่เข้าใจ
หรือพูดเรื่องง่ายให้กลายเป็นเรื่องยาก
เพราะท่องจำธรรมะเอามากล่าวต่อ
ทั้งที่ตนเองก็ยังไม่รู้แจ้งอยู่เหมือนกัน

เมื่องานบรรยายธรรมเอาดีไม่ได้
จึงต้องเปลี่ยนมาขาย "พิธีกรรม" 
และแสวงหา "กิจกรรม" ให้ทำแทน

ขายบุญ ขายบาป 
ขายนรก ขายสวรรค์
ขายพระอาจารย์และขายความเชื่อ
แล้วละวางงานฉุดช่วยเวไนยทิ้งไป
สำนักเคยศักดิ์สิทธิ์จึงถูกบิดเป็น #ลัทธิ

คนที่จะสอนธรรมะผู้อื่นได้นั้น
จักต้องสอนตนเองกันให้ดีเสียก่อน
สมัยนี้ถ้ามีเพียงปากคอยคาบคัมภีร์
แต่จิตใจยังห่างไกลจากธรรมะนั้น
จะเป็นแบบอย่างที่ดีให้คนศรัทธาไม่ได้

คนที่อาสาว่าจะฉุดช่วยเวไนยก็เช่นกัน
เป้าหมายการ "ฉุดช่วย" คือ "หลุดพ้น"
ถ้าท่านต้องการช่วยใครอื่นให้หลุดพ้น
ก็คงต้องถามตนเองก่อนว่า
ท่านช่วยตนเองให้หลุดพ้นได้หรือยัง

โดยหลุดพ้นไปจากกิเลสตัณหา
จำพวกโลภะ โทสะ โมหะรายวัน

หลุดพ้นจากราคะจริต
หลุดพ้นจากการอิจฉาริษยา
หลุดพ้นจากการยึดติดอัตตาจนหลงตน
หลุดพ้นจากการไม่รู้จักพอ
หลุดพ้นจากการแสวงประโยชน์ส่วนตน

ท่านทั้งหลายจักต้องรู้ว่า
ผู้ที่เข้าถึงการหลุดพ้นหรือนิพพานได้
แต่ยังมีปณิธานว่าจะฉุดช่วยเวไนย
ให้หลุดพ้นหรือนิพพานได้เช่นตนนั้น
เขาจะเรียกขานกันว่า #พระโพธิสัตว์ 

ดังนั้น ถ้าหากใครยังไม่เข้าถึง
การมีคุณสมบัติแห่งโพธิสัตว์
ยังเป็นที่พึ่งแห่งเวไนยในหล้านี้ไม่ได้
จักอาสาฟ้าดำเนินภารกิจนี้ได้อย่างไร
มันเป็นความจริงไปไม่ได้หรอกท่าน

แค่เพียงศิษย์สาวกดิ้นรนแสวงธรรม
โดยนำพาตนเองมาสู่จิตจักรวาล
อันเป็นศูนย์กลางแห่งการเรียนรู้แท้จริง
แต่สิ่งที่ท่านทำคือ "สั่งห้าม" มาศึกษา
ทั้งๆที่ตนเองก็ยังไม่รู้เลยว่า
อาจารย์ปริญญาสอนอะไร
พระบิดาแห่งจิตวิญญาณคือใคร

ศิษย์สาวกที่มาศึกษาจิตจักรวาล
ยังถูกท่านอาวุโสกล่าวโทษเสียรุนแรง
ในข้อหาว่าไม่เคารพอาจารย์
ในข้อหาว่าไม่เทอดทูนธรรม

แต่กับการที่มีมารร้ายในสังคม
ปลอมตัวเป็นพระอรหันต์โพธิสัตว์
กระทำการลบหลู่มหาคุรุของตน
ชักชวนผู้คนให้หลงทางไปสวรรค์
กลับทำเฉยเมยไม่รู้ไม่ชี้

นี่ต่างหาก...ไม่เคารพอาจารย์
นี่ไงท่าน...ไม่เทอดทูนธรรม

เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
27-06-2017

หมายเหตุ:

อยากติดตามภาค 7
โปรดยกมือรอกันต่อไปนะ

26 มิถุนายน 2560

จิตใต้สำนึก 1


#อภิปรัชญา
<3 เราจะกล่าวความจริงให้ท่านรู้ว่า

มนุษย์ทั้งหลายถูกสร้างให้เป็นคน 2 มิติ 
คือมิติโลกทางกายสังขาร
กับมิติด้านพลังงานทางจิตวิญญาณ

ดังนั้น
การพูดและการทำใดๆในมิติกายสังขาร
ที่ท่านแสดงออกด้วยจิตสำนึกของท่าน
ไม่ว่ามันจะดีหรือชั่ว
มันจะเกิดการกระทำทางจิตวิญญาณ
ทั้งดีหรือชั่วไปตามนั้นด้วยเสมอ

การสั่นสะเทือนทาง #จิตสำนึก ของท่าน
เพื่อกระทำทางกายภาพต่อใครก็ตาม
ด้วย #จิตรู้สำนึก ในบาปบุญคุณโทษอยู่
หรือด้วย #จิตไร้สำนึก ในบาปบุญคุณโทษ
มันจะยังผลให้ "จิตใต้สำนึก" ของท่าน
ซึ่งเป็นเครื่องมือของ "จิตสำนึก"
เกิดการสั่นสะเทือนตามจิตสำนึกเสมอ

เป็นเพราะว่าพระบิดาทรงกำหนดให้
#จิตใต้สำนึกเป็นเครื่องมือของจิตสำนึก
เพื่อช่วยให้มนุษย์เป็นคน 2 มิตินั่นเอง

หมายความว่า
ถ้ามนุษย์มีการสั่นสะเทือน #จิตสามนึก
เป็นการแสดงออกหรือการกระทำใดๆ
ด้วยกายกรรมหรือวจีกรรมเมื่อไหร่ก็ตาม
#จิตใต้สำนึก ของมนุษย์คนนั้น
ก็จะสั่นสะเทือนเป็นคลื่นพลังงาน
ตามการสั่นสะเทือนของ #จิตสำนึก ทันที

จึงสามารถที่จะกล่าวได้ว่า
การกระทำกรรมใดๆของท่านในมิติโลก
ด้วยจิตสำนึกของท่านเอง
ไม่ว่าจะเป็นพฤติกรรมดีหรือชั่ว
มันจะก่อให้เกิดการกระทำแบบเดียวกันนั้น
ในมิติพลังงานด้านจิตวิญญาณของท่านด้วย

ดังนั้น
ท่านทั้งหลายจึงอย่าสับสน
จงจดจำเอาไว้เลยตั้งแต่บัดนี้ว่า

จิตสำนึกโดยจิตหยาบของท่านนี่แหละ
เป็นผู้ก่อกรรมทางโลกต่อผู้อื่น
ที่ผู้อื่นสามารถรับรู้ดูเห็นได้ยินได้ฟัง
การก่อกรรมดีชั่วของท่านได้
ด้วยกลไกอายตนะทั้งห้าของเขา
แล้วแสดงพฤติกรรมตอบสนองท่าน

ส่วนจิตใต้สำนึกของท่านนั้น
จะเป็นผู้ก่อกรรมทางจิตวิญญาณ
ทางด้านของแก่นแท้ของท่านตลอดเวลา
ทันทีที่จิตสำนึกหรือจิตหยาบกระเพื่อม
จิตใต้สำนึกก็จะกระเพื่อมตามเมื่อนั้น

การเกิดมีสังสารวัฏของมนุษย์
ที่ต้องเวียนว่ายตายเกิดจนมีภพชาติ
ล้วนเกิดแต่กรรมทางจิตวิญญาณ
ที่จิตหยาบสั่นสะเทือน
ด้วยจิตสามนึกบกพร่องเหลวไหล
ตลอดอายุขัยในยามตื่นทั้งสิ้น

ด้วยเหตุนี้เอง...
จิตใต้สำนึก
จึงเป็นเครื่องมือของจิตวิญญาณ
ที่จิตหยาบของท่านจะไปแทรกแซงไม่ได้
เพราะมันจะทำให้การเป็นมนุษย์ของท่าน
ต้องประสบภัยร้ายในแบบที่ท่านคาดไม่ถึง
ในวันหนึ่งของชีวิตในอนาคต

เราเตือนท่านแล้วนะ

เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
26-06-2017

25 มิถุนายน 2560

#พระบิดาแห่งจิตวิญญาณ #ทรงโปรดเวไนย (ภาค 5)


#พระบิดาแห่งจิตวิญญาณ
#ทรงโปรดเวไนย (ภาค 5)
To Whom It May Concern
*****************************
บุตรรักแห่งบิดาทั้งหลาย
พี่ๆน้องๆที่ <3 แห่งเราทั้งหลาย

"เสียงกัมปนาท กราดเกรี้ยว เสียวระทึก
ดั่งยามดึก ฟ้าผ่า พาแตกตื่น
ครูสั่งศิษย์ กีดกัน ทุกวันคืน
ห้ามยุ่งยื่น เป็นมิตร จิตจักรวาล"

<3 ต่อไปนี้เป็นคำถามที่ 3
ซึ่งผู้อาวุโสท่านเดียวกัน
ได้ตั้งคำถามศิษย์ของตนเอาไว้
และเรายังวิเคราะห์ไม่จบความ
จึงขอนำมาสานต่อเป็น ภาค 5
ตามการชูมือรอของท่านทั้งหลาย

คำถามที่ 3: (เป็นชุดเลย)
***********
3.1 สำนักจิตจักรวาลมีอาจารย์บรรยายกี่คน 
3.2 มีองค์กร มีทีมงานแบบไหน อย่างไร 
3.3 ศูนย์กลางอยู่ที่ไหน?

วิเคราะห์คนถามและคำถามนี้:
******************************
พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงเพื่อตอบคำถาม
ต่ออาวุโสที่ถามศิษย์ของท่านมาถึงเรา
แม้จะถามโดยผู้ถามไม่ต้องการคำตอบ
เพราะเป็นการถามเชิงเย้ยหยัน
แต่เราก็จะขยันตอบเพื่อให้โลกได้รู้ไว้

3.1 ถามว่า
#สำนักจิตจักรวาลมีอาจารย์บรรยายกี่คน

3.2 ถามว่า
#มีองค์กรมีทีมงานแบบไหนอย่างไร

3.3 ถามว่า
#ศูนย์กลางอยู่ที่ไหน?

เราจะบอกความจริงต่อท่านอาวุโสว่า
จากคำถามของท่านนี่แหละทำให้เรารู้ว่า

เหตุที่ท่านกลัวศิษย์สาวกของท่านจะสูญ
ถ้าเข้ามาศึกษาวิถีแห่งจิตจักรวาล
ก็เป็นเพราะท่านคิดเข้าใจเอาเองว่า
#จิตจักรวาล เป็นสำนักจัดตั้งเหมือนทั่วไป
ที่มีนิสัยล่าสาวก หวงสาวก แย่งสาวก
เพราะเน้นที่จำนวนสาวกและเครือข่าย
มากกว่าการจะใส่ใจใน "องค์ธรรม"

ความคิดเข้าใจของท่านในการมองเรานั้น
เป็นการมองผิวผ่านอย่างขาดการใช้ปัญญา
ท่านจึงมองผิดเห็นจิตจักรวาลเป็น "สำนัก"
เพราะแท้จริงแล้วนั้น คำว่า #จิตจักรวาล
เป็นพระนามของพระบิดาแห่งจิตวิญญาณ
ของมวลมนุษย์และสรรพสัตว์ทั้งหลาย
ซึ่งเราเป็นผู้น้อมถวายให้แก่พระองค์

เมื่อพวกเราทุกคนที่นี่จดจำพระองค์ได้
จึงกล่าวสรรเสริญพระนามจิตจักรวาล
กันอย่างเต็มคำและเปิดเผยตลอดมา
เพราะว่าพวกเราทุกคนเป็นบุตรกตัญญู

นอกจากนั้นการกล่าวพระโอวาททุกครั้ง
พระองค์จะทรงเป็นผู้สื่อเราจะเป็นผู้รับสื่อ
ด้วยกระบวนการสื่อสารทางจิต
ในระบบจิตสู่จิต (Vertical Telepathy)
โดยกระทำเปิดเผยในที่สาธารณะมิใช่ที่ลับ
เพื่อเปิดโอกาสให้บุตรมนุษย์ทุกคน
ได้กราบพระบาทและรับฟังพระโอวาทสด
อย่างกว้างขวางและทั่วถึงได้มากที่สุด
โดยไม่ปิดกั้นกีดกันไว้เฉพาะกลุ่มตน

ท่านอาวุโสทราบหรือไม่ว่า
การเผยแพร่ธรรมะฉุดช่วยเวไนยนั้น
จะปิดกั้นเอาไว้ให้เฉพาะแต่คนในรีต
แล้วปฏิเสธคนนอกรีตนอกสำนักไม่ได้
เพราะการกระทำแบบเลือกเป้าหมาย
มันจะยังผลให้สำนักจัดตั้งทั้งหลาย
กลายเป็นลัทธิไปเพราะเอาแต่พวกตัว

ดังนั้น
เราในพระนามแห่งองค์จิตจักรวาล
ได้ปฏิบัติภารกิจแห่งฟ้าบนโลกเสรีนี้
มานานกว่าสามสิบปีเฉพาะชาตินี้แล้ว
เราจึงไม่ต้องมีสำนักรองรับให้รกโลก

ท่านอาวุโสทราบหรือไม่ว่าเพราะอะไร
#เพราะเรามีสำนักจิตจักรวาลแห่งพระบิดา
#เป็นมหาจักรวาลอันไพศาลอยู่แล้วไงล่ะ
เราจะต้องเสียเวลาไปกับการสร้างสำนัก
แทนที่จะเร่งฉุดช่วยพี่ๆน้องๆ
ให้พบหนทางกลับบ้านกันทำไม

ท่านจักต้องรู้ว่าภารกิจแห่งจิตจักรวาล
เป็นการสื่อถ่ายทอดสดคลื่นการคิด
ระหว่างจิตสู่จิตของพระผู้สื่อกับผู้รับสื่อ

ภารกิจของฟ้าจึงมีเพียงสองรูปธรรม
คือองค์จิตจักรวาลกับบุตรเอกคือตัวเรา
จึงไม่มีใครจะบรรยายแทนเราได้
ทั้งยังต้องใช้ช่องทางพิเศษในการสื่อ
อีกทั้งงานสื่อพระโอวาทก็เป็นหน้าที่เรา
จะให้ใครเข้ามารับหน้าที่กล่าวแทนเรา
ในพระนามแห่งองค์จิตจักรวาลก็ไม่ได้

ด้วยเหตุนี้เองนอกจากจิตจักรวาล
จะไม่มีสำนักให้รกโลก
เพราะมีสำนักอันใหญ่โตอลังการณ์
ที่ครอบคลุมจักรวาลอันไพศาลนี้อยู่แล้ว

เรายังมีองค์ประธานผู้เป็นใหญ่
เหนือสรรพสิ่งทั้งหลายทั้งปวง
ที่โลกเสรีถวายพระเกียรติว่า #พระเจ้า
ผู้ทรงเป็นพระผู้เริ่มต้นและสิ้นสุดทุกสิ่ง
รวมทั้งดวงจิตธรรมญาณของท่าน
ทรงเป็น "เจ้าสำนัก" จิตจักรวาลนี้ด้วย
พระบุตรเอกเยี่ยงเรา
จึงเป็นผู้กล่าวพระโอวาทประกาศวจนะ
แทนพระองค์อยู่ที่นี่แต่เพียงผู้เดียว

สิ่งที่ท่านสมควรรับรู้ไว้อีกอย่างก็คือ
เพราะมนุษย์แห่งโลกเสรีนี้ทุกคน
ล้วนเป็นพี่ๆน้องๆกันทั้งนั้น
เพราะเป็นบุตรรักแห่งองค์จิตจักรวาล
ที่ทรงเป็นผู้ให้กำเนิดตัวตนแก่นแท้
ในมิติทางพลังงาน
คือจิตวิญญาณของพวกท่านนั่นแหละ

ดังนั้น
พวกท่านจึงไม่มีใครต่ำต้อย
จนมีค่าแค่เป็น "สาวก" ของพระองค์ได้
เพราะพวกท่านเป็น"บุตรมนุษย์"ที่สูงส่ง
ที่พระบิดายังทรงรักและให้เกียรติเสมอ
แม้บางคนจะทำตัวน่ารังเกียจอยู่ก็ตาม

นอกจากนั้น
เพราะพวกท่านทุกคนบนดาวโลกเสรีนี้
มีตัวตนแก่นแท้เป็นพี่ๆน้องๆกันกับเรา
การเป็นบุตรเอกก็เป็นเพียงในหน้าที่
แต่ความเป็นพี่ๆน้องๆกับท่านก็ยังคงเดิม

เรากล่าวต่อท่านทั้งหลายเสมอว่า
เรากลับมาทำหน้าที่ในปลายยุคนี้
เพราะพระบิดาทรงใช้เรามา
เพราะว่าเรารักพี่ๆน้องๆอย่างท่าน
เราจึงมิอาจชักพาพวกท่านลงต่ำ
เปลี่ยนสภาพแห่งสัมพันธ์อันดีแต่เดิม
จากพี่ๆน้องๆมาเป็น #สาวก ของเราแทน
เราไม่มีแม้แต่จะคิดเลยท่านทั้งหลาย

เราขอฝากแนวคิดต่อท่านอาวุโสผู้นี้ว่า

ท่านจงอย่าหลงผิดคิดไปว่า
การมีองค์กรจัดตั้งที่เรียกกันว่าสำนัก
ซึ่งเต็มไปด้วยอาวุโสมากมาย
มีนักบรรยายมากหน้า
มีสาขาอยู่ทุกตรอกซอย
มีจำนวนสาวกอยู่ไม่น้อย
มีปัจจัยให้ใช้สอยสะดวกมือนั้น

มันเป็นความยิ่งใหญ่ในอาณาจักรโลก
มันเป็นความสำเร็จอันเลอล้ำ
ที่จะนำมาใช้ลบหลู่เหยียบหยาม
ผู้ปฏิบัติภารกิจแห่งฟ้าเช่นเรา
ซึ่งเป็นพี่ๆน้องๆของท่านกันง่ายๆ

เพราะนอกจาก
จะทำให้บารมีเสื่อมและผิดบาปแล้ว
มันยังจะทำให้จิตสามนึกของท่าน
ทั้งปากและสมองสองซีกมีมลทินด้วย
เดี๋ยวก็กลับบ้านไม่ได้

ความสำเร็จแท้จริงในการฉุดช่วยเวไนย
ไม่ได้ชี้วัดกันที่จำนวนและขนาด
ไม่อาจชี้วัดกันที่อายุขัยของสำนักจัดตั้ง
แต่ตัวชี้วัดอันควรภูมิใจมากกว่าก็คือ
ป่านนี้สามารถนำพาพี่ๆน้องๆกลับบ้าน
อย่างถูกทิศ ถูกทาง ได้บ้างหรือยัง

สำนักจะเสื่อม เพราะคนเสื่อม
ภารกิจจะไม่ศักดิ์สิทธิ์
เพราะวิธีคิดไม่ถูกต้อง
ท่านอาวุโสและนักเรียนทั้งหลาย
จงโปรดไตร่ตรองกันดูเถิด

เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
25-06-2017

หมายเหตุ:
***********
สนใจภาค 6 กรุณายกมือขึ้นอีกครั้ง
(อย่าเพิ่งเมื่อยแขนล่ะ)