15 สิงหาคม 2566

คัมภีร์อนุตรธรรมภาคจิตจักรวาล 15/08/2023

(เพื่อยุวจิตจักรวาลยุคสุดท้าย)
 
พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
 
การเป็นมนุษย์ผู้มี “จิตใสใจสวย” นั้น
นอกจากจะหมายถึงผู้มีคุณสมบัติ 5 ประการ
ตามที่เรากล่าวไว้ในบทที่ผ่านมาแล้ว คือ
1.หมุนธรรมจักรในตนเองได้
2.ไม่ปิดอายตนะภายนอกของตนไว้
3.ใช้ขันธ์ห้าได้อย่างถูกต้อง
4.ใช้ปัญญาของสมองเป็น
5.นึกให้เป็นเพื่อคิดให้เป็น
 
ในบทนี้เราจะกล่าวถึงคุณสมบัติประการที่ 6
 
6.#ต้องคิดด้วยสมองสองซีกให้เป็น
 
การคิดด้วยสมองทั้งสองซีกนั้น
พระเจ้าทรงออกแบบให้คุณสามารถใช้งานมันได้
ด้วยระบบ “อัตโนมัติ” เหมือนกันทุกคนทุกชาติพันธุ์
ทั้งการคิดด้วยสมองซีกซ้ายตามที่จิตกำหนดนึก
การคิดด้วยสมองซีกซ้ายตามที่อารมณ์รู้สึกกำหนด
กับการคิดด้วยสมองซีกขวาตามที่จิตจินตนาการ
 
ดังนั้น
การนึกคิดด้วยสมองซีกซ้ายจึงมีสองแบบ
แบบแรกก็คือใช้วิธีตั้งคำถามตัวเองด้วยการ “นึก”
ซึ่งเป็นการคิดด้วยวิธี “กดปุ่มใช้งาน” อย่างจงใจ
 
แบบที่สองคือนึกคิดตามอารมณ์รู้สึกในปัจจุบันขณะ
เป็นการสั่งการให้สมองคิดไปตามสภาวะจิตที่ไม่ว่าง
สภาวะจิตไม่ว่างคือจิตที่ไม่ว่างไปจากกิเลสและบริวาร
กิเลสและบริวารของกิเลสคือตัณหาราคะอารมณ์รู้สึก
ซึ่งเป็นขยะของจิตหยาบขณะกำลังใช้ความคิดอยู่
ถ้ามันเป็นด้านบวกหรือด้านดีก็จะนึกดีคิดดีได้
แต่ถ้ามันเป็นด้านลบหรือด้านไม่ดีก็จะนึกชั่วคิดชั่วได้
การนึกคิดไปตามกิเลสจึงเสี่ยงต่อการทำดีๆชั่วๆได้มาก
พวกคุณจึงต้องเรียนรู้วิธีนึกคิดแบบกดปุ่มกันดีกว่า
จะไม่สร้างปัญหาให้ตนเองและคนอื่นต้องเดือดร้อน
 
#หลักการคิดด้วยสมองซีกซ้าย
 
1.ทำจิตให้สงบ
คำว่า “จิตสงบ” หมายถึง จิตว่าง
คำว่า “จิตว่าง” หมายถึง จิตว่างไปจากทุกสิ่ง
คำว่า “ว่างไปจากทุกสิ่ง” คือ สภาวะจิตขณะนั้น
ต้องว่างไปจากการนึกคิดสิ่งใดเรื่องใดเรื่องหนึ่ง
แม้แต่เรื่องที่คุณกำลังต้องการจะนึกเพื่อคิดก็ตาม
 
ต้องว่างไปจากความรู้สึกชอบไม่ชอบที่เป็นกิเลส
ต้องว่างไปจากความอยากไม่อยากที่เป็นตัณหา
ต้องว่างไปจากความโกรธ โลภ ลุ่มหลง งมงาย
อันเป็นอารมณ์ขยะรายวันทั้งหลายอย่างสิ้นเชิง
 
คุณสามารถทำจิตให้สงบดังกล่าวนั้น
เพื่อพร้อมใช้ #สติปัญญา ของสมองซีกซ้ายได้
โดยใช้ #ธรรมชาติสมาธิ หรือ “มหาสติ” คอยกำกับ
ซึ่งคุณต้องฝึกฝนในการใช้มันให้ชำนาญเข้าไว้
เนื่องจากจิตหยาบของคุณทั้งสามตัวนึกนั้น
มันมีจริตพิสัยซุกซนไม่อยู่นิ่งเหมือนดั่งลิงก็มิปาน
จึงมีเพียงมหาสติเท่านั้นที่จะช่วยประคองจิตคุณได้
 
เพราะคุณเป็นสัตว์สังคมต้องมีครอบครัวต้องมีบริษัท
จะใช้วิธีเท็คนิกสมาธิโดยปลีกวิเวกปิดอายตนะทั้งห้า
เพื่อปิดกั้นช่องทางการรับรู้ของจิตหยาบเอาไว้
ทำตนคล้ายกับคนตาบอดหูหนวกเป็นใบ้หรือพิการ
ทำอย่างกับว่าอายตนะภายนอกทั้งห้าอย่างนั้นไร้ค่า
ซึ่งเป็นการปฏิบัติตนผิดไปจากธรรมชาตินั้นไม่ได้
 
เพราะธรรมชาติของคุณที่เกิดมานั้นมิใช่คนพิการ
การปฏิบัติธรรมจึงจะต้องปฏิบัติไปตามธรรมชาติ
จะปฏิบัติตนตามแบบคนพิการนั้นไม่ได้เด็ดขาด
ที่สำคัญคือกระบวนการขันธ์ห้าจะเสร็จสมบูรณ์ไม่ได้
ถ้าคุณไม่ใช้กลไกอายตนะภายนอก “สัมผัส” สิ่งเร้า
โดยถูกหลอกให้นั่ง “เพ่งดูอาการของจิต” อย่างเดียว
การเพ่งดูอาการของจิตอยู่อย่างเดียวนั้น
ไม่ต่างจากพ่อแม่ผู้ปกครอง
ที่คอยมองจ้องเพื่อจะจับผิดลูกหลานที่ซุกซนของตน
ซึ่งอาการซุกซนของเด็กจะเป็นไปตามจริตสันดาน
ที่จิตวิญญาณถือติดตัวมาเกิดในชาตินี้ด้วยส่วนหนึ่ง
อีกส่วนหนึ่งก็เกิดจากการเรียนรู้จากประสบการณ์จริง
ตั้งแต่ได้รับโอกาสให้มาเกิดในชาตินี้แล้ว
 
คุณจึงต้องรู้ว่า
การคอยจ้องจับอาการวิปริตผิดปกติของจิตหยาบ
เพื่อจะคอยกดกำราบมันไว้มิให้สั่นสะเทือนกันนั้น
จิตหยาบของคุณก็ไม่ต่างจากเด็กที่คอยควบคุมนั้น
เด็กจะอยู่ในโอวาทพ่อแม่ผู้ปกครองได้ก็แค่ต่อหน้า
เพราะกลัวว่าจะถูกลงโทษและเกรงว่าจะถูกตำหนิ
จึงควบคุมดูแลพฤติกรรมที่พ่อแม่ไม่ชอบเอาไว้ได้อยู่
จิตหยาบของคุณในมุมนี้ก็ไม่ต่างกันแต่อย่างใด
ถ้าคุณคอยกดข่มมันไว้ให้มันอยู่สุขไม่ซุกซนได้
อาการทางจิตของคุณก็จะดูเป็นเด็กเรียบร้อยนั่นเอง
เด็กซุกซนที่อยู่ลับหลังพ่อแม่ผู้ปกครอง
พวกเขามักจะทำตนเป็นแบบ “มีหางออก” เสมอ
คำว่า “มีหางออก” ในที่นี้เราหมายถึงซนเป็น “ลิง”
คือเปลี่ยนจากเด็กเรียบร้อยน่ารักไปทำตนเป็นลิงแทน
 
สำหรับพวกคุณนั้น
การเพ่งดูจิตเพื่อหวังทำให้จิตสงบจึงทำได้ชั่วคราว
โดยมันจะอยู่ในโอวาทของคุณได้เหมือนเด็กน้อย
ก็ต่อเมื่อขณะนั่งหลับตาคอยกดข่มจิตที่ไม่ดีนั้นเอาไว้
พอผ่านไปนานวันเข้าคุณก็จะหลงตัวเองว่า
คุณสามารถ “ดัดจริต” ตนเองจนสงบสนิทได้แล้ว
เพราะลืมไปว่าคุณเพ่งจิตอยู่คนเดียวเล่นนิ้วตัวเองมา
ขณะที่อายตนะภายนอกทั้งห้าถูกปิดไว้อย่างมิดชิด
จนสิ่งเร้าจิตหยาบต่างๆจากภายนอกผ่านเข้าไปไม่ได้
คุณก็เลยตกหลุมพรางความสงบเทียมเท็จนั้นแทน
 
ในโลกแห่งความจริงนั้น
เมื่อคุณถูกใครกวนตากวนใจกวนมือหรือกวนตีน
เมื่อถูกยั่วยุแล้วมันจะเกิดอาการสงบได้หรือไม่
กรรมฐานสมาธิที่ฝึกอยู่หรือฝึกมามันชำระจิตได้แน่นะ?
 
สื่อถ่ายทอดคลื่นความคิดในระบบจิตสู่จิต
จากองค์จิตจักรวาลดวงใหญ่
 
ปัญญาวิสุทธิ์
15/08/2566