03 สิงหาคม 2566

คัมภีร์อนุตรธรรมภาคจิตจักรวาล 3/08/2023

(เพื่อยุวจิตจักรวาลยุคสุดท้าย)
 
พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
 
มนุษย์ก็เป็นสรรพสิ่งหนึ่งที่พระเจ้าทรงสร้างขึ้น
มนุษย์แต่ละคนต่างก็มีพลังอำนาจในตนเอง
ที่จะต้องผ่านกระบวนการสั่นสะเทือนเช่นเดียวกัน
จึงสามารถจะเข้าถึงอำนาจสูงสุดที่ตนมีอยู่นั้นได้
โดยผู้ต้องทำหน้าที่สั่นสะเทือนก็คือ “จิตหยาบ”
ซึ่งเป็นตัวแทนของจิตวิญญาณผู้เป็นแก่นแท้นั้น
 
จิตหยาบจะมีจุดศูนย์กลางของการสั่นสะเทือน
อยู่ที่ต่อมไร้ท่อซึ่งมีนามเรียกขานว่า #ต่อมไพเนียล
ต่อมไพเนียลจะคอยสั่นสะเทือนเพื่อรับรู้สัญญาณ
ที่เป็นทั้งภาพสีแสงเสียงรสกลิ่นและกายสัมผัส
ซึ่งอายตนะภายนอกทั้งห้าสัมผัสรู้ดูเห็นส่งมาให้
 
เมื่อจิตหยาบตรงต่อมไพเนียลเกิดการรับรู้แล้ว
ก็จะใช้สัญญาณที่รับรู้ได้นั้นเป็นเงื่อนไข
ในการสั่นสะเทือนจิตหยาบให้เกิดเป็น “ขันธ์ห้า”
อันหมายถึงการสั่นสะเทือนเป็น 5 ขั้นตอนด้วยกัน
ตามที่พวกคุณทั้งหลายต่างก็ล้วนรู้กันดีอยู่ว่า
มันคือรูปเวทนาสัญญาสังขารและวิญญาณนั่นเอง
โดยที่วิญญาณขันธ์ก็คือกระบวนการขั้นสุดท้าย
หลังจากจิตหยาบรับรู้การสัมผัสของอายตนะแล้ว
 
กระบวนการในขั้นตอนสุดท้ายของจิตหยาบก็คือ
การผลิตสร้างพลังงานแล้วเหวี่ยงออกมาภายนอก
ถ้าจิตหยาบสั่นสะเทือนเป็นด้านบวกบริสุทธิ์ได้
จะยังผลให้ “ต่อมพิทูอิทารี” ที่ตั้งของจิตวิญญาณ
สั่นสะเทือนตาม “ต่อมไพเนียล” คือจิตหยาบด้วย
 
ดังนั้น
อำนาจของจิตหยาบจะเกิดได้ด้วยความรักบริสุทธิ์
เมื่อมีการรับรู้ดูเห็นสัมผัสสิ่งเร้าที่อายตนะส่งมาให้
ซึ่งพลังอำนาจสูงสุดที่ว่านี้จะทำให้ต่อมพิทูอิทารี
อันเป็นที่ตั้งของจิตวิญญาณคุณสั่นสะเทือนตาม
จนสั่นสะเทือนเข้าถึงการเป็นหนึ่งเดียวกันได้
ซึ่งอาจกล่าวได้ว่าเพราะความรักบริสุทธิ์นี่แหละ
ทำให้จิตหยาบเป็นหนึ่งเดียวกับจิตวิญญาณได้
ตามที่เรากล่าวย้ำต่อพวกคุณมาตลอด
 
แน่นอนว่า
การที่คุณจะเข้าถึง “ความรักบริสุทธิ์”
ซึ่งเป็นรักที่ไร้เงื่อนไขและรักที่ไม่มีคุณสมบัติกรรม
จิตหยาบคุณจะต้องว่างไปจากกิเลสโดยสิ้นเชิง
นั่นคือจิตหยาบคุณจะต้องไม่มีมลทินเท่านั้น
เพื่อให้จิตหยาบมีพลังอำนาจในการใช้สติปัญญา
หาเหตุผลที่จะรักคนที่ทำตัวไม่น่ารักให้ได้
หาเหตุผลที่จะอภัยแก่คนที่ทำตนไม่น่าให้อภัยได้
 
ที่จิตหยาบของคุณจะต้องว่างไปจากกิเลส
เพราะจิตหยาบสามารถสั่นสะเทือนได้ทีละอย่าง
ถ้ากำลังโกรธอย่างรุนแรงอยู่คุณจะหน้ามืดตามัว
จนไม่สามารถจะรักคนนั้นหรือรักใครอื่นได้เลย
หรือกรณีที่คุณกำลังงมงายลุ่มหลงใครบางคนอยู่
คุณก็จะมองไม่เห็นข้อบกพร่องของเขาคนนั้นเลย
เพราะกิเลสตัณหามันบดบังสติปัญญาคุณเอาไว้
 
ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่เสพติดกิเลสจนเคยตัว
คุณก็จะเป็นคนหนึ่งที่เข้าถึงอำนาจสูงสุดไม่ได้
คืออำนาจที่จะรักกับอำนาจในการคิดของสมอง
ยังผลให้เข้าถึงอำนาจทางจิตวิญญาณไม่ได้ด้วย
การเข้าถึงอำนาจทางจิตวิญญาณของคุณก็คือ
การคนตนเองในสองมิติให้เป็นหนึ่งเดียวกัน
โดยหมุนธรรมจักรเพื่อทำตนเองให้เป็นมนุษย์
 
ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจะมีสองสิ่งก็คือพลังอำนาจ
ที่จะใช้ในการยกระดับจิตหยาบจาก 4D สู่ 6D
เพื่อค้ำจุนจิตวิญญาณและกายสังขารให้ดำรงอยู่
โดยมีชีวิตที่เป็นอมตะไม่มีอายุขัยไม่ต้องตายอีก
กับพลังอำนาจในการผลิตพลังงานสะอาดให้โลก
เพื่อใช้ค้ำจุนความสมดุลของโลกให้มั่นคงยั่งยืน
ตามภารกิจของจิตวิญญาณของตนที่อาสามาเกิด
 
ทั้งหมดที่เรากล่าวมานี้
เป็นสิ่งที่พวกคุณทุกคนจะต้องทำมันให้สำเร็จ
นั่นคือการหมุนธรรมจักรในตนเองด้วยความรัก
โดยใช้สติปัญญาของสมองเป็นเครื่องมือสำคัญ
ซึ่งคุณจะเข้าถึงความฉลาดของสมองกันได้นั้น
คุณต้องฉลาดทางจิตคือ “ฉลาดใช้จิต 3 นึก” ด้วย
 
ความฉลาดทางจิตสามนึกก็คือ
การนึกออก นึกเอา และนึกเองที่เป็นด้านบวก
แม้ว่าสิ่งนั้นเรื่องนั้นคนนั้นจะเป็นเงื่อนไขด้านลบ
โดยคุณจะต้องสามารถรับรู้แต่ไม่รับเอาให้จงได้
นั่นคือแค่รู้ว่าเขาพูดอะไรทำอะไรเพราะอะไร
ไม่หยิบเอามันมาเป็นเงื่อนไขทางอารมณ์รู้สึก
จนตัวเองต้องจิตตกหรือเสียอารมณ์เสียสมดุลไป
เพื่อดูแลรักษาจิตหยาบให้มันว่างจากกิเลสให้ได้
ในอันที่จะเข้าถึงความฉลาดทางจิตปัญญาต่อไป
 
พระเจ้าทรงชี้แนะพวกคุณผ่านเราตลอดมาว่า
ให้คุณ #ครองมหาสติ ในชีวิตประจำวันกันให้ได้
เพราะการรู้สติมีสติและใช้สติแบบรู้ตัวทั่วพร้อมนั้น
มันจะทำให้คุณเข้าถึงพลังอำนาจสูงสุดของคุณได้
โดยไม่ต้องร่ายมนต์วิเศษหรือทำอะไรที่มันอุตริ
ทำให้จิตวิญญาณตนเองและคนรอบข้างเดือดร้อน
จากการ “หาทำ” ในสิ่งที่มิใช่หน้าที่ของมนุษย์
เหมือนเช่นในอดีตกาลหรือในอดีตชาติที่ผ่านมา
 
ถ้าคุณรู้ว่า
หน้าที่ของจิตวิญญาณของคุณเอง
ที่ขันอาสาพระเจ้าหรือพระบิดามาเกิดในระบบโลก
ในบทบาทของคนชอบธรรมที่แท้จริงนั้น
มิใช่มาเกิดแล้วทำทุกสิ่งอย่างเพื่อตัวคุณเอง
แต่เป็นการทำเพื่อโลกเพื่อเอกภพและเพื่อพระเจ้า
ด้วยการกระทำที่ตนเองและกระทำผ่านผู้อื่นแล้ว
พวกคุณจะรู้คำตอบได้ทันทีแบบกลับหลังหันว่า
ทุกภพชาติที่ผ่านมาคุณพาจิตวิญญาณหลงทาง
เพราะจำบ้านเกิดเมืองนอนไม่ได้จำพระองค์ไม่ได้
แถมยังจำตนเองไม่ได้ด้วยว่า “ตนเป็นใคร”
 
สื่อถ่ายทอดคลื่นความคิดในระบบจิตสู่จิต
จากองค์จิตจักรวาลดวงใหญ่
 
ปัญญาวิสุทธิ์
3/08/2566