02 พฤศจิกายน 2560

เหตุที่พระพุทธองค์มิได้ทรงกล่าวถึงเรื่องพระเจ้า


#ตอบคำถาม
คุณ Bhaktichamnan Chamnanbhakti​i
#Question:
กราบเรียนถามอาจารย์
เหตุที่พระพุทธองค์มิได้ทรงกล่าวถึงเรื่องพระเจ้านั้น
มีนัยสำคัญประการใดหรือไม่ครับ
ขอบพระคุณครับ

#Answer:
การที่พระพุทธองค์มิได้กล่าวถึงพระผู้เป็นเจ้า
เพราะพระพุทธองค์ทรงเป็นผู้นำทางจิตวิญญาณ
ที่มนุษย์โลกยอมรับนับถือและศรัทธา
เพราะเห็นว่าพระพุทธองค์ทรงเป็น #สัพพัญญู
ที่เหนือกว่า เลิศกว่า
มนุษย์คนใดในโลกหล้าในยุคนั้น

การที่พระพุทธองค์มิได้ทรงกล่าวถึงพระผู้เป็นเจ้า
เพราะพระพุทธองค์มิได้เป็นตัวแทนของพระผู้เป็นเจ้า
ที่ดวงพระวิญญาณเสด็จลงมาจุติยังโลกเสรีนี้ตั้งแต่แรก
เพื่อทำหน้าที่กล่าวพระโอวาทแทนพระผู้เป็นเจ้า
ต่อมวลมนุษย์โลกเสรีโดยใช้วิธีการ
สื่อสารกับพระผู้เป็นเจ้าผ่านช่องทางพิเศษ
ในระบบจิตสู่จิต (Vertical Telepathy)
ดังเช่น องค์เยซูคริสต์เจ้า
เมื่อกล่าวธรรมะโอวาท
ประกาศพระวจนะเมื่อใดก็ตาม
จะทรงขานไขให้โลกรู้ว่า
ที่พระองค์ทรงกล่าวออกมานั้น
ล้วนกล่าวตามพระผู้เป็นเจ้าทั้งสิ้น

แต่เราจะกล่าวความจริงให้ท่านทั้งหลายรู้ว่า
แม้พระพุทธองค์มิได้ทรงกล่าวถึงเรื่องพระผู้เป็นเจ้า
แต่ก็ทรงสร้างปริศนาธรรมให้ผู้มีภูมิปัญญา
ได้ใช้ฉุกคิดกันอยู่แล้วด้วยมายาแห่งพระพุทธรูป
ซึ่งเป็นสัญญลักษณ์สื่อแทนพระพุทธองค์
ตรงที่บนพระเศียรจะมียอดแหลมดั่งเจดีย์ปรากฏอยู่

นี่เป็นมายาที่พระพุทธองค์ทรงกล่าวถึงพระผู้เป็นเจ้า
ด้วยรหัสนัยที่ท่านต้องใช้ปัญญาแปลความเอาเอง

นั่นคือ
ยอดแหลมดั่งเจดีย์บนพระเศียรนั้นทรงหมายถึง
คลื่นการคิดด้วยจิตวิญญาณของพระองค์ขณะตรัสรู้
ซึ่งเปรียบได้ดั่งเสาอากาศหรือเสารับส่งสัญญาณ
ที่ได้ทรงติดต่อเชื่อมโยงกันกับ "อีกบางสิ่ง"
ที่ดำรงอยู่เหนือโลกขึ้นไปอีก
จึงช่วยให้พระองค์สามารถเข้าถึง
การตรัสรู้สัจธรรมเรื่อง #ธรรมจักร
อันเป็นสัจธรรมระดับ "อนุตรธรรม" อันยิ่งใหญ่ได้
เพราะ "บางสิ่ง" ที่ทรงสัมผัสได้
เป็นผู้ถ่ายทอดลงมาให้พระองค์รู้นั่นเอง

ซึ่ง "บางสิ่ง" ที่พระองค์ทรงสัมผัสได้
แล้วได้รับการถ่ายทอดอนุตรธรรมลงมา
โดยผ่านช่องทางพิเศษแห่งจักระที่เจ็ดนี้นั้น
พวกเราชาว "นักสู้เพื่อการรู้แจ้ง" ซึ่งเป็นฆราวาส
ได้กล่าวถวายพระเกียรติแก่ "บางสิ่ง" นี้ว่า #พระเจ้า

แม้ว่าพระพุทธองค์จะมิทรงกล่าวถึงพระเจ้าด้วยวาจา
แต่เมื่อท่านได้เห็นหลักฐานเชิงประจักษ์
บนพระเศียรของพระพุทธรูปอันเป็นตัวแทนแล้ว
ผู้มีภูมิปัญญาแท้จริง
ก็ย่อมอ่านสัจธรรมนี้ได้ไม่ยากเลย

ท่านเคยได้ยินคำว่า "เหนือฟ้า ยังมีฟ้า" บ้างไหม
นี่ไง...พระพุทธองค์ทรงหมายความไว้เช่นนั้นจริงๆ

ถ้าบนฟ้าไม่มีดาวเทียม
บนหลังคาบ้านและอาคารสูงๆ
จะติดตั้งจานดาวเทียมเอาไว้ทำไมกัน

เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
2-11-2017

01 พฤศจิกายน 2560

สนทนาประสาจิตจักรวาล 20


#สนทนาประสาจิตจักรวาล

พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราขอกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า

คุณสมบัติเดิมแท้ของจิตวิญญาณของทุกท่านนั้น
มีเพียงความสุขอันเกิดจากความสงบหรือความว่างเท่านั้น
โดยความว่างนั้นเป็นคลื่นการสั่นสะเทือนสูงสุดทางด้านบวก
จนนิ่งสงบเหมือนไม่มีการสั่นสะเทือนใดๆ

ถ้าจิตหยาบตลอดทั้งภพชาตินี้เหลวไหล
ยอมให้กิเลสตัณหาราคะครอบงำ
จนเข้าถึงความรักและปัญญาญาณไม่ได้
จะยังผลให้จิตวิญญาณต้องรับเอาคุณสมบัติใหม่
ที่เป็นกิเลสตัณหาราคะนั้นติดตัวไปด้วย
เมื่อจบสิ้นอายุขัยแล้วทิ้งกายสังขารออกไป

กล่าวคือ 
จิตวิญญาณผู้โชคร้ายและน่าสงสารของท่านนั้น
จะเกิดอาการป่วยทางจิตวิญญาณ
เพราะไม่สามารถสั่นสะเทือนด้านบวก
ตามคุณสมบัติเดิมแท้ของตนเองได้อีก
เพราะสั่นสะเทือนไปตามสันดานของจิตหยาบแทนแล้ว

ปรากฏการณ์แบบนี้แหละ
ที่เราเรียกว่า #จิตวิญญาณเสียสมดุล 
ซึ่งเดิมต้องลงไปแก้ไขบำบัดกันที่ในนรก 
ไม่อยากไปก็ต้องไป

เพราะจะใช้บททดสอบแบบเดิมๆ
ที่คนรอบข้างคอยยื่นเป็นเงื่อนไขให้
ในขณะเป็นมนุษย์ดังเช่นที่ผ่านมาไม่ได้แล้ว
เพราะแรงกระตุ้นให้เกิดการสำนึก
จากบททดสอบปกตินั้น
ไม่มีอำนาจมากพอที่จะกระตุ้นให้
จิตวิญญาณสั่นสะเทือนสู่สมดุลดุจเดิมได้

ถ้าจะบำบัดได้ก็ต้องกระตุ้นแรงๆ 
ให้ยาแรงๆและให้ตรงกับโรคกับอาการที่ป่วย
ซึ่งในนรกท่านยมพบาลเรียกว่า
เป็นปฏิบัติการ #กระชากจิตสามนึก นั่นเอง

พี่ๆน้องๆที่รักทั้งหลาย
แต่ขณะนี้พระบิดาได้ทรงประทาน
วิธีการ"ไซโคโชว์" ผ่านเรามา
เพื่อให้เรานำมาช่วยบำบัดจิตวิญญาณ
ของท่านทั้งหลายที่รู้ตัวรู้ตนรู้สติว่า #หลงมิติ
และไม่ต้องเข้าคิวรอไปรักษากันในนรกอีก

ถ้าจิตวิญญาณสมดุล
คุณสมบัติแห่งนิพพานพร้อม
การจบสิ้นภพชาตินี้ของท่าน
จักถึงสวรรค์นิรันดรทันที
โดยไม่ต้องมีนรกสวรรค์สำหรับท่านอีก

โอกาสพิเศษ 
ปฏิบัติการพิเศษนี้
มีเพียงที่เดียว 
ที่จิตจักรวาลสถานธรรม ภูกระต่าย เท่านั้น!

เอเมน สาธุ
.วิสุทธิปัญญา
1-11-2017

สนทนาประสาจิตจักรวาล 19


#สนทนาประสาจิตจักรวาล

พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า

ถ้าใครไม่อยากไปนรกก็ได้
แต่ให้ละเว้นการทำผิดบาปอย่างสิ้นเชิงเสีย

ถ้ายังทำบุญแบบบ้าบุญ
ขณะจิตก็ยังหมกมุ่นอยู่ในบาปกรรม
ได้แต่มุ่งทำบุญอย่างบ้าระห่ำ
จิตวิญญาณก็จะ "หลุดลอย" ไปยังศาลา
แต่หาหลุดพ้นได้ไม่

แม้โรงพยาบาลนรกก็ "หลุดลง" ไป
เพื่อบำบัดรักษาไม่ได้
จำต้องหลุดลอยขึ้นไปยังสวรรค์มายา
เพื่อเฝ้า "ฟูมฟักรักษาตัวเอง" อยู่บนนั้น
แต่เพราะตนมิใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษา
จะต้องนั่งหลับตารักษาตัวเองอยู่ตรงนั้น
จนกว่าจะหายต้องใช้เวลานานสักเท่าใดก็ไม่รู้
อาจชั่วกัปชั่วกัลป์...นั่นแหละนะ

ถ้าทำผิดบาปจนจิตวิญญาณป่วย
ก็ยอมลงนรกเพื่อไปบำบัดอาการป่วย
ให้สมดุลแล้วลุ้นมาเกิดใหม่
เพื่อใช้โอกาสที่ปรารถนา
นำพาจิตวิญญาณ
ให้หลุดพ้นกันในภพชาติใหม่ได้ทันที
โดยไม่ต้องหลุดลอยค้างยังแดนสวรรค์มายา

โรงพยาบาลไม่มีใครอยากไปหรอก
แต่ถ้าป่วยขึ้นมาจะไปหาหมอกันมั้ย?

เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
1-11-2017