30 กันยายน 2566

คำสอน 30/09/2023

 

ทำไมสิ่งที่อยากลืมกลับจำ

สิ่งที่คุณอยากลืมมัน
คือประสบการณ์ที่ไม่ดีในชีวิต
แต่คุณกลับจำจนฝังใจ
เพราะพระองค์ต้องการให้คุณ
จำเรื่องนั้นไว้เป็นบทเรียน
จะได้ไม่ทำผิดซ้ำอีก

คำสอน 30/09/2023

 

ทำไมที่อยากจำกับลืมง่าย

สิ่งที่คุณอยากจำไว้นานๆ
คือประสบการณ์ที่ดีในชีวิต
แต่คุณกลับลืมมันง่ายๆ
เพราะพระองค์ไม่ต้องการให้จำ
เนื่องจากจำไว้ก็ไร้ประโยชน์

คำสอน 30/09/2023

 

สวัสดีวันเสาร์จงเบาทุกข์
ให้ความสุขหลากหลั่งดั่งน้ำไหล
จงสดชื่นเบิกบานสำราญใจ
เพื่อนเก่าใหม่เวียนมาพาเยี่ยมเยือน

คำสอน 30/09/2023

 

จิตสงบคือจิตที่ไม่มีความทุกข์
จิตไม่ทุกข์คือจิตที่ว่างจากกิเลส
จิตว่างจากกิเลสคือรับรู้แล้วไม่รับเอา
เมื่อจิตไม่รับเอาอัตตาตัวตนจึงไม่มี

คัมภีร์อนุตรธรรมภาคจิตจักรวาล 30/09/2023


#คัมภีร์อนุตรธรรมภาคจิตจักรวาล
(เพื่อยุวจิตจักรวาลยุคสุดท้าย)
 
พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
 
พลังงานแม่เหล็กไฟฟ้าที่พวกคุณเหวี่ยงออกมา
จากการปฏิบัติกรรมฐานที่เป็น #เท็คนิกสมาธิ นั้น
คลื่นความถี่ทางพลังงานนี้มันสำคัญอย่างไร
พวกจิตวิญญาณผีโสโครกที่อยู่เบื้องหลังมิติโลก
จึงต้องคอย “ดักดูด” หรือ “หลอกดูด” เอาไปใช้
 
คำตอบชัดๆก็คือว่า
พวก “คนยักษ์” ที่ถูกชำระกายสังขารทิ้งจำนวนมาก
ในปฏิบัติการชำระโลกยุคโนอาห์ด้วยภัยน้ำท่วมโลก
จิตวิญญาณพวกคนยักษ์นี้มิใช่จิตวิญญาณมนุษย์
แต่เป็นจิตวิญญาณของศัตรูผู้ก้าวล่วงมาจากดาวอื่น
จากการสมสู่กันทางเพศระหว่างตัวผู้ที่มีปีกบินได้
ซึ่งถูกไล่ออกมาจากดาวอื่นเพราะฝ่าฝืนกฎพระเจ้า
กับหญิงสาวชาวดาวโลกเพราะหลงใหลในรูปงาม
ด้วยเข้าใจว่าพวกตัวผู้ลักษณะคล้ายมนุษย์ที่มีปีกนี้
เป็นเทพบุตรหรือเป็นชาวฟ้าเพราะว่าบินลงมาจากฟ้า
 
เมื่อสมสู่กับหญิงสาวชาวดาวโลกแล้วตั้งครรภ์
การตัดตอนทางพันธุกรรมจึงเกิดขึ้นเป็นอัตโนมัติ
ตามที่พระเจ้าทรงออกแบบเอาไว้ล่วงหน้าแล้วดังนี้
 
1.จิตวิญญาณแก่นแท้ของมนุษย์
ไม่สามารถเข้าปฏิสนธิกับตัวอ่อนในครรภ์นั้นได้
เพราะบุคลิกที่คล้ายคลึงกันทางจิตวิญญาณ
ระหว่างผู้เป็นแม่กับเชื้อของคนแปลกหน้านั้นไม่มี
มนุษย์ต้องผสมพันธุ์กับมนุษย์มีลูกเป็นมนุษย์เท่านั้น
มนุษย์จะผสมพันธุ์กับสัตว์แล้วมีลูกเป็นมนุษย์ไม่ได้
 
2.จิตวิญญาณพวกสัตว์ตัวผู้ที่มีปีกบินได้ที่ตายไป
เพราะกายสังขารเสื่อมลงแม้ยังมีปีกแต่ก็บินอีกไม่ได้
หรือตัวที่เกิดการแก่ชราแล้วต้องตายไปในที่สุดนั้น
จะเป็นผู้เข้าทำการปฏิสนธิกับตัวอ่อนในครรภ์นั้นแทน
เนื่องจากพวกนี้กำลังต้องการหาร่างใหม่อาศัยอยู่พอดี
 
ที่ลูกตายก่อนจะคลอดออกมาก็มีมาก
ที่คลอดยากเพราะเด็กตัวโตมากจนแม่ต้องตายก็มี
ที่ต้องตายทั้งแม่และลูกก็มีอยู่ไม่น้อยเช่นเดียวกัน
เนื่องจากเด็กตัวโตมากจนแม่เบ่งคลอดตามปกติไม่ได้
จึงต้องใช้วิธีดิบๆคือ “ผ่าท้อง” ควักเอาเด็กออกมาแทน
ซึ่งวิธีการนี้แม่ตายทุกรายโดยเด็กจะพอมีรอดกันได้บ้าง
 
นี่จึงเป็นที่มาของมนุษย์พันธุ์ใหม่
จากการผสมพันธุ์แบบข้ามดาวที่เรียกว่า “ไฮบริด”
ซึ่งเกิดขึ้น by fluke ไม่ใช่ by choose หรือเลือกใช้
จนเป็นที่ตาพองของเผ่าดาวอื่นที่รู้เห็นมาจนถึงทุกวันนี้
ที่พยายามจะสร้างไฮบริดระหว่างพวกตนกับมนุษย์บ้าง
เพราะพวกตนมีชีวิตอมตะไม่ต้องตายแต่สืบพันธุ์ไม่ได้
ขณะที่ต้องการจะอยู่ในระบบโลกร่วมกับมนุษย์ให้ได้
จึงต้องหาทางสร้างตัวอ่อนเทียมบ้างไรบ้างเรื่อยมา
 
วิทยาการผสมเทียมของมนุษย์ที่เป็นเด็กหลอดบ้าง
วิทยาการใช้สเต็มเซลล์สร้างตัวอ่อนของวัวบ้างแกะบ้าง
จึงล้วนเป็นวิทยาศาสตร์เท็คโนโลยีของพวกนี้ทั้งสิ้น
โดยพวกเขาพยายามทดลองกับสัตว์โลกและมนุษย์ก่อน
โชคดีของโลกที่สิ่งที่พวกเขาทำนั้นมันยังไม่ได้ผล
และโชคร้ายเป็นของพวกเขาอยู่เพราะไม่มีทางสำเร็จ
เนื่องจากจิตวิญญาณของมนุษย์หรือสัตว์ที่มาเกิดกายได้
จะเป็นแต่จิตวิญญาณของสัตว์โลกที่มิใช่ของพวกตน
ซึ่งทุกวันนี้พวกเขาก็ยังมีความเพียรพยายามกันอยู่
 
เมื่อจิตวิญญาณของผู้บุกรุกก้าวล่วงชาวโลก
ที่กายสังขารเสื่อมเพราะจิตวิญญาณเสื่อมจึงต้องตาย
เหตุที่จิตวิญญาณพวกนี้เสื่อมเพราะว่าไม่มีจิตหยาบ
ช่วยทำหน้าที่แทนเหมือนกับชาวดาวโลกเสรี
กับอีกอย่างหนึ่งพวกเขาใช้พลังทางจิตวิญญาณไปมาก
เนื่องจากเพลิดเพลินกับการใช้ฤทธิ์อภิญญา 6 ที่ตนมี
เพื่อหลอกลวงให้มนุษย์งมงายลุ่มหลงในอุตริต่างๆ
ซึ่งเป็นของแปลกประหลาดและน่าทึ่งอย่างมาก
เพราะพวกคุณที่เป็นมนุษย์ทำไม่เป็นและเห็นไม่ได้
จึงพากันไปซูฮกยกย่องรูปธรรมเหล่านี้ดั่งเป็นผู้วิเศษ
 
สาเหตุแห่งความเสื่อมของจิตวิญญาณมากที่สุด
ก็เกิดจากการที่สิ่งมีชีวิตลักษณะคล้ายมนุษย์พวกนี้
มีความทะเยอทะยานทางเพศสูงมากจึงขยันเสพสม
จนเป็นสาเหตุหนึ่งที่ถูกไล่ออกมาจากดาวของตนเอง
เมื่อโบยบินมาถึงดาวโลกสันดานก็ไม่เคยเปลี่ยน
จึงมาก่อวีรกรรมกับหญิงชาวโลกตามที่เรากล่าวมา
จนสร้างปัญหาให้แก่มนุษย์โลกในเรื่องของคนยักษ์
ทำให้จิตวิญญาณที่แท้จริงของมนุษย์มาเกิดยากขึ้น
เพราะจิตวิญญาณของผู้พลัดถิ่นเข้ามาแย่งซีนไปหมด
 
เมื่อกาลเวลาโลกผ่านไปนานนับพันปี
พระเจ้าจึงทรงพิพากษาด้วยมหันตภัยให้น้ำท่วมโลก
เพื่อจัดการ “ขยะ” ที่เป็นคนยักษ์ออกไปจากระบบโลก
เพราะคนยักษ์มีรูปร่างสูงใหญ่จนผิดมนุษย์โดยทั่วไป
พระองค์จึงทรงบันดาลให้น้ำท่วมโลกสูงมากกว่าปกติ
 
ทุกวันนี้จิตวิญญาณของพวกเขาที่จมน้ำตาย
จึงได้แต่ล่องลอยสัญจรไปในเอกภพและในระบบโลก
เนื่องจากดีดตนเองออกไปจากโลกและเอกภพไม่ได้
เพราะจิตวิญญาณมีพลังอำนาจที่เสื่อมลงไปจากเดิม
เหตุจากใช้พลังงานภายในตนเองไปในทางที่มิชอบ
จนยังผลให้แรงสั่นสะเทือนของเมอร์คขะบาห์ตกต่ำลง
ขณะที่ไม่มีเครื่องยนต์แห่งกรรมห่อหุ้มจิตวิญญาณไว้
พลังทางจิตวิญญาณที่เสื่อมจึงชาร์ทเพิ่มเติมเต็มมิได้
 
เนื่องจากจำบ้านเกิดเมืองนอนของจิตวิญญาณไม่ได้
จำพระเจ้าพระผู้ให้กำเนิดจิตวิญญาณของตนก็ไม่ได้
จึงดำรงตนเองอยู่ในเอกภพอย่างลูกกำพร้าตลอดมา
โดยไม่เคยรู้ว่าพวกตนเกิดมามีตัวตนรูปธรรมกันทำไม
พวกตนเมื่อเกิดมาแล้วมีหน้าที่จะต้องทำอะไรกันบ้าง
เพราะในเผ่าดาวของตนไม่มีพระศาสดาเสด็จลงมาจุติ
เพื่อทำหน้าที่เป็นผู้นำทางจิตวิญญาณเหมือนดาวโลก
พวกเขาทั้งหลายจึงไม่มีคำตอบในอนุตรธรรมเหล่านี้
 
เมื่อพบว่าพลังอำนาจทางจิตวิญญาณของตนลดลง
จากที่เคยมีรูปทรงเรขาคณิต 6 เหลี่ยมมุมหรือ 6D
ปัจจุบันลดเหลือแค่เพียง 5 เหลี่ยมมุมหรือ 5D เท่านั้น
มีแนวโน้มว่าจะลดจำนวนเหลี่ยมมุมน้อยลงเรื่อยๆด้วย
ซึ่งอิทธิฤทธิ์หรือว่า “อภิญญา” จากแต่เดิมที่ตนเคยมี
ก็ลดทอนพลังอำนาจลงหรือเสื่อมลงไปด้วยอีกเช่นกัน
จึงต้องดิ้นรนทุกวิถีทางเพื่อชาร์ทพลังเพิ่มให้แก่ตนเอง
นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นอันเป็นที่มาของฉายาว่า “ผีโสโครก”
 
สิ่งที่จิตวิญญาณผีโสโครกหรือจิตวิญญาณคนยักษ์
ใช้เป็น “อุบาย” เพื่อหลอกลวงหรือหลอกล่อมนุษย์คือ
 
1.หลอกลวงว่าตนเองเป็นเทพเจ้า
เพื่อจูงใจให้มนุษย์นับถือหลงใหลและมอบศรัทธาให้
โดยใช้อิทธิฤทธิ์และคุณวิเศษเป็นเครื่องมือจูงใจบ้าง
ด้วยการทำให้มนุษย์ขลาดกลัวบ้าง เป็นต้น
 
2.ยืมมือมนุษย์บางคนเป็นทางผ่านของตน
ในลักษณะของการทรงเจ้าเข้าผีอวดแสดงฤทธิ์เดช
จนแม้กระทั่งการสำแดงคุณวิเศษที่คนทั่วไปทำไม่ได้
รวมทั้งการเผยแพร่ลัทธิเท็คนิกสมาธิตามสำนักต่างๆ
โดยใช้คนนำทางตาบอดเป็นเครื่องมือ
 
3.สอนให้คนชอบธรรมมุ่งกระทำในสิ่งที่ตนชอบ
ด้วยการปฏิบัติเท็คนิกสมาธิในป่าในถ้ำตามลำพัง
แล้วคอยลักลอบ “ดักดูด” เอาพลังจิตที่เป็นคลื่นไฟฟ้า
ซึ่งคนๆนั้นผลิตออกมาได้ไปเป็นประโยชน์ของตัวเอง
 
4.ด้วยการ “อวตาร” ลงมาเกิดกายเป็นมนุษย์
เพื่อทำตัวเป็นผู้สื่อสารกับเทพเจ้าที่อยู่เบื้องบน
โดยใช้ธรรมะพระศาสดาเป็นสิ่งจูงใจผู้คนให้สนใจ
จนเกิดความเชื่อมั่นและศรัทธาอย่างงมงาย
แล้วสอนให้มนุษย์ที่มีกายหยาบทำหน้าที่แทนกายตน
โดยใช้จิตหยาบปฏิบัติเท็คนิกสมาธิผลิตพลังงานจิต
ในรูปของพลังงานแสงที่เป็นคลื่นไฟฟ้าแม่เหล็กให้
แล้วพวกตนก็จะคอย “เชื่อมจิต” กับตาที่สามของคุณ
ทำตัวเป็นปลิงเพื่อคอยดักดูดพลังงานที่คุณสร้างขึ้น
ซึ่งทำกันเป็นล่ำเป็นสันมาช้านานแล้วโดยไม่มีผู้ใดรู้
 
มาภายหลังเมื่อมีผู้นิยมชมชอบปฏิบัติกรรมฐานมากขึ้น
พวกจิตวิญญาณของอดีตคนยักษ์ลูกผสมเหล่านี้
ก็จะใช้วิธีชักชวนมนุษย์ให้ทำสมาธิหมู่มาอยู่ทำร่วมกัน
เพราะรู้ว่าคนสามคนขึ้นไปจะสร้างพลังงานได้มากกว่า
ซึ่งพวกเขาจะดักดูดพลังงานรวมได้ทีละมากกว่าด้วย
 
นี่ยังไม่นับการขายความศรัทธาให้กับคนบ้าหวย
การขายความศรัทธาในวิชาที่อ้างว่าทำให้ร่ำรวยได้
ขายความศรัทธาที่รักษาโรคและเจ็บป่วยให้หายได้
ขายความศรัทธาที่สามารถขับไล่ภูตผีปีศาจที่เข้าสิงได้
ฯลฯ
 
พฤติกรรมการจูงใจด้วยสิ่งลวงๆเหล่านี้
เป็นสิ่งที่พระเจ้าทรงจัดว่าเป็นสิ่ง #โสโครก สกปรก
อันไม่ควรข้องแวะแต่อย่างใดทั้งสิ้น
มีแต่จะดึงรั้งให้จิตวิญญาณของคุณตกต่ำลงเรื่อยๆ
พวกผีเหล่านี้จะทำทุกอย่างเพื่อยกระดับตนเอง
กลับคืนสู่รูปธรรมที่มี 6 มิติ คือ 6 เหลี่ยมมุมดังเดิม
ซึ่งจะทำเองก็ไม่ได้เพราะไม่มีจิตหยาบกับกายหยาบ
วิธีลัดสั้นก็คือ “หลอกลวง” มนุษย์ที่งมงายให้โง่ง่าย
เพื่อเป็นกรรมกรแสงของตนอย่างที่ทำกันอยู่ทุกวันนี้
 
ภัยพิบัติโลกกำลังรุนแรงขึ้น
เพราะมนุษย์เสพติดกิเลสกันมากขึ้น
จนหมุนกันแต่กรรมจักรโดยเข้าถึงธรรมจักรไม่ได้
ปฏิบัติการชำระโลกเพื่อขจัดขยะออกไปจากระบบ
นับวันจะยิ่งรุนแรงและเกิดเร็วกว่ากำหนดอีกด้วย
พวกผีโสโครกและชาวกรรมกรแสงทั้งหลาย
ที่ทำให้จิตวิญญาณมนุษย์หลงทางนิพพานตลอดมา
น่าจะเร่งระวังตนเองกันเอาไว้ได้แล้วล่ะนะ
 
เอเมน สาธุ
ถ่ายทอดคลื่นความคิดจากองค์จิตจักรวาล
โดย #ปัญญาวิสุทธิ์
30/09/2566

29 กันยายน 2566

คำสอน 29/09/2023


 การทำบุญหรือทำความดีงามนั้น
จงอย่าทำเพื่อหวังเอาหน้า
อย่าทำโดยอธิษฐานขอสิ่งแลกเปลี่ยน
เพราะจิตจะสร้างพลังงานขยะขึ้นมา
มิใช่พลังงานบุญที่สะอาด

คัมภีร์อนุตรธรรมภาคจิตจักรวาล 29/09/2023


#คัมภีร์อนุตรธรรมภาคจิตจักรวาล
(เพื่อยุวจิตจักรวาลยุคสุดท้าย)
 
พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
 
จิตวิญญาณผู้เป็นตัวตนแก่นแท้ของพวกคุณนั้น
อาสามาเกิดเป็นคนสองมิติเพื่อคนตนเองให้เป็นมนุษย์
ด้วยการใช้ความรักเพื่อให้สั่นสะเทือนขันธ์ห้า
ผลิตพลังงานไฟฟ้าแม่เหล็กด้านบวกที่สะอาดให้โลก
เพื่อช่วยทำให้โลกหมุนรอบตัวเองอย่างต่อเนื่องได้
ทั้งยังให้ช่วยค้ำจุนความสมดุลของโลกเอาไว้ด้วย
โดยทำให้โลกเหวี่ยงหมุนรอบตัวเองด้วยอัตราเร็วคงที่
 
เพื่อให้โลกผลิตก๊าซออกซิเจนออกมาจากแกนโลก
ช่วยให้โลกผลิตสนามแม่เหล็กออกมาห่อหุ้มโลกไว้
เมื่อโลกพามนุษย์หมุนตัดผ่านสนามแม่เหล็กดังกล่าว
ทำให้กายสังขารมนุษย์เกิดไฟฟ้าเหนี่ยวนำขึ้นในระบบ
เซลล์ร่างกายและอวัยวะภายในก็สามารถทำงานได้
เพราะมีไฟฟ้าเหนี่ยวนำเป็นพลังงานในการขับเคลื่อน
พวกคุณจึงมีชีวิตรอดอยู่ได้โดยไม่ต้องตายเลย
 
ปรากฏการณ์ที่เรากล่าวมาเหล่านี้
เป็นบทบาทหน้าที่หลักของจิตวิญญาณมนุษย์ทุกคน
ในการเป็น #เพื่อนร่วมงานกับโลก คนสำคัญยิ่ง
ซึ่งโลกได้ประโยชน์จากมนุษย์ทุกคนที่ช่วยกันทำ
ด้วยการหมุนธรรมจักรเพราะรักกันและรักโลก
ขณะที่มนุษย์ทุกคนก็ได้ประโยชน์จากโลกเช่นกัน
คือได้อาหารน้ำยาสมุนไพรรักษาโรคอากาศหายใจ
ได้สนามแม่เหล็กที่ช่วยเหนี่ยวนำให้เกิดกระแสไฟฟ้า
ไหลเวียนภายในร่างกายทั้งยามตื่นและยามหลับ
ทำให้อวัยวะต่างๆสามารถทำงานได้ตลอดเวลา
โดยไม่มีไฟฟ้าดับมอดหรือไฟฟ้าตกจนเสียสมดุลไป
 
ทั้งสนามแม่เหล็กโลกยังช่วยป้องกันโลกและมนุษย์
ให้อยู่รอดปลอดภัยจากอุกกาบาตขนาดน้อยใหญ่
ไม่ให้พุ่งเข้ามาชนโลกได้ง่ายๆจนเกิดอันตรายได้
ซึ่งอุกกาบาตจะเสียดสีกับสนามแม่เหล็กโลกจนร้อน
แล้วลุกไหม้หมดหรือเกือบหมดก่อนจะตกลงถึงพื้นโลก
ที่สำคัญคือ “โลก” เป็นสถานที่ทำงานของพวกคุณ
ถ้าไม่มีโลกดวงนี้พวกคุณก็ไม่มีภารกิจใดที่จะต้องทำ
เมื่อไม่มีภารกิจต้องทำจิตวิญญาณคุณก็ไม่ต้องมาเกิด
มนุษย์กับโลกจึงเป็นเพื่อนร่วมงานกันนั่นเอง
 
การทำหน้าที่เป็นเพื่อนร่วมงานกับโลก
แปลว่าทั้งมนุษย์และโลกต่างมีหน้าที่ต้องทำร่วมกัน
โลกจะเทมนุษย์ทั้งโลกหรือใครบางคนทิ้งไปก็ไม่ได้
ขณะที่มนุษย์โลกทุกคนหรือบางคนจะละทิ้งโลกก็ไม่ได้
มนุษย์จะต้องอยู่ประจำทำงานเฝ้าโลกอยู่ตลอดเวลา
เพื่อช่วยให้โลกหมุนและค้ำจุนสมดุลโลกเอาไว้ให้ได้
โดยจะตายหายไปจากโลกเพื่อไปตกนรกก็ไม่ควรทำ
จะตายไปเกิดบนสวรรค์มายาที่พระเจ้ามิได้สร้าง
เพื่อไปนั่งนอนเสวยสุขเสพกิเลสมารอยู่บนนั้นก็ไม่ได้
เพราะหน้าที่หลักคือหมุนธรรมจักรพิทักษ์สมดุลโลก
 
ถ้าพวกคุณได้รับอนุญาตจากพระเจ้าให้เข้ามาเกิด
เพื่อรับบทบาทเป็น “เพื่อนร่วมงานกับโลก” แล้วไม่ทำ
จะด้วยความไม่รู้หรือถูกหลอกให้หลงทางกันก็ตาม
เท่ากับว่าพวกคุณเสียทีที่ได้มาเกิดเป็นมนุษย์แน่นอน
ภาษานักเลงโลกเขาเรียกว่า “เสียชาติเกิด” นั่นแหละ
 
ยิ่งถ้าปลายยุคพลังงานเก่านี้
ใครผู้ใดตกหลุมพรางพวกมาร คือ “ผีโสโครก”
ที่ถูกหลอกให้เสพติดเท็คนิกสมาธิหรือกรรมฐาน
เพราะเชื่อว่าเป็นแนวทางการปฏิบัติธรรมที่ถูกต้อง
ปฏิบัติแล้วสามารถนิพพานทุกอย่างได้สิ้นแน่ๆ
คือตายแล้วจิตวิญญาณจะหายสาบสูญไปเลย
ไม่กลับมาเกิดเป็นมนุษย์บนโลกนี้อีก
นี่เท่ากับว่ามนุษย์เสียท่ามารยิ่งกว่าเสียชาติเกิดอีกแน่ะ
 
วันๆหนึ่งจิตหยาบจะไม่ก้าวหน้าจนเสียเวลาเปล่า
เพราะไม่อาจยกระดับแรงสั่นสะเทือนของจิตหยาบ
ให้เป็นหนึ่งเดียวกันกับจิตวิญญาณของตนได้
เพราะถูกชวนให้ปลีกวิเวกสอนให้ปฏิบัติทำคนเดียว
โดยใช้ความสงบของจิตหยาบเป็นตัวตั้งเป็นที่หมาย
คล้ายกับว่าถูกสอนให้อยากไปสวรรค์คนเดียวเท่านั้น
มิได้ใช้ความรักเพื่อให้หรือเมตตาธรรมเป็นเป้าหมาย
เพื่อการหมุนธรรมจักรร่วมกันในการพิทักษ์สมดุลโลก
 
นอกจากนั้น
ในตอนที่แล้วเรายังเปิดเผยความจริงให้รู้ด้วยว่า
ถ้าคุณไม่หมุนธรรมจักรในตนเองและไม่หมุนร่วมกัน
โดยวันๆหันไปฝักใฝ่กับการแสวงหาความสงบของจิต
ด้วยการไปนั่งกดทับมันเอาไว้ให้นิ่งสงบชั่วคราว
ขยะในจิตหยาบรวมทั้งกรรมเวรที่จิตวิญญาณถืออยู่
มันจะเป็นขยะอันไม่พึงประสงค์ที่ยังอยู่ครบถ้วนดังเดิม
แถมมันรอวันที่จะเติมเพิ่มได้อีกต่างหากด้วย
 
นอกจากนั้นผีโสโครกผู้ไม่ประสงค์ดี
ก็จะคอย “ดักดูด” พลังจิตแบบลักลอบเพราะคุณไม่รู้
หรือจะอ้างการเชื่อมจิตกับตัวคุณเพื่อดูดรั้งพลังออกมา
ผ่านทางตาที่สามบริเวณหน้าผากระหว่างคิ้วของคุณ
เพราะคุณยอมพวกเขาเองจากความอยากรู้อยากลอง
ซึ่งเป็นการลงทุนแบบเสี่ยงโดยที่ยังไม่รู้อะไรเลย
ด้วยความที่หลงใหลในคำพูดจาที่ว่า “กรรมกรแสง”
จึงปลาบปลื้มจนลืมคิดไปว่าตนกำลังทำร้ายจิตวิญญาณ
ซึ่งเป็นตัวตนที่แท้จริงของตนเองอย่างโง่ง่ายอยู่
 
เราเตือนเรื่องนี้มาหลายครั้ง
ใครมีหูก็เชิญรับฟังกันเอาไว้บ้างเถิด
 
พวกท่านทุกคนนั้นต่างล้วนเป็นลูกแกะของพระเจ้า
มาเกิดในระบบโลกเพื่อเป็น “เพื่อนร่วมงานกับโลก”
ทำหน้าที่จนสิ้นยุคแล้วค่อยตายตาหลับเพื่อกลับบ้าน
มิใช่จะปีนรั้วเข้าคอกหรือทำตัวเป็นแกะหลงฝูง
โดยยอมตนเป็นทาสรับใช้ผีโสโครกเพราะนึกว่าโก้
 
เอเมน สาธุ
ถ่ายทอดคลื่นความคิดจากองค์จิตจักรวาล
โดย #ปัญญาวิสุทธิ์
29/09/2566

คัมภีร์อนุตรธรรมภาคจิตจักรวาล 29/09/2023


#คัมภีร์อนุตรธรรมภาคจิตจักรวาล
(เพื่อยุวจิตจักรวาลยุคสุดท้าย)
 
พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
 
พลังงานแห่งรักอันเกิดจากพลังร่วมของจิตมนุษย์
บนทุกพื้นที่ 33.33 ตร.กิโลเมตรบนโลกเสรีนี้
ที่ร่วมใจกันสั่นสะเทือนจิตสามนึกด้านบวกด้วยรัก
ในรูปแบบของ #รักเพื่อให้ ด้วยการทำดีทำบุญ
โดยไม่มีการอธิษฐานร้องขอสิ่งตอบแทนใดๆ
โดยไม่มีการขอให้ตนเองหรือขอให้ผู้หนึ่งผู้ใด
ตั้งแต่สามคนขึ้นไปเพื่อ “หมุนธรรมจักร” ร่วมกันนั้น
 
มันจะเป็นพายุแม่เหล็กที่หมุนวนรูปกรวยคว่ำ
ซึ่งจะปรากฏเกิดขึ้นบนท้องฟ้าเหนือบ้านหลังนั้น
หรือเหนือชุมชนแห่งนั้นที่ตามนุษย์มองไม่เห็น
โดยพลังงานร่วมแห่งรักของพวกคุณดังกล่าวนี้
จะเป็นไปตามสมการพลังงานทางช้างเผือก βₓ ได้
ตัวเอ็กซ์ต้องแทนค่าตั้งแต่ 3 คนขึ้นไปเท่านั้น
 
พลังงานร่วมหรือพลังงานรวมที่เกิดขึ้น
จากการที่คนตั้งแต่สามคนขึ้นไป “รักและเมตตากัน”
จะมีค่าเท่ากับสามเท่าของจำนวนคนที่รักกันยกกำลัง 2
คูณด้วยค่าคงที่จากการที่กาแล็กซีทางช้างเผือก
ซึ่งเป็นเสมือนเส้นผ่านศูนย์กลางของ #เอกภพ นี้
ออกแรงกระทำต่อวัตถุที่มีขนาดมวล 1 หน่วยน้ำหนัก
โดยจะมีค่าคงที่เท่ากับ 20 เสมอ
 
นี่เป็นความสัมพันธ์ของสมการศักดิ์สิทธิ์
ที่เรียกว่า “สมการพลังงานทางช้างเผือก”
อันเกิดจากมนุษย์และสิ่งมีชีวิตทุกรูปธรรมบนโลก
ร่วมกันผลิตขึ้นด้วยอำนาจแห่งรักที่ทุกรูปธรรมมีอยู่
โดยมี “ขันธ์ห้า” เป็นเครื่องมือชิ้นสำคัญในการผลิต
ซึ่งมันจะเกิดขึ้นตามธรรมชาติในทุกๆวินาที
 
ดังนั้น
มนุษย์ที่เป็นคนสองมิติผู้มีจิตหยาบจึงต้องมีสังคม
สัตว์ในธรรมชาติทุกชนิดจึงต้องอยู่ร่วมกันเป็นฝูง
ต้นไม้ทุกต้นจึงทรงต้องปลูกรวมกันเป็นป่าใหญ่ป่ารก
สัตว์ประจำโลกทุกชนิดจึงต้องเป็นสัตว์ป่าอยู่กับป่า
ทั้งนี้ก็เพื่อทำให้ตัว X ในสมการพลังงานร่วมด้านบวก
มีค่าตั้งแต่ 3 ขึ้นไปให้จงได้ คือมี พ่อแม่ลูก เป็นต้น
 
นอกจากจะเป็นปฏิบัติการหมุนธรรมจักรในตนเอง
เพื่อใช้ความรักทำให้แกนโลกบิดตัวช่วยให้โลกหมุน
พลังงานร่วมที่ได้ในทุกวินาทีที่มีหน่วยเป็นเม็กกะเฮิร์ท
ยังมีผลต่อการยกระดับจิตหยาบแต่ละคนให้สูงขึ้นด้วย
โดยจิตหยาบของแต่ละคนที่อยู่บนพื้นที่เดียวกันนั้น
จะมีแรงสั่นสะเทือนสูงขึ้นจากระดับปัจจุบันขณะเสมอ
ใครสั่นสะเทือนเป็นความถี่สูงระดับใดก็จะสูงยิ่งขึ้นอีก
นี่จึงเป็นปฏิบัติการทางจิตวิญญาณของมนุษย์โลก
ซึ่งพระเจ้าทรงออกแบบเอาไว้ให้ทุกคนง่ายมากขึ้น
ในการยกระดับแรงสั่นสะเทือนจิตหยาบของแต่ละคน
ให้สูงขึ้นจากระดับ 4D จนถึง 6D ด้วยวิธีธรรมชาติได้
โดยไม่ต้องใช้ความรู้พิเศษพลังพิเศษแบบอุตริพิสดาร
 
เนื่องจากจิตหยาบของพวกคุณแต่ละคนนั้น
มีหน้าที่จะต้องพาจิตวิญญาณตนเองหลุดพ้นกลับบ้าน
ด้วยการเข้าถึงพลังอำนาจสูงสุด คือ 6D ให้ได้ก่อน
โดยต้องทำให้จิตวิญญาณของคุณที่เหมือนนกปีกเดียว
มีปีกอีกข้างหนึ่งงอกเพิ่มออกมารวมกันเป็นสองปีก
เพื่อให้จิตวิญญาณคุณโบยบินกลับบ้านที่อยู่นอกเอกภพ
บินออกจากห้องเรียนโลกที่อยู่ในห้องทดลองของพระเจ้า
ในสภาวะการ “หลุดพ้น” จากแรงดึงดูดเหนี่ยวรั้งไปได้
โดยปีกที่สองนี้จะต้องค่อยๆงอกออกมาตั้งแต่ปฏิสนธิ
จากจุดเล็กๆคือ “หยดเลือด” เพียงหยดเดียวที่ในครรภ์
 
พวกคุณจะเห็นได้ว่า
พระเจ้าทรงกำหนดสร้างด้วยการออกแบบไว้ให้
พวกคุณแต่ละคนเรียนรู้ที่จะเป็นหนึ่งเดียวกัน
เริ่มตั้งแต่แรกเข้ามาปฏิสนธิในครรภ์มารดาแล้ว
โดยพ่อแม่ลูกต่างจะต้องรักกันเพื่อเหนี่ยวรั้งกันไว้
หยดเลือดหยดเดียวจึงจะเติบโตพัฒนาเป็นตัวอ่อนได้
 
เมื่อคลอดตกฟากออกมาเป็นทารกลืมตาดูโลกแล้ว
ทั้งจิตหยาบและจิตวิญญาณของทารกน้อยคนนั้น
ก็จักต้องเรียนรู้ที่จะแสดงความน่ารักของตนออกมา
เพื่อให้คนรอบข้างมอบความรักและเมตตามาให้ตน
โดยใครจะรักทารกที่ตนอุ้มหรือกอดอยู่มากหรือน้อย
พระเจ้าก็จะทรงออกแบบให้ทารก #ฉี่หรือขี้ ใส่คนอุ้ม
เพื่อใช้ความรู้สึกรังเกียจหรือไม่รังเกียจเป็นตัวชี้วัดว่า
จะให้อภัยจะถือโทษโกรธเคืองทารกคนนั้นหรือเปล่า
 
ถ้ารักและเมตตาทารกน้อยคนนั้นได้จริง
คนที่อุ้มเด็กอยู่ก็จะไม่เกิดการเสียสมดุลทางจิต
จนเกิดอาการขยะแขยง “ฉี่หรือขี้” เด็กที่รดราดตนอยู่นั้น
ซึ่งคนโบราณมักจะบอกตัวเองว่าตนถูก #ทารกฝากรัก
โดยที่เด็กทารกใช้ฉี่หรือขี้ของตนกับความน่ารักน่าเอ็นดู
เป็นเงื่อนไขด้านบวกสำหรับคนใกล้ตัวและคนรอบข้าง
ให้สามารถสั่นสะเทือนจิตหยาบหมุนธรรมจักรร่วมกันได้
ตามสมการ βₓ ซึ่งเป็นสมการทางพลังงานทางช้างเผือก
จากความไร้เดียงสาของตนเองแท้ๆ
 
เมื่อความจริงมันเป็นเช่นที่เรากล่าวมานั้น
พวกคุณจึงจะเห็นได้อย่างกระจ่างชัดเจนในกมลว่า
มนุษย์กับทุกสรรพสิ่งล้วนเชื่อมจิตกันตามวิถีธรรมชาติ
อันเป็นการเชื่อมจิตที่เป็นกระบวนการอัตโนมัติอยู่แล้ว
โดยใช้ความรักเป็นเครื่องมือมิใช่การ “กำหนดเชื่อม”
ตามวิชามารซึ่งเป็นแผนการล่อลวงของพวก #ผีโสโครก
เพราะทุกสิ่งอย่างต่างเชื่อมโยงกันเป็นอัตโนมัติอยู่แล้ว
 
เราจะกล่าวความจริงให้คุณรู้ว่า
พายุแม่เหล็กจากธรรมจักรที่มนุษย์โลกร่วมสร้างขึ้นนั้น
นอกจากจะเอื้อประโยชน์หลายอย่างตามที่เรากล่าวแล้ว
มันยังจะช่วย “ปัดกวาด” แผ่นฟ้าที่เต็มไปด้วยขยะ
ซึ่งเป็นขยะอันเกิดจากพลังงานสกปรกพลังงานไม่สะอาด
ที่จิตหยาบมนุษย์สร้างขึ้นจากกิเลสมารในชีวิตประจำวัน
ด้วยการร่วมกันหมุน #กรรมจักร อย่างไม่ลืมหูลืมตา
จนเกิดเป็นมวลพลังงานกรรมลอยค้างอยู่ในบรรยากาศ
จนฟ้ามืดสวรรค์มัวแทนฟ้าสีทองผ่องอำไพได้อีกด้วย
 
แต่เนื่องจากพวกจิตวิญญาณของผีโสโครกศัตรูมนุษย์
แลเห็นว่ามนุษย์สามารถใช้เครื่องยนต์แห่งกรรมที่มีอยู่
ร่วมกันผลิตสร้างพลังงานด้านบวกออกมาให้โลกได้
จึงเห็นประโยชน์จากสิ่งที่มนุษย์ร่วมกันทำได้แต่ไม่รู้นี้
โดยฉกฉวยโอกาสให้ “คนชอบทำ” นั่งกรรมฐานสมาธิ
ทั้งทำแบบปลีกวิเวกโดยโดดเดี่ยวและทำแบบหมู่คณะ
สร้าง “พลังงานแสง” คือคลื่นความถี่ทางไฟฟ้าแม่เหล็ก
แล้วพวกตนจะคอย “ดักดูด” เอาพลังงานแสงนั้นไปใช้
ถ้าทำอย่างไม่เปิดเผยตัวตนให้รู้ตัวก็เรียกว่า “ลักดูด”
แต่ถ้าทำแบบเปิดเผยตัวตนให้รู้ตัวก็เรียกว่า “เชื่อมจิต”
 
ทั้งวิธีการลักดูดหรือวิธีการเชื่อมจิตนี้
เป็นปฏิบัติการทางจิตที่เป็นจริงได้สำหรับใครที่ไม่รู้
เพราะคนนำทางตาบอดมักจะบอกว่ากรรมฐานสมาธิ
เป็นวิธีการปฏิบัติธรรมจนชาวบ้านล้วนหลงผิดคิดว่า
พระศาสดาทรงสอนให้ศาสนิกชนคนประพฤติธรรม
ล้วนต้องทำกันแบบที่ว่านี้ถ้าไม่ทำก็จะมิใช่ปฏิบัติธรรม
จึงพากันนิยมปฏิบัติตามกันมาอย่างว่าง่ายโดยไม่ฉุกคิด
 
วิธีการ “ดักดูด” เป็นวิธีที่จิตวิญญาณผีโสโครก
จะใช้อภิญญฤทธิ์ของจิตวิญญาณที่พวกตนมีอยู่
ดักดูดเอาจากพายุหมุนแห่งธรรมจักรในบรรยากาศโลก
ซึ่งพายุหมุนแห่งธรรมจักรที่เป็นพายุแม่เหล็กด้านดีนี้
เป็น “พลังบุญ” ที่พวกคุณซึ่งเป็นมนุษย์ร่วมสร้างกันขึ้นมา
แสดงว่าผีโสโครกพวกนี้คือพวกที่คอยแย่งชิงส่วนบุญ
เป็นการลักขโมยเอาไปโดยไม่ต้องร้องขอจากมนุษย์
ชาวพุทธทั้งหลายเรียกพวกนี้ว่า “ผีเปรต” นั่นแหละ
ส่วนพลังบุญที่ว่านี้คือสิ่งที่เรียกว่าพลังงานแสงนั่นแหละ
 
ส่วนวิธีการ “เชื่อมจิต” เป็นวิธีที่ผีโสโครกทั้งหลาย
ใช้มนุษย์ด้วยกันเป็นเครื่องมือหรือเป็นตัวช่วย
โดยหลอกว่าตนจะถ่ายเทพลังงานที่คุณต้องการมาให้
ด้วยวิธีการต่อท่อพลังงานของผีกับของคุณเข้าด้วยกัน
ซึ่งเป็นการเชื่อมต่อด้วย #จิตสัมผัส ที่เป็นมโนกรรม
ถ้าคุณเชื่อว่าเป็นไปได้จริงการเชื่อมต่อกันก็จะลงตัวได้
แต่แทนที่คุณจะเป็นผู้ได้รับกลับต้องเป็นผู้ถ่ายให้ผีแทน
 
คุณนึกถึงทฤษฎีแห่งแรงความโน้มถ่วงของจักรวาล
อันเป็นกฎการสมดุลกันของทุกสรรพสิ่งได้ไหมล่ะว่า
น้ำในธรรมชาติย่อมไหลจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำเสมอ
ไม่ต่างจากการที่ผู้มีมากต้องเมตตาต่อผู้มีน้อยกว่าเสมอ
คุณที่ปฏิบัติกรรมฐานในขณะที่จิตสงบระงับอยู่นั้น
จะเป็นผู้ที่มีพลังงานแม่เหล็กด้านบวกในระดับสูงกว่า
ขณะที่จิตเปิดเพราะเชื่อว่าทำเช่นนั้นแล้วจะรับพลังได้
เมื่อวาล์วเปิดออกน้ำที่อยู่ในท่อนั้นจะไหลเข้าออกก็ได้
อยู่ที่ว่าน้ำในท่อนั้นด้านไหนมันไหลมามากกว่ากัน
 
วิธีการเชื่อมจิตแบบเปิดเผยนี้ผีโสโครกชอบมาก
เพราะไม่ต้องลักดูดคราวละน้อยๆกะปริบกะปรอย
เพราะวิธีการเชื่อมจิตต่อท่อจะได้พลังงานไปทีละล้นอิ่ม
แถมไม่ต้องคอยทำตัวเป็นอีแอบหรือเป็นโจรด้วย
เพียงแค่บอกให้คนชอบทำมาร่วมกันทำในสิ่งที่ตนชอบ
แล้วเลือกตัวแทนของพวกตนที่มีกายสังขารเป็นมนุษย์
ให้แสดงบทบาทของผู้นำโดยทำตัวเป็นเจ้าลัทธิ
มีความสวยรวยหล่อมีความอุตริเหนือมนุษย์มาจูงใจ
พระเยซูทรงเรียกผีเปรตพวกนี้ว่า “ผีโสโครก”
เพราะพฤติกรรมพวกเขาเป็นผู้ดึงมนุษย์ลงสู่ทางต่ำ
นำพาให้โง่ง่ายงมงายกับการเวียนตายเกิดในสามโลก
ทั้งโลกหนึ่งสวรรค์มายาหนึ่งและนรกอีกหนึ่ง
 
คนที่ชอบปฏิบัติทำแล้วหลงก้าวตาม
จะกลายเป็นกรรรมกรแสงหรือเป็นคนงานให้กับพวกนี้
ด้วยความสมัครใจแบบคนโง่ง่ายนั่นแหละ
เรารู้ดีว่าคนโง่ง่ายนั้นมักไม่เชื่อเมื่อได้รับฟังความจริง
แต่มักจะเชื่อง่ายในสิ่งที่ตนอธิบายไม่ได้และไม่เคยรู้
ขณะที่มักจะไม่เชื่อหรือปฏิเสธทันทีในสิ่งที่ตนไม่เข้าใจ
ถ้ามนุษย์ยังไม่หันมาหาพระเจ้าไม่หันกลับมาทางเรา
เพื่อทำหน้าที่เป็น #เพื่อนร่วมงานกับโลก ตามที่อาสามา
โดยฝักใฝ่กับการเป็น #กรรมกรแสง กันมากขึ้นแล้ว
ทั้งจิตวิญญาณตนเองและดาวโลกจะต้องวิบัติเป็นแน่แท้
 
เอเมน สาธุ
ถ่ายทอดคลื่นความคิดจากองค์จิตจักรวาล
โดย #ปัญญาวิสุทธิ์
29/09/2566

28 กันยายน 2566

คำสอน 28/09/2023

 

ขอให้มีสุขภาพดีและมีลาภ
บุญขนาบค้ำชูมีผู้หนุน
จิตเริงร่าอารมณ์จงสมดุล
ไม่ว้าวุ่นงานเดินเงินไหลมา

คำสอน 28/09/2023

 

คนดีจะมีอำนาจภายในตนเอง
ไม่ต้องแย่งชิงอำนาจจากผู้อื่นก็ได้
คนที่แสวงหาอำนาจจากภายนอก
ส่วนใหญ่มักจะเป็นคนไม่ดี

27 กันยายน 2566

คำสอน 27/09/2023


 ถ้าเป็นโรคเบาหวาน
หรือมีน้ำตาลในเลือดสูง

1.ลดอาหารพวกแป้ง ของหวาน ไขมัน
2.ดื่มน้ำมะนาวผสมน้ำต้มสุก
หลังอาหารทุกมื้อและก่อนนอน
3.ทานผักที่มีรสขมเป็นประจำทุกวัน
เช่น มะระ เพกา ขี้เหล็ก เป็นต้น
4.ทานผลไม้รสเปรี้ยว เช่น ส้มทุกชนิด
มะนาว มะเฟือง มะไฟ ฝรั่ง ส้มโอ ฯลฯ

หมายเหตุ:
ทานทุกอย่างนี้เป็นประจำ แต่อย่าทาน
ในปริมานที่เยอะจนเกินไป

คำสอน 27/09/2023

 

เห็นคนต้องมองให้เห็นว่า
คนทุกคนล้วนเป็นมนุษย์เหมือนกัน
จึงจะเห็นความต่างอย่างหลากหลาย
โดยเห็นความสวยงามได้
แต่ถ้าคุณมองคนแบบเป็นคนๆไป
จะเห็นความจริงได้แค่ว่า
แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงเท่านั้น

คัมภีร์อนุตรธรรมภาคจิตจักรวาล 27/09/2023


#คัมภีร์อนุตรธรรมภาคจิตจักรวาล
(เพื่อยุวจิตจักรวาลยุคสุดท้าย)
 
พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
 
ถ้ามีคนอย่างน้อย 3 คนบนพื้นที่ทุก 33.33 ตร.กม.
สามารถหมุนธรรมจักรด้วยความรักเพื่อให้ร่วมกัน
โดยมีมหาสติและปณิธานแห่งนิพพานเพื่อหลุดพ้น
จนทำให้จิตหยาบทั้งสามเข้าถึงจิตตปัญญากันได้
แม้จะมีใครยั่วยุเย้ายวนใครด้วยเงื่อนไขลบหรือบวก
จนสั่นสะเทือนขันธ์ห้าผลิตพลังงานร่วมแห่งรักได้
 
โดยแต่ละคนจะเหวี่ยงมันออกมาภายนอกร่างกาย
เพื่อทำการปฏิสัมพันธ์กันจนเกิดเป็นพายุแม่เหล็ก
ที่หมุนวนดุจดั่งพายุหมุนขึ้นบริเวณเหนือพื้นที่ตรงนั้น
อันเป็นผลจากพลังงานร่วมแห่งรักบริสุทธิ์ βₓ ได้
 
ลองหลับตานึกคิดให้เป็นภาพด้วยสมองซีกขวาดูว่า
ถ้าทุกพื้นที่สี่เหลี่ยมจัตุรัสบนดาวเคราะห์โลกดวงนี้
ซึ่งมีขนาดพื้นที่เท่ากันและมีคนสามคนสร้าง βₓ ได้
เหนือศีรษะพวกคุณหรือบนท้องฟ้าจะปรากฏอะไรขึ้น
หากไม่ใช่พายุหมุน “รูปกรวยคว่ำ” ที่ได้จากธรรมจักร
ของชาวดาวโลกเกิดขึ้นรอบโลกเต็มไปหมดทุกพื้นที่
ยิ่งถ้าคนทั้งสามในทุกพื้นที่สี่เหลี่ยมจัตุรัสดังกล่าวนั้น
สามารถหมุนธรรมจักรร่วมกันได้อย่างต่อเนื่องด้วยแล้ว
เหนือบรรยากาศโลกจะมีค่าสนามแม่เหล็กเป็นบวก
ที่เกิดจากการปฏิสัมพันธ์กันของพายุหมุนรูปกรวยคว่ำ
หรือจะเรียกสั้นๆว่า #พายุหมุนแห่งธรรมจักร ก็ได้นะ
 
ดังนั้น
ถ้าพวกคุณชาวโลกสามารถหมุนธรรมจักรในตนเองได้
คือ “คนตนเอง” ในสองมิติให้เป็นหนึ่งเดียวกันได้สำเร็จ
จนก้าวหน้าไปถึงขั้นชักชวนคนใกล้ตัวในครอบครัวคุณ
รวมกระทั่งชวนคนข้างบ้านเรือนเคียงและคนในสังคม
ให้มาร่วมกันหมุนธรรมจักรไปด้วยกันทุกวันเวลาแล้ว
ปรากฏการณ์มหัศจรรย์ที่พระเจ้าทรงออกแบบไว้นี้
มันก็จะเกิดขึ้นจริงเป็นกระบวนการทางพลังงานจริง
แม้สองตาเปล่าพวกคุณจะมองไม่เห็นมันก็ตาม
ซึ่งมันจะเกิดเป็นพายุแม่เหล็กที่จะเป็นหนึ่งเดียวกัน
โดยเหวี่ยงหมุนไปด้วยกันกับคลื่นสนามแม่เหล็กโลก
ที่แกนแม่เหล็กโลกเหวี่ยงมันออกมาจากการระเบิด
ขณะก้อนธาตุออกซิเจนเหนียวหนืดเกิดการบิดตัว
จนยังผลให้โลกนี้เหวี่ยงหมุนรอบตัวเองได้ต่อเนื่อง
 
เรากล่าวไว้ในตอนที่แล้วว่า
ปรากฏการณ์บนท้องฟ้าที่เกิดจาก #ธรรมจักร
ซึ่งเกิดขึ้นจริงในมิติทางพลังงานนั้นเป็นรูปกรวยคว่ำ
แต่สองตาของพวกคุณล้วนมองไม่เห็นมัน
ซึ่งนักวิทยาศาสตร์โลกพิสูจน์รู้ได้แต่เพียงว่า
รอบโลกมีสนามแม่เหล็กที่หมุนวนปกคลุมหุ้มห่ออยู่
โดยไม่รู้ว่าสนามแม่เหล็กโลกที่พวกเขาค้นพบนั้น
เป็นสนามพลังงานที่มีพายุแม่เหล็กจากจิตมนุษย์
เป็นส่วนผสมอยู่ในนั้นด้วย
 
มายาที่จะสามารถพิสูจน์ได้อย่างเป็นรูปธรรมก็คือ
เมื่อใดยุคใดที่จิตสามนึกของมนุษย์โลกตกต่ำลง
บนท้องฟ้าจะมีเมฆหมอกสีดำคล้ำลอยอยู่มากมาย
โดยเฉพาะบนท้องฟ้าเหนือชุมชนถิ่นอาศัยของผู้คน
มันจะปรากฏก้อนเมฆสีดำลอยต่ำๆอยู่มากกว่าจุดอื่น
เพราะเมฆสีดำคล้ำมากเนื่องจากมีความชื้นสูงมาก
ซึ่งความชื้นนี้เกิดจากมวลไอน้ำที่รวมตัวกันเป็นเมฆ
โดยไอน้ำละอองน้ำรวมตัวกันเป็นก้อนเมฆสีดำได้
เพราะมีประจุลบอันเกิดจาก “กรรมจักร” ของมนุษย์
ที่ใช้กิเลสสั่นสะเทือนจิตไร้สำนึกเหวี่ยงออกมาทิ้งไว้
 
อนุภาคประจุลบอันเกิดจากการหมุนกรรมจักร
ที่ประดาผู้ล้มเหลวทางจิตวิญญาณบนโลกเขาทำกัน
มันก็คือ “ขยะรกโลก” ที่ได้จากขันธ์ห้าของพวกคุณ
ที่ขยันก่อกรรมทำกันขึ้นมาในแบบที่โลกไม่ต้องการ
รวมทั้งการทำบุญทำดีแล้วร้องขอสิ่งตอบแทนด้วย
โลกและผู้อื่นสรรพสิ่งอื่นจะนำไปใช้ทำประโยชน์ไม่ได้
เป็นผลลัพธ์ทางพลังงานที่ใครทำผู้นั้นต้องรับผิดชอบ
 
ประจุบวกและลบจากกระบวนการขันธ์ห้าของมนุษย์
ที่สั่นสะเทือนจิตหยาบอย่างไม่ถูกต้องแบบรายวันนี้
มันคือคุณสมบัติกรรมของคลื่นแม่เหล็กที่มนุษย์ก่อขึ้น
ซึ่งพระเจ้าทรงเรียกว่า “พลังงานกรรม” นี่เอง
เมื่อมันถูกเหวี่ยงออกมาทิ้งไว้ในอากาศอยู่มากมาย
เพื่อรอให้เจ้าของตายแล้วกลับมาเกิดใหม่ในชาติต่อไป
มาเกิดใหม่เพื่อชำระมันทิ้งไปจากระบบโลกให้หมดสิ้น
 
ถ้าเป็นกรรมดีที่หวังสิ่งตอบแทน
จิตวิญญาณของคนนั้นก็จะกลับมาเกิดใหม่มีร่างใหม่
เพื่อทำการรับกรรมดีนั้นตามที่ร้องขอกันเอาไว้
กรรมดีที่เป็นขยะซึ่งโลกไม่ต้องการจึงจะถูกชำระได้
แต่ถ้าเป็นกรรมด้านลบหรือกรรมชั่วที่ตัวทำไว้
จิตวิญญาณก็ต้องกลับมาเกิดใหม่หลังพ้นจากนรกได้
เพื่อชดใช้บุรพกรรมนั้นและเรียนรู้ที่จะแก้ไขใหม่
ด้วยการพบเจอเงื่อนไขสถานการณ์เดิมนั้นในชาตินี้อีก
ถ้าตัดสินใจตอบสนองเงื่อนไขนั้นได้ถูกต้องแล้ว
พลังงานกรรมด้านลบนั้นก็จะแตกสลายหายไปทันที
 
พวกศัตรูของมนุษย์
ที่พยายามบิดเบือนคำสอนของพระศาสดา
ที่พยายามหลอกลวงให้พวกคุณเสพติดกิเลส
ที่พยายามหลอกให้ทิ้งสังคมปลีกวิเวก
ที่พยามหลอกว่านั่งกรรมฐานช่วยให้นิพพานได้
 
ที่พยายามหลอกให้คุณไปเป็นกรรมกรแสง
อยู่บนสวรรค์มายาที่พระเจ้ามิได้ทรงสร้างไว้
 
ที่พยายามนำเอาของเน่าเหม็นมาหลอกล่อ
ซึ่งเป็นอุตริอวิชชาทั้งหลายทั้งปวง
จนหลายคนทำตัวเป็นดั่งอีกแร้งรุมกินของเน่าเหม็น
เพราะสัตว์ตายที่ไหนจะมีอีแร้งไปรุมทึ้งกันที่นั่น
 
ศัตรูของมนุษย์กระทำเช่นนี้
เพื่อหลอกให้มนุษย์ต้องตายไร้ซึ่งความเป็นอมตะ
เพราะหลักใหญ่คือเข้าถึงความรักและปัญญาไม่ได้
เนื่องจากจิตหยาบถูกกิเลสมารครอบงำไว้
แม้กระทั่งการทำบุญสุนทานยังทำด้วยกิเลสกันเลย
กิเลสมารในจิตหยาบนี่แหละที่ทำให้จิตวิญญาณเสื่อม
 
ด้วยเหตุนี้เอง
โลกมนุษย์จึงมีท้องฟ้าสีดำคล้ำอันน่ากลัว
เพราะมีขยะประจุลบถูกเหวี่ยงออกมามากมาย
ซึ่งเป็นผลมาจาก “กรรมจักร” ที่พวกคุณก่อทั้งสิ้น
 
ขยะในบรรยากาศมีมากเท่าไหร่มวลเมฆจะยิ่งหนามาก
ฝนฟ้าก็จะตกหนักมากขึ้นจนเกิดอุทกภัยฉับพลัน
เนื่องจากปริมาณน้ำรอระบายมีมากเพราะไหลไม่ทัน
พายุแม่เหล็กในก้อนเมฆก็จะเกิดการวิปริตแปรปรวน
จนปรากฏเป็นฟ้าแลบ ฟ้าร้อง และฟ้าผ่าอันน่ากลัว
เพราะขยะพลังงานกรรมที่เป็นประจุลบและบวก
เล่นล่อเอาเถิดกันวิ่งชนปะทะกันอย่างรวดเร็วรุนแรง
 
เมื่อใดที่ท้องฟ้ามีความชื้นสัมพัทธ์น้อย
ประจุลบและบวกพวกนี้ไม่มีมวลไอน้ำให้ยึดเกาะ
เพื่อรวมตัวกันเป็นเมฆฝนลอยต่ำก้อนโตตามปกติได้
ท้องฟ้านั้นจะแลเหมือนว่า “ฟ้าโปร่ง” ผิดปกติ
เพราะเบื้องบนสูงสุดนั้นไม่มีเมฆขาวฝอยๆลอยอยู่เลย
 
เมฆฝอยๆสีขาวในระดับสูงที่ลอยอยู่นั้น
เป็นเสมือน “ฝูงแกะ” ของพระเจ้าที่อยู่ในระบบโลก
อันเป็นมายาที่เป็นภาพสะท้อนสู่เบื้องฟ้าให้รู้เห็นว่า
ณ เวลานั้นโลกนี้มีจำนวนลูกแกะที่ดีของพระองค์
ที่ยังคงเหลืออยู่บนโลกนี้กันสักกี่มากน้อยตัวแล้ว
 
หมายเหตุ:
พระโอวาทนี้อนุญาตให้แชร์ได้
 
เอเมน สาธุ
ถ่ายทอดคลื่นความคิดจากองค์จิตจักรวาล
โดย #ปัญญาวิสุทธิ์
27/09/2566