29 มิถุนายน 2565

สนทนาประสาจิตจักรวาล 29/06/2022

พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า

ท่านทั้งหลายได้รู้สัจธรรมความจริงกันมาแล้วว่า
#อนุตรธรรม ความจริงที่ไม่มีใครบนโลกนี้รู้มาก่อน
คือมนุษย์เป็นคนสองมิติเป็นผู้มีสองภาคในตนเอง
อันมี #จิตวิญญาณ เป็นผู้ข้ามมิติเข้ามาเกิด
ซึ่งมี #จิตหยาบ เป็นตัวแทนของ #จิตวิญญาณ
ช่วยขับเคลื่อนเครื่องยนต์แห่งกรรมรูปธรรมมนุษย์

โดยเราเปรียบ “จิตหยาบ” ให้เป็นเครื่องยนต์สี่สูบ
ผู้ช่วยขับเคลื่อน “รถยนต์” คือกายสังขารของท่าน
แต่เครื่องยนต์สี่สูบนั้นจะทำการขับเคลื่อนรถยนต์ได้
ก็ยังต้องอาศัยพลังงานไฟฟ้าสนับสนุนจากแบตเตอรี่
ที่ถูกติดตั้งเอาไว้ในระบบของรถยนต์คันนั้นด้วย
ซึ่ง “แบตเตอรี่” ก็คือ “จิตวิญญาณ” ของท่านนั่นเอง

ดังนั้น
พวกท่านจึงเป็นผู้มี #จิต อยู่ 2 จิต
คือ “จิตหยาบ” กับ “จิตวิญญาณ” ที่เป็นตัวตนแก่นแท้
มิได้มีแค่รูปธรรมจิตวิญญาณอยู่เพียงรูปธรรมเดียว
โดยจิตที่เป็น #ตัวรู้ ผู้ขับเคลื่อนขันธ์ 5 กับกายสังขาร
ให้เกิดการสั่นสะเทือนในมิติคู่ขนานก็คือ “จิตหยาบ”
มิใช่จิตวิญญาณตามที่เข้าใจผิดกันมาตลอดแต่อย่างใด

เพราะจิตวิญญาณผู้ “ขันอาสา” เข้ามาเกิดเป็นมนุษย์
จะต้องมอบอำนาจให้จิตหยาบทำหน้าที่แทนตนก่อน
นับตั้งแต่วันแรกที่ตนเข้ามาปฏิสนธิในครรภ์มารดา
ตามที่พระบิดาหรือ #องค์จิตจักรวาล ทรงออกแบบไว้
ไม่ว่าท่านจะเป็นคนเชื้อชาติใดเผ่าใดประเทศใด
จักต้องเป็นไปตามที่เรากล่าวนี้ด้วยกันทั้งสิ้นไม่มียกเว้น

เมื่อปฏิสนธิเป็น “ก้อนโลหิต” ในครรภ์มารดาแล้ว
จิตวิญญาณของผู้มาเกิดกับจิตวิญญาณของมารดา
ก็จะร่วมกันสร้างสามเหลี่ยมทางพลังงานมหัศจรรย์
โดยมี “จิตหยาบ” ที่ถูกแบ่งภาคออกมาในมิติที่ศูนย์
จะรองรับพลังงานร่วมจากการสั่นสะเทือนด้านบวกนั้น
ซึ่งกระบวนการนี้มันจะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งวันคืน
เพื่อช่วยกันยกระดับแรงสั่นสะเทือนของจิตหยาบ
จากมิติที่ศูนย์ให้สั่นสะเทือนด้านบวกแรงขึ้นเรื่อยๆ
สู่มิติที่สูงกว่าเดิมอย่างไม่สะดุดหรือหยุดยั้งให้จงได้

ตัวชี้วัดว่ากระบวนการมหัศจรรย์นี้ประสบความก้าวหน้า
คือพัฒนาการจากก้อนเลือด ณ มิติ “ศูนย์” ที่ในครรภ์
จากวันเป็นเดือนจะเปลี่ยนแปลงเป็น “ตัวอ่อนมนุษย์”
จนอุบัติเป็น #ตัวตนของทารก ผู้มีสองภาคในตนเอง
อันเป็นผลจากการยกระดับของจิตหยาบสู่มิติที่สูงกว่า
เมื่อทารกเจริญเติบโตเต็มที่ภายในไม่เกิน 9 เดือนแล้ว
ก็จะถูกกำหนดให้คลอดออกมาจากจักรวาลของมารดา
เพื่อให้จิตหยาบทารกยกระดับตนเองให้สูงขึ้นต่อไป

โดยมีพลังความรักจากบิดามารดาและคนที่อยู่รอบข้าง
ทำหน้าที่เป็นพลังสนับสนุนการยกระดับของจิตหยาบ
ให้สูงขึ้นไปเรื่อยๆจากมิติที่สามเมื่อแรกเกิดหรือตกฟาก
ขึ้นสู่มิติที่สี่มิติที่ห้าจนถึงมิติที่หกคือมิติของจิตวิญญาณ
ขณะที่เครื่องยนต์แห่งกรรมจะโตวันโตคืนปรากฏให้เห็น

ดังนั้น
พวกท่านไม่จำเป็นต้องดิ้นรนหาวิธีพิเศษ
เพื่อจะเชื่อมตนเองกับจิตวิญญาณหรือสิ่งใดเลย
พระบิดาได้ทรงออกแบบไว้เป็นระบบอัตโนมัติแล้ว
เพียงแค่ท่านพร้อมที่จะรักและพร้อมจะเป็นผู้ถูกรัก
เป็นบุตรกตัญญูรู้คุณบิดามารดาและเป็นบุตรที่พ่อแม่รัก
เป็นที่รักของคนรอบข้างทุกคนในครอบครัวของท่าน
เป็นสัตว์สังคมที่คนรอบข้างล้วนรักและเมตตาท่าน
เป็นผู้รักตนเองและรู้คุณค่าในการได้มาเกิดเป็นมนุษย์
เป็นผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบด้วยการหมุนธรรมจักร
แทนการหมุนกรรมจักรได้อย่างสิ้นเชิงแล้ว

คุณสมบัติต่างๆเหล่านี้ถ้าท่านสามารถเข้าถึงได้
จนกลายเป็น #ธรรมชาติ ของตนเองไปในที่สุดแล้ว
มันจะทำให้จิตหยาบของท่านยกระดับขึ้นสู่มิติที่ 6
เพื่อสั่นสะเทือนร่วมกับจิตวิญญาณจนเป็นหนึ่งเดียว

วิธีที่ท่านสามารถยกระดับจิตหยาบคือตัวท่านเอง
ให้เข้าถึงจิตวิญญาณที่ถูกกักบริเวณไว้ได้สำเร็จนั้น
คือ #การบรรลุธรรม ตามแผนการหนึ่งของพระเจ้า
ในการที่จิตหยาบให้อิสรภาพแก่จิตวิญญาณของตน
ด้วยการปลดปล่อยออกมาจากต่อมพิทูอิทารีที่กักกัน
มาร่วมกันขับเคลื่อนกายสังขารในนามมนุษย์ได้เสียที

พี่ๆน้องๆที่รักทั้งหลาย

เมื่อยกระดับมิติของจิตหยาบให้เข้าถึงจิตวิญญาณ
จนสั่นสะเทือนเป็นหนึ่งเดียวกันในมิติที่ 6 ได้
โดยไม่โชคร้ายที่จิตวิญญาณต้องตายเสียก่อน
เพราะโง่ง่ายงมงายจนหลงทางหลงธรรม
เพราะก้าวตามคนนำทางตาบอดอย่างไร้สติแล้ว
มันบ่งชี้ว่าท่านก้าวผ่านการนิพพานกิเลสได้หมดสิ้น
อีกทั้งตัวท่านยังเป็นมนุษย์ที่สมดุลและสมบูรณ์
เพราะหมุนธรรมจักรเพื่อมอบความรักค้ำจุนโลก
อันเป็นภารกิจของจิตวิญญาณที่ขันอาสามาได้แล้ว

หลังจากยกระดับถึงมิติที่หกแล้ว
ท่านจะเป็นมนุษย์ที่มีจิตวิญญาณเป็นอมตะ
โดยท่านจะไม่ต้องมีภพชาติอีกเลย
จนกว่าจะถึงกำหนดกาลสิ้นยุคคือครบหกหมื่นปี
พวกท่านจะยกระดับจิตวิญญาณพร้อมจิตหยาบ
จากมิติที่หกไปสู่มิติที่ 10 และ 11 ได้โดยอัตโนมัติ
จนพร้อมที่จะหลุดพ้นกลับบ้านโดยไม่มีอะไรยาก
และไม่ต้องให้ใครช่วยเหลืออีกด้วย

การปฏิบัติธรรมเพื่อนำพาตนเองสู่สภาวะนิพพาน
และการบรรลุธรรมขั้นสูงสุด คือ หลุดพ้นนั้น
ในกาลอดีตที่ผ่านมาจนถึงยุคแห่งจิตจักรวาลนี้
มนุษย์โลกมองว่าเป็นเรื่องยากเป็นเรื่องลำบากเกิน
ก็เพราะเหตุว่า “คนนำทางตาบอด” ถูกมอดหลอก
ด้วยการบิดเบือนพระวจนะของพระศาสดามาตลอด

เพียงเพื่อให้มนุษย์โลกติดกับดักของกฎแห่งกรรม
เพราะเข้าถึงอำนาจทางปัญญาและความรักแท้มิได้
จนต้องเปลี่ยนภพชาติอยู่เรื่อยๆจึงขาดการต่อเนื่อง
ในการยกระดับจิตหยาบสู่มิติของจิตวิญญาณ

นอกจากนั้นภารกิจการใช้เมตตาธรรมค้ำจุนโลก
พวกท่านส่วนมากต่างก็ล้มเหลวกันมาตลอดเช่นกัน
เพราะตกเป็นทาสกิเลสมารจากการขาดสติกันทั้งนั้น
พอจะหาวิธีฝึกสติสร้างสติก็กลับถูกมอดมารหลอก
ให้นั่งฝึกปฏิบัติอยู่คนเดียวให้เรียนรู้อยู่กับโลกส่วนตัว
โดยไม่มีใครอื่นช่วยยื่นบททดสอบการครองสติให้
ซึ่งต่อให้ฝึกกันนานแค่ไหนสติกำกับกิเลสก็ไม่เกิด
เพราะมิได้ฝึกทักษะในชีวิตจริงสถานการณ์จริงนั่นเอง

ถ้าท่านทั้งหลายยังเป็นลิงหวงเถาวัลย์
ไม่นำพระโอวาทที่เราสื่อมาไปขบคิดพิจารณา
จิตวิญญาณของท่านทั้งหลายจักต้องผจญภัยแน่แล้ว
เพราะจิตหยาบเหลวไหลไม่ใส่ใจในจิตวิญญาณ
ซึ่งเป็นตัวตนที่แท้จริงของท่านเองเลย
ทั้งๆที่บัดนี้พวกท่านก็ได้รู้ความจริงกันแล้วว่า
จิตหยาบก็คือตัวท่านเองขณะเกิดเป็นมนุษย์
เมื่อตายเมื่อไหร่จิตหยาบจะตายพร้อมกับกายสังขาร
ตัวท่านจะคืนกลับสู่จิตวิญญาณซึ่งเป็นตัวจริงอีกครั้ง

จิตวิญญาณคือตัวตนที่แท้จริงของท่าน
ต้องพึ่งพาจิตหยาบก็คือตัวท่านที่แบ่งภาคออกมา
เพื่อทำหน้าที่แทนในขณะดำเนินชีวิตเป็นมนุษย์
ท่านเข้าใจหรือยังว่า “อัตตาหิ อัตตโนนาโถ” นั้น
มันแปลความว่า #ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน คือ อย่างไร

ความหมายที่แท้จริงก็คือ
ตัวเองคือจิตวิญญาณต้องพึ่งตัวเองก็คือจิตหยาบ
ในขณะได้รับโอกาสให้มาเกิดเป็นมนุษย์
นี่เป็นความจริงในระดับอนุตรธรรม
ที่เรารู้ว่าพวกท่านยังไม่รู้ไม่เข้าใจ
จงละเลิกการปฏิบัติธรรมแบบเพ้อเจ้อกันได้แล้ว

พระบิดาทรงพิพากษาโลกแล้ว
ช่างเท็คนิกกำลังปฏิบัติการชำระโลกและมนุษย์
อย่างเข้มข้นยิ่งขึ้นเรื่อยๆ
จงก้าวตามมรรควิถีจิตจักรวาลกันเถิด
ด่านนภาลัยประตูมิติสู่การหลุดพ้น
พร้อมจะเปิดให้อีกครั้งเพื่อให้ท่านกลับบ้าน
ผู้ที่ดีแต่พูดและผู้ที่ปฏิเสธพระบิดา
จะไม่สามารถก้าวผ่านประตูมิตินี้ออกไปได้

กราบพระบาทพระบิดาทรงเมตตา

เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
29/06/2022

28 มิถุนายน 2565

สนทนาประสาจิตจักรวาล 28/06/2022

พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย

เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า

 

ถ้า “รถยนต์” คันหนึ่ง เป็น #เครื่องยนต์กลไก

ที่ถูก #ออกแบบมา เพื่อใช้ในการเคลื่อนที่

สำหรับการเดินทางไปไหนมาไหนบนโลกใบนี้แล้ว

#เครื่องยนต์แห่งกรรมรูปธรรมมนุษย์ ก็เช่นกัน

พระผู้สร้างหรือองค์ #จิตจักรวาล ก็ทรงออกแบบให้

มีพลังอำนาจและหน้าที่ไม่ต่างจากรถยนต์นั่นเอง

 

รถยนต์ต้องมีล้อในการเคลื่อนที่เดินทาง

มนุษย์ชายหญิงก็มี “เท้า” ที่จะใช้ก้าวเดินและหยัดยืน

 

รถยนต์ต้องมีเครื่องยนต์ 4 สูบกับหัวเทียน 4 แท่ง

เพื่อใช้ในการจุดระเบิดให้เกิด “พลังขับเคลื่อน”

อันหมายถึงพลังชีวิตที่ช่วยให้รถยนต์เคลื่อนที่ได้

มนุษย์ทุกคนก็มี “หัวใจ” รวมสี่ห้องติดตั้งอยู่ข้างใน

เพื่อทำหน้าที่คอยขับเคลื่อน #พลังงานชีวิต

ให้แก่เซลล์อวัยวะร่างกายทุกเซลล์ทุกชิ้นอย่างถ้วนทั่ว

เพื่อช่วยให้เครื่องยนต์แห่งกรรมทั้งระบบทำหน้าที่ได้

อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ

 

ถ้าหัวใจทั้งสี่ห้องของพวกท่านเกิดการชำรุด

หมายถึงเครื่องยนต์นั้นหัวเทียนบอดลูกสูบติดลูกสูบรั่ว

เครื่องยนต์แห่งกรรมคือกายสังขารของท่านก็ต้องตาย

เพราะเครื่องยนต์ดับจะเคลื่อนที่ไปไหนอีกไม่ได้แล้ว

แสดงว่าเครื่องยนต์ทั้งสี่สูบหรือหัวใจทั้งสี่ห้องของท่าน

มันสำคัญต่อความเป็นความตายของมนุษย์ใช่หรือไม่

 

แต่ในเครื่องยนต์เคลื่อนที่ได้ เช่น รถยนต์นั้น

นอกจากตัวเครื่องยนต์ 4 สูบที่เรายกตัวอย่างให้เห็นว่า

เป็นกลจักรสำคัญของรถยนต์คันนั้นที่พวกท่านต้องรู้ค่า

เพราะว่าทั้งพลังงานชีวิตของรถยนต์คันนั้น

กับพลังอำนาจการขับเคลื่อนเดินทางทั้งใกล้ไกล

และจำนวนระยะทางกับอายุขัยการใช้งานของรถคันนั้น

อันหมายถึงสมรรถนะของเครื่องยนต์ทั้งระบบ

มันเป็นหัวใจสำคัญของรถยนต์แต่ละคันโดยแท้

 

ดังนั้น

กลไกสำคัญที่ทำให้รถยนต์แต่ละคันมีพลังชีวิต

จนสามารถเคลื่อนที่ได้เดินทางได้ใช้เป็นพาหนะได้

ก็คือเครื่องยนต์ที่มีสี่สูบซึ่งสั่นสะเทือนได้ต่อเนื่อง

ถ้าเป็นมนุษย์ผู้ทำหน้าที่ขับเคลื่อนก็คือ #จิตหยาบ

 

แต่ทว่าท่านทั้งหลายจักต้องรู้เพิ่มเติมเอาไว้ด้วยว่า

รถยนต์แต่ละคันจะใช้การได้อย่างเต็มสมรรถนะหรือไม่

จะเป็นเครื่องยนต์ที่มีชีวิตคือสตาร์ทติดง่ายหรือไม่

มันยังขึ้นอยู่กับว่ารถยนต์คันนั้นมี #แบตเตอรี่ หรือไม่

ทางโรงงานผู้ผลิตติดตั้งแบตเตอรี่มาให้ด้วยหรือไม่

หรือแบตเตอรี่ลูกนั้นไม่มีไฟเพราะว่า #แบตเสื่อม

เนื่องจากไดชาร์จเสียเก็บไฟไม่อยู่หรือว่าไฟรั่ว เป็นต้น

 

ท่านจึงเห็นได้ว่า

นอกจากเครื่องยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วย 4 สูบ

ซึ่งเราเปรียบกับ “จิตหยาบ” ของพวกท่านแล้ว

เจ้า “แบตเตอรี่” ของรถยนต์แต่ละคันก็สำคัญด้วย

เพราะพลังงานชีวิตของรถยนต์มันจะเกิดขึ้นไม่ได้

ถ้ารถยนต์คันนั้นขาดพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่

เป็นผู้คอยค้ำจุนเกื้อหนุนทั้งระบบไว้

ด้วยการจ่ายพลังงานไฟฟ้าให้อย่างต่อเนื่อง

อีกทั้งยังคอยเก็บสะสมพลังงานไฟฟ้าเอาไว้ให้

ด้วยการคอยชาร์จเพิ่มเติมเต็มพลังไฟไว้ตลอดเวลา

ในตอนที่รถยนต์คันนั้น “จอด” ดับเครื่องหยุดใช้งาน

พลังงานไฟฟ้าก็จะไม่มีวันหมดสตาร์ทใหม่ได้ทันที

 

สำหรับเครื่องยนต์แห่งกรรมรูปธรรมมนุษย์นั้น

กลไกซึ่งทำหน้าที่เช่นเดียวกับ “แบตเตอรี่” รถยนต์

ก็คือ #จิตวิญญาณ ตัวตนแก่นแท้ที่มาเกิดเป็นมนุษย์

ซึ่งเจ้าของโรงงานคือ พระผู้เป็นเจ้าหรือพระผู้สร้าง

ไม่ทรงลืมที่จะติดตั้งเอาไว้ให้ใช้ในกายสังขารมนุษย์

 

ดังนั้น

พวกท่านทุกคนจะไม่มีใครมีชีวิตอยู่ได้หรือเกิดได้

หากไม่มีจิตวิญญาณคอยให้พลังสนับสนุนจิตหยาบ

เพื่อขับเคลื่อนเครื่องยนต์แห่งกรรมรูปธรรมมนุษย์

จิตหยาบกับกายหยาบจะหยุดทำงานคือไร้ชีวิตทันที

เมื่อใดที่จิตวิญญาณแก่นแท้ละออกไปจากกายสังขาร

แปลว่ามนุษย์จะต้องตายหรือจะมีอาการร่อแร่เสมอ

ถ้าจิตวิญญาณของคนผู้นั้นอ่อนพลังหรือเสื่อมบารมี

 

ความเสื่อมบารมีของจิตวิญญาณ

อาจเกิดได้จากสาเหตุดังต่อไปนี้ คือ

 

1.จิตหยาบไม่รู้ว่าตนมีจิตวิญญาณเร้นอยู่ข้างใน

จึงไม่เคยทำอะไรดีๆเพื่อจิตวิญญาณของตนเลย

บารมีทางจิตวิญญาณจึงไม่อาจเพิ่มเติมขึ้นมาได้

 

2.จิตหยาบใช้อำนาจบาตรใหญ่

ด้วยการทำอะไรตามกิเลสตัณหาของตนเองเท่านั้น

นิสัยเสพติดกิเลสเช่นนี้ก่อให้เกิดการหมุน #กรรมจักร

จะยังผลให้ขันธ์ 5 ผลิตพลังงานไฟฟ้าด้านลบออกมา

ที่โลกและจิตวิญญาณของตนใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้

 

เมื่อจิตวิญญาณได้แต่มอบพลังงานความรักออกมาให้

ขณะที่จิตหยาบเองกลับไม่ช่วยสร้างเพิ่มเติมเต็มคืน

พลังอำนาจทางจิตวิญญาณของท่านจึงร่อยหรอลง

 

3.จิตหยาบกระทำอุตริจากการหิวกิเลส

จึงตกเป็นทาสวิชาของมอดมาร

ที่หลอกให้ “เจาะ” จิตวิญญาณของตัวเองให้รั่ว

เพราะความอยากรวยเป็นเศรษฐีด้วยวิธีลัด

เพราะความอยากมีอำนาจเหนือมนุษย์คนอื่นๆ

โดยใช้วิธีการที่เรียกว่า #การสั่งจิตใต้สำนึก

เพื่อดูดดึงเอาพลังงานทางจิตวิญญาณออกมาใช้

ด้วยวิธีการทำร้ายจิตวิญญาณให้เสื่อมพลังบารมี

ในลักษณะของการดึงไฟจากแบตเตอรี่รถยนต์มาใช้

ขณะที่เครื่องยนต์นั้นกำลังดับเครื่องจอดอยู่เฉยๆ

ในที่สุดจิตวิญญาณก็ต้องรับกรรมไปเพราะไฟหมด

 

พี่ๆน้องๆที่รักทั้งหลาย

เมื่อจิตวิญญาณของท่านไฟหมดหรือแบ็ตเสื่อม

ตามเหตุปัจจัย 3 ประการที่เรากล่าวมาแล้วนั้น

ความบรรลัยวายวอดหรือล้มเหลวอย่างร้ายแรงก็คือ

ชีวิตบั้นปลายท่านผู้นั้นจะเป็นได้แค่ “ขยะรกโลก”

เพราะทำประโยชน์อะไรให้โลกของตนไม่ได้

 

เมื่อตายไปจากการเป็นคนในชาตินี้

จิตวิญญาณของท่านผู้นั้นจะไม่มีแรงดีดตนเอง

ออกไปจากกายหยาบหรือกายสังขารได้

จะสลัดหลุดออกจากกายหยาบได้ก็ต่อเมื่อ

ถูกประชุมเพลิงจนกายหยาบไหม้เป็นเถ้าถ่านแล้ว

จิตวิญญาณของท่านผู้นั้นจะทุกข์ทรมานแสนสาหัส

จากความร้อนแรงแห่งพระเพลิงในวันฌาปนกิจ

 

นอกจากนั้น

เมื่อเป็นอิสระจากกายหยาบแล้ว

จิตวิญญาณผู้ด้อยพลังบารมีของท่านผู้นั้น

จะมีอาการ “ไร้เรี่ยวแรง” เหมือนคนอ้วนที่อ่อนแอ

จนไม่สามารถเคลื่อนที่เดินทางไปไหนได้ดั่งใจ

คล้ายพวกรถซิ่งที่มีลักษณะ #ดังแต่ท่อล้อไม่หมุน

เนื่องจากพลังอำนาจของเมิร์คขะบาห์เสื่อมถอย

เสียชีวิตอยู่ตรงไหนจิตวิญญาณก็จะจอดอยู่ตรงนั้น

 

คนที่ทำบุญให้ได้ผลบุญไม่เป็น

คนที่หิวกิเลสอยากร่ำรวยด้วยวิธีที่มอดมารหลอก

ให้ท่านทำร้ายจิตวิญญาณตนเองอย่างโง่ง่ายไร้สติ

พึงสังวรเอาไว้ว่าสติปัญญาความสามารถและมือเท้า

หากเรียนรู้ที่จะใช้มันให้เป็นชาตินี้ก็รวยได้

การอยากรวยทางลัดซึ่งได้ผลไม่ได้ผลก็ไม่รู้

แต่ต้องแลกด้วยความวิบัติทางจิตวิญญาณมันคุ้มไหม

โดยไม่อาจกลับบ้านของจิตวิญญาณพร้อมคนอื่นๆได้

จนกลายเป็น “ขยะพลังงาน” ที่ต้องถูกกำจัดทิ้ง

เราว่าไม่น่าเป็นทางเลือกที่สวยงามของผู้ประเสริฐนะ

 

กราบพระบาทพระบิดาทรงเมตตา

 

เอเมน สาธุ

ป.วิสุทธิปัญญา

28/06/2022

สนทนาประสาจิตจักรวาล 28/06/2022

พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย

เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า

 

ถ้า “รถยนต์” คันหนึ่ง เป็น #เครื่องยนต์กลไก

ที่ถูก #ออกแบบมา เพื่อใช้ในการเคลื่อนที่

สำหรับการเดินทางไปไหนมาไหนบนโลกใบนี้แล้ว

#เครื่องยนต์แห่งกรรมรูปธรรมมนุษย์ ก็เช่นกัน

พระผู้สร้างหรือองค์ #จิตจักรวาล ก็ทรงออกแบบให้

มีพลังอำนาจและหน้าที่ไม่ต่างจากรถยนต์นั่นเอง

 

รถยนต์ต้องมีล้อในการเคลื่อนที่เดินทาง

มนุษย์ชายหญิงก็มี “เท้า” ที่จะใช้ก้าวเดินและหยัดยืน

 

รถยนต์ต้องมีเครื่องยนต์ 4 สูบกับหัวเทียน 4 แท่ง

เพื่อใช้ในการจุดระเบิดให้เกิด “พลังขับเคลื่อน”

อันหมายถึงพลังชีวิตที่ช่วยให้รถยนต์เคลื่อนที่ได้

มนุษย์ทุกคนก็มี “หัวใจ” รวมสี่ห้องติดตั้งอยู่ข้างใน

เพื่อทำหน้าที่คอยขับเคลื่อน #พลังงานชีวิต

ให้แก่เซลล์อวัยวะร่างกายทุกเซลล์ทุกชิ้นอย่างถ้วนทั่ว

เพื่อช่วยให้เครื่องยนต์แห่งกรรมทั้งระบบทำหน้าที่ได้

อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ

 

ถ้าหัวใจทั้งสี่ห้องของพวกท่านเกิดการชำรุด

หมายถึงเครื่องยนต์นั้นหัวเทียนบอดลูกสูบติดลูกสูบรั่ว

เครื่องยนต์แห่งกรรมคือกายสังขารของท่านก็ต้องตาย

เพราะเครื่องยนต์ดับจะเคลื่อนที่ไปไหนอีกไม่ได้แล้ว

แสดงว่าเครื่องยนต์ทั้งสี่สูบหรือหัวใจทั้งสี่ห้องของท่าน

มันสำคัญต่อความเป็นความตายของมนุษย์ใช่หรือไม่

 

แต่ในเครื่องยนต์เคลื่อนที่ได้ เช่น รถยนต์นั้น

นอกจากตัวเครื่องยนต์ 4 สูบที่เรายกตัวอย่างให้เห็นว่า

เป็นกลจักรสำคัญของรถยนต์คันนั้นที่พวกท่านต้องรู้ค่า

เพราะว่าทั้งพลังงานชีวิตของรถยนต์คันนั้น

กับพลังอำนาจการขับเคลื่อนเดินทางทั้งใกล้ไกล

และจำนวนระยะทางกับอายุขัยการใช้งานของรถคันนั้น

อันหมายถึงสมรรถนะของเครื่องยนต์ทั้งระบบ

มันเป็นหัวใจสำคัญของรถยนต์แต่ละคันโดยแท้

 

ดังนั้น

กลไกสำคัญที่ทำให้รถยนต์แต่ละคันมีพลังชีวิต

จนสามารถเคลื่อนที่ได้เดินทางได้ใช้เป็นพาหนะได้

ก็คือเครื่องยนต์ที่มีสี่สูบซึ่งสั่นสะเทือนได้ต่อเนื่อง

ถ้าเป็นมนุษย์ผู้ทำหน้าที่ขับเคลื่อนก็คือ #จิตหยาบ

 

แต่ทว่าท่านทั้งหลายจักต้องรู้เพิ่มเติมเอาไว้ด้วยว่า

รถยนต์แต่ละคันจะใช้การได้อย่างเต็มสมรรถนะหรือไม่

จะเป็นเครื่องยนต์ที่มีชีวิตคือสตาร์ทติดง่ายหรือไม่

มันยังขึ้นอยู่กับว่ารถยนต์คันนั้นมี #แบตเตอรี่ หรือไม่

ทางโรงงานผู้ผลิตติดตั้งแบตเตอรี่มาให้ด้วยหรือไม่

หรือแบตเตอรี่ลูกนั้นไม่มีไฟเพราะว่า #แบตเสื่อม

เนื่องจากไดชาร์จเสียเก็บไฟไม่อยู่หรือว่าไฟรั่ว เป็นต้น

 

ท่านจึงเห็นได้ว่า

นอกจากเครื่องยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วย 4 สูบ

ซึ่งเราเปรียบกับ “จิตหยาบ” ของพวกท่านแล้ว

เจ้า “แบตเตอรี่” ของรถยนต์แต่ละคันก็สำคัญด้วย

เพราะพลังงานชีวิตของรถยนต์มันจะเกิดขึ้นไม่ได้

ถ้ารถยนต์คันนั้นขาดพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่

เป็นผู้คอยค้ำจุนเกื้อหนุนทั้งระบบไว้

ด้วยการจ่ายพลังงานไฟฟ้าให้อย่างต่อเนื่อง

อีกทั้งยังคอยเก็บสะสมพลังงานไฟฟ้าเอาไว้ให้

ด้วยการคอยชาร์จเพิ่มเติมเต็มพลังไฟไว้ตลอดเวลา

ในตอนที่รถยนต์คันนั้น “จอด” ดับเครื่องหยุดใช้งาน

พลังงานไฟฟ้าก็จะไม่มีวันหมดสตาร์ทใหม่ได้ทันที

 

สำหรับเครื่องยนต์แห่งกรรมรูปธรรมมนุษย์นั้น

กลไกซึ่งทำหน้าที่เช่นเดียวกับ “แบตเตอรี่” รถยนต์

ก็คือ #จิตวิญญาณ ตัวตนแก่นแท้ที่มาเกิดเป็นมนุษย์

ซึ่งเจ้าของโรงงานคือ พระผู้เป็นเจ้าหรือพระผู้สร้าง

ไม่ทรงลืมที่จะติดตั้งเอาไว้ให้ใช้ในกายสังขารมนุษย์

 

ดังนั้น

พวกท่านทุกคนจะไม่มีใครมีชีวิตอยู่ได้หรือเกิดได้

หากไม่มีจิตวิญญาณคอยให้พลังสนับสนุนจิตหยาบ

เพื่อขับเคลื่อนเครื่องยนต์แห่งกรรมรูปธรรมมนุษย์

จิตหยาบกับกายหยาบจะหยุดทำงานคือไร้ชีวิตทันที

เมื่อใดที่จิตวิญญาณแก่นแท้ละออกไปจากกายสังขาร

แปลว่ามนุษย์จะต้องตายหรือจะมีอาการร่อแร่เสมอ

ถ้าจิตวิญญาณของคนผู้นั้นอ่อนพลังหรือเสื่อมบารมี

 

ความเสื่อมบารมีของจิตวิญญาณ

อาจเกิดได้จากสาเหตุดังต่อไปนี้ คือ

 

1.จิตหยาบไม่รู้ว่าตนมีจิตวิญญาณเร้นอยู่ข้างใน

จึงไม่เคยทำอะไรดีๆเพื่อจิตวิญญาณของตนเลย

บารมีทางจิตวิญญาณจึงไม่อาจเพิ่มเติมขึ้นมาได้

 

2.จิตหยาบใช้อำนาจบาตรใหญ่

ด้วยการทำอะไรตามกิเลสตัณหาของตนเองเท่านั้น

นิสัยเสพติดกิเลสเช่นนี้ก่อให้เกิดการหมุน #กรรมจักร

จะยังผลให้ขันธ์ 5 ผลิตพลังงานไฟฟ้าด้านลบออกมา

ที่โลกและจิตวิญญาณของตนใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้

 

เมื่อจิตวิญญาณได้แต่มอบพลังงานความรักออกมาให้

ขณะที่จิตหยาบเองกลับไม่ช่วยสร้างเพิ่มเติมเต็มคืน

พลังอำนาจทางจิตวิญญาณของท่านจึงร่อยหรอลง

 

3.จิตหยาบกระทำอุตริจากการหิวกิเลส

จึงตกเป็นทาสวิชาของมอดมาร

ที่หลอกให้ “เจาะ” จิตวิญญาณของตัวเองให้รั่ว

เพราะความอยากรวยเป็นเศรษฐีด้วยวิธีลัด

เพราะความอยากมีอำนาจเหนือมนุษย์คนอื่นๆ

โดยใช้วิธีการที่เรียกว่า #การสั่งจิตใต้สำนึก

เพื่อดูดดึงเอาพลังงานทางจิตวิญญาณออกมาใช้

ด้วยวิธีการทำร้ายจิตวิญญาณให้เสื่อมพลังบารมี

ในลักษณะของการดึงไฟจากแบตเตอรี่รถยนต์มาใช้

ขณะที่เครื่องยนต์นั้นกำลังดับเครื่องจอดอยู่เฉยๆ

ในที่สุดจิตวิญญาณก็ต้องรับกรรมไปเพราะไฟหมด

 

พี่ๆน้องๆที่รักทั้งหลาย

เมื่อจิตวิญญาณของท่านไฟหมดหรือแบ็ตเสื่อม

ตามเหตุปัจจัย 3 ประการที่เรากล่าวมาแล้วนั้น

ความบรรลัยวายวอดหรือล้มเหลวอย่างร้ายแรงก็คือ

ชีวิตบั้นปลายท่านผู้นั้นจะเป็นได้แค่ “ขยะรกโลก”

เพราะทำประโยชน์อะไรให้โลกของตนไม่ได้

 

เมื่อตายไปจากการเป็นคนในชาตินี้

จิตวิญญาณของท่านผู้นั้นจะไม่มีแรงดีดตนเอง

ออกไปจากกายหยาบหรือกายสังขารได้

จะสลัดหลุดออกจากกายหยาบได้ก็ต่อเมื่อ

ถูกประชุมเพลิงจนกายหยาบไหม้เป็นเถ้าถ่านแล้ว

จิตวิญญาณของท่านผู้นั้นจะทุกข์ทรมานแสนสาหัส

จากความร้อนแรงแห่งพระเพลิงในวันฌาปนกิจ

 

นอกจากนั้น

เมื่อเป็นอิสระจากกายหยาบแล้ว

จิตวิญญาณผู้ด้อยพลังบารมีของท่านผู้นั้น

จะมีอาการ “ไร้เรี่ยวแรง” เหมือนคนอ้วนที่อ่อนแอ

จนไม่สามารถเคลื่อนที่เดินทางไปไหนได้ดั่งใจ

คล้ายพวกรถซิ่งที่มีลักษณะ #ดังแต่ท่อล้อไม่หมุน

เนื่องจากพลังอำนาจของเมิร์คขะบาห์เสื่อมถอย

เสียชีวิตอยู่ตรงไหนจิตวิญญาณก็จะจอดอยู่ตรงนั้น

 

คนที่ทำบุญให้ได้ผลบุญไม่เป็น

คนที่หิวกิเลสอยากร่ำรวยด้วยวิธีที่มอดมารหลอก

ให้ท่านทำร้ายจิตวิญญาณตนเองอย่างโง่ง่ายไร้สติ

พึงสังวรเอาไว้ว่าสติปัญญาความสามารถและมือเท้า

หากเรียนรู้ที่จะใช้มันให้เป็นชาตินี้ก็รวยได้

การอยากรวยทางลัดซึ่งได้ผลไม่ได้ผลก็ไม่รู้

แต่ต้องแลกด้วยความวิบัติทางจิตวิญญาณมันคุ้มไหม

โดยไม่อาจกลับบ้านของจิตวิญญาณพร้อมคนอื่นๆได้

จนกลายเป็น “ขยะพลังงาน” ที่ต้องถูกกำจัดทิ้ง

เราว่าไม่น่าเป็นทางเลือกที่สวยงามของผู้ประเสริฐนะ

 

กราบพระบาทพระบิดาทรงเมตตา

 

เอเมน สาธุ

ป.วิสุทธิปัญญา

28/06/2022