20 สิงหาคม 2566

คัมภีร์อนุตรธรรมภาคจิตจักรวาล 20/08/2023


(เพื่อยุวจิตจักรวาลยุคสุดท้าย)
 
พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
 
จิตวิญญาณแก่นแท้ของพวกคุณนั้น
เป็นรูปธรรมทางพลังงานที่หมุนรอบตัวเองตลอดเวลา
ซึ่งมีรูปทรงเรขาคณิตขณะหยุดหมุนเป็น 6 เหลี่ยมมุม
อันหมายถึงเป็นรูปทรงสามเหลี่ยมด้านเท่ารวม 2 รูป
อยู่ในวงกลมวงเดียวกันโดยมุมทั้งสามไม่ซ้อนทับกัน
 
จำนวนเหลี่ยมมุมที่เป็นจำนวนเท่าของสามคือ 6 นี้
เป็นรูปธรรมที่มีความสมดุลในตนเองอยู่ระดับหนึ่ง
ซึ่งยังสามารถที่จะยกระดับแรงสั่นสะเทือนให้สูงขึ้น
จนเป็นจำนวนเท่าของสามคือ 9 และ 12 ได้อีกด้วย
 
สำหรับพวกคุณทุกคนเมื่อต้องการหลุดพ้น
เพื่อกลับบ้านเกิดแดนสุญตาพระนิเวศน์ของพระเจ้า
ในชีวิตประจำวันของพวกคุณนั้นจะต้องใช้จิตหยาบ
ทำงานร่วมกันกับสมองด้วยกระบวนการของขันธ์ห้า
ตอบสนองทุกเงื่อนไขที่คนรอบข้างหยิบยื่นมาให้
ด้วยความรักเพื่อให้ซึ่งเป็นรักที่บริสุทธิ์เท่านั้น
ไม่ว่าเงื่อนไขที่คนอื่นทำต่อคุณนั้นจะดีหรือชั่วก็ตาม
คุณต้องอดทนอดกลั้นให้อภัยด้วยจิตใจเมตตาเสมอ
 
เพราะการสั่นสะเทือนจิตปัญญาหรือจิตสามนึก
ด้วยอาการทางจิตที่เป็นด้านบวกในแบบที่ว่านี้
มันเป็นหน้าที่ทางจิตวิญญาณที่ขันอาสาพระเจ้ามา
เพื่อสั่นสะเทือนตนเองในสองมิติให้ได้ตลอดเวลา
โดยทำให้จิตหยาบเป็นหนึ่งเดียวกับจิตวิญญาณให้ได้
ซึ่งพระเจ้าทรงเรียกว่า #การหมุนธรรมจักร นั่นเอง
 
ถ้าคุณสามารถหมุนธรรมจักรได้สำเร็จกับทุกเงื่อนไข
ทั้งตัวคุณเองและคนรอบข้างทุกคนที่เขาทำดีกับคุณ
จะสร้างพลังร่วมทางจิตสามนึกด้านบวกขึ้นมาได้
ด้วยสมการพลังงาน βₓ = 3X²(β1 + β2 + β3 +…+βₓ)
ซึ่งสมการนี้จะเป็นจริงได้ X” ต้องมีค่าเป็นสามขึ้นไป
อันหมายถึงคุณกับคนรอบข้างตั้งแต่สามคนขึ้นไป
ถ้าคุณทำให้คนจำนวนมากมารุมรักคุณได้มากเท่าไหร่
ทั้งตัวคุณเองและทุกคนจะสร้างพลังงานร่วมนี้ขึ้นมาได้
ซึ่งมันจะมีผลต่อการสั่นสะเทือนจิตหยาบของทุกคน
ที่อยู่ในกลุ่มหรือชุมชนเดียวกันบนพื้นที่ 33.33 ตร.กม.
ด้วยการทำตัวแบบ #อยู่ให้เขารักห่างไกลกันก็คิดถึง
 
ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นก็คือ “จิตหยาบของทุกคน” ที่รักกันนั้น
มันจะสั่นสะเทือนด้านบวกสูงขึ้นจากเดิมได้ทุกครั้งไป
โดยจิตหยาบของคุณเมื่อแรกคลอดออกมาจะมี 4 มิติ
เมื่อเติบโตขึ้นมาจนเลยสามขวบปีบริบูรณ์ไปแล้ว
การหมั่นหมุนธรรมจักรด้วยความรักแบบไม่ปิดอายตนะ
ด้วยการหมั่นขยันทำให้มันต่อเนื่องทุกวันทุกเวลาแล้ว
จิตหยาบของคุณมันจะยกระดับตนเองสู่มิติที่ 5 ได้
เมื่อจิตหยาบเข้าถึงมิติที่ห้าได้แล้วภายในไม่นานวัน
มันก็จะยกระดับเพื่อเข้าถึงมิติที่ 6 คือ 6 เหลี่ยมมุมได้
 
จิตหยาบของคุณเมื่อเข้าถึงมิติที่ 6 ได้เมื่อใด
ทั้งจิตหยาบและจิตวิญญาณก็จะกลายเป็นหนึ่งเดียวกัน
ด้วยสองแรงสองพลังจากสองรูปธรรมที่เป็นหนึ่งเดียว
เพียงแค่พวกคุณรักคนไม่น่ารักให้ได้อภัยเขาให้เป็น
ตัวคุณก็จะยกระดับจิตวิญญาณของตนให้สูงขึ้นอีกได้
ถ้าคุณไม่หยุดหมุนธรรมจักรในแบบที่เราบอกมานี้
จิตวิญญาณของคุณจะมีจำนวนเหลี่ยมมุมมากขึ้น
โดยเพิ่มจาก 6 ไปยัง 11 เหลี่ยมมุมได้ในที่สุด
ซึ่งจิตวิญญาณในมิติที่ 11 นั้นจะเป็นผู้พร้อมหลุดพ้น
เหมือนดั่งนกที่มีปีกสองข้างอันแข็งแรงพร้อมโบยบิน
เพื่อพาตนเองคือจิตวิญญาณกลับรังเคยอยู่อู่เคยนอน
ก่อนที่โลกจะถึงกาลสิ้นยุคพลังงานเก่าได้แล้ว
 
พระเจ้าทรงอนุญาตให้จิตวิญญาณพวกคุณ
มีเวลาในการทำหน้าที่และยกระดับตนเองแบบที่ว่านี้
ต่อหนึ่งยุคคือ 60,000 ปีซึ่งบัดนี้สิ้นยุคพลังงานเก่าแล้ว
จิตวิญญาณพวกคุณต้องกลับบ้านให้ทันตามที่กำหนดไว้
เพราะคาบเวลาเมื่อสิ้นยุคนั้นโลกทั้งดวงจะมืดทุกด้าน
โดยมันจะมืดพร้อมกันในแบบที่พวกคุณไม่เคยเจอมาก่อน
โลกจะมืดขณะที่ภัยพิบัติและมัจจุราชอันน่ากลัว
จะเข้ามาเอาชีวิตผู้คนที่เหลวไหลไร้สัจจะและไม่มีสำนึก
ด้วยพิบัติภัยทุกรูปแบบที่อันตรายจนเกินต้าน
จากแผนการชำระขยะออกจากระบบโลกก่อนเปลี่ยนยุค
ซึ่งทุกวันนี้มนุษย์กับโลกกำลังเผชิญภัยกันอยู่แล้ว
โดยนับวันจะรุนแรงขึ้นและถี่ขึ้นเหมือนพระตีกลองเพล
 
เราจะกล่าวความจริงให้รู้ว่า
คำว่าคุณมี 4 มิตินั้นเราหมายถึงจิตหยาบของคุณ
จะเป็นรูปธรรมทางพลังงานที่มีรูปทรง 4 เหลี่ยมมุม
เพราะมันยังเหวี่ยงหมุนรอบตัวเองช้าอยู่นั่นแหละ
ถ้าทำให้มันเหวี่ยงหมุนรอบตัวเองเร็วกว่าทุกวันนี้ได้
รูปธรรมทางพลังงานของจิตหยาบก็จะมีมุมเพิ่มขึ้น
จาก 5 เหลี่ยมมุมหรือจากมิติที่ 5 ไปสู่มิติที่ 6 ได้
 
การที่จิตหยาบหรือจิตวิญญาณต้องเหวี่ยงหมุนนั้น
มีเหตุผลสองประการเท่านั้นก็คือ
 
1.เพื่อทำให้เหลี่ยมมุมทุกมุมซ้อนทับกัน
จะยังผลให้จิตหยาบนั้นมีความฉลาดเพิ่มขึ้นได้
 
2.เพื่อทำให้จิตหยาบนั้นเป็นหนึ่งเดียวกัน
กับการเหวี่ยงหมุนของจิตวิญญาณแก่นแท้ของตน
อันหมายถึงทั้งสองรูปธรรมมีความสมดุลกันนั่นเอง
ซึ่งเป็นที่มาของคำว่า #คนสองมิติ ให้เข้ากัน
เพื่อการเป็นมนุษย์ที่สมดุลโดยแท้
 
ในชีวิตประจำวันของพวกคุณทุกคนทุกศาสนานั้น
ไม่ใช่มาแบ่งแยกพระศาสดามาแบ่งแยกศาสนา
ไม่ใช่มาเกิดเพื่อเกลียดกลัวความทุกข์แล้วหนีทุกข์
ไม่ใช่มาเกิดเพื่อเสพติดกิเลสตามมอดมารหลอกไว้
ไม่ใช่มาเกิดเพื่อหาทางตายจะได้ไปสวรรค์มายา
ไม่ใช่มาทำตัววิปริตผิดธรรมชาติทำง่ายให้เป็นยาก
ไม่ใช่เป็นคนชอบธรรมโดยเน้นแต่พิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์
 
หน้าที่หลักคือต้องหมุนธรรมจักรในตนเองร่วมกัน
เพื่อใช้เมตตาธรรมค้ำจุนสมดุลโลกให้จงได้
ทั้งยังต้องช่วยกันยกระดับจิตหยาบให้สูงขึ้นถึง 6D
เพื่อนำพาจิตวิญญาณหลุดพ้นกลับบ้านให้ทันด้วย
 
สื่อถ่ายทอดคลื่นความคิดในระบบจิตสู่จิต
จากองค์จิตจักรวาลดวงใหญ่
 
ปัญญาวิสุทธิ์
20/08/2566