08 สิงหาคม 2566

คัมภีร์อนุตรธรรมภาคจิตจักรวาล 8/08/2023

(เพื่อยุวจิตจักรวาลยุคสุดท้าย)
 
พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
 
การคนตนเองให้เป็นมนุษย์นั้น
วิธีการปฏิบัติทำที่ถูกต้อง คือ #การปฏิบัติธรรม
ถ้าคุณมุ่งมั่นในการ “ปฏิบัติธรรม” อย่างแท้จริง
คุณก็จะต้องประพฤติตนให้เป็น #คนชอบธรรม
ซึ่งมิใช่เป็นเพียงแค่ #ทำแต่สิ่งที่ตนชอบ เท่านั้น
เพราะการทำแต่สิ่งที่ชอบสิ่งที่ไม่ชอบจะไม่ทำนั้น
มันคือการทำตามกิเลสมิใช่ทำตามจิตสามนึก
 
พวกคุณตั้งแต่มาเกิดกันอยู่ในระบบโลกนี้
ส่วนใหญ่จะไม่รู้ว่าจิตวิญญาณของตนเป็นใคร
จิตวิญญาณของตนนั้นมาจากไหนใครให้มา
จิตวิญญาณของตนมาเกิดเป็นมนุษย์โลกทำไม
จิตวิญญาณของตนนั้นมีหน้าที่ต้องทำอะไรบ้าง
สาเหตุที่ไม่รู้เพราะไม่มีใครบอกกล่าวเล่าสอนได้
เนื่องจากเป็นสัจธรรมในระดับ #อนุตรธรรม
ที่ปัญญาของสมองสองซีกซ้ายขวาคิดเองไม่ได้
เพราะจิตปัญญาของสมองมนุษย์มีขีดจำกัด
 
สาเหตุประการที่สองก็คือ
เป็นเพราะพวกคุณที่เป็นชาวโลกไม่เคยนึกอยากรู้
เนื่องจากการนึกอยากรู้ในคำถามทั้งหมดนี้นั้น
มันจะนำคุณไปสู่ “การฉุกคิด” ของจิตตปัญญาได้
เมื่อไม่เคยนึกอยากรู้และไม่ฉุกคิดเพื่อหาคำตอบ
จึงทำให้การแสวงหาคำตอบด้วยการหาครูหาผู้รู้
เพื่อการ “เรียนรู้” ให้ได้รู้คำตอบนั้นก็เกิดขึ้นไม่ได้
เพราะการเรียนรู้ของมนุษย์เริ่มต้นด้วยอยากทั้งนั้น
 
#ถ้าอยากรู้เรื่องอะไรก็จะใฝ่เรียนรู้ในเรื่องนั้น
#ถ้าอยากจะทำสิ่งใดก็จะฝึกฝนที่จะทำในสิ่งนั้น
 
ซึ่งการอยากรู้อยากเห็นที่ว่านี้
เป็นคุณสมบัติสำคัญของจิตหยาบของคุณ
ที่พระเจ้าประทานให้คุณมาตั้งแต่ชาติแรกที่มาเกิด
โดยทรงให้จิตวิญญาณของคุณแต่ละคน
แบกติดตัวมาจาก “ด่านนภาลัย” คือประตูคอกแกะ
เพื่อใช้เป็นตัวกระตุ้นให้ “จิตหยาบ” ใฝ่การเรียนรู้
เพราะการมาเกิดในภพชาติแรกของจิตวิญญาณนั้น
ตัวจิตหยาบเองซึ่งเป็นตัวแทนของจิตวิญญาณ
ยังไม่เคยมีประสบการณ์โลกยังไม่เคยมีความรู้เดิม
ถ้าไม่ฝักใฝ่เรียนรู้ฝึกฝนคุณจะเป็นคนไม่รู้อะไรเลย
 
คุณก็จะเป็นคนขาด “องค์ความรู้ที่ควรรู้”
เพราะความรู้จะช่วยให้คุณ “องอาจ” หรือ Smart
คุณจะเป็นคนขาด “ภูมิปัญญาที่พึงมี”
เพราะภูมิปัญญาจะช่วยให้คุณมีแสงสว่างในตนเอง
ที่จะมันจะช่วยส่องทางชีวิตคุณในการย่างเดิน
ไม่ให้ตกเหวตกท่อตกบ่อย่ำองุ่นหรือตกในบึงไฟ
คำว่า “มีแสงสว่างในตนเอง” คือการไม่โง่ง่าย
หรือมีปัญญาของสมองอยู่แต่ไม่รู้จักใช้นั่นแหละ
 
สาเหตุประการที่สามก็คือ
บางคนอาจอยากรู้แต่หาครูช่วยสอนให้รู้ไม่ได้
ซึ่งจะเป็นแค่คนส่วนน้อยบนโลกนี้เท่านั้น
ตัวอย่างเช่นพระพุทธองค์ที่เข้าถึงคำตอบได้
จากการตรัสรู้ด้วยอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ
อันเป็นความฉลาดทางปัญญาขั้นสูงสุด
ที่มนุษย์ทั้งโลกในยุคสมัยนั้นจนสมัยนี้ไม่มีใช้กัน
 
โดยความรู้เหล่านี้
พระเจ้าทรงจัดให้เป็นความจริงระดับ “อนุตรธรรม”
ซึ่งเป็นความจริงที่มนุษย์โลกทุกคนจะต้องรู้
เป็นความจริงที่มนุษย์โลกทุกคนไม่ว่ารู้ตนไม่รู้
 
อนุตรธรรมที่ว่านี้ประกอบด้วย
 
1.จิตวิญญาณมนุษย์มาจากแดนสุญตา
2.แดนสุญตาเป็นพระนิเวศน์ของพระเจ้า
3.แดนสุญตาเป็นบ้านเกิดของจิตวิญญาณพวกคุณ
4.แดนสุญตาเป็นดินแดนที่อยู่นอกเอกภพ
5.เอกภพเป็นห้องทดลองที่พระเจ้าทรงสร้างขึ้น
เพื่อจะที่จะเรียนรู้ว่าพระองค์ทรงทำสิ่งใดได้บ้าง
 
6.พระเจ้าทรงอนุญาตให้จิตวิญญาณพวกคุณมาเกิด
เพื่อใช้ความรักความเมตตา “ค้ำจุน” สมดุลโลก
ถ้าโลกสมดุลได้เอกภพก็จะสามารถสมดุลตาม
ถ้าคุณช่วยให้โลกและเอกภพเกิดการสมดุลได้
จิตหยาบกับจิตวิญญาณของพวกคุณแต่ละคน
จะสมดุลเป็นหนึ่งเดียวกันกับโลกและเอกภพด้วย
พระพุทธองค์ทรงเรียกว่า #ธรรมจักรกัปปวัตนสูตร
 
ความโดยย่อทั้ง 6 ประการข้างต้นนั้น
มันคือสัจธรรมระดับอนุตรธรรมล้วนๆ
ที่ยังไม่เคยมีใครกล่าวให้คุณรู้อย่างเปิดเผยมาก่อน
บางส่วนที่พระพุทธองค์ได้ทรงเคยกล่าวไว้
ก็ถูกปกปิดบิดเบือนผ่าน “คนนำทางตาบอด”
ทั้งๆที่เป็นเรื่องสำคัญที่มนุษย์ทุกคนต้องรู้ต้องทำ
นั่นคือการคนตนเองเพื่อเป็นมนุษย์ให้สำเร็จให้ได้
 
#การคนตนเองเพื่อเป็นมนุษย์
คือการใช้ความรักบริสุทธิ์หมุนธรรมจักรร่วมกัน
โดยจิตหยาบสามารถเข้าถึงความรักและปัญญาได้
เมื่อคุณเผชิญกับสถานการณ์ต่างๆในชีวิต
ที่คนรอบข้างหรือคนใกล้ตัวสร้างเงื่อนไขนั้นมาให้
ไม่ว่าจะเป็นเงื่อนไขที่คุณชอบหรือไม่ชอบก็ตาม
คุณก็ต้องรักให้ได้อภัยให้เป็นไม่ว่าเขาจะเป็นใคร
นี่คือการ “คนตนเอง” หรือหมุนธรรมจักรในตนเอง
ที่พวกคุณไม่เคยเรียนรู้มาก่อนเลย
 
การเป็นมนุษย์ได้ในที่นี้เราหมายถึง
คุณสามารถสั่นสะเทือนจิตสามนึกด้านบวกสูงสุด
เพื่อให้จิตเข้าถึงความรักเพื่อให้ของจิตวิญญาณ
เข้าถึงอำนาจทางปัญญาของสมองทั้งสองซีกได้
แสดงว่าตัวคุณเป็นผู้มีจิตหยาบที่ใสสะอาดบริสุทธิ์
เพราะว่างจากกิเลสตัณหาราคะอารมณ์ขยะ
จึงสามารถเข้าถึงอำนาจทางปัญญาขั้นสูงสุดได้
อีกทั้งจิตหยาบคุณยังเป็นหนึ่งเดียวกับแก่นแท้
คือสามารถเข้าถึงอำนาจทางจิตวิญญาณตนเอง
ในรูปของความรักที่บริสุทธิ์ด้วยจิตหยาบนั้น
จนแสดงออกมาเป็นกายกรรมและวจีกรรมด้านบวก
ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่พึงประสงค์ของคนรอบข้าง
ที่สามารถบ่งชี้ได้ว่าเป็นผู้ที่มี #ใจสวย ใจหล่อได้
คำว่ามนุษย์จึงหมายถึงคนที่มีจิตใสใจสวยนั่นเอง
 
ดังนั้น
พวกคุณทุกคนที่เป็นชาวโลกเสรีนี้
จึงต้องรู้ว่าหน้าที่หลักของคุณคือ “หมุนธรรมจักร”
หลักการหมุนธรรมจักรนั้นมันต้องเริ่มที่ตนเองก่อน
ด้วยการใช้กลไกอายตนะภายนอกทั้งห้าให้ครบถ้วน
จะทำเป็นหูหนวกตาบอดหนีผู้คนเพื่อปลีกวิเวกมิได้
คุณต้องเรียนรู้ที่จะรักคนที่ทำตัวไม่น่ารักให้ได้ด้วย
เพื่อสนิทสนมกลมเกลียวเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันไว้
จิตหยาบกับจิตวิญญาณของคุณจะเป็นหนึ่งเดียวกัน
จิตหยาบของคุณจะยกระดับความสมดุลสู่มิติที่สูงขึ้น
จากมิติที่ 4D สู่มิติที่ 5D ได้โดยคนรอบข้างตัวคุณ
ที่สามารถหมุนธรรมจักรไปตามคุณได้คอยช่วยเหลือ
 
ทั้งโลกและอนันตจักรวาลหรือเอกภพระบบใหญ่
ก็จะมีความสมดุลเหมือนเมื่อแรกสร้างขึ้นมาได้
พวกคุณโดยจิตหยาบกับจิตวิญญาณที่เป็นหนึ่งเดียว
จะสามารถเข้าถึงอภิญฤทธิ์ทั้ง 6 กันได้บ้าง
ไม่แตกต่างจากสิ่งมีชีวิตในต่างดาวกันอีกต่อไปแล้ว
โดยไม่ต้องใช้วิชามอดวิชามารหรือวิชาผีโสโครก
ให้จิตใจสกปรกโสมมจากอุตริอวิชชาใดๆ
จนไม่สามารถจะคืนกลับบ้านแดนสุญตาได้
เพราะทั้งจิตหยาบและจิตวิญญาณไม่บริสุทธิ์ดุจเดิม
 
สื่อถ่ายทอดคลื่นความคิดในระบบจิตสู่จิต
จากองค์จิตจักรวาลดวงใหญ่
 
ปัญญาวิสุทธิ์
8/08/2566