31 สิงหาคม 2562

สวัสดีวันเสาร์ 31/08/2019

 อรุณสวัสดิ์ครับ

สวัสดีวันเสาร์ที่ 31 สิงหาคม 2562

 

ทางของคนชอบธรรมนั้น

เป็นดั่งดวงอาทิตย์ยามอรุณรุ่ง

ซึ่งจะส่องแสงสว่างจ้าขึ้นเรื่อยๆ

เขาจะแลเห็นทางเดินชัดขึ้นเรื่อยๆเช่นกัน

 

คนชอบธรรมจึงเดินอย่างสง่างาม

โดยไม่ต้องกลัวว่าจะเดินสะดุดอะไร

 

ขอท่านทั้งหลายจงเริ่มวันใหม่

บนเส้นทางของคนชอบธรรมเถิด

 

เราขอให้ท่านทั้งหลาย

จงประสบความสำเร็จในการเป็นคนดี

จงเป็นที่รักใครใยดีของคนรอบข้าง

จงมีความสุขสมหวังในทุกสิ่ง

จงมีสุขภาวะทางกายและจิตใจอันบริบูรณ์

 

เอเมน สาธุ

ป.วิสุทธิปัญญา

31-08-2019




สนทนาประสาจิตจักรวาล 31/08/2019

 #สนทนาประสาจิตจักรวาล

 

พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย

เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า

 

ดาวเคราะห์โลกทั้งระบบ

กำลังอยู่ในแผนปฏิบัติการชำระ

ด้วยภัยพิบัติรูปแบบต่างๆแน่นอนแล้ว

 

สิ่งที่จะถูกชำระประกอบด้วย

 

1. ดาวเคราะห์โลกในมิติทางกายภาพ

จะถูกเปลี่ยนแปลงทั้งแบบกระทันหัน

และในแบบค่อยเป็นค่อยไป

ตัวอย่างเช่น

 

พื้นที่ของแผ่นดินเดิมของโลกจะลดน้อยลง

พื้นที่ของแผ่นน้ำทะเลและมหาสมุทร

จะเพิ่มมากขึ้นและลึกมากขึ้นกว่าเดิม

หมู่เกาะน้อยใหญ่จะจมหายไปทั้งหมด

 

เทือกเขาสูงใหญ่จะถูกทำให้เตี้ยลง

จนถล่มทลายกลายเป็นพื้นราบ

 

ป่าคอนกรีตของเมืองใหญ่ทั้งหลาย

อันเกิดจากการย้ายภูเขาเอามาสร้างเมือง

จะถูกเวนคืนให้กลายเป็นภูเขากองอยู่บนพื้น

 

แม่น้ำสายเดิมบางสายจะหายไป เช่น แม่น้ำโขง

แต่จะมีแม่น้ำสายใหม่ๆเกิดขึ้นบนโลกแทน

 

พ่อพันธุ์แม่พันธุ์สิ่งมีชีวิตทุกชนิดบนโลก

จะถูกเก็บย้ายออกไปจากระบบโลกชั่วคราว

นอกนั้นจะเสียชีวิตจากภัยพิบัติทั้งหมด

 

หลังปฏิบัติการชำระโลกเสร็จแล้ว

ช่างเท็คนิกจะจัดส่งที่นำไปเก็บไว้คืนกลับมาให้

ยกเว้น "หนู" และ "กระต่าย" เท่านั้น

พวกเขาจะสูญพันธุ์หายไปจากโลกตลอดกาล

 

แผ่นดินที่เคยเพาะปลูกได้จะเพาะปลูกไม่ได้อีก

แผ่นดินที่เคยเพาะปลูกไม่ได้ก็จะเพาะปลูกได้

 

จำนวนประชากรโลก

จะถูกทำให้ลดลงเพื่อลดน้ำหนักมวลบนพื้นโลก

โดยคนที่จะถูกคัดไว้ให้รอด

ต้องมีคุณสมบัติตรงตามเงื่อนไขพระบิดากำหนด

เช่น ปฏิบัติตนตามพันธะสัญญา 6 อย่างจริงจัง

ปฏิบัติตามลูกแก้วสองดวงอย่างเคร่งครัด

เพื่อใช้หมุนธรรมจักรในตนเองให้ได้ตลอดวัน

ทำสามเหลี่ยมกับพระบิดาเป็นอารมณ์ เป็นอาทิ

 

2. ดาวเคราะห์โลกในมิติทางพลังงาน

ก็จักถูกเปลี่ยนแปลงเช่นเดียวกัน

 

โดยในส่วนของแกนแม่เหล็กโลก

ที่เป็นก้อนธาตุออกซิเจนบริสุทธิ์ 100% นั้น

จะได้รับการฟื้นฟูโดยทีมช่างเท็คนิก

ผู้เดินทางมาจากกลุ่มดาว #แซจิตตาริอุส

ให้มีพลังอำนาจแม่เหล็กโลกเพิ่มมากขึ้น

ให้มีแรงบิดตัวของแกนโลกมากขึ้น

เพื่อทำให้โลกหมุนรอบตัวเองเร็วขึ้น เป็นต้น

 

การเปลี่ยนแปลงทางพลังงาน

จะมีผลต่อจิตสามนึกของมนุษย์โลกมากขึ้น

คนที่เลือกทางชอบธรรมจะรอดปลอดภัย

คนที่เลือกทางชอบชั่วจะถูกคัดทิ้งจากระบบ

โดยคนสองขั้วจะแสดงตนออกมาชัดเจนขึ้น

ไม่แยกยากเหมือนปัจจุบันอีกต่อไป

 

พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย

 

ปฏิบัติการชำระโลก

ให้เป็นไปตามที่เรากล่าวมาพอสังเขปนั้น

จักต้องใช้ภัยพิบัติเป็นเครื่องมือทั้งสิ้น

ช่างเท็คนิกจะเป็นผู้เลือกใช้อย่างสอดคล้อง

ตามปริญญาโมเดลว่าด้วย #กฎแห่งหกถูก

คือถูกคน ถูกที่ ถูกวิธี ถูกเวลา ถูกต้องและถูกใจ

ปฏิบัติการชำระตามแผนจึงจะไม่มีวันผิดพลาด

 

ทุกวันนี้มีผู้คนที่อ้างปรารถนาดี

พากันส่งเสียงเตือนภัยพิบัติกันมากมาย

แต่ส่วนใหญ่จะอยู่ในลักษณะของ "เดาสุ่ม" บ้าง

พระบอกบ้าง ผีบอกบ้าง หรือมอดบอกบ้าง

ฮือฮากันทีตื่นตระหนกกันทีแต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ในวันที่ถูกพยากรณ์เอาไว้ล่วงหน้าเลย

 

แทนที่จะมานั่งรอวันตายโดยไม่ทำอะไรเลย

หรือมัวแต่แสวงหาที่หลบภัยเพื่อหนีตาย

แล้วเตรียมกักตุนเสบียงอาหารน้ำดื่มให้วุ่นวาย

 

ให้ท่านหันมาเตรียมตนเองและจิตวิญญาณ

ให้พร้อมผจญภัยโดยไม่หนีไปไหนจะดีกว่า

เพราะหนทางรอดนั้นมันมิได้อยู่บนเส้นทางหนี

แต่มันอยู่ที่จิตตปัญญา บุญบารมี

ความกล้าหาญมั่นคงและความยืนยงแข็งแรง

ของกายสังขารของท่านสี่อย่างนี้เป็นสำคัญ

 

ความรอดของท่านมันมิได้ขึ้นกับว่า

ท่านจะหนีไปพึ่งใคร

ท่านจะหนีไปอยู่ไหน ในถ้ำ บนเขา รูใต้ดิน

เงื่อนไขเหล่านี้มิใช่คำตอบของท่านหรอก

 

ถ้ารักจะรอดต้องทำตัวให้ปลอดภัย

มิใช่ขลาดกลัวแล้วหนีภัยไปไหนก็ไม่รู้

 

เพียงท่านอยู่กับตัวเองให้ได้

อย่าหมายแต่จะพึ่งคนอื่นสิ่งอื่น

ในยามภัยมาทุกคนต้องพึ่งตนเองทั้งนั้น

สิ่งศักดิ์สิทธิ์สูงสุดมีเพียงพระองค์เดียวเท่านั้น

คือ พระผู้เป็นเจ้า

ผู้ทรงเป็นพระบิดาแห่งจิตวิญญาณของมนุษย์

ที่จะสามารถประทานความรอดพ้นปลอดภัย

ให้แก่บุตรกตัญญูทุกคนที่จดจำพระองค์ได้

 

เราฝากคำเตือนมาอีกครั้ง

เรากล่าวต่อท่านทั้งหลาย

ด้วยความรักของพระผู้เป็นเจ้า

ที่ทรงยืมจากเราเพื่อมอบให้แก่ท่าน

สร้างสติทางวิญญาณให้ตนเอง

 

มหันตภัยต่างๆในทางข้างหน้า

จะไม่มีการชะลอช้าอีกต่อไปแล้ว

จะเลือกตั้งรับหรือจะขยับหนี

ก็จงคิดดีๆกันอีกครั้ง....

 

เอเมน สาธุ

ป.วิสุทธิปัญญา

31-08-2019

30 สิงหาคม 2562

สนทนาประสาจิตจักรวาล 30/08/2019

 พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย

เรามีข่าวจะมาเล่าให้ท่านรู้ว่า

 

มีก้อนหินอุกกาบาตหรือดาวเคราะห์น้อย

กำลังเดินทางเฉียดมาใกล้โลกอีกชิ้นหนึ่ง

 

ดาวเคราะห์น้อยขนาดตึกระฟ้า

หรืออุกกาบาต "2000 QW7" ชิ้นนี้

ตามการคำนวณขององค์การนาซ่า

มีเส้นผ่านศูนย์กลางราวๆ 650 เมตร

 

จากข้อมูลของหน่วยงานของสหรัฐอเมริกา

คำนวณว่าชิ้นส่วนของหินอุกกาบาตนี้

จะเข้ามาถึงตำแหน่งที่ใกล้โลกมากที่สุด

ในวันที่ 14 กันยายน 2562 เวลา 19.15 น

ด้วยอัตราเร็ว 40,000 กิโลเมตร/ชั่วโมง

 

ผู้เชี่ยวชาญของนาซาคาดการณ์ว่า

ดาวเคราะห์น้อยชิ้นนี้จะไม่เป็นอันตรายต่อโลก

เนื่องจากมันจะอยู่ห่างโลกออกไป

ประมาณ 5 ล้านกิโลเมตร

 

 

พี่ๆน้องที่รักทั้งหลาย

เราจะขอกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า

 

เศษชิ้นส่วนวัตถุแข็งขนาดน้อยใหญ่เช่นนี้

มีอยู่จำนวนมากมายในบรรยากาศของจักรวาล

ดาวเคราะห์โลกจะต้องเคลื่อนผ่านอยู่เนืองๆ

 

ถ้าโลกมีรั้วป้องกันตัวที่ไม่แข็งแรง

คือมีระบบโครงข่ายสนามแม่เหล็ก

ที่ห่อหุ้มโลกไว้อ่อนแอ ไม่แข็งแรง

เพราะมีความเข้มสนามแม่เหล็กน้อยกว่าปกติ

และยกตัวสูงขึ้นหุ้มห่อดาวเคราะห์โลกไว้

ไม่ถึง 6 หมื่นกิโลเมตรจากระดับน้ำทะเลปกติ

 

จะยังผลให้ก้อนอุกกาบาต หรือดาวหาง

ที่พุ่งผ่านเข้ามาในระบบด้วยความเร็วสูงมากๆ

แม้จะมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางไม่กี่ร้อยเมตร

มันก็จะเป็นภัยอันตรายต่อโลกทันที

หากเกิดการลุกไหม้หรือระเบิดไม่หมด

มันจะตกกระแทกถึงพื้นโลกหรือพุ่งชนโลก

จนสร้างหายนภัยพิบัติร้ายแรงยิ่ง

 

โอกาสที่โลกจะเผชิญภัยจากอุกกาบาต

ในขณะนี้มีความเสี่ยงสูงมากแล้ว

เพราะว่าระบบโครงข่ายสนามแม่เหล็กโลก

และความเข้มสนามแม่เหล็กกำลังเสียสมดุล

เนื่องจากมนุษย์โลกทั้งหมด

ยังไม่รู้และไม่เชื่อพระบิดาที่ทรงสื่อผ่านเรามาว่า

 

#ความรักและเมตตา

จากจิตมนุษย์โลกทุกคนและสิ่งมีชีวิตทุกชนิด

เป็นพลังงานจิตที่สามารถค้ำจุนโลกให้สมดุลได้

ในมิติที่สองตาเปล่ามองไม่เห็น

เพราะมันเกิดขึ้นและสัมพันธ์กันในมิติทางพลังงาน

ซึ่งเป็นคลื่นความถี่ทางไฟฟ้าแม่เหล็กระบบหนึ่ง

ที่พระองค์ทรงติดตั้งระบบเอาไว้เช่นนี้เอง

นี่จึงเป็นอีกหนึ่งความจริงในระดับ #อนุตรธรรม

ที่เราพระบุตรเอกต้องกลับมาเฉลยให้ท่านรู้

เพราะพวกท่านแม้ไฮเท็คแค่ไหนก็รู้เองไม่ได้

 

เมื่อรู้เรื่องจริงเช่นนี้ไม่ได้

ภารกิจทางจิตวิญญาณที่ผ่านมาของชาวโลก

ที่ระบุอยู่ในพันธะสัญญา 6 มันจึงล้มเหลว

มันจึงทำให้ดาวโลกเสียสมดุลเป็นอย่างมาก

จนยังผลให้พระองค์ต้องทรงพิพากษาโลก

ด้วยมหันตภัยพิบัติที่รุนแรงยิ่งนับต่อจากนี้

 

เพื่อคืนสมดุลให้แก่ระบบดาวเคราะห์โลก

และยกระดับอำนาจของโลกให้สูงขึ้นจากเดิม

เมื่อก้าวผ่านสู่ยุคพลังงานใหม่แล้ว

ซึ่งดาวเคราะห์โลกจะมีแต่ความมืดมิด

ต่อเนื่องกันนานถึง 8 ราตรี คือ 56 วัน

โดยจะมีกลางคืนอย่างเดียวไม่มีกลางวันเลย

 

เพราะความรักจากจิตมนุษย์และสัตว์

รวมทั้งสิ่งมีชีวิตทุกรูปแบบ

ที่พระศาสดากล่าวรวมๆว่า #เวไนยสัตว์

เป็นสิ่งสำคัญยิ่งที่มนุษย์ผู้เจริญทุกคนต้องรู้

ศาสดาทุกพระองค์จึงสอนมนุษย์ให้รักกัน

ให้รักและเมตตาต่อสัตว์โลกทั้งหลาย

จงอย่าเบียดเบียนทำร้ายกันเอง

 

เพราะมนุษย์ไม่รู้ว่า

ความรักเพื่อให้นั้นมันสำคัญต่อโลกอย่างไร

มนุษย์ส่วนใหญ่จึงมีแต่รักเพื่อเอา

คือ เอาสามี เอาภรรยา เอาลูกหลาน เอาเพื่อน

เอาวงศาคณาญาติ เอาประโยชน์ส่วนตน

แต่ไม่สามารถรักคนอื่นและรักโลกแท้จริงได้เลย

 

มนุษย์จึงมีแต่ "ทำมั้ย?" มากกว่า #ธรรมะ

มนุษย์จึงมีแต่ #สัตว์จะทำ มากกว่า "สัจธรรม"

มนุษย์จึงมีแต่ทำทานทำบุญเกื้อหนุนตนเอง

มนุษย์จึงถือศีลปฏิบัติธรรมกิจ

เพราะคิดว่าจะไปสวรรค์คนเดียวตลอดมา

 

นี่ถ้าช่างเท็คนิกของพระบิดา

ประดาฑูตสวรรค์ผู้มาจากฟากฟ้าอันสูงไกล

ไม่เข้ามาช่วยกันค้ำจุนอำนาจแม่เหล็กโลกไว้

ดาวโลกจะตกอยู่ในภัยอันตรายมากกว่านี้แน่ๆ

 

ขอบคุณ: ภาพจาก NASA

 

เอเมน สาธุ

ป.วิสุทธิปัญญา

30-08-2019

คำสอน 30/08/2019

 

ความั่งคั่งมั่นคงในชีวิต
เป็นมงกุฏเกียรติยศของคนฉลาด
แต่ความโง่ของคนโง่
ก็จะมี "ควมโง่" เป็นมรดก

คำสอน 30/08/2019

 

กราบสาธุการแด่องค์จิตจักรวาล
พระบิดาแห่งจิตวิญญาณของเรา
ด้วยพระเมตตาของพระองค์
จึงทรงโปรดให้เรากลับมาตามสัญญา

เพื่อแจ้งข่าวสารปฏิบัติการชำระโลกก่อนวันสิ้นยุค
เพื่อเตือนท่านให้เตรียมตนเองและจิตวิญญาณไว้เพื่อการผจญภัย
เพื่อกล่าวพระโอวาทต่อท่านทั้งหลายในพระนามแห่งพระองค์
เพื่อชี้มรรควิธีแห่งจิตจักรวาล นำพาท่านสู่การหลุดพ้นในชาตินี้

29 สิงหาคม 2562

สนทนาประสาจิตจักรวาล 29/08/2019

 #สนทนาประสาจิตจักรวาล

 

พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย

เราขอกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า

 

ในยามที่ท่านโกรธนั้น

จิตของท่านจะสั่นสะเทือนเป็นคลื่นความถี่ต่ำ

 

ยิ่งโกรธจัดมากเท่าไหร่

จิตก็จะยิ่งสั่นสะเทือน

เป็นคลื่นความถี่ต่ำมากเท่านั้น

 

สิ่งที่ท่านสามารถสังเกตตนเองได้ก็คือ

ขณะโกรธหัวใจท่านจะเต้นแรงมาก

ร่างกายมือไม้ก็จะเกิดอาการสั่นตามไปด้วย

จะหายใจแรง หายใจหอบ

คล้ายคนเหนื่อยจัด

ทั้งๆที่ไม่ได้ออกกำลังกาย

หรือยกของหนักอะไรเลย

 

ความดันโลหิตก็จะสูง

ใบหน้าจะแดงกล่ำจนดำคล้ำ

บางคนก็อาจโกรธจนหน้ามืดเลยก็มี

 

อาการทางกายภาพเหล่านี้

จะเกิดขึ้นตอนที่ท่านโกรธ

ลักษณะอาการจึงคล้าย

คนที่กำลังจะขาดใจตาย

เพราะหัวใจเต้นผิดปกติ

จนเกิดอาการหัวใจวายคือหยุดเต้นฉับพลัน

 

โดยอาการดังกล่าวนี้

มันจะตรงข้ามกันกับในยามปกติ

ในขณะที่ท่านกำลังอยู่ในความสงบนั้น

จิตของท่านจะสั่นสะเทือนเป็นคลื่นความถี่สูง

 

ยิ่งสภาวะจิตสุขสงบมากเท่าใด

จิตก็จะยิ่งสั่นสะเทือน

เป็นคลื่นความถี่สูงมากเท่านั้น

ถ้าจิตสั่นสะเทือนเป็นคลื่นความถี่สูง

จิตกับกายของท่านจะมีอาการนิ่งสงบ

เพราะไม่เสียสมดุล

 

เหมือนเส้นลวดที่ขึงจนตึงสุดๆไว้

จะดูเหมือนว่าเส้นลวดนั้น

สงบนิ่งไม่สั่นไหวแต่อย่างใด

ทั้งๆที่แท้จริงแล้วลวดเส้นนั้น

กำลังสั่นสะเทือนขึ้นๆลงๆเป็นคลื่นความถี่สูงอยู่

จิตกับกายของท่านก็เช่นกัน

 

โบราณจึงเรียกคนที่อาการทางจิตไม่ปกติ

ในย่านของกิเลส ตัณหา ราคะจริตว่า

เกิดอาการ #จิตตก

คือ ตกไปจากสภาวะปกติที่เคย #สงบ อยู่

 

ดังนั้น

จิตที่ไม่สงบ จึงหมายถึง

จิตที่เสียสมดุลไปจากสภาวะปกตินั่นเอง

 

เอเมน สาธุ

ป.วิสุทธิปัญญา

29-08-2019

28 สิงหาคม 2562

สนทนาประสาจิตจักรวาล 28/08/2019

 #สนทนาประสาจิตจักรวาล

 

พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย

 

เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า

กรณีที่เกิดมีปรากฏการณ์

"อาทิตย์อับแสง" เฉพาะบนดาวเคราะห์โลก

เมื่อวันจันทร์ที่ 19 สิงหาคม 2019

ที่กล้องของดาวเทียมสำรวจดวงอาทิตย์

ของ NASA ทำการบันทึกภาพเอาไว้ได้นั้น

มีการยืนยันแล้วว่าเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นจริง

 

นอกจากนั้น

ยังสังเกตได้ด้วยว่าความสว่างของดวงอาทิตย์

ขณะเกิดปรากฏการณ์นี้

มีความสว่างน้อยกว่าดวงจันทร์อีกด้วย

พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย

ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้

มิได้เกิดจากความผิดปกติของกล้องบันทึกภาพ

มิได้เกิดจากการกระทำของ Aliens เผ่าดาวอื่น

มิได้เกิดจากความบังเอิญแต่อย่างใด

แต่ปรากฏการณ์นี้มีผู้อยู่เบื้องหลังของการเกิด

ซึ่งเราขอเรียกว่า "ช่างเท็คนิก" ของพระบิดาฯ

เป็นผู้สร้างขึ้นมาในมิติทางพลังงาน

ด้วยเจตนาให้มนุษย์โลกรับรู้จึงสำแดงมายาให้เห็น

นี่จึงเป็นการเปิดเผยความลับเบื้องหลังมิติโลก

ซึ่งเป็นปรากฏการณ์จริงที่เกิดขึ้นครั้งที่สองแล้ว

โดยปรากฏการณ์ที่เปิดเผยในครั้งแรก

 

เป็นปรากฏการณ์จริงที่เกิดขึ้น

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 4 สิงหาคม 2019

ซึ่งเราได้นำมาเปิดเผยไว้ในห้องเรียนนี้แล้ว

นั่นคือ การสร้างปรากฏการณ์ "รูหนอน"

ที่ใช้ในการย้ายมวลและรูปธรรมทางพลังงาน

จากต่างจักรวาลเข้ามาสู่ระบบสุริยะของโลก

เพื่อปฏิบัติการทางเท็คนิกต่างๆในการชำระโลก

ให้เปลี่ยนจากยุคพลังงานเก่าสู่ยุคพลังงานใหม่

ตามแผนการที่กำหนดไว้ล่วงหน้า

ซึ่งขณะนี้ก็กำลังปฏิบัติการชำระโลกกันอยู่แล้ว

 

พี่ๆน้องๆที่รักทั้งหลาย

ปรากฏการณ์ "อาทิตย์อับแสง" ชั่วคราวนี้

เป็นการกระทำของช่างเท็คนิกหรือฑูตสวรรค์

ในการสร้างระบบโครงข่ายพลังงานที่เหนียวแน่น

ซึ่งถูกถักทอขึ้นใช้เป็นพิเศษสำหรับภารกิจพิเศษ

เพื่อใช้ "ซับกรอง" คลื่นพลังงานแม่เหล็กไฟฟ้า

ที่ถูกส่งออกมาจากจุดดำบนดวงอาทิตย์

ให้ลดทอนพลังอำนาจลงในระดับที่ควบคุมได้

โครงข่ายพลังงานที่ถูกสร้างขึ้นนี้

ถูกถักทอขึ้นให้มีลักษณะคล้ายตาข่ายหรือร่างแห

ดังภาพที่ NASA บันทึกได้จากเงาบนดวงอาทิตย์

ซึ่งเราได้นำหลักฐานมาสำแดงให้เห็นไว้ด้วยแล้ว

 

โดยช่างเท็คนิกได้ทำการติดตั้งเอาไว้

คล้ายการติดตั้งอวนหรือตาข่ายดักปลา

เพื่อคอยดักดูดซับคลื่นพลังงานจากพายุสุริยะ

ที่จะถูกส่งมายังระบบโลกให้ลดทอนลง

ซึ่งแน่นอนว่าจะมีผลต่อการดูดซับคลื่นแสงด้วย

เพราะคลื่นความถี่แสงก็เป็นคลื่นพลังงานเช่นกัน

 

ซึ่งเป้าประสงค์หลัก

ในการสร้างโครงตาข่ายพลังงานขึ้นนั้น

ก็เพื่อต้องการควบคุมระดับความเข้มข้น

 

ของคลื่นพลังงานไฟฟ้าแม่เหล็ก

ที่จะถูกส่งเข้ามาในระบบโลก

ให้อยู่ในระดับที่ต้องการนั่นเอง

ท่านทั้งหลายจักต้องรู้ว่าในอดีตนั้น

การเกิดพายุแม่เหล็กในบรรยากาศโลก

การเกิดปรากฏการณ์ด้านภัยพิบัติต่างๆ

เช่น แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด

พายุหมุนรุนแรง พายุฝน พายุหิมะ พายุลูกเห็บ

คลื่นอากาศร้อน คลื่นอากาศหนาวเย็น เป็นต้น

มหันตภัยพิบัติที่เกิดจากปรากฏการณ์เหล่านี้

โลกได้รับอิทธิพลมาจากพายุสุริยะแทบทั้งสิ้น

ถ้าหากไม่นับภัยพิบัติอันเกิดจากมนุษย์

เป็นผู้กระทำให้โลกเสียสมดุลกันเอง

 

พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย

ขณะนี้ตาข่ายพลังงานที่ถูกสร้างขึ้น

ตามที่ปรากฏให้รู้เห็นกันเมื่อ 19 ส.ค.ศกนี้นั้น

ได้ถูกติดตั้งขึ้นเพื่อการใช้งานเรียบร้อยแล้ว

 

เนื่องจาก

ตามแผนปฏิบัติการชำระโลก ครั้งที่ 4

เพื่อนำโลกเปลี่ยนผ่านสู่ยุคพลังงานใหม่นั้น

ดาวเคราะห์โลกและทุกสรรพสิ่งในระบบโลก

จะถูกช่างเท็คนิกพระบิดาชำระพร้อมกันทั้งหมด

ทั้งในมิติทางกายภาพและในมิติทางพลังงาน

รวมทั้งจิตวิญญาณของมนุษย์เองก็มิได้ละเว้น

 

ดาวเคราะห์โลกดวงนี้

จึงจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมากมาย

ชนิดที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

ตั้งแต่พระองค์ทรงสร้างโลกเป็นต้นมา

เท่าที่เราพอจะสรุปให้ท่านรู้กันพอสังเขปได้ดังนี้

1. จิตสาม (สำ) นึกของมนุษย์โลกที่รอดชีวิต

จะถูกยกระดับขึ้นทางด้านบวกสูงสุด

จนเป็นหนึ่งเดียวกันกับจิตวิญญาณตนเอง

และเป็นหนึ่งเดียวกันกับจิตสำนึกของโลกได้

มนุษย์ทุกคนจะรู้จักรักตนเอง

มนุษย์ทุกคนจะรู้จักรักพ่อแม่ญาติพี่น้องบุตรบริวาร

มนุษย์ทุกคนจะรู้จักรักผู้อื่นเหมือนรักตนเอง

มนุษย์ทุกคนจะรู้จักรักดาวเคราะห์โลกของตน

โดยจะไม่ทำตัวเป็นมอดทำลายโลกของตนเอง

อย่างไร้จิตสามนึกแห่งการเป็นมนุษย์โลก

ซึ่งมนุษย์ที่จะรอดชีวิตจากการชำระโลกได้

จะต้องเผชิญกับบททดสอบสำคัญบทสุดท้าย

นั่นคือ "บททดสอบความกลัวตาย"

จากการเผชิญหน้ากับภัยพิบัติรูปแบบต่างๆ

ที่จะเกิดขึ้นบนโลกในอนาคตอันไม่นานนี้

แล้วสอบผ่านบททดสอบนี้ไปให้ได้เท่านั้น

ภัยพิบัติที่รุนแรงทั้งหลายที่จะเกิดขึ้นให้เผชิญ

ล้วนจะเป็นไปเพื่อการ "คัดไว้" กับการ "คัดทิ้ง"

ปฏิบัติการชำระจึงต้องดำเนินการมิให้ผิดพลาด

ทั้งพิกัดพื้นที่ๆจะกำหนดให้เป็น #บ่อย่ำองุ่น

พิกัดพื้นที่ๆจะกำหนดให้เป็น #บึงไฟ

ช่างเท็คนิกผู้ปฏิบัติการอยู่เบื้องหลังภัยพิบัติ

จึงต้องนำพาตนเองและเครื่องมือที่ใช้เพื่อการนี้

เข้ามาปฏิบัติการอยู่ในระบบโลกเสียเอง

 

ดังนั้น

พวกเขาจึงจำเป็นต้องสร้างตาข่ายพลังงาน

เพื่อทำการดูดซับพลังพายุสุริยะให้เหลือน้อยลง

เพื่อป้องกันภัยพิบัติบนโลกจากอำนาจพายุสุริยะ

ให้คงเหลือแต่ภัยพิบัติหนักเบาที่จะเกิดขึ้น

ตรงพิกัดพื้นที่เป้าหมายใดๆบนโลก

อันเกิดจากการจงใจให้เกิดตามแผนการเท่านั้น

 

2. แผ่นดินโลกที่เป็นเกาะทั้งหมด

ทั้งในทะเลและมหาสมุทรทั่วโลก

ไม่ว่าจะเป็นเกาะเล็กๆหรือเกาะใหญ่ๆ

จะถูกชำระให้หายไปจากแผนที่โลกแน่นอน

โดยจะไม่มีใครรู้ว่าเกาะทั้งหลายหายไปอยู่ไหน

เพราะประดาเกาะน้อยใหญ่บนโลก

มิใช่แผ่นดินเดิมที่พระบิดาทรงสร้างขึ้นไว้

แต่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นใหม่จากการตกตะกอน

ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้โลกเสียสมดุล

อันเกิดจากการเหวี่ยงหมุนรอบตัวเองช้าลง

เพราะบริเวณพื้นน้ำเหลือน้อยกว่าที่ทรงกำหนด

โลกจึงมีแรงเสียดทานกับบรรยากาศ

มากเกินกว่าค่าคงที่

ซึ่งพระผู้สร้างได้ทรงกำหนดเอาไว้แล้ว

 

ท่านทั้งหลายจะต้องรู้ว่า

ดาวโลกจะสมดุลได้ก็ต่อเมื่อ

มีการเหวี่ยงหมุนรอบตัวเองต่อเนื่อง

ด้วยอัตราเร็วต่อรอบคงที่เท่านั้น

พระบิดาหรือพระผู้สร้าง

จึงต้องทรงกำหนดให้โลกทั้งดวง

 

มีแผ่นน้ำมากกว่าแผ่นดิน

คือ มีน้ำ 3 ส่วน กับแผ่นดิน 1 ส่วน

ที่ทรงกำหนดให้มีน้ำ 3 ส่วนและเป็นน้ำเค็ม

เพราะทรงต้องการให้พื้นผิวน้ำทะเล

ซึ่งมีแรงตึงผิวสูงเกิดความหนืดหรือหน่วง

เมื่อหมุนก็จะเสียดทานกับบรรยากาศได้ดีกว่า

พิกัดพื้นที่ๆเป็นแผ่นดินขณะเหวี่ยงหมุนนั่นเอง

 

ดังนั้น

การเจาะจงชำระเฉพาะพื้นที่เป้าหมาย

ที่เป็นเกาะน้อยใหญ่ในทะเลและมหาสมุทร

จึงจะอาศัยพลังพายุสุริยะเข้ามากระทำมิได้

นอกจากทีมงานช่างเท็คนิก

ต้องเข้ามาปฏิบัติการอยู่ในระบบโลก

ตรงพิกัดที่กำหนดด้วยตนเองเท่านั้น

 

ด้วยเหตุนี้เอง

ตาข่ายพลังงานจึงต้องถูกสร้างขึ้น

เพื่อใช้เฉพาะกิจในการชำระโลกชั่วคราวนี้

มนุษย์จึงพบพิรุธขณะทำการติดตั้ง

เมื่อพบว่าอาทิตย์อับแสงลงจากปกติ

โดยมีเงามายาบนดวงอาทิตย์ที่บันทึกภาพได้

มีลักษณะคล้ายตาข่ายหรือแหให้เห็น

 

3. แผ่นดินชายฝั่งทะเลกว่า 50%

จะถูกน้ำทะเลกลืนหายไปทั้งหมด

 

ภูเขาสูงและทิวเขายาว

จะเกิดการสไลด์ทรุดตัวลง

คลองลำเล็กจะกลายเป็นแม่น้ำสายใหญ่

เขื่อนขนาดใหญ่จะเกิดการพังทลาย

ทะเลทรายจะกลายเป็นทะเลสาป

บริเวณพื้นที่ราบจะเกิดแม่น้ำสายใหม่

ภูเขาไฟทั้งเก่าใหม่ทั่วโลก

จะถูกปลุกให้ตื่นปะทุขึ้นมา

เพื่อนับวัน "ระเบิด" ขึ้นพร้อมกัน

พายุหมุนรุนแรง พายุฝนแบบ "ระเบิดน้ำ"

ที่ช่างเท็คนิกสูบมันขึ้นมาจากทะเล

ในรูปแบบของ #พายุงวงช้าง ที่เห็นกันบ่อยๆ

จะถูกนำไปบอมบ์ในพื้นที่ห่างไกล

เพื่อสร้างอุทกภัยรุนแรงตรงพิกัดที่ต้องการได้

 

ดังนั้น

ปฏิบัติการที่จะไม่ผิดพลาดเลย

ช่างเท็คนิกจำต้องเลือกวิธีการ

เข้ามาปฏิบัติอยู่ในระบบโลกเองเท่านั้น

"ตาข่ายพลังงาน" จึงเป็นเครื่องมือที่จำเป็น

 

4. นอกจากนั้น

การสร้างตาข่ายพลังงานปิดกั้นพายุสุริยะ

ยังจะช่วยให้ช่างเท็คนิกทำงานไม่ผิดพลาด

 

ในเรื่องต่างๆต่อไปนี้ด้วย คือ

ทำให้แกนหมุนของโลกที่ทำมุมกับแนวดิ่ง

มีการเอียงเบี่ยงเบนไปจากเดิม 8.5 องศา

คือเปลี่ยนเป็น 32 องศา (ปัจจุบัน 23.5 องศา)

ทำให้แนวเส้นแรงแม่เหล็กโลกของโครงข่าย

เบี่ยงมาทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ 3 องศา

อันหมายถึงขั้วเหนือใต้เข็มทิศแม่เหล็กโลก

จะเบี่ยงเบนไปจากเดิม 3 องศานั่นเอง

ต้องทำให้ดาวโลก "กลับขั้ว" ตีลังกา

ด้วยการเปลี่ยนขั้วโลกเหนือก้มหัวลงล่าง

ขณะที่เปลี่ยนขั้วโลกใต้หงายขึ้นไปอยู่ข้างบน

 

แล้ววกกลับสู่สภาพเดิมอีกครั้ง

โดยใช้เวลาทั้งสิ้นภายใน 30 วันเท่านั้น

ต้องทำให้ดาวเคราะห์โลกดวงนี้

อยู่ในความมืดมิดยาวนาน 8 ราตรีของพระบิดา

หรือเท่ากับ 56 วันของโลกเองโดยไม่สว่างเลย

ในคาบเวลาสุดท้ายของการชำระโลก

เพื่อเปลี่ยนผ่านสู่ยุคพลังงานใหม่

 

พี่ๆน้องๆที่รักทั้งหลาย

สิ่งที่เรากล่าวมาทั้งหมดนี้

มันจะเกิดขึ้นได้จริงๆตามแผนการนั้น

ดาวโลกดวงนี้จักต้องเผชิญกับมหันตภัยพิบัติ

ในรูปแบบต่างๆที่น่าตื่นกลัวแน่นอน

โดยมันจะค่อยๆทยอยเกิดขึ้นในทุกพิกัด

ท่านทั้งหลายจงเฝ้าติดตามกันเองเถิด

 

ที่สำคัญคือ

คนดีที่จะเป็นผู้รอดชีวิตเพราะถูกคัดไว้

จะต้องเป็นคนที่ยอมรับความจริงได้ว่า

โลกและมนุษย์กำลังเข้าสู่โหมดการถูกชำระ

ด้วยมหันตภัยพิบัติต่างๆอย่างไม่เคยเกิดมาก่อน

จะต้องยอมรับว่ามันมิใช่ภัยธรรมชาติ

จะต้องยอมรับว่าทุกๆสิ่งในระบบโลก

ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือ "มอด" ก็ตาม

หนีไม่พ้นการถูกชำระในครั้งนี้ด้วยกันทั้งนั้น

ไม่มีใครช่วยใครได้หรอก

 

นอกจากนั้น

แทนที่พวกท่านจะเตรียมจิตวิญญาณ

ด้วยมรรควิถีจิตจักรวาลเพื่อการผจญภัย

กลับชวนกันหนีภัยไปหลบอยู่ในบ่อย่ำองุ่น

เพราะไปหลงเดินตามคนนำทางตาบอดอยู่

มันจะทำให้ #บานประตูแห่งโอกาส ของท่าน

ที่จะผ่านสู่ความรอดและความหลุดพ้น

จะถูกปิดใส่กลอนลั่นดานจนแน่นสนิทเลย

 

ที่เรากล่าวมาทั้งหมดนี้

เรากล่าวความจริงตามที่ได้รับรู้มา

เรากล่าวตามที่พระบิดาทรงอนุญาตให้กล่าว

เรามิได้ลอกเลียนใครมามั่วเพื่อทำตัวเด่นดัง

เรามิได้ตั้งใจทำให้ใครขลาดกลัว

แต่ต้องการจะนำมาเตือนภัยให้รู้ตัวไว้ล่วงหน้า

เพราะเราเป็นผู้กล่าวต่อท่านทั้งหลาย

ในนาม King of the Universe

 

กราบพระบาทพระบิดา

 

เอเมน สาธุ

ป.วิสุทธิปัญญา

28-08-2019