31 พฤษภาคม 2566

คำสอน

 


ตะเกียงคุณพร้อมยัง?
สมองเป็นดั่งตะเกียง
ความเฉลียวฉลาดคือน้ำมัน
สติปัญญาคือแสงสว่าง
จิตที่นึกคิดคือใส่ตะเกียง

คำสอน

 


ดีชั่วเพราะตัวทำ
สูงต่ำเพราะทำตัว

30 พฤษภาคม 2566

คำสอน

 


ทุกสรรพสิ่งในอนันตจักรวาล
พระองค์ทรงกำหนดสร้างขึ้น
ด้วยพระจิตที่สมดุล
ทุกสิ่งจึงสมดุลเป็นหนึ่งเดียวกัน
เพราะไม่มีสิ่งใดเิกดจากความบังเอิญ

คำสอน


 วิสุทธิชนยุคสุดท้ายต้องรู้
แดนสุญตา
คือพระนิเวศน์ของพระเจ้า
เป็นบ้านเกิดของจิตวิญญาณมนุษย์
ที่อยู่บริเวณภายนอกเอกภพ
สิ้นยุคแล้วทุกรูปธรรมต้องกลับบ้าน
ด้วยการหลุดพ้นนิพพานให้ได้

คำสอน

 


จิตจักรวาลเป็นจิตของจักรวาล
เป็นจุดเริ่มต้นแห่งการเกิดของทุกสิ่ง
จิตจักรวาลคือพระผู้สร้าง
จึงทรงเป็นพระเจ้า
เหนือทุกสิ่งที่พระองค์ทรงสร้างขึ้น

คำสอน


 รักบริสุทธ์คือรักที่ไม่มีเงื่อนไข
คือรักที่ไม่ต้องการสิ่งใดตอบแทน
ใครทำดีก็รักได้ ทำชั่วก็อภัยให้
ไม่ว่าเขาคนนั้นจะเป็นใคร

คัมภีร์อนุตรธรรมภาคจิตจักรวาล

(เพื่อยุวจิตจักรวาลยุคสุดท้าย)
 
พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
 
เราเป็นผู้มาจากพระองค์มาเพื่อทำการรวบรวม
ยุวจิตจักรวาลผู้เป็นวิสุทธิปัญญาชนยุคสุดท้าย
ที่ยังคงได้รับโอกาสให้เป็นฝูงแกะผู้ชอบธรรม
ซึ่งดำรงตนเองทำมาหากินอยู่ทั่วแผ่นดินโลก
โดยจิตวิญญาณแก่นแท้ที่ยังพอจะมีสติตื่นรู้ได้
เมื่อเราจุดตะเกียงแห่งปัญญาของก้อนสมองให้
เพราะตะเกียงคือสมองสองก้อนที่ตั้งอยู่ในหัวนั้น
ยังพอจะมี “น้ำมัน” เป็นเชื้อเพลิงหลงเหลืออยู่
ที่พอจะให้แสงสว่างขึ้นมาได้บ้าง
 
บุคคลชอบธรรมที่พร้อมจะเป็นเจ้าสาวของเรา
จึงเป็นบุคคลจำนวนน้อยเหล่านี้ประเภทนี้เท่านั้น
นอกจากนี้หากพวกเขาไม่ทำตนเป็นคนหลับใหล
จากการอดทนรอคอยให้เจ้าบ่าวกลับมารับไม่ได้
พวกเขาก็จะเป็นลูกแกะผู้โง่ง่ายที่ถูกหลอกให้
ตามโจรผู้ร้ายที่ลักพาไปปีนรั้วเพื่อกลับเข้าคอก
ทั้งๆที่ประตูคอกแกะยังเปิดกว้างรอพวกเขาอยู่
 
นานมาแล้วที่โจรผู้ร้ายซึ่งเป็นปฏิปักษ์ต่อพระเจ้า
ผู้พลัดถิ่นซึ่งเดินทางข้ามฟ้ามาจากแดนไกลนั้น
ทั้งพวกที่ยังมีอัตตาตัวเป็นๆที่แฝงเร้นเป็นมอดอยู่
กับพวกหนึ่งซึ่งเป็นจิตวิญญาณโสโครกที่ตกค้าง
เพราะตัวตนต้องตายไปกับการชำระโลกครั้งที่สอง
ซึ่งเป็นจิตวิญญาณพวกแองเจิ้ลที่สิงสู่อยู่ในร่างคน
เพราะทำตนเป็นเทพเจ้าแห่งความรักที่หลอกลวง
จึงร่วงหล่นลงมาจากฟ้าเพราะปีกที่มีอยู่ไร้แรงบิน
ทุกวันนี้จิตวิญญาณผีโสโครกจะไปไหนต่อก็ไม่ได้
พวกเขาจึงเหมือนถูกกักขังกันอยู่ในระบบโลก
 
จะนิพพานเพื่อกลับบ้านแดนสุญตาก็ไม่ได้
เพราะมิได้อยู่ในเงื่อนไขพันธะสัญญา 6 ที่ให้ไว้
ตั้งแต่ภพชาติแรกที่ขันอาสามาเกิดในเอกภพนี้
จะเดินทางท่องจักรวาลอย่างอิสระต่อไปก็ไม่ได้
เพราะจิตวิญญาณตกจากมิติที่ 6D เหลือ 5D แล้ว
แปลว่าพลังจิตใต้สำนึกของจิตวิญญาณนั้นถดถอย
จนไม่อาจดีดตัวเองให้หลุดพ้นออกจากเอกภพได้
จึงต้องตกอยู่ในสภาพ “ผู้อนาถา” มายาวนาน
 
เพราะกลับบ้านเกิดเมืองนอนแดนสุญตาไม่ได้
เพราะพวกเขาทั้งหลายจำทางกลับบ้านกันไม่ได้
เพราะพวกเขาเสื่อมพลังทางจิตวิญญาณไปแล้ว
เพราะใช้พลังจิตใต้สำนึกอย่างพร่ำเพรื่อฟุ่มเฟือย
เพื่อการอวดอภิญญฤทธิ์อุตริจูงมนุษย์มาเป็นพวก
เพื่อตั้งตนเป็นปฏิปักษ์เป็นฝ่ายตรงข้ามกับพระเจ้า
ด้วยการบิดเบือนพระวจนะพระศาสดาของโลก
ด้วยการสอนมนุษย์ให้จิตเสพติดกิเลสจนจิตป่วย
 
ด้วยการสอนให้คนชอบธรรมปฏิบัติทำแบบผิดๆ
เช่น สอนให้เกลียดกลัวความทุกข์จนขึ้นสมอง
เพื่อให้ปฏิเสธการได้โอกาสให้มาเกิดเป็นมนุษย์
 
ปิดบังความจริงเรื่องการใช้เมตตาธรรมค้ำจุนโลก
ซึ่งเป็นภารกิจหลักของจิตวิญญาณมนุษย์ที่ต้องทำ
แล้วสอนให้หาทางตายเพื่อหนีทุกข์ไปจากโลกนี้
อันเป็นการสอนให้ละทิ้งหน้าที่ของจิตวิญญาณไป
โดยหลอกให้ใช้จิตวิญญาณตนเองที่หลงเชื่อตาม
สร้างสวรรค์มายาขึ้นมาเป็นดินแดนแห่งเทพเทวดา
ตามพิมพ์เขียวที่ถูกออกแบบเอาไว้ให้เห็นกันทั่ว
จนภาพที่เห็นนั้นถูกฝังเข้าไปอยู่ในหัว
เพื่อนำเอาจิตวิญญาณของตัวเองไปกักขังไว้บนนั้น
 
อันเป็นการกระทำในเชิงแก้แค้น
ที่พวกตนก็เหมือนถูกกักขังอยู่ในระบบโลกไว้
โดยต้องไร้อิสระอยู่ในนี้กันมาอย่างยาวนาน
ทั้งๆที่พวกตนกระทำผิดกฎแห่งดาราอาณาจักร
ขณะที่จิตวิญญาณมนุษย์ที่หลงมิติเชื่อตามเขา
เหตุเพราะความโง่ง่ายจากจิตหยาบที่ติดกิเลส
จนนิพพานกิเลสก่อนตายกันได้ยากเหลือแสน
 
พวกจิตวิญญาณของผีโสโครกเหล่านี้
สอนให้ชนชั้นผู้นำของโลกและมนุษย์บางคน
มีความทะเยอทะยานที่จะเป็นพระเจ้าเสียเอง
เพื่อด้อยค่าพระบิดาแห่งจิตวิญญาณของตน
ด้วยการสอนให้ใช้เวทย์มนต์คาถาภาษาแปลกๆ
โดยมีพวกตนคอยแฝงสำแดงฤทธิ์อยู่เบื้องหลัง
เช่น การสะกดจิต การเล่นแร่แปรธาตุ การล่องหน
การเสกสร้างวัตถุมายา การลอยตัว เสน่ห์ยาแฝด
การสร้างสอนอุตริ เช่น สร้างสำนักพ่อมดหมอผี
การเป็นร่างทรงองค์เทพแบบต่างๆอ้างว่าช่วยคน
โดยแลกเปลี่ยนกันกับการเซ่นสรวงเป็นอามิสบูชา
เพื่อขจัดความหิวโหยของตนจากการที่หลงมิติอยู่
เพราะจิตวิญญาณต้องตายอย่างอดหยากทรมาน
จากการจมน้ำตายก็มีจากการอดอาหารตายก็มาก
ในครั้งที่น้ำท่วมโลกเป็นครั้งที่สองนั้น
 
พวกคุณจะต้องรู้ว่า
ประดาเทพเจ้าทั้งหลายตั้งแต่สมัยอียิปต์โบราณ
จนถึงยุคของกรีกโรมันและอารยธรรมตะวันออก
ล้วนเป็นมายาของจิตวิญญาณพวกคนยักษ์ทั้งสิ้น
ที่แฝงตัวบังตนเข้ามาแทรกแซงกิจการของมนุษย์
ทำให้คนนำทางตาบอดพามนุษย์หลงทางนิพพาน
ด้วยการสอนให้ใฝ่อุตริอวิชชาหลงในอภิญญฤทธิ์
หลอกให้ทำอายตนะทั้งห้าทีดีอยู่พิการหรือมืดบอด
ให้เชื่อว่าเป็นวิธีปฏิบัติธรรมที่ถูกต้องตรงจริงแล้ว
เพื่อปิดกั้นการเรียนรู้ในทุกช่องทางเอาไว้ให้โง่งม
 
ทั้งๆที่พระศาสดาทรงเน้นว่าคนพิการนั้นบวชไม่ได้
เพราะเป้าหมายของการบวชแท้จริงคือ “บวชเรียน”
ถ้าหูหนวกตาบอดเสียแล้วจะเรียนรู้อะไรได้อีกเล่า
ขนาดตายังดีอยู่มนุษย์บางคนก็ยัง “ตาถั่ว” อยู่เลย
 
การสอนให้นิพพานในแบบของ “ตาลยอดด้วน”
ก็เป็นความร้ายกาจของผีโสโครกพวกนี้แหละคุณ
เพราะพวกเขาให้นิยามไว้ว่าถ้าตายแล้วขึ้นสวรรค์
โดยขึ้นไปอยู่บนนั้นได้แล้วไม่ต้องกลับลงมาเกิดอีก
แสดงว่าจิตวิญญาณหลุดพ้นไปจากกองทุกข์แล้ว
คำว่า “นิพพาน” ของมอดพวกนี้จึงได้หมายถึง
จิตวิญญาณคุณหมดทุกข์สิ้นทุกข์และพ้นกรรมแล้ว
ซึ่งเป็นความเท็จมิใช่สัจธรรมที่ตรงจริงแต่อย่างใด
 
เราปรารถนาจะให้พวกคุณใช้มหาสติในยามตื่น
ซึ่งเป็นการใช้อายตนะภายนอกทั้งห้าที่ยังดีอยู่
ปฏิบัติธรรมชาติสมาธิในแบบของผู้รู้ตัวทั่วพร้อม
คือตื่นตัวตื่นตาและตื่นใจพร้อมรับรู้และเรียนรู้เสมอ
เพื่อการสั่นสะเทือนจิตหยาบกับสมองด้วยขันธ์ห้า
ในการใช้ความรักเพื่อให้อันบริสุทธิ์ดำเนินชีวิต
ด้วยการคนตนเองทั้งสองมิติให้เป็นมนุษย์ให้ได้
ซึ่งเป็นเพียงวิธีเดียวที่พวกคุณจะเปลี่ยนตนเอง
จากการเป็นคนโง่ง่ายเพราะถูกผีโสโครกหลอก
ไปเป็นเทพบุตรเทพธิดาของพระเจ้าในแดนสุญตา
ซึ่งเป็นสวรรค์นิรันดรอันเป็นสวรรค์ที่แท้จริงกันได้
เพื่อให้การกลับมาฉุดช่วยพวกคุณให้รอดพ้นครั้งนี้
สามารถรอดจากภัยพิบัติในปฏิบัติการชำระโลก
รอดจากน้ำมือของมอดตัวเป็นๆเพราะคุณรู้ทันมัน
รอดจากความงมงายลุ่มหลงในสิ่งที่ไร้สาระต่างๆ
ที่ประดาผีโสโครกใช้เล่ห์กลมายามาหลอกลวงคุณ
 
เช่น เอาดินบนทางเดินมาปั้นเป็นรูปสัญลักษณ์
เอาต้นไม้ในป่าใหญ่มาแกะสลักเป็นรูปประดิษฐ์
เอาเหงื่อไคลและสิ่งโสโครกที่ขับออกจากร่างกาย
มากราบไหว้ดื่มกินเพื่อทำให้จิตวิญญาณเสื่อมพลัง
หลอกให้ปฏิบัติทำเพื่อตัวเองอยู่ในโลกมืดส่วนตัว
เพื่อจะลอยไปติดค้างอยู่บนสวรรค์มายาตามลำพัง
แทนที่จะปฏิบัติธรรมโดยใช้เมตตาธรรมค้ำจุนโลก
 
พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
หากใครต้องการกลับไปเป็นเทพบุตรเทพธิดา
ของพระบิดาแห่งจิตวิญญาณหรือพระเจ้า
ก็จงเลือกข้างพระองค์แล้วก้าวเดินมาทางเรา
เพราะทรงเห็นแก่พวกคุณที่เป็นบุตรมนุษย์
จึงมีพระบัญชาให้เรารุดกลับมารวบรวมพวกคุณไว้
 
เพราะการเร่งเวลาของพระเจ้า
ในปฏิบัติการชำระโลก ครั้งที่สี่นี้
ทุกสิ่งอย่างมันจะเกิดขึ้นรวดเร็วมาก
มนุษย์จำนวนไม่มากที่ทรงเลือกไว้เท่านั้น
จึงจะเป็นผู้ที่ได้รับประทานความรอด
 
ผู้ที่ยอมให้เราฉุดช่วยเท่านั้นที่จะ “รอด”
เราจะกล่าวความจริงให้รู้ว่า
นอกจากนั้นแล้วจะไม่มีมนุษย์รอดได้เลย
เพราะท่ามกลางมนุษย์ทั่วทั้งจักรวาลโลก
รวมทั้งผู้อยู่ในนามอื่นจะมิทรงโปรดให้มีเลย
 
สื่อถ่ายทอดคลื่นความคิดในระบบจิตสู่จิต
จากองค์จิตจักรวาลดวงใหญ่
 
ปัญญาวิสุทธิ์
30/05/2566

29 พฤษภาคม 2566

คำสอน


 กลับบ้านเถอะลูก
พระนิเวศน์ของพระเจ้า
เป็นบริเวณที่อยู่ข้างนอกเอกภพ
คือ แดนสุญตา
แดนสุญตาคือบ้านเกิดเมืองนอน
ของจิตวิญญาณมนุษย์
เมื่อสิ้นยุคทุคคนจึงต้องกลับบ้าน
เพราะโลกนี้ไม่ใช่บ้านของเรา

คำสอน

 


คำว่า "เจ้าสาว" ในพระคัมภีร์
พระเยซูทรงหมายถึงมนุษย์ทุกคน
ที่เลือกข้างพระเจ้า
โดยรอพระองค์เสด็จกลับมารับ
เพื่อกลับไปกราบพระเจ้าด้วยกัน
ก่อนวันสิ้นยุคพลังงานเก่าดั่งเจ้าสาว
ที่จดจ่อรอคอยเจ้าบ่าวมาจูงเข้าหอ

คำสอน

 


คนดีทำงานร่วมกันกับใครก้ได้
คนดีอยู่ใหนจิตใจก็มีความสุข
คนดีอยู่กับใครก็ไม่ทุกข์

คำสอน


 สัตว์โลกไม่มีจิตหยาบ
ค้องใช้สัญชาตญาณดำเนินชีวิต
สัตว์ต่างดาว
ไม่มีจิตหบาบมีแต่จิตวิญญาณ
จึงต้องใช้จิตใต้สำนึกดำเนินชีวิต
มนุษย์โลกมีจิตหยาบ
ต้องใช้จิตใต้สำนึกดำเนินชีวิตเท่านั้น
จะใช้จิตใต้สำนึกไม่ได้

คัมภีร์อนุตรธรรมภาคจิตจักรวาล

(เพื่อยุวจิตจักรวาลยุคสุดท้าย)
 
พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
 
เราเป็นผู้ที่กลับมาตามสัญญาพร้อมแสงสว่าง
เพื่อมาช่วยส่องทางนำพาจิตวิญญาณพวกคุณ
เดินทางกลับบ้านเกิดเมืองนอนยัง #แดนสุญตา
ที่อยู่ด้านนอก “เอกภพ” หรือ #อนันตจักรวาล
ซึ่งเป็น #พระนิเวศน์ ของพระเจ้าผู้เป็นใหญ่ที่สุด
โดยต้องจูงจิตวิญญาณพวกคุณกลับบ้านให้ทัน
ก่อนวันโลกมืดพร้อมกันนาน 56 วัน หรือ 8 ราตรี
ซึ่งเป็นคาบเวลาแห่งการสิ้นยุคพลังงานเก่า
 
เราจะมาช่วยพวกคุณทุกชนชาติทุกศาสนา
ให้รู้ความจริงว่าจิตวิญญาณของคุณเป็นใคร
จิตวิญญาณคุณมาจากไหน ใครให้มา มาทำอะไร
จิตวิญญาณของคุณให้สัจจะต่อพระเจ้าว่าอย่างไร
ถ้าคุณได้รับโอกาสให้มาเกิดเป็นมนุษย์โลก
 
มีสิ่งใดที่คุณไม่ควรกระทำและกระทำไปแล้วบ้าง
มีสิ่งใดที่คุณควรกระทำแต่ยังมิได้กระทำอีกบ้าง
มีสิ่งใดที่พวกคุณรู้ผิดเชื่อผิดเข้าใจผิดกันอยู่บ้าง
มีสิ่งใดที่พวกคุณอยากรู้อยู่แต่ยังหาผู้รู้ไม่พบบ้าง
มีสิ่งใดที่พวกคุณยังไม่รู้ว่าตนไม่รู้อะไรอยู่อีกบ้าง
 
คำตอบทั้งหมดล้วนเป็นความจริงขั้นสูงสุด
ที่เรียกว่า #อนุตรธรรม (อนุ+อุตร+ธรรม)
ซึ่งสัจธรรมขั้นสูงสุดนี้มนุษย์โลกไม่อาจคิดเองได้
มนุษย์จะเรียนรู้โดยการวิเคราะห์ด้วยสมองซีกซ้าย
จะเข้าถึงมันโดยวิธีการสังเคราะห์ด้วยสมองซีกขวา
ด้วยวิธีการเรียนรู้โลกียะธรรมกับโลกุตรธรรม
ตามปกติที่ปฏิบัติกันในชีวิตประจำวันไม่ได้
เพราะเป็นสัจธรรมความจริงของจิตวิญญาณ
เมื่อคุณได้เกิดเป็นมนุษย์ก็จะถูกปิดมิติเอาไว้
เพื่อมิให้การมาเกิดของคุณเป็นโมฆะนั่นเอง
 
วิธีการ “ปิดมิติ” ที่พระเจ้าทรงออกแบบไว้ก็คือ
ทรงกำหนดให้จิตวิญญาณคือตัวคุณเองที่แท้จริง
เป็นรูปธรรมทางพลังงานที่มีรูปทรงหกเหลี่ยมมุม
ที่แบ่งภาคออกมาเป็นกลุ่มพลังงานถึง 189 กลุ่ม
โดยกลุ่มพลังงานทั้ง 189 กลุ่มนี้คือ #จิตหยาบ
ซึ่งเป็นพลังอำนาจของจิตวิญญาณเองทั้งหมด
ที่มอบให้จิตหยาบใช้ทำหน้าที่แทนขณะเป็นมนุษย์
ซึ่งสัตว์มีชีวิตทั้งบนโลกและบนดาวอื่นๆทั่วจักรวาล
มิได้มีโครงสร้างหลักเป็น 2 จิตเหมือนมนุษย์โลก
 
หลักการมีสองภาคหรือสองจิตก็คือ
ทรงกำหนดให้จิตวิญญาณเร้นตนเองอยู่ที่พิทูอิทารี่
ทรงออกแบบให้จิตหยาบประจำอยู่ที่ต่อมไพเนียล
โดยจิตหยาบซึ่งเป็นคลื่นพลังงานทั้ง 189 กลุ่ม
ต้องใช้ความรักสั่นสะเทือนขันธ์ 5 เพื่อหมุนธรรมจักร
เมื่อเกิดการรับรู้สิ่งเร้าผ่านอายตนะภายนอกทั้งห้าได้
ทำให้เกิด “มโนกรรม” หรือพฤติกรรมของจิตหยาบ
ซึ่งเป็นการสั่นสะเทือนทางด้านบวกให้จงได้
 
สาเหตุที่ต้องสั่นสะเทือนทางด้านบวกก็เพราะว่า
ขันธ์ห้าคือรูปเวทนาสัญญาสังขารและวิญญาณนั้น
เป็นกระบวนการ 5 ขั้นตอนของจิตที่สั่นสะเทือนแล้ว
จะเกิดผลลัพธ์ของการสั่นสะเทือนได้ถึง 2 มิติคือ
มิติหลักจะเป็นมิติทางพลังงานด้านของจิตวิญญาณ
ที่เป็นพลังงานจิตในรูปของคลื่นไฟฟ้าด้านบวก
ซึ่งเป็นขั้นตอนสุดท้ายในขันธ์ห้าเรียกว่า “วิญญาณ”
กับมิติรองก็คือมิติทางกายภาพด้านของกายสังขาร
ที่เป็นพฤติกรรมภายนอกคือกายกรรมกับวจีกรรม
 
ดังนั้น
ห้าขั้นตอนของการสั่นสะเทือนของจิตหยาบ
ที่พวกคุณแต่โบราณเรียกกันว่า “ขันธ์ 5” นั้น
แท้จริงแล้วมันคืออำนาจทางจิตวิญญาณของคุณ
ซึ่งได้มอบหมายถ่ายทอดให้จิตหยาบทำการแทน
ในบทบาทของ #คนสองมิติ นั่นเอง
โดยจิตหยาบของคุณต้องเรียนรู้ที่จะรักเขาให้ได้
แม้ใครคนนั้นเขาจะทำตนไม่น่ารักกับคุณก็ตาม
เพื่อใช้การแสดงออกหรือการกระทำของคนอื่น
เป็นเงื่อนไขในการสั่นสะเทือนจิตหยาบด้านบวก
ที่เรียกว่าหมุนธรรมจักรในตนเองให้สำเร็จให้จงได้
แล้วแสดงพฤติกรรมทางกายสังขารด้านบวกออกมา
เพื่อเป็นเงื่อนไขด้านบวกให้เขาหมุนธรรมจักรด้วย
 
การร่วมกันหมุนธรรมจักรในลักษณะที่ว่านี้
นอกจากจะทำให้พวกคุณเป็น “คนสองมิติ” ได้
จนเรียกตนเองว่าเป็น #มนุษย์ ผู้มีจิตใจสูงแล้ว
ผลลัพธ์ของการหมุนธรรมจักรด้วยรักบริสุทธิ์นั้น
พวกคุณยังจะร่วมกันผลิตพลังงานจิตด้านบวก
เพื่อให้จิตใต้สำนึกของจิตวิญญาณคุณทุกคน
ช่วยกันเหวี่ยงพลังงานจิตด้านบวกนั้นออกมา
เพื่อให้แกนโลกจุดระเบิดอะตอมธาตุออกซิเจน
ระดับ Nuclear Fission ทำให้บิดตัวได้ต่อเนื่อง
จนยังผลให้โลกหมุนรอบตัวเองอย่างสมดุลได้
 
ขณะเดียวกัน
ถ้าพวกคุณหมุนธรรมจักรร่วมกันได้เรื่อยๆ
โดยมีชีวิตเป็นอมตะตามที่พระองค์ทรงกำหนดไว้
นั่นคือภายในเวลาไม่เกิน 60,000 ปีโลก
จิตหยาบคุณที่สั่นสะเทือนด้านบวกตั้งแต่วัยทารก
จะสามารถสร้างรูปทรงเรขาคณิตจากมิติที่ศูนย์
โดยค่อยๆยกระดับขึ้นสู่มิติที่สูงกว่าศูนย์ได้ด้วย
 
สำหรับจิตหยาบของทารกในครรภ์นั้น
แรกปฏิสนธิจะอยู่ในมิติที่ศูนย์เพราะไม่มีรูปทรง
เมื่อพ่อแม่รู้ว่าพวกตนกำลังจะมีลูกน้อยร้อยใจ
ก็จะสั่นสะเทือนจิตหยาบของท่านเป็นรักบริสุทธิ์
พลังอำนาจแห่งรักบริสุทธิ์ของพ่อแม่นี่แหละ
จะช่วยกันกระตุ้นจิตหยาบผ่านจิตวิญญาณทารก
ให้สั่นสะเทือนร่วมกันเป็นสามประสานขึ้นมาทันที
โดยมีสมการพลังร่วมด้านบวก คือ ∑βₓ รองรับ
พลังจิตด้านบวกที่ผลิตได้ 1% โลกจะนำไปใช้
นอกเหนือจากนี้จิตหยาบของทารกน้อยคนนั้น
จะเป็นผู้ได้รับอิทธิพลด้วยผลของการสั่นสะเทือน
ทำให้จิตหยาบจากมิติที่ศูนย์ยกระดับตนเองขึ้น
จนเกิดเป็นรูปทรงเรขาคณิตที่มีเหลี่ยมมุมเพิ่มได้
 
โดยภายใน 9 เดือนจิตหยาบจะยกระดับสูงขึ้น
เป็นรูปทรงเรขาคณิตที่มี 3 เหลี่ยมมุมชัดเจน
นั่นคือ ทารกนั้นจะมีความกว้างความยาวและหนา
จึงจะได้เวลาคลอดออกมาลืมตาดูโลกกันเสียที
จากนั้นทารกน้อยก็จะเปลี่ยนสภาพเป็นกุมารน้อย
คือมีความกว้างความยาวความหนาและความสูง
ซึ่งชี้วัดได้ว่าจิตหยาบได้ยกระดับถึงมิติที่ 4D
โดยกุมารน้อยคนนั้นจะลุกยืนนั่งวิ่งกระโดดได้แล้ว
 
ด้วยเหตุนี้เอง
การหมุนธรรมจักรในตนเองร่วมกันในครอบครัว
กับการหมุนร่วมกันกับคนใกล้ตัวไว้ตลอดเวลา
มันจึงเป็นหน้าที่หลักของจิตหยาบของพวกคุณ
ที่จะต้องทำมันให้สำเร็จเพื่อเป็นมนุษย์ให้จงได้
มิใช่เป็นได้แค่คอหยักๆสักแต่เป็น “คน” เท่านั้น
อีกทั้งมันยังช่วยยกระดับจิตหยาบของคุณเอง
ให้ถึงมิติที่ 6D ซึ่งเป็นมิติของจิตวิญญาณอีกด้วย
เพื่อหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวคือ “ดาว 12 แฉก”
จะได้พากันโบยบินกลับบ้านแดนสุญตากันเสียที
 
ที่ผ่านมาพวกคุณถูกปิดมิติไว้มิให้รู้ความจริงนี้
พระเจ้าจึงทรงบัญชาให้เรามาเป็นเจ้าบ่าวของคุณ
ให้กลับมาจูงมือเจ้าสาวผ่านประตูเรือนหอออกไป
เพื่อฉลองการแต่งงานในวันนิพพานไปจากเอกภพ
โดยเฉพาะเจ้าสาวที่เตรียมตะเกียงพร้อมน้ำมันไว้
และเฝ้ารอเจ้าบ่าวอยู่อย่างจดจ่อโดยไม่หลับใหล
เจ้าสาวจำพวกนี้จึงจะเป็นเจ้าสาวของเราที่แท้จริง
เพราะจิตหยาบกับจิตวิญญาณเป็นหนึ่งเดียวกันได้
ด้วยความขยันหมั่นหมุนธรรมจักร
โดยไม่เกียจคร้านและไม่เหลวไหล
 
เราขอยืนยันว่า
เรากลับมาเพื่อปกป้องพวกคุณมิให้สะดุดล้ม
เรากลับมาเพื่อช่วยพวกท่านต่อเบื้องพระพักตร์
มิให้กระทำในสิ่งที่น่าตำหนิของพระองค์อีกต่อไป
มิให้พวกท่านดีแต่กล่าวสรรเสริญพระองค์ด้วยปาก
จนเครื่องกำยานหอมเต็มล้นกระถางหน้าแท่นบูชา
แต่ทว่าในจิตสามนึกพวกคุณมิได้สั่นสะเทือน
ไปตามคำกล่าวเหล่านั้นเลยซึ่งพระองค์ทรงรู้อยู่
ถ้าพวกคุณเข้าใจและสำนึกที่เรากล่าวได้
กระถางกำยานนี้จะไม่ถูกทิ้งลงมายังโลกเร็วเกินไป
ขันพระพิโรธใบที่เจ็ดจะเพลาความรุนแรงลง
 
สื่อถ่ายทอดคลื่นความคิดในระบบจิตสู่จิต
จากองค์จิตจักรวาลดวงใหญ่
 
ปัญญาวิสุทธิ์
29/05/2566

28 พฤษภาคม 2566

คำสอน

 


ผ่านประตูนิพพาน
ณ ด่านนภาลัย
4.หลุดพ้นสู่แดนสุญตา
3.นิพพานภพชาติ-สังสารวัฏ
2.นิพพานกรรมให้สิ้น
1.นิพพานกิเลสก่อนตาย
บันไดสุญตา

คำสอน

 


สัตว์ประจำโลกทุกชนิด
รักชีวิตและรักธรรมชาติหมือนมนุษย์
จงอย่างเบียดเบียน ทำร้ายทำลายกัน

คำสอน

 


พวกคนกน้าชื่อแต่ใจคด
หน้าใหว้ หลังหรอก
ต่อหน้าเป็นมิตร แต่จิตเป็นศัตรู
ปากอย่าง ใจอย่าง
รู้หน้า ไม่รู้ใจ
คบหาคนผิด ร่วมคิดต้านครู
พระเจ้าไม่ทรงโปรด

คำสอน

 

เจ้ากรรมนายเวร
ที่น่ากลัวที่สุด คือ คนใกล้ตัว
จะทำผิดคิดชั่วแก้แค้นคุณ
ในทันทีที่คุณเผลอ


คัมภีร์อนุตรธรรมภาคจิตจักรวาล

(เพื่อยุวจิตจักรวาลยุคสุดท้าย)
 
พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
 
ขณะที่โลกกำลังจะเปลี่ยนผ่านสู่ยุคพลังงานใหม่
มนุษย์ทุกคนและสิ่งมีชีวิตในระบบโลกทุกชนิด
จักต้องเผชิญกับสถานการณ์ภัยพิบัติที่หนักหนา
ยิ่งกว่าปฏิบัติการชำระโลกในสามครั้งที่ผ่านมา
 
โดยการชำระโลกครั้งแรกเคยเกิดขึ้นมาแล้ว
ในยุคของ #เลมูเรีย-แอ็ตแลนติส สองทวีปใหญ่
สาเหตุเพราะชาวโลกถูกมอดหลอกให้โกงตาย
ด้วยการใช้ “เตียงวิเศษ” ที่เป็นแบบอุโมงค์ไฟฟ้า
สร้างสนามแม่เหล็กไฟฟ้าเทียมขึ้นมาเอง
 
โดยให้ผู้ต้องการปรับสมดุลทางไฟฟ้าในร่างกาย
เข้าไปนอนบนเตียงอยู่ในอุโมงค์ดังกล่าวนี้
โดยเตียงนั้นสามารถที่จะหมุนไปในทิศที่ต้องการ
เพื่อให้กลไกเส้นใยแม่เหล็กดิจิทัลลิสของเซลล์
เคลื่อนตัดผ่านสนามแม่เหล็กไฟฟ้าเทียมที่สร้างขึ้น
จนทำให้ขั้วต่างทางไฟฟ้าในเซลล์อวัยวะร่างกาย
มีความต่างศักย์มากขึ้นจากเดิมเพิ่มความสมดุลได้
สำหรับคนที่ร่างกายเจ็บป่วยหรือทรุดโทรม
เพราะร่างกายเสียสมดุลทางไฟฟ้าไปจากปกติ
 
ส่วนรายที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงดีอยู่แล้วนั้น
หากใช้เตียงวิเศษนี้ก็จะช่วยรักษาสมดุลทางไฟฟ้า
ทำให้สุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์อายุยืนยาวต่อไปได้
ซึ่งผู้ที่ได้รับโอกาสให้ใช้เตียงวิเศษนี้คือคนชั้นสูง
ระดับผู้นำของบ้านเมืองจำนวนหยิบมือเดียวเท่านั้น
ยังผลให้กระบวนการ #กฎแห่งกรรม ของมนุษย์
ขาดความสมดุลไปเพราะไม่เสมอภาคกันนั่นเอง
นี่คือสาเหตุที่มาของปฏิบัติการชำระโลกครั้งที่หนึ่ง
 
พระเจ้าทรงใช้ภัยพิบัติจากแผ่นดินพิโรธชำระบาป
ยังผลให้ทวีปใหญ่สุดคือ “ทวีปแอ็ตแลนติส” ล่มจม
โดยทำให้แผ่นเปลือกโลกแตกออกเป็นทวีปเล็กๆ
ขณะที่แผ่นดินใหญ่จะพลิกตีลังกาลงไปอยู่ข้างล่าง
ส่วนที่เคยจมอยู่ด้านล่างก็จะพลิกหงายขึ้นมาแทนที่
ปัจจุบันแผ่นดินที่ว่านี้คือที่ตั้งของ #ทวีปอเมริกา
ซึ่งหลังปฏิบัติการชำระโลกครั้งที่สี่ที่กำลังจะเกิดนี้
แผ่นดินแอ็ตแลนติสที่จมอยู่ข้างล่างมายาวนาน
จะถูกทำให้พลิกหงายกลับขึ้นมาอยู่ข้างบนอีกครั้ง
เพื่อให้คนที่ได้รับโอกาสผ่านสู่ยุคพลังงานใหม่ได้
รวมทั้งให้เด็กจากฟ้าสีครามที่จะเข้ามาเกิดใหม่
เพื่อใช้เมตตาธรรมหมุนธรรมจักรค้ำจุนสมดุลโลก
ได้ประจักษ์หลักฐานการพิพากษาโลกของพระเจ้า
ให้รู้ว่าพระเจ้านั้นมีจริงที่ใครจะทำตนนอกคอกมิได้
 
หลังการชำระโลกในครั้งแรกนั้น
แผ่นดินโลกที่เหลืออยู่จะเป็นพื้นที่ของทวีปเลมูเรีย
กับแผ่นดินที่เป็นเกาะน้อยใหญ่จำนวนหนึ่ง
ซึ่งเหลือจากการแตกหักและไม่จมทะเลไปทั้งหมด
 
ส่วนปฏิบัติการชำระโลกครั้งที่สอง
ที่เกิดขึ้นในยุคของ “โนอาห์” นั้น
พระเจ้าทรงใช้น้ำเป็นเครื่องมือสร้างภัยพิบัติ
ทำให้เกิดน้ำท่วมพร้อมกันทั่วแผ่นดินโลก
เพื่อทรงกำจัดพวก “คนยักษ์” พันธุ์ผสมผ่าเหล่า
ระหว่างมนุษย์กับพวกที่มีปีกซึ่งถูกขับไล่ออกมา
เพราะฝ่าฝืนกฎของดาวของตนเอง
สิ่งมีชีวิตพวกนี้บ้ากามเห็นมนุษย์รูปงามไม่ได้
ก็จะจับคู่สมสู่กันกับมนุษย์อย่างหื่นกระหาย
ทำให้เกิดผลิตผลผ่าเหล่าขึ้นมาที่เรียกว่าคนยักษ์
ตามที่เราเคยกล่าวไว้ก่อนหน้านี้มาแล้วนั่นแหละ
 
เพราะความมักมากในกามคุณโดยไม่มีจิตหยาบ
จึงทำให้พลังทางจิตวิญญาณคือพลังจิตใต้สำนึก
เสื่อมลงอย่างรวดเร็วจนสิ้นความเป็นอมตะไปหมด
แปลว่าพวกเขาต้องตายโดยไม่มีหน้าที่จะต้องตาย
คล้ายๆกันกับความเสื่อมจากอมตะของมนุษย์
เพราะถูกหลอกให้เสพกิเลสและกินเลือดเนื้อสัตว์
จนเป็นทาสของกฎแห่งกรรมและมีสังสารวัฏขึ้นมา
โดยไม่จำเป็นจะต้องตายเพราะมิใช่หน้าที่เช่นกัน
 
พวกที่บินมาจากต่างดาวที่ว่านี้
มีชื่อนามเรียกขานว่า “แองเจิ้ล” ที่มีรูปหล่อมาก
สัญลักษณ์ของพวกเขาเผ่านี้ก็คือ #กามเทพ
โดยอ้างว่าพวกตนเป็นผู้แผลงศรให้มนุษย์ในยุคนั้น
จับคู่สมสู่กันสอนมนุษย์ให้รู้จักการมีเพศสัมพันธ์กัน
โดยอ้างว่าพวกตนเป็น #เทพเจ้าแห่งความรัก
เพราะบินลงมาจากฟ้าเพื่อเอาความรักมาฝาก
ทั้งๆที่เป็น “ความใคร่” มิใช่ความรักแต่อย่างใด
ทำให้มนุษย์โลกพากันหลงเชื่อตามจนถึงทุกวันนี้
ทุกงานแต่งงานก็จะมีตัวกามเทพปรากฏอยู่เสมอ
 
ในยุคนั้น
ภารกิจทางจิตวิญญาณของมนุษย์โลกล้มเหลว
พระเจ้าต้องทรงชำระโลกครั้งใหญ่เป็นครั้งที่สอง
เพื่อถอนต้นไม้ที่พระองค์มิได้ทรงปลูกไว้บนโลก
คือคนยักษ์จำนวนมากไปจากระบบโลกให้หมดสิ้น
เนื่องจากคนยักษ์พันธุ์ไขว้ของมนุษย์กับแองเจิ้ล
มีจิตวิญญาณกามเทพหรือแองเจิ้ลเป็นแก่นแท้
มิใช่จิตวิญญาณของมนุษย์โลกเลยสักรายเดียว
หากทรงปล่อยไว้ไม่ทำอะไรเลยโลกนี้ก็จะมีปัญหา
เพราะจะทำให้ชาวโลกบ้ากามกันไปหมดสิ้น
ที่สำคัญคือโลกมนุษย์ก็จะเต็มล้นไปด้วยคนยักษ์
จนเจ้าของโลกจะไม่มีโอกาสกลับมาเกิดได้อีกเลย
นี่จึงเป็นสาเหตุของปฏิบัติการชำระโลกครั้งที่สอง
 
ส่วนปฏิบัติการชำระโลกครั้งที่สามนั้น
พระเจ้าทรงยอมให้มนุษย์ที่ปฏิเสธพระองค์
โดยไม่กินขนมปังที่ประทานผ่านพระบุตรเอกมาให้
แต่เสพติดกิเลสที่พวกมอดถ่ายทอดเอาไว้ให้
ก่อศึกสงครามฆ่าฟันกันตายเพื่อแย่งอำนาจกันเอง
ในรูปของนักรบนักล่าและนักฆ่าตั้งแต่ยุคโรมันแล้ว
เรื่อยมาจนถึงยุคสงครามโลกครั้งที่หนึ่งและสอง
เป็นการฆ่ากันตายเองเพื่อลดจำนวนประชากรโลก
 
มาถึงปฏิบัติการชำระโลกครั้งที่สี่นี้
จะเป็นช่วงเวลาที่ต้องปฏิบัติการนานที่สุด
ซึ่งจะต้องใช้เวลานานไม่น้อยกว่าสามสิบปีโลก
โดยทุกวันนี้เสียงแตรเสียงระฆังของพระเจ้า
ได้ถูกเป่าถูกเคาะมาเป็นระยะเวลาพอสมควรแล้ว
 
สาเหตุที่ต้องใช้เวลาปฏิบัติการนานก็เพราะว่า
ทรงเว้นช่วงให้ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นในระยะแรกนั้น
เป็นภัยพิบัติที่เกิดจากการเสียสมดุลของระบบโลก
จากน้ำมือของมนุษย์ที่ทำให้โลกเสียสมดุลกันเอง
ส่วนภัยพิบัติในระยะกลางกับระยะสุดท้ายนั้น
มันจะเป็นไปตามแผนปฏิบัติการของพระเจ้าทั้งสิ้น
โดยนับวันก็จะเกิดถี่ขึ้นและเกิดรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
จากไกลตัวคุณจนเข้ามาเกิดใกล้ตัวคุณมากขึ้น
จนในที่สุดมันก็จะมาเกิดภายใต้ฝ่าเท้าของคุณ
 
คนบาปชั่วจะถูกหยิบโยนออกไปจากระบบโลก
พวกที่หลุดลอยไปติดค้างอยู่บนสวรรค์มายา
เพราะเป็นคนชอบธรรมแต่ยังติดกิเลสตัณหาอยู่
จึงไม่รับฟังพระโอวาทที่เราสื่อมาจากพระเจ้า
จิตวิญญาณทั้งหมดจะถูกนำไปถ่วงไว้ที่แกนโลก
เพราะน้ำหนักมวลบนโลกจะเหลือน้อยลง
เพื่อสร้างสมดุลใหม่ให้โลกไม่แกว่งขณะหมุน
จึงต้องเพิ่มน้ำหนักมวลในแกนโลกนั่นเอง
 
เพราะจิตวิญญาณของผู้หลุดลอยบนสวรรค์มายา
ที่ไปติดค้างอยู่บนนั้นวันๆได้แต่นั่งทำเพื่อตนเอง
เพราะหลงทางนิพพานเนื่องจากเชื่อตามมอด
อุตส่าห์ขันอาสามาเกิดเป็นเพื่อนร่วมงานกับโลก
แต่กลับถูกหลอกให้นั่งทำเพื่อตนเองอยู่คนเดียว
เพื่อไม่ให้เสียชาติเกิดจึงถูกส่งลงไปในแกนโลก
จะได้ใช้เวลาทำหน้าที่อยู่ในนั้นให้เกิดประโยชน์
ในยุคพลังงานใหม่ที่จะมาถึงในอีกไม่นานนี้ได้
 
ส่วนจิตวิญญาณของคนบาป
ที่ทรงเห็นว่าส่งลงไปชำระในนรกไม่ได้แล้ว
เนื่องจากจิตวิญญาณเป็นรูพรุนเต็มไปหมด
เพราะชอบใช้จิตใต้สำนึกตามสิ่งมีชีวิตบนดาวอื่น
ทั้งๆที่ตนมีจิตหยาบหรือจิตสามนึกให้ใช้ก็ไม่ใช้
โดยทำตัวเป็นพวก “อมนุษย์อุตริ” กันตลอดมา
จิตวิญญาณเหล่านี้จะถูก “ระเบิดทิ้ง” จนหมดสิ้น
 
ส่วนพวกที่ยังพอมีโอกาสแก้ตัวได้บ้าง
จะต้องอยู่ในสภาพของปลาที่ยังหายใจด้วยปอด
มนุษย์บางรายจะต้องตกลงไปอยู่ในบ่อย่ำองุ่น
ลงไปลุ้นกันเองว่าจะมีปัญญาปีนขึ้นมาได้ไหม
ไม่ก็จะถูกส่งลงไปในบึงไฟเพื่อสร้างสำนึกใหม่
ให้เป็นโอกาสสุดท้ายของคุณผู้นั้นแล้ว
 
สื่อถ่ายทอดคลื่นความคิดในระบบจิตสู่จิต
จากองค์จิตจักรวาลดวงใหญ่
 
ปัญญาวิสุทธิ์
28/05/2566

27 พฤษภาคม 2566

คำสอน

 


จงเลิกคิดบวก
เพื่อมองโลกแต่แง่ดีเท่านั้น
เพราะว่าคุณอาจถูกหลอกหลวงได้

คำสอน


คนที่มีอัตตาสูง
1.เอาแต่ใจตัวเอง
2.ขี้น้อยใจ ขี้ระแวง
3.โกรธง่าย โมโหร้าย
4.ไม่ยอมก้มหัวให้ใคร
5.จำความไม่ดีผู้อื่นไว้นาน
6.ชอบมองโลกในแง่ร้าย

คัมภีร์อนุตรธรรมภาคจิตจักรวาล

(เพื่อยุวจิตจักรวาลยุคสุดท้าย)
 
พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
 
นอกจากชาวโลกจะถูกกระทำย่ำยีโดยศัตรู
ผู้ข้ามมิติมาจากนอกระบบโลก 4 วิธีที่กล่าวแล้ว
ต่อไปนี้จะเป็นวิธีที่ห้าที่พวกเขากำลังกระทำอยู่
 
5.ใช้วิธีทำให้มนุษย์เป็นดั่งหุ่นยนต์
 
โดยควบคุมความคิดของสมองด้วยคอมพิวเตอร์
โดยฝังไมโครชิปไว้ที่ท้ายทอยเชื่อมกับก้านสมอง
เพื่อใช้พลังจิตใต้สำนึกของพวกมอดคอยบงการ
สัญชาติญาณมนุษย์ให้คอยรับคำสั่งเพื่อทำตาม
ด้วยการสื่อสารเป็น “ภาษาจิต” ที่เป็นภาษาสากล
ระหว่างพวกเขากับมนุษย์แต่ละคนที่ถูกเลือก
 
ไม่ว่าจะเป็นสมองกลที่เรียกว่า “คอมพิวเตอร์”
หรือ “ไมโครชิป” ชิ้นเล็กจิ๋วขนาดเท่าหัวไม้ขีดไฟ
ล้วนเป็นอุปกรณ์เท็คโนโลยีที่มอดล้วนเชี่ยวชาญ
ซึ่งได้ผลิตสร้างขึ้นมาใช้กันเป็นเวลานานมาแล้ว
รวมทั้งพวกนี้ยังเชี่ยวชาญการผลิตอาวุธสงคราม
ผลิตเครื่องจักรกลผลิตเครื่องทุ่นแรงผลิตสารเคมี
ผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์และผลิตเชื้อโรคต่างๆ
จากห้องทดลองทั้งบนโลกเองและบนดาวดวงอื่น
 
เพราะศัตรูมนุษย์พวกนี้
มีอาชีพขายอาวุธ ขายวัตถุเท็คโนโลยี
ขายเครื่องมือวิทยาศาสตร์ ขายเครื่องจักรกล
ขายเวชภัณฑ์ ขายยารักษาโรค ขายวัคซีน
ขายเครื่องมือผ่าตัดสารพัดชนิดที่ล้วนทันสมัย
ชีวิตและความปลอดภัยของมนุษย์โลกทั้งหลาย
จึงตกอยู่ในกำมือของศัตรูพวกนี้กันมาตลอด
 
วันดีคืนดีก็หาทางปลุกปั่นยุยงให้ชาวโลก
ลุกขึ้นมาจับอาวุธทำศึกสงครามฆ่ากันเอง
ทั้งสงครามข้ามชาติและสงครามกลางเมือง
เพื่อต้องการจะขายอาวุธสงครามของตนนั่นเอง
 
วันดีคืนดีก็เพาะเชื้อโรคพันธุ์ใหม่ขึ้นมาจากแล็ป
แล้วนำไปปล่อยให้แพร่ระบาดในประเทศล้าหลัง
เป็นประเทศที่ประชาชนมีคุณภาพชีวิตค่อนข้างต่ำ
เพื่อต้องการขาย “วัคซีน” และเวชภัณฑ์ต่างๆ
ทำให้มนุษย์ที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ตกเป็นทาสได้ง่าย
เพราะเกิดความกลัวตายเป็นเหตุผลหลักตลอดมา
จึงยอมซ้ายหันขวาหันตามคำบัญชากันอย่างว่าง่าย
เพราะเข้าใจผิดคิดว่าพวกเขาปรารถนาดีทั้งที่ไม่ใช่
 
นอกจากนั้น
พวกเขายังสอนให้ชาวโลกเสพติดกิเลส
จนจิตหยาบเข้าถึงการสั่นสะเทือนเซลล์สมองไม่ได้
เมื่อเซลล์สมองสั่นสะเทือนไม่ไหวเหตุเพราะจิตตก
ชาวโลกส่วนใหญ่จึงเกิดความมืดบอดทางปัญญา
เพราะมีกิเลสหนาตัณหารุงรังบ้าคลั่งทางอารมณ์
จนไม่อาจหมุนธรรมจักรในตนเองและหมุนร่วมกันได้
 
ศัตรูมนุษย์พวกนี้จะยังมีกายหยาบอยู่มิใช่ผีโสโครก
โดยจะแฝงตัวปฏิบัติการอยู่เบื้องหลังชนชั้นผู้นำ
เพื่อคอยชักจูงชักใยและบงการชาติมหาอำนาจต่างๆ
สร้างความวุ่นวายให้แก่ชาวโลกมิให้อยู่อย่างสุขสงบ
ที่สำคัญคือพวกนี้ต้องการลดจำนวนประชากรโลก
ให้ตายหมู่จากภัยสงครามให้ตายจากเชื้อโรคระบาด
ให้ตายผ่อนส่งจากสารเคมีที่ปนเปื้อนในพืชผักผลไม้
ตายเพราะสารเคมีตกค้างจากยาฆ่าแมลงและวัชพืช
 
ขณะที่ชาวบ้านส่วนใหญ่ต้องตายไปก่อนวัยอันควร
เพราะถูกหลอกให้เสพติดกิเลสจนเลือดมีค่าเป็นลบ
ทำให้เซลล์อวัยวะร่างกายขาดพลังงานที่ควรจะมี
สารเคมีพิษเมื่อรับเข้าสู่ร่างกายแล้วก็ขับออกไม่ได้
เซลล์อวัยวะร่างกายจึงพากันเสื่อมถอยลงไปเรื่อยๆ
จากที่ไม่ต้องตายก็ต้องมาตายกันหมดทุกคนเลย
เพราะมนุษย์เป็นเหมือนหุ่นยนต์ที่พร้อมจะรับคำสั่ง
พร้อมที่จะรองรับการกระทำมิดีมิร้ายของพวกมอด
อย่างไม่เอะใจหรือไม่ฉุกคิดให้ดีก่อนที่จะทำตาม
 
คงมีแต่ชนชั้นสูงกับชนชั้นผู้นำเท่านั้น
ที่จะมียาอายุวัฒนะจำพวกโสมพันปีให้รับประทาน
ซึ่งพวกมอดเป็นผู้นำมาบรรณาการเพื่อตีสนิทด้วย
โดยมอดกับมนุษย์มีผลประโยชน์ต่างตอบแทนกัน
เพราะคนเหล่านี้เห็นพวกมอดไม่มีใครตายสักคน
ตนก็เลยไม่อยากตายหรืออยากจะมีอายุยืนบ้าง
ยุคโบราณจึงมีมอดเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านหยูกยา
แถมมีความสามารถในการผ่าตัดอวัยวะที่ชำรุด
ให้กลับมาดีเป็นปกติได้ดังเดิมอีกต่างหากด้วย
 
มีอยู่เรื่องหนึ่งในสมัยเลมูเรียแอ็ตแลนติส
ที่พระเจ้าได้ทรงชำระล้างโลกไปในครั้งแรก
สาเหตุหลักที่ต้องชำระก็เพราะชนชั้นนำของโลก
ซึ่งเป็นคนจำนวนน้อยทำให้โลกเสียสมดุลไป
จากการใช้ “เตียงวิเศษ” โดยมอดเป็นผู้สร้างขึ้น
โดยที่ใครต้องการมีอายุยืนคราวละ 3-5 ปีแล้ว
ก็ให้ขึ้นไปนอนอยู่บนเตียงวิเศษนี้เท่านั้นเอง
 
เตียงวิเศษจะมีลักษณะคล้ายอุโมงค์
หากต้องการต่ออายุก็ต้องเข้าไปอยู่ในอุโมงค์นี้
ในอุโมงค์จะเต็มไปด้วยสนามแม่เหล็กเทียม
ร่างกายมนุษย์ซึ่งเป็นสนามแม่เหล็กระบบหนึ่ง
ขณะกำลังนอนอยู่บนเตียงภายในอุโมงค์
ก็จะถูกทำให้ร่างกายเหวี่ยงหมุนไปรอบแกน
เพื่อให้ร่างกายผู้นั้นตัดผ่านสนามแม่เหล็กเทียม
ร่างกายของคนนั้นจะเกิดกระแสไฟฟ้าเหนี่ยวนำ
จนทำให้ทุกเซลล์มีพลังอำนาจเพิ่มมากขึ้น
การซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอจึงจะเกิดขึ้นมาได้
 
เมื่อกระแสไฟฟ้าในร่างกายของคนๆนั้นสูงขึ้น
ขั้วต่างทางไฟฟ้าในของเซลล์ร่างกายและอวัยวะ
ก็จะมีค่าสูงขึ้นผันแปรตามกันไปด้วยเสมอ
คนที่ป่วยด้วยศักยภาพทางไฟฟ้าไม่ค่อยสมดุล
หากเข้าไปนอนบนเตียงวิเศษในอุโมงค์ที่ว่านี้
จะสามารถฟื้นฟูตนเองให้กลับมาเป็นปกติได้
ซึ่งการกระทำเฉพาะคนชั้นสูงด้วยเตียงวิเศษนี้
มันคือการทำให้มนุษย์โลกเสียสมดุลนั่นแหละ
เพราะรับโอกาสให้มีอายุขัยที่ไม่เสมอภาคกัน
 
(ยังมีต่อในตอนต่อไป)
 
สื่อถ่ายทอดคลื่นความคิดในระบบจิตสู่จิต
จากองค์จิตจักรวาลดวงใหญ่
 
ปัญญาวิสุทธิ์
27/05/2566