27 กุมภาพันธ์ 2566

คำสอน

 

"อย่าเกี่ยวแฝกมามุงป่า"
จงอย่าริอ่านทำอะไร
ที่เกินความสามารถของตนเอง

26 กุมภาพันธ์ 2566

คำสอน

 

"ถ้าท่านต้องการเป็นคนดี
ก็จงทำดีกับคนที่ไม่ดีต่อท่านเถิด
เพราะคนชั่วก็ทำดีกับคนที่ดีต่อเขาได้"

25 กุมภาพันธ์ 2566

คำสอน

 


"จงนึกก่อนคิดและคิดก่อนพูด
เพื่อค้นหาเรื่องที่จะนำมาพูด
จะได้ไม่ต้องพูดหาเรื่อง"

คำสอน

คนฉลาดพร้อมจะเปลี่ยนแปลง
คนโง่จะเกลียดกลัวการเปลี่ยนแปลง 

24 กุมภาพันธ์ 2566

คำสอน

 

ใคร...จะตอบเราได้บ้างว่า
ทำไมได้สิทธิ์เป็นเพื่อนกับเราแล้ว
กับหายหน้าไปไม่ยอมเข้าห้อวเรียน
เพราะคนที่เป็นเพื่อนกับเราเท่านั้น
จึงจะเห็นพระโอวาทได้ทุกสเตตัส
หรือว่าคุณต้องการจะถูกทิ้ง

23 กุมภาพันธ์ 2566

คำสอน

 

เราเป็นเถาองุ่น ท่านทั้งหลายเป็นแขนง
ผู้ที่เข้าสนิทอยู่ในเราและเราเข้าสนิทอยู่ในเขา
ผู้นั้นก็จะเกิดผบมาก เพราะถ้าแยกจากเราแล้ว
ท่านจะทำสิ่งใดไม่ได้เลย

คำสอน

 

"เราเรียกท่านทั้งหลายว่าพีๆน้องๆ
เพราะว่าเรามาจากพระเจ้า และเรารู้ว่า
ท่านทั้งหลายก็มาจากพระองค์"

คำสอน

 

เปลี่ยนแปลงที่ตัวเอง
ง่ายกว่าการพยายาม
จะเอาชนะคนอื่น
ด้วยการชวนเขาทะเลาะวิวาทะ

22 กุมภาพันธ์ 2566

คำสอน

 

วันนี้มนุษย์ยังสร้างแผ่นดินไหวไม่ได้ แม้วันหน้า
อาจจะทำได้ แต่ก็จะจงพิกัดให้มันใหวตรง
นั้นตรงนี้ตามใจตนไม่ได้

คำสอน

ถ้าคุณปลีกวิเวก โดยไม่มีใครอยู่ใกล้ตัว
คุณจะไม่มีวันได้รู้ว่าตนเองนั้นเป็นคนอย่างไร
เพราะพวกเขาคือ #กระจกส่องเรา 

คำสอน

 

"มนุษย์มีหน้าที่หมุนธรรมจักร
ด้วยความรักบริสุทธิ์
เพื่อช่วยให้โลกหมุนอย่างต่อเนื่อง"

20 กุมภาพันธ์ 2566

คำสอน

 

คนดีย่อมเอาของดี
ออกจากคลังดีแห่งใจของตน และคนชั่ว
ก็ย่อมเอาของชั่วจากคลังชั่วแห่งใจของตนด้วย
ใจเต็มด้วยอะไร ปากก็พูดมาอย่างนั้น

คำสอน

 

"สัจธรรมเป็นอาหารของจิตวิญญาณ
ที่กินแล้วไม่อ้วนและไม่ต้องตาย
ของคาวหวานเป็นอาหารฝ่ายเนื้อหนัง
ที่กินจนอ้วนแล้วก็ยังต้องตาย"

19 กุมภาพันธ์ 2566

คำสอน

 

โลกเป็นดาวแห่งทางเลือกเสรี
คุณจึงสามารถเปลี่ยนแปลงสัจจะ
ละเลิกปณิธานเดิมที่ผิดนั้นได้เสมอ
พระเจ้ามิทรงตำหนิ
และเราก็จะสรรเสริญคุณ

คำสอน


 เราเข้ามาในโลกเป็นความสว่าง
เพื่อทุกคนที่วางใจในเราจะมิได้อยู่ในความมืด
ถ้าผู้ใดได้ยินถ้อยคำของเราและไม่กระทำตาม
เราก็ไม่พิพากษาผู้นั้น เพราะว่าเรามิได้มา
เพื่อพิพากษาโลก แต่มาเพื่อช่วยโลกให้รอด

คำสอน

 

จงอย่าทำบุญโดยหวังสิ่งตอบแทน
เพราะบุญที่ทำมันจะก่อ "ผงกรรม" ที่เป็นขยะ
มิใช่ "ผงกรรม" ที่เป็นพลังงานสะอาด

18 กุมภาพันธ์ 2566

คำสอน

 

การปฏิบัติธรรมก็คือ
การเรียนรู้ที่จะรักคนไม่น่ารักให้ได้
ให้อภัยที่ไม่น่าให้อภัยให้เป็น

17 กุมภาพันธ์ 2566

คำสอน


เพราะกิเลสตัวเดียวทำให้ตัณหาเกิด
เพราะตัณหาจึงทำให้เกิดอารมณ์ขยะ
และราคะจริตเกิดทั้งหมดนี้คือสนิมของจิต
ทำให้หมุนธรรมจักรไม่ได้

คำสอน

 

คนดีคือคนที่รักได้ให้อภัยเป็น
รู้จักการแบ่งปันไม่เห็นแก่ตัว

16 กุมภาพันธ์ 2566

คำสอน


 คนดีอยู่กับใครก็ไม่มีทุกข์
คนดีใครคบด้วยก็มีสุข

15 กุมภาพันธ์ 2566

คำสอน

 

ปฏิบัติการชำระโลก คือ การชำระขยะออกไป
จากระบบโลก เช่น ขยะอวกาศ ขยะตน ขยะวัตถุ
ขยะเทคโนโลยี ขยะจิตวิญญาณ
ขยะพลังงาน จะถูกทำลายทิ้ง!

คำสอน

 

"คนดีมิใช่เพราะมีความชั่วน้อยกว่า
จะใช้ความชั่วเป็นตัวชี้วัดความดีไม่ได้"

คัมภีร์อนุตรธรรมภาคจิตจักรวาล

พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
 
ความรักมีหลายแบบหลายเหตุผลที่ทุกคนควรรู้
โดยสามารถจำแนกแยกแยะได้ดังนี้
 
1.รักแบบพันผูก
คือ ความรักของพ่อกับแม่
เป็นความรักในแบบ “สองคนผัวเมีย”
ที่นัวเนียนุงนังกันในชาตินี้ บางทีก็ข้ามภพชาติ
ซึ่งจะมีความรักต่อกันในสองรูปแบบ คือ
 
แบบแรกจะเป็นรักเพื่อให้ในทุกสิ่งที่เธอปรารถนา
ถ้าฉันจัดการนำมาสนองความต้องการของเธอได้
มันจะทำให้ตัวฉันนั้นมีความสุขสุดที่จะประมาณ
 
แบบที่สองจะเป็นรักเพื่อเอาในสิ่งที่ฉันปรารถนา
ถ้าหากว่าเธอสามารถที่จะตอบสนองให้ฉันได้บ้าง
ไม่ว่าสิ่งนั้นเป็นสิ่งเล็กๆแต่มันจะมีค่าสำหรับฉันมาก
เพราะเธอซึ่งเป็นคนที่ฉันรักเป็นผู้มอบให้แก่ฉัน
ฉันจะยิ่งมีความสุขมากเมื่อได้รับโดยไม่ต้องร้องขอ
 
2.รักแบบผูกพัน
คือ ความรักของพ่อแม่ที่มีต่อลูก
ในแบบรักเพื่อให้ที่ชัดเจนเป็นรูปธรรมที่สุด
นั่นคือให้ความมีชีวิตรอดและความอบอุ่นกายใจ
ให้แก่ลูกน้อยที่เป็นดั่งแก้วตาดวงใจของตน
ให้การใส่ใจดูแลแบบมดไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอม
จนกระทั่งลูกพอรู้ความแล้วพ่อกับแม่
ยังต้องให้ความเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ลูกอีกด้วย
 
รวมทั้งความรักของลูกน้อยที่มีต่อพ่อแม่
ในแบบรักเพื่อเอาคือเอาพ่อเอาแม่ให้ช่วยเลี้ยงดู
ให้ได้ดื่มนมได้กินอาหารได้หลับนอนได้ปลอดภัย
เพื่อการเจริญเติบโตเจริญวัยและเพื่อให้มีชีวิตรอด
 
พอเติบใหญ่เป็นหนุ่มเป็นสาวขึ้นมา
จนสามารถรับผิดชอบดูแลตัวเองได้บ้างแล้ว
ความรักเพื่อเอาที่มีแต่เดิมก็จะเปลี่ยนไป
เป็นความรักในแบบ “รักเพื่อให้” แก่พ่อแม่แทน
อันหมายถึงการ #ตอบแทนพระคุณ นั่นเอง
การเป็นลูกที่ดี เชื่อฟังพ่อแม่ ว่านอนสอนง่าย
ไม่เป็นเด็กนอกคอกไม่เป็นเด็กเกเรไม่ระรานเพื่อน
แต่เป็นเด็กขยันเรียน เรียนดี ฉลาดคิดฉลาดทำ
พฤตินิสัยเหล่านี้จะทำให้พ่อแม่มีความสุข
ความสุขที่ลูกมีให้พ่อแม่คือการแทนพระคุณนั่นเอง
 
3.รักแบบไม่ผูกไม่พัน
คือ ความรักที่มิได้เกี่ยวข้องกันทางสายเลือด
แต่เป็นแบบความรักเพื่อให้โดยไม่มีเงื่อนไขว่า
คนที่ตนจะรักเพื่อให้สิ่งดีๆนั้นต้องเจาะจงว่าเป็นใคร
ไม่มีเงื่อนไขว่าถ้าให้แล้วตนจะได้อะไรตอบแทน
ไม่มีเงื่อนไขว่าจะให้เมื่อไหร่ให้อย่างไรให้แบบไหน
โดยที่คุณสามารถจะรักเพื่อให้กับทุกคนทุกโอกาส
ให้ในสิ่งที่พอมีเท่าที่พอจะแบ่งปันหรืออุทิศให้ได้
 
โดย #ความรักแบบไม่ผูกไม่พัน
ที่คุณสามารถฝึกให้เป็นคุณสมบัติจำเพาะตัวคือ
การอดทน อดกลั้น และอภัยต่อกัน
 
คำว่า “อดทน” หมายถึง
การ #ยินยอมให้ คนอื่นกระทำไม่ถูกต้องต่อคุณ
เพื่อ #เปิดโอกาสให้ ตัวคุณยังมีเขาเป็นเพื่อน
ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนร่วมชีวิตเพื่อนร่วมชะตากรรม
เป็นเพื่อนร่วมงานเป็นเพื่อนบ้านเป็นเพื่อนร่วมโลก
เพื่อธำรงรักษาความสัมพันธ์อันดีต่อกันเอาไว้ให้ได้
การอดทนจึงหมายถึง #การรักตัวเอง โดยแท้
 
คำว่า “อดกลั้น” หมายถึง
การที่คุณ “ยินยอมให้” คนอื่นกระทำไม่ถูกต้อง
เพื่อ “เปิดโอกาส” ให้ตัวเขาที่ทำไม่ดีต่อคุณนั้น
ยังมีคุณเป็นเพื่อนกับเขาต่อไปอีกได้
ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนร่วมชีวิต ร่วมชะตากรรม
เพื่อนร่วมงาน ร่วมชุมชน ร่วมชาติหรือร่วมโลก
เพื่อธำรงรักษาความสัมพันธ์อันดีต่อกันเอาไว้ให้ได้
โดยไม่ยอมให้ใครตายหรือหายไปจากชีวิตคุณ
การอดกลั้นจึงหมายถึง #การรักคนอื่น นั่นเอง
 
คำว่า “อภัย” หมายถึง
การที่คุณยินยอมให้ใครก็ตามทำไม่ถูกต้องต่อคุณ
โดยที่คุณไม่มีการถือตัวถือตนหรือถือสาหาความ
จนนำไปสู่ความขัดแย้งหรือการทะเลาะเบาะแว้งกัน
ทำให้ความเป็นหนึ่งเดียวกันต้องแตกแยกร้าวฉาน
ซึ่งคุณเข้าถึงความจริงในสิ่งนี้ได้ว่าเป็นกฎจักรวาล
 
มนุษย์แต่ละคนบนโลกนี้
เปรียบได้ดั่งอณูเล็กๆในก้อนหินใหญ่ก้อนหนึ่ง
ที่ทุกอณูจักต้องเหนี่ยวรั้งซึ่งกันและกันไว้ให้มั่นคง
โดยพลังแห่งการเหนี่ยวรั้งนั้นต้องได้จากความรัก
ที่ทุกอณูต้องยื่นแขนของตนออกมายึดรั้งกันไว้
ในแบบที่ภาษาชาวบ้านเรียกว่า “กูรักมึง มึงรักกู”
ไม่มีแบบว่า “กูจะรักมึงก็ต่อเมื่อมึงต้องรักกูก่อน”
 
ถ้ามนุษย์โลกทุกคนทำเช่นนี้ได้
โลกนี้ก็จะมีความเป็นหนึ่งเดียวกันได้อย่างลงตัว
มนุษย์โลกก็จะเป็นหนึ่งเดียวกันเพราะสามัคคีกันได้
มนุษย์กับโลกก็จะหมุนไปด้วยกันจนเป็นหนึ่งเดียว
ในที่สุดมันก็มาบรรจบลงที่การหมุนธรรมจักรนั่นเอง
 
ความรักแบบพันผูกกับผูกพัน
สำหรับมนุษย์โลกในยุคนี้ก็ยังมีปัญหา
เป็นข่าวอาชญากรรมหน้าหนึ่งของสื่อมวลชนทุกวัน
ยิ่งความรักแบบไม่ผูกไม่พันแบบสุดท้าย
ก็นับวันยิ่งจะมีปัญหาหนักขึ้นเรื่อยๆ
สังเกตได้จากภัยพิบัติเกิดถี่ขึ้นและรุนแรงขึ้นทุกวัน
จนฟันธงลงไปล่วงหน้าได้เลยว่าอีกไม่ช้านาน
มนุษย์ทั้งโลกจะต้องทำสงครามกับภัยพิบัติที่รุนแรง
อย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงและจะหมดทางสู้แน่นอน
 
เพราะมนุษย์ระดมขว้าง “กรรมจักร” ออกมา
ด้วยการใช้กิเลสเป็นพลังขับเคลื่อนมัน
กรรมจักรเป็นสิ่งที่โลกไม่ต้องการมันจึงเป็นขยะ
ใครเป็นคนสร้างหรือขว้างขยะนั้นออกมา
เมื่อโลกและทุกสรรพสิ่งไม่เอาไม่รับไว้
ประดาขยะทุกชิ้นนั้นมนุษย์โลกก็ต้องรับมันคืนมา
ในรูปของ #กงจักร จากภัยพิบัติรุนแรงทุกรูปแบบ
จะถาโถมสะท้อนกลับมาหาพวกคุณจากทั่วทุกทิศ
ซึ่งภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นกับโลกในครั้งที่สี่นี้
มันจะรุนแรงมากกว่าสามครั้งที่ผ่านมาในอดีต
 
เหตุที่รุนแรงเป็นเท่าทวีก็เพราะว่า
ภัยพิบัติในครั้งนี้จะเป็นภัยธรรมชาติส่วนหนึ่ง
ที่เกิดจากมนุษย์ทำให้โลกเสียสมดุล
เพราะรักกันไม่ได้อภัยไม่เป็นจึงไม่หมุนธรรมจักร
จะเกิดจากภัยพิบัติตามแผนชำระโลกอีกส่วนหนึ่ง
ซึ่งพระเจ้าต้องการเปลี่ยนโลกสู่ยุคพลังงานใหม่
ระดับที่คนตายจิตวิญญาณแตกสลายแผ่นดินหาย
ซึ่งกล่าวมากไปก็จะเป็นเหมือนการขู่หรือเพ้อเจ้อ
 
ความรุนแรงที่มันจะเกิดขึ้นข้างหน้านั้น
เป้าหมายสำคัญสูงสุด คือ #สร้างความกลัวตาย
อันเป็นบททดสอบจิตสามนึกและบทเรียนสุดท้าย
ของทุกคนบนโลกนี้ที่โชคดียังมีชีวิตอยู่ถึงวันนั้น
เพราะความรักตัวกลัวตายเป็นความรักที่บริสุทธิ์
เป็นความรักเพื่อการอยู่รอดที่จิตวิญญาณต้องการ
แต่จิตหยาบมนุษย์ไม่เคยตอบสนองมานานแล้ว
 
กราบพระบาทพระบิดาที่ทรงเมตตา
 
เอเมน สาธุ
ปัญญาวิสุทธิ์
15/02/2566

13 กุมภาพันธ์ 2566

คำสอน

 

คาถาตักกรรม
"ช่างเขาเถอะ ไม่เป็นไร ยังไงก็ได้
แค่นี้ก้ดีแล้ว"

12 กุมภาพันธ์ 2566

คำสอน

 

ถ้านิพพานก่อนตายไม่ได้ 
คุณจะหมุนธรรมจักรไม่สำเร็จ
ถ้าหมุนธรรมจักรไม่สำเร็จ
จิตหยาบจะเข้าถึง 6D ไม่ได้
และจะหลุดพ้นกลับบ้านก็ไม่ได้

คำสอน

 

นิพพานก่อนตาย คือ นิพพานกิเลสในจิตหยาบ
เพื่อดับเหตุแห่งการมีกฏแห่งกรรม ดับการมีภพ
ชาติและสังสารวัฏ นิพพานคือดับการเกิดดับ
ของทุกสิ่ง

คำสอน

 

นิพพานขั้นสุดท้าย คือ  ตายแล้วไม่กลับมาเกิด
อีกเพราะหมดหน้าที่ โดยจิตวิญญาณนั้นจะหลุด
พ้นหายไปจากเอกภพเพื่อกลับคืนสู่บ้านเกิด
ที่จากมา

คำสอน

 

มอดให้คนนำทางตาบอดหลอกว่า
สวรรค์มายาเป็นแดนนิพพาน
ถ้าตายแล้วไปเกอดบนนั้นจะไม่ต้องมาเกิดอีก
ทั้งๆที่ลอยไปค้างมิใช่หลุดพ้น

คำสอน

 

จงเข้าใจกันเสียใหม่ว่า การหมุนธรรมจักรด้วย
ความรักจากทุกๆคนให้ได้แม้ว่าเขาคนนั้นจะทำ
ตัวไม่น่ารัก นั่นคือการปฏิบัติธรรมที่แท้จริง

คำสอน

 

นิพพานมีสองขั้นตอน คือ 
นิพพานก่อนตาย
และตายแล้วจากนิพพาน

11 กุมภาพันธ์ 2566

คำสอน

 

หมั่นการทำความดีละเว้นความชั่ว
ไม่เกลือกกลั้วอุบายมุข

10 กุมภาพันธ์ 2566

คำสอน

 

คิดก่อนพูด คิดก่อนทำ
เวรกรรมจะไม่เกิด

09 กุมภาพันธ์ 2566

คำสอน

 

เมื่ออ่านพระโอวาทจนเข้าใจแล้ว
ถ้าต้องการให้เราช่วย
ุณต้องเขียนว่าคุณเข้าใจว่าอะไร
จนำไปใช้อย่างไร
อย่าลอกพระโอวาทมากล่าวซ่ำ

คำสอน

 

ข้าๆได้พร้าเล่มงาม
ถ้าช้าเกินงามด้ามพร้าก็ไม่เหลือ

08 กุมภาพันธ์ 2566

คำสอน

 


การเรียนรู้มิใช่แค่ฟัง - อ่านให้รู้ว่าเป็นเรื่องอะไร
ถ้ารู้ต้องนำไปใช้ในชีวิตจริงให้รู้แจ้งด้วย
คนรู้มากกับคนรู้แจ้งนั้นต่างกัน

คำสอน

"เหนื่อยก็พัก หนักก็ผ่อน
นอนให้พอ ขอสุขภาพดีให้ตนเอง" 

07 กุมภาพันธ์ 2566

คำสอน

 

คนปากหวานอาจสอพลอ
คนพูดจาไม่เพราะอาจจริงใจ

06 กุมภาพันธ์ 2566

คำสอน

 

ถ้าดับการเกิดดับของกิเลสได้
ไม่ต้องตายก็พ้นทุกข์ได้แล้ว

05 กุมภาพันธ์ 2566

คำสอน

 

ดาว "คู่แฝด" ของโลก มิใช่ดาวที่เป็น "ฝาแฝด"
ของโลก
คำว่าคู่แฝดคือต่างทำหน้าที่ร่วมกันเหมือนนั่งอยู่
บนกระดานหก กระดกคนละด้านต่างหาก

คำสอน

 

พูดผิดคนคือนินทา
พูดผิดเวลาคือเสือก
เลือกที่จะคิดก่อนพูด
คือนักปราชญ์

คัมภีร์อนุตรธรรมภาคจิตจักรวาล

พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
 
ดาวเคราะห์โลกเป็นบริวารของดวงอาทิตย์
ซึ่งดำรงอยู่ในวงโคจรชั้นในเป็นลำดับที่สาม
กับดาวเคราะห์ในวงโคจรชั้นในเป็นลำดับที่สอง
ของระบบสุริยะอีกระบบหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ฝั่งตรงข้าม
ทั้งสองดวงนี้พระเจ้าทรงออกแบบกำหนดให้
เป็นดวงดาวที่มีอิสระในการผลิตสร้างแรงดึงดูด
เพื่อการเหนี่ยวรั้งสรรพสิ่งได้เองอย่างเสรี
 
พวกคุณคงยังจำได้ว่าปรากฏการณ์ที่ทำให้
“ดาวพลูโต” ดาวดวงที่ 9 ในระบบสุริยะของโลก
สามารถย้ายพิกัดไปเป็นดาวเคราะห์ดวงที่ 6
ของอีกระบบสุริยะหนึ่งบนปลายปีกอีกด้านหนึ่ง
ของกาแลคซี่ “ธารสายน้ำนม” หรือ Milky Way
แล้วดาวพลูโตก็สามารถย้ายกลับคืนมา
เป็นดาวเคราะห์ดวงที่ 9 ของระบบเดิมได้อีกครั้ง
จนทำให้ดาวพลูโตเป็นเศษส่วนของเมอริเดี้ยน
ล้วนเป็นอำนาจของโลกในวงโคจรลำดับที่สาม
กับพลังอำนาจของดาวในวงโคจรลำดับที่สอง
ของอีกระบบสุริยะหนึ่งซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามนั่นเอง
 
พี่ๆน้องๆที่รักทั้งหลาย
 
การที่พระเจ้าทรงออกแบบให้ดาวพลูโต
ย้ายระบบสุริยะกลับไปกลับมานั้น
พลังอำนาจของแรงดึงดูดเหนี่ยวรั้งที่เกิดขึ้น
ของสองระบบสุริยะที่ร่วมกระทำต่อดาวพลูโตนี้
จะทำให้กาแลคซี่ธารสายน้ำนมเกิดการบิดตัว
จนเหวี่ยงหมุนต่อเนื่องเหมือนใบพัดเครื่องบินได้
ปัญหาอยู่ที่ว่าพระองค์จะทรงออกแบบอย่างไร
จึงจะทำให้ดาวโลกดวงนี้และอีกดวงหนึ่งที่ว่านั้น
สามารถสร้างพลังอำนาจในตนเองอย่างเสรีได้
 
นี่จึงเป็นที่มาของการติดตั้งก้อนธาตุออกซิเจน
ที่บริสุทธิ์ 100% ลักษณะเหนียวหนืดคล้ายตังเม
เอาไว้ในแกนโลกและในแกนของดาวดวงนั้น
แล้วทรงยอมให้จิตวิญญาณจากแดนสุญตา
ถือพันธะสัญญา 6 เข้ามาเกิดอยู่ในระบบโลก
เป็น “คนสองมิติ” เพื่อคนตนเองให้เป็นมนุษย์
โดย #หมุนธรรมจักร ร่วมกันด้วย “รักเพื่อให้”
ซึ่งบนดาวอีกดวงหนึ่งในต่างระบบสุริยะกันนั้น
พระเจ้าก็ทรงกำหนดให้เป็นแบบเดียวกับโลก
บนดาวนั้นก็มีสิ่งมีชีวิตลักษณะมนุษย์ดำรงอยู่
 
#ในระบบโลกนี้มีอะไรบนดาวดวงนั้นก็มีสิ่งนั้น
 
มนุษย์และสัตว์ต้องใช้ขันธ์ห้าหมุนธรรมจักร
ต้องหายใจเข้าด้วยก๊าซออกซิเจน
ต้องหายใจออกเป็นก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
ทั้งโลกและดาวดวงนั้นไม่มีอะไรที่ต่างกันเลย
 
หากจะกล่าวเป็นภาพรวมแล้ว
ดาวทั้งสองดวงคือโลกที่เป็นดั่ง #ฝาแฝด
คำว่า "ฝาแฝด" นี้เราสมมติขึ้นมาเอง
เพื่อให้พวกคุณเข้าใจได้ง่ายยิ่งขึ้นเท่านั้น
โดยอาจจะใช้คำว่า "คู่แฝด" ก็ได้นะ
เพราะต่างดำรงอยู่คนละระบบสุริยะกัน
แต่ก็ดำรงอยู่บนกาแลคซี่เดียวกันนั่นเอง
 
เปรียบเหมือนคนสองคนที่เล่นกระดานหก
ต่างต้องผลัดกันกระดกกระดานด้านของตน
เพื่อให้มันกระดกขึ้นกระดกลงนั่นแหละ
ซึ่งไม่จำเป็นว่าทั้งสองคนต้องเป็นฝาแฝดกัน
โดยอาจเป็น Someone หรือใครบางคนก็ได้
 
กาแลคซี่ที่เป็นเหมือนปีกเฮลิคอปเตอร์
จะสามารถเหวี่ยงหมุนกวาดไปในแนวระนาบได้
ต้องอาศัยโลกกับดาวอีกดวงหนึ่งที่อยู่ตรงข้าม
ช่วยกันออกแรงขับเคลื่อนอย่างเต็มพลัง
เส้นผ่านศูนย์กลางของเอกภพจึงจะเหวี่ยงหมุน
กวาดไปในแนวระนาบโดยรอบอย่างต่อเนื่องได้
 
ทีนี้พวกคุณกระจ่างใสในกมลกันหรือยังว่า
ภารกิจของจิตวิญญาณของพวกคุณทุกคน
รวมทั้งสัตว์ประจำโลกทุกชนิดทุกตัว
แม้กระทั่งต้นไม้ต้นไร่ที่เป็นพืชทุกต้นบนโลก
ทำไมทุกรูปธรรมจึงต้องหมุนธรรมจักรร่วมกัน
ทำไมพวกคุณต้องละเว้นการหมุน “กรรมจักร”
 
พวกคุณถูกกำหนดให้ไม่ต้องตาย
พระเจ้าให้พวกคุณล้วนมีชีวิตเป็นอมตะ
จะนอนตายตาหลับได้ก็ต่อเมื่อ “สิ้นยุค” แล้ว
นั่นคือหนึ่งยุคยาวนาน 6 หมื่นปีโลกจึงตายได้
ไม่ต้องแย่งกันตายชิงกันไปลงนรกอเวจี
ไม่ต้องหนีทุกข์ปลีกวิเวกไปค้างบนสวรรค์มายา
เพราะพวกคุณจะละทิ้งโลกนี้ไปไม่ได้เลย
ทุกคนต้องทำหน้าที่เป็นเพื่อนร่วมงานกับโลก
ต้องทำหน้าที่ใช้เมตตาธรรมค้ำจุนโลก
ด้วยการร่วมกันหมุนธรรมจักรด้วยรักเพื่อให้
ตามที่เรากล่าวซ้ำย้ำเตือนกันมาตลอด
 
แน่นอนว่าบนดาวอีกดวงหนึ่งในต่างระบบสุริยะ
พวกเขาก็ต้องทำแบบเดียวกับพวกคุณนี่แหละ
เพียงแต่พลังอำนาจในการขับเคลื่อนกาแลคซี่
ระบบสุริยะจักรวาลของดาวโลกของพวกคุณ
จักต้องออกแรงแสดงพลังให้มากกว่าอีกระบบ
การเหวี่ยงหมุนของกาแลคซี่จึงจะเกิดขึ้นได้
 
ลักษณะคล้ายช่างเท็คนิกของพระเจ้า
ช่วยกันสร้างพายุหมุน (Cyclone) พัดเข้าฝั่ง
เหมือนการขว้างจักรในปฏิบัติการชำระโลก
จนทุกสิ่งถึงกับเรียบราบเป็นหน้ากลองนั่นเอง
 
พวกคุณจักต้องรู้ว่า
รูปธรรมที่มีชีวิตลักษณะมนุษย์บนดาวดวงนั้น
 
พวกเขาไม่มีความจำเป็นต้องใช้ศาสดา
พวกเขาเป็นเมล็ดพันธุ์ของพี่พลียะเดี้ยนส์
พวกเขาเป็นเผ่าพงศ์เดียวกันกับพวกคุณ
พวกเขารักโลกของพวกเขาและทุกคนรักกัน
พวกเขาไม่เคยทำผิดบาปต่อพระเจ้า
พวกเขาไม่เคยทำผิดบาปต่อกันและกัน
พวกเขาไม่เคยมีใครต้องตาย ไม่มีนรก
พวกเขาไม่ต้องมีภพชาติไม่ต้องมีสังสารวัฏ
พวกเขาไม่มีสวรรค์มายาจึงไม่มีใครเป็นเทวดา
 
กราบพระบาทพระบิดาที่ทรงเมตตา
 
เอเมน สาธุ
ปัญญาวิสุทธิ์
5/02/2566

04 กุมภาพันธ์ 2566

คำสอน


การรู้ความจริงแล้วไม่พูด เพราะรู้ว่าถ้าพูดไป
แล้วจะเป็นเงื่อนไขให้บางคนเสียสมดุล
คุณจะไม่รับบาปเพราะไม่พูดกับการพูดเท็จมันต่างกัน

คำสอน

 


ถ้าพูดจริงแล้วทำให้เขาโกรธ 
คุณควรนิ่งไว้ไม่ควรพูด
คุณก็ไม่ผิดบาปเพราะเป็นสิทธิของคุณ
ดีกว่าพูดโกหกตอแหลเขามิใช่หรอกหรือ?

คำสอน

 

โกหก คือไท่ชื่อตรง ไม่จริงใจ
แปลว่าแสดงออกหรือกระทำให้คนอื่นรู้เห็น
ไม่ตรงกับสิ่งที่คุณกำลังรู้สึกนึกคิดจริง
อยู่ในใจในขณะนั้น

02 กุมภาพันธ์ 2566

คำสอน


สุริยาลาพลันพระจันทร์ขึ้น
เมฆทะมึนตื่นต่างล้วนจางหาย
เปลี่ยนฟ้าใสฉับพลันก่อนวันวาย
สิ่งเลวร้ายจงหายลับกลับราตรี

คำสอน


ชัยชนะที่ยิ่งใหญ่
คือเอาชนะใจตัวเองได้ 

01 กุมภาพันธ์ 2566

คำสอน

 

พลังงานบริสุทธิ์ที่โลกต้องการ
ต้องได้จากรักเพื่อให้เท่านั้น
มิใช่รักเพื่อเอาซึ่งเป็นกิเลส