25 สิงหาคม 2566

คัมภีร์อนุตรธรรมภาคจิตจักรวาล 25/08/2023


(เพื่อยุวจิตจักรวาลยุคสุดท้าย)
 
พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
 
คำถามที่จะนำไปสู่อนุตรธรรมความจริงขั้นสูงสุด
ซึ่งสมองสองซีกของมนุษย์เข้าถึงคำตอบไม่ได้
จึงถูกจัดเป็นความจริงระดับ #อจินไตย มาตลอด
นั่นคือคำถามที่ว่า #มาเกิดบนโลกเสรีนี้กันทำไม
 
ผู้ที่มาเกิดอยู่ในระบบโลกก็คือ “จิตวิญญาณ”
ซึ่งเป็นตัวตนแก่นแท้ที่เป็นรูปธรรมทางพลังงาน
โดยมีรูปทรงเรขาคณิตเป็น 6 เหลี่ยมมุม
 
จิตวิญญาณซึ่งพระเจ้าทรงเรียกว่า #พระจิต นั้น
เป็นผู้อาสาพระองค์มาเกิดเป็นมนุษย์อยู่ในเอกภพ
มีกำหนดการปฏิบัติภารกิจกันนาน 60,000 ปีโลก
โดยต้องทำหน้าที่ประจำโลกจะละทิ้งโลกไปไม่ได้
แม้ว่าพระองค์จะทรงออกแบบให้โลกนี้เป็นโลกเสรี
 
คำว่า “โลกเสรี” หมายถึง พวกคุณมีทางเลือกเสรี
ที่จะคิดพูดทำสิ่งใดก็ได้ตามความปรารถนาของตน
แต่ต้องไม่เป็นการก้าวล่วงผู้อื่นให้เสียสมดุลเท่านั้น
ถ้าการกระทำของคุณไปก้าวก่ายล่วงเกินใครเขาเข้า
คุณก็ต้องยินยอมที่จะรับผิดชอบในผลกรรมที่ก่อนั้น
นั่นคือถ้าทำกรรมดีคุณก็จะได้รับผลกรรมที่ดีไป
แต่ถ้าทำกรรมชั่วคุณก็จะได้รับผลกรรมที่ชั่วเช่นกัน
 
แปลความได้ว่า
พวกคุณทุกคนในนามของจิตวิญญาณหรือพระจิตนั้น
เมื่อได้รับโอกาสให้มาเกิดเป็นมนุษย์แล้วไม่ต้องตาย
หมายถึงทุกคนจะตายไม่ได้เพราะต้องอยู่ประจำโลก
นั่นคือทรงกำหนดให้พวกคุณมีชีวิตเป็นอมตะโดยแท้
สาเหตุที่ทรงกำหนดให้พวกคุณไม่ต้องตายก็เพราะว่า
คุณทุกคนมีหน้าที่ #ใช้เมตตาธรรมค้ำจุนสมดุลโลก
โดยมีสัตว์ประจำโลกทุกชนิดและพืชพันธุ์ทั้งหลาย
ต่างเป็นเพื่อนร่วมงานกับโลกและพวกคุณเหมือนกัน
 
เมื่อแรกส่งพวกคุณเข้ามาเกิดนั้น
ในระบบโลกนี้มีสัตว์ประจำโลกทำหน้าที่อยู่ก่อนแล้ว
พระองค์จึงต้องทรงกำหนดจำนวนรูปธรรมพวกคุณ
ที่จะได้รับอนุญาตให้เข้ามาทำหน้าที่ประจำโลกด้วย
เพราะถ้าบริเวณพื้นผิวโลกมีจำนวนรูปธรรมมากเกิน
มันจะยังผลให้โลกเสียสมดุลขณะเหวี่ยงหมุนไปได้
อาการเสียสมดุลก็คือการแกว่งส่ายของโลกนั่นเอง
 
ด้วยเหตุนี้เอง
เมื่อพระเจ้าจะทรงสร้างแดนนรกเอาไว้ช่วยพวกคุณ
จึงทรงกำหนดให้นรกมีพิกัดอยู่ในแกนของดาวโลก
เพราะจำนวนจิตวิญญาณที่ตกนรกไปอยู่ในแกนโลก
จะทำให้น้ำหนักมวลภายในแกนโลกเพิ่มขึ้นจากเดิม
เมื่อคนตายมากขึ้นน้ำหนักมวลในนรกจะมากขึ้นด้วย
ขณะที่น้ำหนักมวลบนพื้นผิวโลกจะลดลงแปรตามกัน
เพียงแค่พระเจ้าทรงกำหนดสัดส่วนการเกิดการตาย
ให้มันสมดุลกันเอาไว้ให้ได้ทุกอย่างก็ราบรื่นแล้ว
 
แต่โลกนี้ก็กลับมีปัญหาเกิดขึ้นจนได้
เพราะมนุษย์ทั้งโลกทุกชาติทุกศาสนา
ไม่รู้ว่าจิตวิญญาณของตนมาเกิดเป็นมนุษย์กันทำไม
ไม่รู้ว่า “มนุษย์เป็นสัตว์สังคม” หมายความว่าอย่างไร
 
พวกคุณจึงกินเลือดเนื้อสัตว์ด้วยการเข่นฆ่าทำร้าย
พวกคุณจึงตัดโค่นต้นไม้ทำลายป่าของพระเจ้า
พวกคุณจึงทำลายระบบนิเวศน์ซึ่งเป็นระบบของตนเอง
พวกคุณจึงเอาเปรียบเบียดเบียนกันไม่รักกันและฆ่ากัน
พวกคุณจึงมักใช้อำนาจเหนือนำกดขี่ข่มเหงผู้อื่น
พวกคุณจึงชอบปลีกวิเวกโดยละทิ้งสังคมและครอบครัว
พวกคุณจึงแสร้งทำอายตนะทั้งห้าที่ดีอยู่ให้มันพิการ
พวกคุณจึงทำทุกสิ่งเพื่อลาภยศสรรเสริญและสุขส่วนตัว
พวกคุณจึงทำตัวประเภทกินขี้ปี้นอนพอแก่แล้วก็ตาย
ฯลฯ
 
บทบาทต่างๆที่มนุษย์โลกประพฤติปฏิบัติกันเหล่านี้
มีเหตุจากไม่รู้ว่าคุณขออนุญาตพระเจ้ามาเกิดกันทำไม
เพราะไม่รู้ด้วยว่ามาเกิดแล้วตนมีหน้าที่จะต้องทำอะไร
นอกจากจะมีพฤติกรรมหลักทั้ง 9 อย่างดังกล่าวนั้น
ผู้ที่ไม่รู้คำตอบนี้ไม่เว้นแม้แต่คนชอบธรรมด้วยซ้ำไป
ดาวเคราะห์โลกดวงนี้จึงเสียสมดุลมากขึ้นเรื่อยๆ
เพราะสัตว์ถูกฆ่าตายต้นไม้ก็ล้มตายเพราะถูกตัดโค่น
ขณะมนุษย์เองก็ล้มเหลวในการทำหน้าที่เพราะไม่รู้
 
สิ่งที่ไม่รู้ที่ว่านี้ก็คือ
จิตวิญญาณของคุณอาสามาเกิดเป็น “คนสองมิติ”
เพื่อคนตนเองให้เป็นมนุษย์ให้สำเร็จตั้งแต่สามขวบ
โดยขณะที่คุณคนตนเองอยู่ในครอบครัวกับพ่อแม่ลูก
เบื้องหลังมิติโลกคือมิติจิตวิญญาณที่ตามองไม่เห็น
พลังอำนาจการคนในแต่ละคนจะกลายเป็นพลังร่วม
ที่จะช่วยเพิ่มอำนาจการคนให้แก่กันและกันได้อีกด้วย
 
เพียงแค่คุณต้องไม่ทิ้งครอบครัวคือละทิ้งสังคม
เพียงแค่คุณต้องรักพวกเขาแต่ละคนให้จงได้
แม้พวกเขาบางคนอาจทำตัวไม่น่ารักเอาเสียเลย
คุณต้องอดทนอดกลั้นให้อภัยใจดีมีเมตตาต่อกันเสมอ
เขาชั่วมาคุณต้องดีตอบถ้าเขาดีมาคุณจะต้องยิ่งดีตอบ
หน้าที่แท้จริงนั้นพวกคุณต้องทำแบบนี้กับคนในบ้าน
คุณต้องทำตนแบบนี้กับทุกคนในชุมชนหรือในสังคม
ต้องทำตนแบบนี้กับทุกคนโดยไม่เลือกที่รักมักที่ชัง
ต้องทำตนแบบนี้กับทุกคนโดยไม่มีเงื่อนไขอะไรทั้งนั้น
 
ดังนั้น
คนชอบธรรมทุกคนซึ่งรักชอบการปฏิบัติธรรมแท้จริง
จักต้องรู้กันเอาไว้ว่าที่ผ่านมาตั้งแต่อดีตกาลนั้น
พวกคุณปฏิบัติธรรมแบบหลงทางจากการหลงผิดอยู่
การถือศีลปฏิบัติธรรมนั่งกรรมฐานทำบุญให้ทาน
สวดมนต์อธิษฐานบริกรรมและภาวนาทั้งหลายเหล่านี้
แม้จะเป็นการกระทำที่ดีพึงส่งเสริมสร้างสรรค์ก็จริงอยู่
แต่มันก็ยังมิใช่หน้าที่หลักที่จิตหยาบคือตัวคุณเอง
จะต้องทำเพื่อจิตวิญญาณซึ่งก็เป็นตัวคุณเองที่แท้จริง
 
เพราะภารกิจของจิตวิญญาณที่อาสาพระเจ้ามาเกิดนั้น
คือการใช้เครื่องยนต์แห่งกรรมรูปธรรมมนุษย์ที่สมบูรณ์
โดยมีจิตหยาบซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวแทนของจิตวิญญาณ
คอยสั่นสะเทือนขันธ์ห้าเมื่อรับข้อมูลจากอายตนะทั้งห้า
ที่ส่งผ่านเข้าไปข้างในจากเงื่อนไขของสิ่งเร้าภายนอก
ซึ่งจิตหยาบมีหน้าที่รับรู้เพื่อเรียนรู้ไปตามความจริง
โดยว่างไปจากกิเลสอันเกิดจากการปรุงแต่งของจิตเอง
เมื่อจิตว่างจากกิเลสขณะรับรู้เพื่อเรียนรู้อยู่ในขณะนั้น
จิตหยาบก็จะสั่นสะเทือนทางด้านบวกอยู่ได้ตลอดเวลา
มันก็คือ “คลื่นความรักที่บริสุทธิ์” จากจิตมนุษย์นั่นเอง
 
ที่ผ่านมาคนทั่วไปจะเข้าถึงคลื่นความรักบริสุทธิ์ไม่ได้
เพราะเป็นทาสของกิเลสกันไปเสียก่อนยังไม่ทันตั้งตัว
เนื่องจากจิตหยาบถูกหลอกให้เสพติดกิเลสจนเคยตัว
พอจิตหยาบเกิดกิเลสขึ้นตัณหาราคะอารมณ์ขยะก็เกิด
ซึ่งพวกนี้เป็น #บริวารชั่วของตัวกิเลส ตัวสร้างปัญหา
ที่ทำให้พวกคุณหมุนกรรมจักรแทนธรรมจักรตลอดมา
 
บ้างก็มีกิเลสเป็น #สันดานเคยตัว
ซึ่งจิตวิญญาณถือติดมาจากอดีตชาติแล้วล่ะ
เพื่อให้จิตหยาบในภพชาติปัจจุบันช่วยดัดสันดานให้
แต่ปรากฏว่านอกจากจะช่วยแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว
จิตหยาบยังสะสมกิเลสพอกพูนในสัญญาขันธ์เพิ่ม
เพราะไม่รู้วิธีชำระจิตให้ว่างไปจากกิเลส
ที่นอนเนื่องแน่นิ่งอยู่ในสัญญาขันธ์ของตนเองได้
 
ถ้าพวกคุณรู้ว่าตนเองนั้น
ขันอาสาพระเจ้ามาช่วยกันใช้เมตตาธรรมค้ำจุนโลก
วิธีการปฏิบัติธรรมของพวกคุณจะเปลี่ยนไปทันที
การหลงทางนิพพานมันก็จะไม่เกิดขึ้นดังเช่นทุกวันนี้
 
สื่อถ่ายทอดคลื่นความคิดในระบบจิตสู่จิต
จากองค์จิตจักรวาลดวงใหญ่
 
ปัญญาวิสุทธิ์
25/08/2566