22 ธันวาคม 2562

ความหมายของ "นิพพาน"


พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
อย่างุนงงสงสัยอีกเลย
คำว่า นิพพาน มีความหมายเดียวเท่านั้น
ถ้าท่านนำจิตวิญญาณของท่านกลับบ้านได้
คือตายแล้วไม่ต้องกลับมาเกิดบนโลกนี้อีก
นั่นแหละคือการนิพพานทางจิตวิญญาณแล้ว
บ้านเกิดของจิตวิญญาณของท่าน
อยู่ที่แดนสุญตาด้านนอกอนันตจักรวาล
ซึ่งเป็นดินแดนที่อยู่นอกระบบเอกภพ
ที่มีดาวเคราะห์โลกเสรีดวงนี้ดำรงอยู่ด้วย
คำว่า "นิพพาน" มิได้หมายถึง
การดับสังสารวัฏหรือดับวัฏสังสารได้
โดยเมื่อตายแล้วไม่กลับมาเกิดเป็นมนุษย์
เพื่อมีภพชาติใหม่บนโลกนี้ต่อไปอีก
แต่กลับไปโผล่อยู่บนสวรรค์มายาแทน
เพราะจิตวิญญาณ "หลุดลอย"
ไปติดค้างอยู่บนนั้น
ดังนั้น
คำว่า "นิพพาน" จึงหมายถึงการ "หลุดพ้น"
กลับคืนบ้านเกิดเมืองนอนของจิตวิญญาณ
ท่านมาจากไหนก็ต้องกลับไปที่นั่น
มาจากแดนสุญตาก็ต้องกลับไปยังแดนสุญตา
เข้ามาทางไหนท่านก็ต้องกลับออกไปทางนั้น
เข้ามาทาง ด่านนภาลัย ก็ต้องออกไปทางนั้น
การหลุดลอยไปติดค้างอยู่บนสวรรค์มายา
แม้ว่าจะหยุดการเวียนว่ายตายเกิดบนโลกได้
แต่ท่านทั้งหลายยังจะเรียกว่านิพพานไม่ได้
เพราะเหตุว่า
1.ยังมีขันธ์ 5 อยู่ครบถ้วน
คือมี รูป เวทนา สัญญา สังขาร และวิญญาณ
เพียงแค่เปลี่ยนรูปธรรมจากกายหยาบ
ไปเป็นรูปธรรมทางพลังงาน
ที่มีมายารูปลักษณ์ละเอียดขึ้นเท่านั้น
ถ้าจะนิพพานได้แท้จริง
จิตวิญญาณของท่านจะไม่เหลือขันธ์ 5 เลย
นอกจากเป็นแค่กล่องพลังงานกล่องหนึ่ง
ที่มีมายารูปลักษณ์เป็น 6 เหลี่ยมมุม
ซึ่งหมุนวนรอบแกนกลางของตัวเอง
เพื่อสร้างสมดุลอยู่อย่างต่อเนื่องตลอดเวลา
2.ยังมีภารกิจทางจิตวิญญาณ
ที่ต้องทำในบทบาทของคนสองมิติ
ตามที่ให้สัญญาไว้กับพระบิดาแห่งจิตวิญญาณ
ตั้งแต่ภพชาติแรกที่ได้มาเกิดบนโลกเสรีอยู่
ซึ่งภารกิจหลักมีด้วยกัน 6 ข้อ
การนำพาจิตวิญญาณของท่าน "หลุดลอย"
ไปเกิดเป็นเทพเป็นพรหมบนสวรรค์มายา
เพราะว่าต้องการหนีทุกข์พ้นทุกข์ไปจากโลกนี้
จึงเป็นความผิดบาปฐานละทิ้งหน้าที่ของตนเอง
เป็นการผิดสัจจะต่อพระบิดาของท่านด้วย
เมื่อขันอาสามาเกิดเป็นคน
เพื่อคนตนเองให้เป็นมนุษย์
แล้วทำหน้าที่ 6 ประการให้สำเร็จ
แต่มาเกิดแล้วกลับเกิดอาการ "ติดทุกข์ ติดสุข"
จนสร้างทางเบี่ยงเลี่ยงไปเกิดในสวรรค์มายา
เพราะ "หลงทาง" จากการ "หลงธรรม" แทน
สวรรค์มายามิใช่ภพภูมิที่พระบิดาสร้างไว้
แต่เป็นจิตมนุษย์ทั้งหลายนี่แหละ
ที่สร้างมันขึ้นมาเองเพราะความไม่รู้
แล้วก็ไปหลงงมงาย "ยึดติด" มันเข้า
เพราะคิดว่ามันคือแดนนิพพานที่พวกตนต้องการ
เนื่องจากเห็นว่าสวรรค์มายาที่ว่านี้
เป็นภพภูมิที่อยู่สูงกว่าภพภูมิโลกมนุษย์
โดยไม่รู้ว่าที่หลุดลอยไปอยู่ที่สูงกว่าได้นั้น
เพราะตนมีน้ำหนักจิตวิญญาณน้อยกว่าคนทั่วไป
เนื่องจากพยายามเคร่งครัดครองศีล
ละเว้นการก่อกรรมใหม่ไม่เกี่ยวกรรมกับใคร
จนกว่าชีวิตจะหาไม่ในภพชาตินั้นๆนั่นเอง
เมื่อตายไปแล้ว
จิตวิญญาณจึงไม่สามารถกลับมาเกิดได้อีก
ต้องลอยสูงขึ้นไปในบรรยากาศ
แล้วไปติดค้างเติ่งอยู่บนนั้น
จะลอยสูงขึ้นไปอีกก็ไปต่อไม่ได้
จะลงมาเกิดเป็นมนุษย์อีกก็ลงไม่ได้
จึงไม่ต่างจากว่าวที่เชือกขาด
แล้วหลุดลอยไปติดค้างอยู่บนฟ้า
เพราะเชือกไปติดพันอยู่กับกิ่งไม้
จนต้องเอ้อระหอยลอยลมอยู่อย่างนั้น
3.จิตวิญญาณยังมีบุรพกรรมติดตัวอยู่
บุรพกรรมก็คือกรรมเก่าจากภพชาติอดีต
ที่ถือติดตัวมาเกิดในภพชาตินี้ด้วย
เพื่อเผชิญกับสถานการณ์เดิมเงื่อนไขเดิม
และจิตวิญญาณของคนเดิมๆในชาติที่แล้ว
ที่ท่านเคยตัดสินใจผิดประพฤติผิดต่อเขามา
ให้คิดใหม่ตัดสินใจใหม่กระทำใหม่ให้ถูกต้อง
เพราะท่านหนีไปปลีกวิเวกคนเดียว
ด้วยการละทิ้งสังคม
จึงปิดโอกาสผู้ร่วมชะตากรรมกันมา
จนไม่สามารถจัดการกับบุรพกรรมแม่เหล็ก
เพื่อช่วยเหลือซึ่งกันและกันได้
จึงยังผลให้จิตวิญญาณไม่บริสุทธิ์
เพราะมีขยะ คือ "กรรมเก่า" จากอดีตชาติ
เป็นคุณสมบัติเป็นสัมภาระติดตัวอยู่
เมื่อจิตวิญญาณของท่านยังไม่บริสุทธิ์
แล้วจะ "หลุดพ้น" คือ นิพพาน
เคลื่อนออกไปจาก อนันตจักรวาล ได้อย่างไร
4.จิตวิญญาณที่ "หลุดลอย" ขึ้นไป
ตามเส้นทางสวรรค์มายา
นับได้ 31 ชั้นฟ้า
จากชั้นเทพ เทวดา พรหม อาตมันพรหม
ไปจนถึงชั้นอรูปพรหมนั้น
นอกจากกว่าจะขยับตัวลอยสูงขึ้นได้
ต้องใช้เวลายาวนานมากแล้ว
ท่านรู้หรือไม่ว่ายิ่งลอยสูงเท่าไหร่จะยิ่ง "หนาว"
เพราะยิ่งชั้นสูงขึ้นการเลื่อนชั้นจะยิ่งยาวนาน
จนนับหน่วยเวลาเป็นปีไม่ได้อีกแล้ว
ต้องนับเป็น "อสงไขย" คือนานเป็นอินฟินิตี้
ที่สำคัญที่สุด
ซึ่งคนนำทางตาบอดทั้งหลายไม่รู้ก็คือ
เมื่อหลุดลอยขึ้นไปจนสุดทางแล้ว
จิตวิญญาณที่น่าสงสารนั้น
จะไม่พบ "ทางออก" หรือทางหลุดพ้น
ที่จะพาตนเองออกไปจากอนันตจักรวาลได้
จนเกิดอาการ "งมงาย" เพราะหลงผิดอีกว่า
โลกเสรีดวงนี้ที่ตนมาเกิดเป็นมนุษย์
เป็นโลกที่ดำรงอยู่ในจักรวาลอันไพศาล
ที่เรียกว่า อนันตจักรวาล เท่านั้น
ที่พวกเขาหลงผิดหลงเชื่อว่าใช่
เพราะจิตวิญญาณของผู้หลุดลอย
ไปติดค้างอยู่บนสวรรค์ชั้น 31 สูงสุด
จนลอยสูงต่อไปอีกไม่ได้แล้วนั่นแหละ
เป็นผู้ยืนยันกันเช่นนั้น
ทั้งๆที่เราบอกอยู่เสมอว่า
การหลุดลอยสูงขึ้นไปทางสวรรค์มายา
เป็นการหลงทางกลับบ้านของจิตวิญญาณ
เพราะมันจะลอยขึ้นไปติด "เพดาน" จักรวาล
เนื่องจากเบื้องบนนั่นไม่มี "ประตูทางออก"
มันเป็น ทางตัน ได้ยินมั้ย?
ใครผ่านไปทางนั้นจะเดือดร้อน
เพราะจะกลับลงมาก็ไม่ได้แล้ว
จะลอยสูงขึ้นไปอีกก็ติดเพดานอนันตจักรวาล
พวกท่านใยไม่สังเกตกันบ้างเลยว่า
แต่เดิมพระพุทธองค์ท่านก็เคย "หลุดลอย"
แล้วใยภพชาติสุดท้ายที่ทรงปรินิพพาน
ท่านจึงต้องกลับมา "หลุดพ้น" ขณะเป็นมนุษย์
ทำไมพระพุทธองค์จึงไม่เลือกทางสวรรค์มายา
ถ้ามันเป็นเส้นทางที่ถูกต้อง
ใยคนนำทางตาบอดแลท่านทั้งหลาย
จึงไม่ "ฉุกคิด" เมื่อเราสะกิดต่อมปัญญาให้แล้ว
จะยึดมั่นถือมั่นจะดื้อรั้นดันทุรังต่อไปอีกทำไม
เวลาของพวกท่านเหลือน้อยลงทุกทีแล้ว
ท้ายสุดของพระโอวาทบทนี้
เราขอกล่าวต่อสตรีเพศทั้งหลายว่า
อย่าถูกหลอกให้เป็นแต่แม่บ้าน
โดยมีหน้าที่คลอดลูกเลี้ยงลูกและดูแลสามี
จนไม่มีเวลาสนใจหน้าที่ทางจิตวิญญาณ
ตราบกระทั่งตายไปในภพชาตินี้อีกเลย
เพราะจิตวิญญาณของท่าน
มีหน้าที่หลักไม่ต่างจากจิตวิญญาณบุรุษเพศ
ต้องปฏิบัติตามพันธะสัญญา 6 เหมือนกัน
หน้าที่ของภรรยาของแม่ในทางโลกนั้น
เป็นเพียงหน้าที่พิเศษบนโลกที่ต้องทำ
เพื่อให้ภารกิจทางจิตวิญญาณของพวกท่าน
ประสบผลสำเร็จตามเป้าหมายที่มาเกิดกันเท่านั้น
อย่าหลงเชื่ออีกเลยว่า
เป็นสตรีเพศเขาไม่ให้บวช
จะไม่สามารถหลุดพ้นกลับบ้านได้
บัดนี้โลกสิ้นยุคแล้ว
ทุกคนไม่ว่าหญิงชายต้องนำจิตวิญญาณ
หลุดพ้นออกไปให้ได้ก่อนกาลเปลี่ยนยุค
ในวันฟ้ามืดดับ นาน 56 วัน 8 ราตรี
พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
การบวชที่กายเป็นสิ่งสมมติเป็นแค่มายา
การบวชที่ศักดิ์สิทธิ์สัมฤทธิผลต้องบวชที่ใจ
ด้วยการดูแลรักษาใจให้ดีๆ
ถ้าจิตใจดีการกระทำใดๆก็จะดี
ถ้าท่านประพฤติดีตัวท่านก็จะไม่มีมลทิน
ไม่ต้องให้ใครช่วยบวชให้ ไม่ต้องมากพิธี
จงพึ่งพาตนเองเถิด
อย่าหลับหูหลับตาก้าวตาม
คนนำทางตาบอดต่อไปอย่างงมงายอีกเลย
เราเปิดปัญญาให้ท่านแล้ว
ท่านยังมีจิตปัญญาและอายตนะ
ดีอยู่ สมบูรณ์อยู่ พร้อมใช้อยู่ ใช่มั้ย?
เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
22-12-2019

10 พฤศจิกายน 2562

ทุกศาสนา ล้วนเป็นสากล



ดาวเคราะห์แห่งทางเลือกเสรี:
ทุกศาสนา ล้วนเป็นสากล

พี่ๆน้องๆที่รักทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงให้ท่านทั้งหลายรู้ว่า

ความผิดบาป 3 ประการ
ที่ผู้ก้าวตามคนนำทางตาบอดไม่รู้ คือ

1.ยึดติดอัตตาในองค์พระศาสดา
จึงเกิดเป็น "ศาสดาของฉัน" ขึ้นมาได้

ทั้งๆที่พระองค์ทรงเป็น
พระศาสดาของโลกต่างหาก
มิใช่ศาสดาของใครคนใดคนเดียว

2.การก้าวล่วงผู้อื่น
ด้วยการประกาศว่าศาสดาของตน
"เหนือกว่า" ศาสดาพระองค์อื่น
จึงเกิดเป็นพระธรรมคำสอน
ของพระศาสดาของฉัน
เด่นกว่า ดีกว่า เหนือกว่าคำสอน
ของพระศาสดาพระองค์อื่นๆตามมาอีกด้วย

ทั้งๆที่ตัวตนของคนที่ก้าวล่วงเองนั้น
ยังมิได้แตกฉานในพระธรรมคำสอน
ของพระศาสดาที่ตนเองยึดติดนั้นเลย

ทั้งๆที่ตัวตนของคนก้าวล่วงเอง
ก็ยังไม่เคยศึกษาพระธรรมคำสอน
ของพระศาสดาพระองค์อื่นๆที่ตนก้าวล่วง
ให้แตกฉานเสียก่อนจึงวิจารณ์ด้วยซ้ำไป

3.ขาดมหาสติ
โดยมิได้รู้สติ ไม่มีสติ และไม่ใช้สติ
ก่อนที่จะกล่าวสรุปความอย่างจาบจ้วง
จนผิดบาปดังได้กล่าวไว้ตั้งแต่ตันนั้นเลย

เอเมน สาธุ
.วิสุทธิปัญญา

10-11-2019

03 มิถุนายน 2562

หลักการเป็นศิษย์จิตจักรวาล

หลักการเป็นศิษย์จิตจักรวาล
1.ถ่อมตนถ่อมใจ 
2.ฟังให้มากกว่าพูด 
3.คิดตามให้เข้าใจ 
4.ไม่เข้าใจรีบไถ่ถาม 
5.นำที่เรียนรู้ไปปฏิบัติ

02 มีนาคม 2562

ด้วยเหตุนี้...ท่านชายทั้งหลายจงให้เกียรติภรรยาของท่าน

ท่านชายทั้งหลาย
จงให้เกียรติภรรยาของท่าน 
ในฐานะของผู้ทำหน้าที่รับทายาทที่มีชีวิต 
อันเป็นของประทานจากพระบิดา