30 กันยายน 2566

คำสอน 30/09/2023

 

ทำไมสิ่งที่อยากลืมกลับจำ

สิ่งที่คุณอยากลืมมัน
คือประสบการณ์ที่ไม่ดีในชีวิต
แต่คุณกลับจำจนฝังใจ
เพราะพระองค์ต้องการให้คุณ
จำเรื่องนั้นไว้เป็นบทเรียน
จะได้ไม่ทำผิดซ้ำอีก

คำสอน 30/09/2023

 

ทำไมที่อยากจำกับลืมง่าย

สิ่งที่คุณอยากจำไว้นานๆ
คือประสบการณ์ที่ดีในชีวิต
แต่คุณกลับลืมมันง่ายๆ
เพราะพระองค์ไม่ต้องการให้จำ
เนื่องจากจำไว้ก็ไร้ประโยชน์

คำสอน 30/09/2023

 

สวัสดีวันเสาร์จงเบาทุกข์
ให้ความสุขหลากหลั่งดั่งน้ำไหล
จงสดชื่นเบิกบานสำราญใจ
เพื่อนเก่าใหม่เวียนมาพาเยี่ยมเยือน

คำสอน 30/09/2023

 

จิตสงบคือจิตที่ไม่มีความทุกข์
จิตไม่ทุกข์คือจิตที่ว่างจากกิเลส
จิตว่างจากกิเลสคือรับรู้แล้วไม่รับเอา
เมื่อจิตไม่รับเอาอัตตาตัวตนจึงไม่มี

คัมภีร์อนุตรธรรมภาคจิตจักรวาล 30/09/2023

#คัมภีร์อนุตรธรรมภาคจิตจักรวาล
(เพื่อยุวจิตจักรวาลยุคสุดท้าย)
 
พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
 
พลังงานแม่เหล็กไฟฟ้าที่พวกคุณเหวี่ยงออกมา
จากการปฏิบัติกรรมฐานที่เป็น
 #เท็คนิกสมาธิ นั้น
คลื่นความถี่ทางพลังงานนี้มันสำคัญอย่างไร
พวกจิตวิญญาณผีโสโครกที่อยู่เบื้องหลังมิติโลก
จึงต้องคอย
 “ดักดูด” หรือ “หลอกดูด” เอาไปใช้
 
คำตอบชัดๆก็คือว่า
พวก
 “คนยักษ์” ที่ถูกชำระกายสังขารทิ้งจำนวนมาก
ในปฏิบัติการชำระโลกยุคโนอาห์ด้วยภัยน้ำท่วมโลก
จิตวิญญาณพวกคนยักษ์นี้มิใช่จิตวิญญาณมนุษย์
แต่เป็นจิตวิญญาณของศัตรูผู้ก้าวล่วงมาจากดาวอื่น
จากการสมสู่กันทางเพศระหว่างตัวผู้ที่มีปีกบินได้
ซึ่งถูกไล่ออกมาจากดาวอื่นเพราะฝ่าฝืนกฎพระเจ้า
กับหญิงสาวชาวดาวโลกเพราะหลงใหลในรูปงาม
ด้วยเข้าใจว่าพวกตัวผู้ลักษณะคล้ายมนุษย์ที่มีปีกนี้
เป็นเทพบุตรหรือเป็นชาวฟ้าเพราะว่าบินลงมาจากฟ้า
 
เมื่อสมสู่กับหญิงสาวชาวดาวโลกแล้วตั้งครรภ์
การตัดตอนทางพันธุกรรมจึงเกิดขึ้นเป็นอัตโนมัติ
ตามที่พระเจ้าทรงออกแบบเอาไว้ล่วงหน้าแล้วดังนี้
 
1.จิตวิญญาณแก่นแท้ของมนุษย์
ไม่สามารถเข้าปฏิสนธิกับตัวอ่อนในครรภ์นั้นได้
เพราะบุคลิกที่คล้ายคลึงกันทางจิตวิญญาณ
ระหว่างผู้เป็นแม่กับเชื้อของคนแปลกหน้านั้นไม่มี
มนุษย์ต้องผสมพันธุ์กับมนุษย์มีลูกเป็นมนุษย์เท่านั้น
มนุษย์จะผสมพันธุ์กับสัตว์แล้วมีลูกเป็นมนุษย์ไม่ได้
 
2.จิตวิญญาณพวกสัตว์ตัวผู้ที่มีปีกบินได้ที่ตายไป
เพราะกายสังขารเสื่อมลงแม้ยังมีปีกแต่ก็บินอีกไม่ได้
หรือตัวที่เกิดการแก่ชราแล้วต้องตายไปในที่สุดนั้น
จะเป็นผู้เข้าทำการปฏิสนธิกับตัวอ่อนในครรภ์นั้นแทน
เนื่องจากพวกนี้กำลังต้องการหาร่างใหม่อาศัยอยู่พอดี
 
ที่ลูกตายก่อนจะคลอดออกมาก็มีมาก
ที่คลอดยากเพราะเด็กตัวโตมากจนแม่ต้องตายก็มี
ที่ต้องตายทั้งแม่และลูกก็มีอยู่ไม่น้อยเช่นเดียวกัน
เนื่องจากเด็กตัวโตมากจนแม่เบ่งคลอดตามปกติไม่ได้
จึงต้องใช้วิธีดิบๆคือ
 “ผ่าท้อง” ควักเอาเด็กออกมาแทน
ซึ่งวิธีการนี้แม่ตายทุกรายโดยเด็กจะพอมีรอดกันได้บ้าง
 
นี่จึงเป็นที่มาของมนุษย์พันธุ์ใหม่
จากการผสมพันธุ์แบบข้ามดาวที่เรียกว่า
 “ไฮบริด”
ซึ่งเกิดขึ้น by fluke ไม่ใช่ by choose หรือเลือกใช้
จนเป็นที่ตาพองของเผ่าดาวอื่นที่รู้เห็นมาจนถึงทุกวันนี้
ที่พยายามจะสร้างไฮบริดระหว่างพวกตนกับมนุษย์บ้าง
เพราะพวกตนมีชีวิตอมตะไม่ต้องตายแต่สืบพันธุ์ไม่ได้
ขณะที่ต้องการจะอยู่ในระบบโลกร่วมกับมนุษย์ให้ได้
จึงต้องหาทางสร้างตัวอ่อนเทียมบ้างไรบ้างเรื่อยมา
 
วิทยาการผสมเทียมของมนุษย์ที่เป็นเด็กหลอดบ้าง
วิทยาการใช้สเต็มเซลล์สร้างตัวอ่อนของวัวบ้างแกะบ้าง
จึงล้วนเป็นวิทยาศาสตร์เท็คโนโลยีของพวกนี้ทั้งสิ้น
โดยพวกเขาพยายามทดลองกับสัตว์โลกและมนุษย์ก่อน
โชคดีของโลกที่สิ่งที่พวกเขาทำนั้นมันยังไม่ได้ผล
และโชคร้ายเป็นของพวกเขาอยู่เพราะไม่มีทางสำเร็จ
เนื่องจากจิตวิญญาณของมนุษย์หรือสัตว์ที่มาเกิดกายได้
จะเป็นแต่จิตวิญญาณของสัตว์โลกที่มิใช่ของพวกตน
ซึ่งทุกวันนี้พวกเขาก็ยังมีความเพียรพยายามกันอยู่
 
เมื่อจิตวิญญาณของผู้บุกรุกก้าวล่วงชาวโลก
ที่กายสังขารเสื่อมเพราะจิตวิญญาณเสื่อมจึงต้องตาย
เหตุที่จิตวิญญาณพวกนี้เสื่อมเพราะว่าไม่มีจิตหยาบ
ช่วยทำหน้าที่แทนเหมือนกับชาวดาวโลกเสรี
กับอีกอย่างหนึ่งพวกเขาใช้พลังทางจิตวิญญาณไปมาก
เนื่องจากเพลิดเพลินกับการใช้ฤทธิ์อภิญญา 6 ที่ตนมี
เพื่อหลอกลวงให้มนุษย์งมงายลุ่มหลงในอุตริต่างๆ
ซึ่งเป็นของแปลกประหลาดและน่าทึ่งอย่างมาก
เพราะพวกคุณที่เป็นมนุษย์ทำไม่เป็นและเห็นไม่ได้
จึงพากันไปซูฮกยกย่องรูปธรรมเหล่านี้ดั่งเป็นผู้วิเศษ
 
สาเหตุแห่งความเสื่อมของจิตวิญญาณมากที่สุด
ก็เกิดจากการที่สิ่งมีชีวิตลักษณะคล้ายมนุษย์พวกนี้
มีความทะเยอทะยานทางเพศสูงมากจึงขยันเสพสม
จนเป็นสาเหตุหนึ่งที่ถูกไล่ออกมาจากดาวของตนเอง
เมื่อโบยบินมาถึงดาวโลกสันดานก็ไม่เคยเปลี่ยน
จึงมาก่อวีรกรรมกับหญิงชาวโลกตามที่เรากล่าวมา
จนสร้างปัญหาให้แก่มนุษย์โลกในเรื่องของคนยักษ์
ทำให้จิตวิญญาณที่แท้จริงของมนุษย์มาเกิดยากขึ้น
เพราะจิตวิญญาณของผู้พลัดถิ่นเข้ามาแย่งซีนไปหมด
 
เมื่อกาลเวลาโลกผ่านไปนานนับพันปี
พระเจ้าจึงทรงพิพากษาด้วยมหันตภัยให้น้ำท่วมโลก
เพื่อจัดการ
 “ขยะ” ที่เป็นคนยักษ์ออกไปจากระบบโลก
เพราะคนยักษ์มีรูปร่างสูงใหญ่จนผิดมนุษย์โดยทั่วไป
พระองค์จึงทรงบันดาลให้น้ำท่วมโลกสูงมากกว่าปกติ
 
ทุกวันนี้จิตวิญญาณของพวกเขาที่จมน้ำตาย
จึงได้แต่ล่องลอยสัญจรไปในเอกภพและในระบบโลก
เนื่องจากดีดตนเองออกไปจากโลกและเอกภพไม่ได้
เพราะจิตวิญญาณมีพลังอำนาจที่เสื่อมลงไปจากเดิม
เหตุจากใช้พลังงานภายในตนเองไปในทางที่มิชอบ
จนยังผลให้แรงสั่นสะเทือนของเมอร์คขะบาห์ตกต่ำลง
ขณะที่ไม่มีเครื่องยนต์แห่งกรรมห่อหุ้มจิตวิญญาณไว้
พลังทางจิตวิญญาณที่เสื่อมจึงชาร์ทเพิ่มเติมเต็มมิได้
 
เนื่องจากจำบ้านเกิดเมืองนอนของจิตวิญญาณไม่ได้
จำพระเจ้าพระผู้ให้กำเนิดจิตวิญญาณของตนก็ไม่ได้
จึงดำรงตนเองอยู่ในเอกภพอย่างลูกกำพร้าตลอดมา
โดยไม่เคยรู้ว่าพวกตนเกิดมามีตัวตนรูปธรรมกันทำไม
พวกตนเมื่อเกิดมาแล้วมีหน้าที่จะต้องทำอะไรกันบ้าง
เพราะในเผ่าดาวของตนไม่มีพระศาสดาเสด็จลงมาจุติ
เพื่อทำหน้าที่เป็นผู้นำทางจิตวิญญาณเหมือนดาวโลก
พวกเขาทั้งหลายจึงไม่มีคำตอบในอนุตรธรรมเหล่านี้
 
เมื่อพบว่าพลังอำนาจทางจิตวิญญาณของตนลดลง
จากที่เคยมีรูปทรงเรขาคณิต 6 เหลี่ยมมุมหรือ 6
D
ปัจจุบันลดเหลือแค่เพียง 5 เหลี่ยมมุมหรือ 5เท่านั้น
มีแนวโน้มว่าจะลดจำนวนเหลี่ยมมุมน้อยลงเรื่อยๆด้วย
ซึ่งอิทธิฤทธิ์หรือว่า
 “อภิญญา” จากแต่เดิมที่ตนเคยมี
ก็ลดทอนพลังอำนาจลงหรือเสื่อมลงไปด้วยอีกเช่นกัน
จึงต้องดิ้นรนทุกวิถีทางเพื่อชาร์ทพลังเพิ่มให้แก่ตนเอง
นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นอันเป็นที่มาของฉายาว่า
 “ผีโสโครก”
 
สิ่งที่จิตวิญญาณผีโสโครกหรือจิตวิญญาณคนยักษ์
ใช้เป็น
 “อุบาย” เพื่อหลอกลวงหรือหลอกล่อมนุษย์คือ
 
1.หลอกลวงว่าตนเองเป็นเทพเจ้า
เพื่อจูงใจให้มนุษย์นับถือหลงใหลและมอบศรัทธาให้
โดยใช้อิทธิฤทธิ์และคุณวิเศษเป็นเครื่องมือจูงใจบ้าง
ด้วยการทำให้มนุษย์ขลาดกลัวบ้าง เป็นต้น
 
2.ยืมมือมนุษย์บางคนเป็นทางผ่านของตน
ในลักษณะของการทรงเจ้าเข้าผีอวดแสดงฤทธิ์เดช
จนแม้กระทั่งการสำแดงคุณวิเศษที่คนทั่วไปทำไม่ได้
รวมทั้งการเผยแพร่ลัทธิเท็คนิกสมาธิตามสำนักต่างๆ
โดยใช้คนนำทางตาบอดเป็นเครื่องมือ
 
3.สอนให้คนชอบธรรมมุ่งกระทำในสิ่งที่ตนชอบ
ด้วยการปฏิบัติเท็คนิกสมาธิในป่าในถ้ำตามลำพัง
แล้วคอยลักลอบ
 “ดักดูด” เอาพลังจิตที่เป็นคลื่นไฟฟ้า
ซึ่งคนๆนั้นผลิตออกมาได้ไปเป็นประโยชน์ของตัวเอง
 
4.ด้วยการ “อวตาร” ลงมาเกิดกายเป็นมนุษย์
เพื่อทำตัวเป็นผู้สื่อสารกับเทพเจ้าที่อยู่เบื้องบน
โดยใช้ธรรมะพระศาสดาเป็นสิ่งจูงใจผู้คนให้สนใจ
จนเกิดความเชื่อมั่นและศรัทธาอย่างงมงาย
แล้วสอนให้มนุษย์ที่มีกายหยาบทำหน้าที่แทนกายตน
โดยใช้จิตหยาบปฏิบัติเท็คนิกสมาธิผลิตพลังงานจิต
ในรูปของพลังงานแสงที่เป็นคลื่นไฟฟ้าแม่เหล็กให้
แล้วพวกตนก็จะคอย
 “เชื่อมจิต” กับตาที่สามของคุณ
ทำตัวเป็นปลิงเพื่อคอยดักดูดพลังงานที่คุณสร้างขึ้น
ซึ่งทำกันเป็นล่ำเป็นสันมาช้านานแล้วโดยไม่มีผู้ใดรู้
 
มาภายหลังเมื่อมีผู้นิยมชมชอบปฏิบัติกรรมฐานมากขึ้น
พวกจิตวิญญาณของอดีตคนยักษ์ลูกผสมเหล่านี้
ก็จะใช้วิธีชักชวนมนุษย์ให้ทำสมาธิหมู่มาอยู่ทำร่วมกัน
เพราะรู้ว่าคนสามคนขึ้นไปจะสร้างพลังงานได้มากกว่า
ซึ่งพวกเขาจะดักดูดพลังงานรวมได้ทีละมากกว่าด้วย
 
นี่ยังไม่นับการขายความศรัทธาให้กับคนบ้าหวย
การขายความศรัทธาในวิชาที่อ้างว่าทำให้ร่ำรวยได้
ขายความศรัทธาที่รักษาโรคและเจ็บป่วยให้หายได้
ขายความศรัทธาที่สามารถขับไล่ภูตผีปีศาจที่เข้าสิงได้
ฯลฯ
 
พฤติกรรมการจูงใจด้วยสิ่งลวงๆเหล่านี้
เป็นสิ่งที่พระเจ้าทรงจัดว่าเป็นสิ่ง
 #โสโครก สกปรก
อันไม่ควรข้องแวะแต่อย่างใดทั้งสิ้น
มีแต่จะดึงรั้งให้จิตวิญญาณของคุณตกต่ำลงเรื่อยๆ
พวกผีเหล่านี้จะทำทุกอย่างเพื่อยกระดับตนเอง
กลับคืนสู่รูปธรรมที่มี 6 มิติ คือ 6 เหลี่ยมมุมดังเดิม
ซึ่งจะทำเองก็ไม่ได้เพราะไม่มีจิตหยาบกับกายหยาบ
วิธีลัดสั้นก็คือ
 “หลอกลวง” มนุษย์ที่งมงายให้โง่ง่าย
เพื่อเป็นกรรมกรแสงของตนอย่างที่ทำกันอยู่ทุกวันนี้
 
ภัยพิบัติโลกกำลังรุนแรงขึ้น
เพราะมนุษย์เสพติดกิเลสกันมากขึ้น
จนหมุนกันแต่กรรมจักรโดยเข้าถึงธรรมจักรไม่ได้
ปฏิบัติการชำระโลกเพื่อขจัดขยะออกไปจากระบบ
นับวันจะยิ่งรุนแรงและเกิดเร็วกว่ากำหนดอีกด้วย
พวกผีโสโครกและชาวกรรมกรแสงทั้งหลาย
ที่ทำให้จิตวิญญาณมนุษย์หลงทางนิพพานตลอดมา
น่าจะเร่งระวังตนเองกันเอาไว้ได้แล้วล่ะนะ
 
เอเมน สาธุ
ถ่ายทอดคลื่นความคิดจากองค์จิตจักรวาล
โดย
 #ปัญญาวิสุทธิ์
30/09/2566




29 กันยายน 2566

คำสอน 29/09/2023


 การทำบุญหรือทำความดีงามนั้น
จงอย่าทำเพื่อหวังเอาหน้า
อย่าทำโดยอธิษฐานขอสิ่งแลกเปลี่ยน
เพราะจิตจะสร้างพลังงานขยะขึ้นมา
มิใช่พลังงานบุญที่สะอาด

คัมภีร์อนุตรธรรมภาคจิตจักรวาล 29/09/2023

#คัมภีร์อนุตรธรรมภาคจิตจักรวาล
(เพื่อยุวจิตจักรวาลยุคสุดท้าย)
 
พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
 
จิตวิญญาณผู้เป็นตัวตนแก่นแท้ของพวกคุณนั้น
อาสามาเกิดเป็นคนสองมิติเพื่อคนตนเองให้เป็นมนุษย์
ด้วยการใช้ความรักเพื่อให้สั่นสะเทือนขันธ์ห้า
ผลิตพลังงานไฟฟ้าแม่เหล็กด้านบวกที่สะอาดให้โลก
เพื่อช่วยทำให้โลกหมุนรอบตัวเองอย่างต่อเนื่องได้
ทั้งยังให้ช่วยค้ำจุนความสมดุลของโลกเอาไว้ด้วย
โดยทำให้โลกเหวี่ยงหมุนรอบตัวเองด้วยอัตราเร็วคงที่
 
เพื่อให้โลกผลิตก๊าซออกซิเจนออกมาจากแกนโลก
ช่วยให้โลกผลิตสนามแม่เหล็กออกมาห่อหุ้มโลกไว้
เมื่อโลกพามนุษย์หมุนตัดผ่านสนามแม่เหล็กดังกล่าว
ทำให้กายสังขารมนุษย์เกิดไฟฟ้าเหนี่ยวนำขึ้นในระบบ
เซลล์ร่างกายและอวัยวะภายในก็สามารถทำงานได้
เพราะมีไฟฟ้าเหนี่ยวนำเป็นพลังงานในการขับเคลื่อน
พวกคุณจึงมีชีวิตรอดอยู่ได้โดยไม่ต้องตายเลย
 
ปรากฏการณ์ที่เรากล่าวมาเหล่านี้
เป็นบทบาทหน้าที่หลักของจิตวิญญาณมนุษย์ทุกคน
ในการเป็น
 #เพื่อนร่วมงานกับโลก คนสำคัญยิ่ง
ซึ่งโลกได้ประโยชน์จากมนุษย์ทุกคนที่ช่วยกันทำ
ด้วยการหมุนธรรมจักรเพราะรักกันและรักโลก
ขณะที่มนุษย์ทุกคนก็ได้ประโยชน์จากโลกเช่นกัน
คือได้อาหารน้ำยาสมุนไพรรักษาโรคอากาศหายใจ
ได้สนามแม่เหล็กที่ช่วยเหนี่ยวนำให้เกิดกระแสไฟฟ้า
ไหลเวียนภายในร่างกายทั้งยามตื่นและยามหลับ
ทำให้อวัยวะต่างๆสามารถทำงานได้ตลอดเวลา
โดยไม่มีไฟฟ้าดับมอดหรือไฟฟ้าตกจนเสียสมดุลไป
 
ทั้งสนามแม่เหล็กโลกยังช่วยป้องกันโลกและมนุษย์
ให้อยู่รอดปลอดภัยจากอุกกาบาตขนาดน้อยใหญ่
ไม่ให้พุ่งเข้ามาชนโลกได้ง่ายๆจนเกิดอันตรายได้
ซึ่งอุกกาบาตจะเสียดสีกับสนามแม่เหล็กโลกจนร้อน
แล้วลุกไหม้หมดหรือเกือบหมดก่อนจะตกลงถึงพื้นโลก
ที่สำคัญคือ
 “โลก” เป็นสถานที่ทำงานของพวกคุณ
ถ้าไม่มีโลกดวงนี้พวกคุณก็ไม่มีภารกิจใดที่จะต้องทำ
เมื่อไม่มีภารกิจต้องทำจิตวิญญาณคุณก็ไม่ต้องมาเกิด
มนุษย์กับโลกจึงเป็นเพื่อนร่วมงานกันนั่นเอง
 
การทำหน้าที่เป็นเพื่อนร่วมงานกับโลก
แปลว่าทั้งมนุษย์และโลกต่างมีหน้าที่ต้องทำร่วมกัน
โลกจะเทมนุษย์ทั้งโลกหรือใครบางคนทิ้งไปก็ไม่ได้
ขณะที่มนุษย์โลกทุกคนหรือบางคนจะละทิ้งโลกก็ไม่ได้
มนุษย์จะต้องอยู่ประจำทำงานเฝ้าโลกอยู่ตลอดเวลา
เพื่อช่วยให้โลกหมุนและค้ำจุนสมดุลโลกเอาไว้ให้ได้
โดยจะตายหายไปจากโลกเพื่อไปตกนรกก็ไม่ควรทำ
จะตายไปเกิดบนสวรรค์มายาที่พระเจ้ามิได้สร้าง
เพื่อไปนั่งนอนเสวยสุขเสพกิเลสมารอยู่บนนั้นก็ไม่ได้
เพราะหน้าที่หลักคือหมุนธรรมจักรพิทักษ์สมดุลโลก
 
ถ้าพวกคุณได้รับอนุญาตจากพระเจ้าให้เข้ามาเกิด
เพื่อรับบทบาทเป็น
 “เพื่อนร่วมงานกับโลก” แล้วไม่ทำ
จะด้วยความไม่รู้หรือถูกหลอกให้หลงทางกันก็ตาม
เท่ากับว่าพวกคุณเสียทีที่ได้มาเกิดเป็นมนุษย์แน่นอน
ภาษานักเลงโลกเขาเรียกว่า
 “เสียชาติเกิด” นั่นแหละ
 
ยิ่งถ้าปลายยุคพลังงานเก่านี้
ใครผู้ใดตกหลุมพรางพวกมาร คือ
 “ผีโสโครก”
ที่ถูกหลอกให้เสพติดเท็คนิกสมาธิหรือกรรมฐาน
เพราะเชื่อว่าเป็นแนวทางการปฏิบัติธรรมที่ถูกต้อง
ปฏิบัติแล้วสามารถนิพพานทุกอย่างได้สิ้นแน่ๆ
คือตายแล้วจิตวิญญาณจะหายสาบสูญไปเลย
ไม่กลับมาเกิดเป็นมนุษย์บนโลกนี้อีก
นี่เท่ากับว่ามนุษย์เสียท่ามารยิ่งกว่าเสียชาติเกิดอีกแน่ะ
 
วันๆหนึ่งจิตหยาบจะไม่ก้าวหน้าจนเสียเวลาเปล่า
เพราะไม่อาจยกระดับแรงสั่นสะเทือนของจิตหยาบ
ให้เป็นหนึ่งเดียวกันกับจิตวิญญาณของตนได้
เพราะถูกชวนให้ปลีกวิเวกสอนให้ปฏิบัติทำคนเดียว
โดยใช้ความสงบของจิตหยาบเป็นตัวตั้งเป็นที่หมาย
คล้ายกับว่าถูกสอนให้อยากไปสวรรค์คนเดียวเท่านั้น
มิได้ใช้ความรักเพื่อให้หรือเมตตาธรรมเป็นเป้าหมาย
เพื่อการหมุนธรรมจักรร่วมกันในการพิทักษ์สมดุลโลก
 
นอกจากนั้น
ในตอนที่แล้วเรายังเปิดเผยความจริงให้รู้ด้วยว่า
ถ้าคุณไม่หมุนธรรมจักรในตนเองและไม่หมุนร่วมกัน
โดยวันๆหันไปฝักใฝ่กับการแสวงหาความสงบของจิต
ด้วยการไปนั่งกดทับมันเอาไว้ให้นิ่งสงบชั่วคราว
ขยะในจิตหยาบรวมทั้งกรรมเวรที่จิตวิญญาณถืออยู่
มันจะเป็นขยะอันไม่พึงประสงค์ที่ยังอยู่ครบถ้วนดังเดิม
แถมมันรอวันที่จะเติมเพิ่มได้อีกต่างหากด้วย
 
นอกจากนั้นผีโสโครกผู้ไม่ประสงค์ดี
ก็จะคอย
 “ดักดูด” พลังจิตแบบลักลอบเพราะคุณไม่รู้
หรือจะอ้างการเชื่อมจิตกับตัวคุณเพื่อดูดรั้งพลังออกมา
ผ่านทางตาที่สามบริเวณหน้าผากระหว่างคิ้วของคุณ
เพราะคุณยอมพวกเขาเองจากความอยากรู้อยากลอง
ซึ่งเป็นการลงทุนแบบเสี่ยงโดยที่ยังไม่รู้อะไรเลย
ด้วยความที่หลงใหลในคำพูดจาที่ว่า
 “กรรมกรแสง”
จึงปลาบปลื้มจนลืมคิดไปว่าตนกำลังทำร้ายจิตวิญญาณ
ซึ่งเป็นตัวตนที่แท้จริงของตนเองอย่างโง่ง่ายอยู่
 
เราเตือนเรื่องนี้มาหลายครั้ง
ใครมีหูก็เชิญรับฟังกันเอาไว้บ้างเถิด
 
พวกท่านทุกคนนั้นต่างล้วนเป็นลูกแกะของพระเจ้า
มาเกิดในระบบโลกเพื่อเป็น
 “เพื่อนร่วมงานกับโลก”
ทำหน้าที่จนสิ้นยุคแล้วค่อยตายตาหลับเพื่อกลับบ้าน
มิใช่จะปีนรั้วเข้าคอกหรือทำตัวเป็นแกะหลงฝูง
โดยยอมตนเป็นทาสรับใช้ผีโสโครกเพราะนึกว่าโก้
 
เอเมน สาธุ
ถ่ายทอดคลื่นความคิดจากองค์จิตจักรวาล
โดย
 #ปัญญาวิสุทธิ์
29/09/2566




คัมภีร์อนุตรธรรมภาคจิตจักรวาล 29/09/2023

#คัมภีร์อนุตรธรรมภาคจิตจักรวาล
(เพื่อยุวจิตจักรวาลยุคสุดท้าย)
 
พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
 
พลังงานแห่งรักอันเกิดจากพลังร่วมของจิตมนุษย์
บนทุกพื้นที่
 33.33 ตร.กิโลเมตรบนโลกเสรีนี้
ที่ร่วมใจกันสั่นสะเทือนจิตสามนึกด้านบวกด้วยรัก
ในรูปแบบของ
 #รักเพื่อให้ ด้วยการทำดีทำบุญ
โดยไม่มีการอธิษฐานร้องขอสิ่งตอบแทนใดๆ
โดยไม่มีการขอให้ตนเองหรือขอให้ผู้หนึ่งผู้ใด
ตั้งแต่สามคนขึ้นไปเพื่อ
 “หมุนธรรมจักร” ร่วมกันนั้น
 
มันจะเป็นพายุแม่เหล็กที่หมุนวนรูปกรวยคว่ำ
ซึ่งจะปรากฏเกิดขึ้นบนท้องฟ้าเหนือบ้านหลังนั้น
หรือเหนือชุมชนแห่งนั้นที่ตามนุษย์มองไม่เห็น
โดยพลังงานร่วมแห่งรักของพวกคุณดังกล่าวนี้
จะเป็นไปตามสมการพลังงานทางช้างเผือก
 βx ได้
ตัวเอ็กซ์ต้องแทนค่าตั้งแต่
 3 คนขึ้นไปเท่านั้น
 
พลังงานร่วมหรือพลังงานรวมที่เกิดขึ้น
จากการที่คนตั้งแต่สามคนขึ้นไป
 “รักและเมตตากัน”
จะมีค่าเท่ากับสามเท่าของจำนวนคนที่รักกันยกกำลัง 2
คูณด้วยค่าคงที่จากการที่กาแล็กซีทางช้างเผือก
ซึ่งเป็นเสมือนเส้นผ่านศูนย์กลางของ
 #เอกภพ นี้
ออกแรงกระทำต่อวัตถุที่มีขนาดมวล
 1 หน่วยน้ำหนัก
โดยจะมีค่าคงที่เท่ากับ
 20 เสมอ
 
นี่เป็นความสัมพันธ์ของสมการศักดิ์สิทธิ์
ที่เรียกว่า
 “สมการพลังงานทางช้างเผือก”
อันเกิดจากมนุษย์และสิ่งมีชีวิตทุกรูปธรรมบนโลก
ร่วมกันผลิตขึ้นด้วยอำนาจแห่งรักที่ทุกรูปธรรมมีอยู่
โดยมี
 “ขันธ์ห้า” เป็นเครื่องมือชิ้นสำคัญในการผลิต
ซึ่งมันจะเกิดขึ้นตามธรรมชาติในทุกๆวินาที
 
ดังนั้น
มนุษย์ที่เป็นคนสองมิติผู้มีจิตหยาบจึงต้องมีสังคม
สัตว์ในธรรมชาติทุกชนิดจึงต้องอยู่ร่วมกันเป็นฝูง
ต้นไม้ทุกต้นจึงทรงต้องปลูกรวมกันเป็นป่าใหญ่ป่ารก
สัตว์ประจำโลกทุกชนิดจึงต้องเป็นสัตว์ป่าอยู่กับป่า
ทั้งนี้ก็เพื่อทำให้ตัว
 X ในสมการพลังงานร่วมด้านบวก
มีค่าตั้งแต่
 3 ขึ้นไปให้จงได้ คือมี พ่อแม่ลูก เป็นต้น
 
นอกจากจะเป็นปฏิบัติการหมุนธรรมจักรในตนเอง
เพื่อใช้ความรักทำให้แกนโลกบิดตัวช่วยให้โลกหมุน
พลังงานร่วมที่ได้ในทุกวินาทีที่มีหน่วยเป็นเม็กกะเฮิร์ท
ยังมีผลต่อการยกระดับจิตหยาบแต่ละคนให้สูงขึ้นด้วย
โดยจิตหยาบของแต่ละคนที่อยู่บนพื้นที่เดียวกันนั้น
จะมีแรงสั่นสะเทือนสูงขึ้นจากระดับปัจจุบันขณะเสมอ
ใครสั่นสะเทือนเป็นความถี่สูงระดับใดก็จะสูงยิ่งขึ้นอีก
นี่จึงเป็นปฏิบัติการทางจิตวิญญาณของมนุษย์โลก
ซึ่งพระเจ้าทรงออกแบบเอาไว้ให้ทุกคนง่ายมากขึ้น
ในการยกระดับแรงสั่นสะเทือนจิตหยาบของแต่ละคน
ให้สูงขึ้นจากระดับ
 4D จนถึง 6D ด้วยวิธีธรรมชาติได้
โดยไม่ต้องใช้ความรู้พิเศษพลังพิเศษแบบอุตริพิสดาร
 
เนื่องจากจิตหยาบของพวกคุณแต่ละคนนั้น
มีหน้าที่จะต้องพาจิตวิญญาณตนเองหลุดพ้นกลับบ้าน
ด้วยการเข้าถึงพลังอำนาจสูงสุด คือ
 6D ให้ได้ก่อน
โดยต้องทำให้จิตวิญญาณของคุณที่เหมือนนกปีกเดียว
มีปีกอีกข้างหนึ่งงอกเพิ่มออกมารวมกันเป็นสองปีก
เพื่อให้จิตวิญญาณคุณโบยบินกลับบ้านที่อยู่นอกเอกภพ
บินออกจากห้องเรียนโลกที่อยู่ในห้องทดลองของพระเจ้า
ในสภาวะการ
 “หลุดพ้น” จากแรงดึงดูดเหนี่ยวรั้งไปได้
โดยปีกที่สองนี้จะต้องค่อยๆงอกออกมาตั้งแต่ปฏิสนธิ
จากจุดเล็กๆคือ
 “หยดเลือด” เพียงหยดเดียวที่ในครรภ์
 
พวกคุณจะเห็นได้ว่า
พระเจ้าทรงกำหนดสร้างด้วยการออกแบบไว้ให้
พวกคุณแต่ละคนเรียนรู้ที่จะเป็นหนึ่งเดียวกัน
เริ่มตั้งแต่แรกเข้ามาปฏิสนธิในครรภ์มารดาแล้ว
โดยพ่อแม่ลูกต่างจะต้องรักกันเพื่อเหนี่ยวรั้งกันไว้
หยดเลือดหยดเดียวจึงจะเติบโตพัฒนาเป็นตัวอ่อนได้
 
เมื่อคลอดตกฟากออกมาเป็นทารกลืมตาดูโลกแล้ว
ทั้งจิตหยาบและจิตวิญญาณของทารกน้อยคนนั้น
ก็จักต้องเรียนรู้ที่จะแสดงความน่ารักของตนออกมา
เพื่อให้คนรอบข้างมอบความรักและเมตตามาให้ตน
โดยใครจะรักทารกที่ตนอุ้มหรือกอดอยู่มากหรือน้อย
พระเจ้าก็จะทรงออกแบบให้ทารก
 #ฉี่หรือขี้ ใส่คนอุ้ม
เพื่อใช้ความรู้สึกรังเกียจหรือไม่รังเกียจเป็นตัวชี้วัดว่า
จะให้อภัยจะถือโทษโกรธเคืองทารกคนนั้นหรือเปล่า
 
ถ้ารักและเมตตาทารกน้อยคนนั้นได้จริง
คนที่อุ้มเด็กอยู่ก็จะไม่เกิดการเสียสมดุลทางจิต
จนเกิดอาการขยะแขยง
 “ฉี่หรือขี้” เด็กที่รดราดตนอยู่นั้น
ซึ่งคนโบราณมักจะบอกตัวเองว่าตนถูก
 #ทารกฝากรัก
โดยที่เด็กทารกใช้ฉี่หรือขี้ของตนกับความน่ารักน่าเอ็นดู
เป็นเงื่อนไขด้านบวกสำหรับคนใกล้ตัวและคนรอบข้าง
ให้สามารถสั่นสะเทือนจิตหยาบหมุนธรรมจักรร่วมกันได้
ตามสมการ
 βx ซึ่งเป็นสมการทางพลังงานทางช้างเผือก
จากความไร้เดียงสาของตนเองแท้ๆ
 
เมื่อความจริงมันเป็นเช่นที่เรากล่าวมานั้น
พวกคุณจึงจะเห็นได้อย่างกระจ่างชัดเจนในกมลว่า
มนุษย์กับทุกสรรพสิ่งล้วนเชื่อมจิตกันตามวิถีธรรมชาติ
อันเป็นการเชื่อมจิตที่เป็นกระบวนการอัตโนมัติอยู่แล้ว
โดยใช้ความรักเป็นเครื่องมือมิใช่การ
 “กำหนดเชื่อม”
ตามวิชามารซึ่งเป็นแผนการล่อลวงของพวก #ผีโสโครก
เพราะทุกสิ่งอย่างต่างเชื่อมโยงกันเป็นอัตโนมัติอยู่แล้ว
 
เราจะกล่าวความจริงให้คุณรู้ว่า
พายุแม่เหล็กจากธรรมจักรที่มนุษย์โลกร่วมสร้างขึ้นนั้น
นอกจากจะเอื้อประโยชน์หลายอย่างตามที่เรากล่าวแล้ว
มันยังจะช่วย
 “ปัดกวาด” แผ่นฟ้าที่เต็มไปด้วยขยะ
ซึ่งเป็นขยะอันเกิดจากพลังงานสกปรกพลังงานไม่สะอาด
ที่จิตหยาบมนุษย์สร้างขึ้นจากกิเลสมารในชีวิตประจำวัน
ด้วยการร่วมกันหมุน
 #กรรมจักร อย่างไม่ลืมหูลืมตา
จนเกิดเป็นมวลพลังงานกรรมลอยค้างอยู่ในบรรยากาศ
จนฟ้ามืดสวรรค์มัวแทนฟ้าสีทองผ่องอำไพได้อีกด้วย
 
แต่เนื่องจากพวกจิตวิญญาณของผีโสโครกศัตรูมนุษย์
แลเห็นว่ามนุษย์สามารถใช้เครื่องยนต์แห่งกรรมที่มีอยู่
ร่วมกันผลิตสร้างพลังงานด้านบวกออกมาให้โลกได้
จึงเห็นประโยชน์จากสิ่งที่มนุษย์ร่วมกันทำได้แต่ไม่รู้นี้
โดยฉกฉวยโอกาสให้
 “คนชอบทำ” นั่งกรรมฐานสมาธิ
ทั้งทำแบบปลีกวิเวกโดยโดดเดี่ยวและทำแบบหมู่คณะ
สร้าง
 “พลังงานแสง” คือคลื่นความถี่ทางไฟฟ้าแม่เหล็ก
แล้วพวกตนจะคอย
 “ดักดูด” เอาพลังงานแสงนั้นไปใช้
ถ้าทำอย่างไม่เปิดเผยตัวตนให้รู้ตัวก็เรียกว่า
 “ลักดูด”
แต่ถ้าทำแบบเปิดเผยตัวตนให้รู้ตัวก็เรียกว่า “เชื่อมจิต”
 
ทั้งวิธีการลักดูดหรือวิธีการเชื่อมจิตนี้
เป็นปฏิบัติการทางจิตที่เป็นจริงได้สำหรับใครที่ไม่รู้
เพราะคนนำทางตาบอดมักจะบอกว่ากรรมฐานสมาธิ
เป็นวิธีการปฏิบัติธรรมจนชาวบ้านล้วนหลงผิดคิดว่า
พระศาสดาทรงสอนให้ศาสนิกชนคนประพฤติธรรม
ล้วนต้องทำกันแบบที่ว่านี้ถ้าไม่ทำก็จะมิใช่ปฏิบัติธรรม
จึงพากันนิยมปฏิบัติตามกันมาอย่างว่าง่ายโดยไม่ฉุกคิด
 
วิธีการ “ดักดูด” เป็นวิธีที่จิตวิญญาณผีโสโครก
จะใช้อภิญญฤทธิ์ของจิตวิญญาณที่พวกตนมีอยู่
ดักดูดเอาจากพายุหมุนแห่งธรรมจักรในบรรยากาศโลก
ซึ่งพายุหมุนแห่งธรรมจักรที่เป็นพายุแม่เหล็กด้านดีนี้
เป็น
 “พลังบุญ” ที่พวกคุณซึ่งเป็นมนุษย์ร่วมสร้างกันขึ้นมา
แสดงว่าผีโสโครกพวกนี้คือพวกที่คอยแย่งชิงส่วนบุญ
เป็นการลักขโมยเอาไปโดยไม่ต้องร้องขอจากมนุษย์
ชาวพุทธทั้งหลายเรียกพวกนี้ว่า
 “ผีเปรต” นั่นแหละ
ส่วนพลังบุญที่ว่านี้คือสิ่งที่เรียกว่าพลังงานแสงนั่นแหละ
 
ส่วนวิธีการ “เชื่อมจิต” เป็นวิธีที่ผีโสโครกทั้งหลาย
ใช้มนุษย์ด้วยกันเป็นเครื่องมือหรือเป็นตัวช่วย
โดยหลอกว่าตนจะถ่ายเทพลังงานที่คุณต้องการมาให้
ด้วยวิธีการต่อท่อพลังงานของผีกับของคุณเข้าด้วยกัน
ซึ่งเป็นการเชื่อมต่อด้วย
 #จิตสัมผัส ที่เป็นมโนกรรม
ถ้าคุณเชื่อว่าเป็นไปได้จริงการเชื่อมต่อกันก็จะลงตัวได้
แต่แทนที่คุณจะเป็นผู้ได้รับกลับต้องเป็นผู้ถ่ายให้ผีแทน
 
คุณนึกถึงทฤษฎีแห่งแรงความโน้มถ่วงของจักรวาล
อันเป็นกฎการสมดุลกันของทุกสรรพสิ่งได้ไหมล่ะว่า
น้ำในธรรมชาติย่อมไหลจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำเสมอ
ไม่ต่างจากการที่ผู้มีมากต้องเมตตาต่อผู้มีน้อยกว่าเสมอ
คุณที่ปฏิบัติกรรมฐานในขณะที่จิตสงบระงับอยู่นั้น
จะเป็นผู้ที่มีพลังงานแม่เหล็กด้านบวกในระดับสูงกว่า
ขณะที่จิตเปิดเพราะเชื่อว่าทำเช่นนั้นแล้วจะรับพลังได้
เมื่อวาล์วเปิดออกน้ำที่อยู่ในท่อนั้นจะไหลเข้าออกก็ได้
อยู่ที่ว่าน้ำในท่อนั้นด้านไหนมันไหลมามากกว่ากัน
 
วิธีการเชื่อมจิตแบบเปิดเผยนี้ผีโสโครกชอบมาก
เพราะไม่ต้องลักดูดคราวละน้อยๆกะปริบกะปรอย
เพราะวิธีการเชื่อมจิตต่อท่อจะได้พลังงานไปทีละล้นอิ่ม
แถมไม่ต้องคอยทำตัวเป็นอีแอบหรือเป็นโจรด้วย
เพียงแค่บอกให้คนชอบทำมาร่วมกันทำในสิ่งที่ตนชอบ
แล้วเลือกตัวแทนของพวกตนที่มีกายสังขารเป็นมนุษย์
ให้แสดงบทบาทของผู้นำโดยทำตัวเป็นเจ้าลัทธิ
มีความสวยรวยหล่อมีความอุตริเหนือมนุษย์มาจูงใจ
พระเยซูทรงเรียกผีเปรตพวกนี้ว่า
 “ผีโสโครก”
เพราะพฤติกรรมพวกเขาเป็นผู้ดึงมนุษย์ลงสู่ทางต่ำ
นำพาให้โง่ง่ายงมงายกับการเวียนตายเกิดในสามโลก
ทั้งโลกหนึ่งสวรรค์มายาหนึ่งและนรกอีกหนึ่ง
 
คนที่ชอบปฏิบัติทำแล้วหลงก้าวตาม
จะกลายเป็นกรรรมกรแสงหรือเป็นคนงานให้กับพวกนี้
ด้วยความสมัครใจแบบคนโง่ง่ายนั่นแหละ
เรารู้ดีว่าคนโง่ง่ายนั้นมักไม่เชื่อเมื่อได้รับฟังความจริง
แต่มักจะเชื่อง่ายในสิ่งที่ตนอธิบายไม่ได้และไม่เคยรู้
ขณะที่มักจะไม่เชื่อหรือปฏิเสธทันทีในสิ่งที่ตนไม่เข้าใจ
ถ้ามนุษย์ยังไม่หันมาหาพระเจ้าไม่หันกลับมาทางเรา
เพื่อทำหน้าที่เป็น
 #เพื่อนร่วมงานกับโลก ตามที่อาสามา
โดยฝักใฝ่กับการเป็น
 #กรรมกรแสง กันมากขึ้นแล้ว
ทั้งจิตวิญญาณตนเองและดาวโลกจะต้องวิบัติเป็นแน่แท้
 
เอเมน สาธุ
ถ่ายทอดคลื่นความคิดจากองค์จิตจักรวาล
โดย
 #ปัญญาวิสุทธิ์
29/09/2566




28 กันยายน 2566

คำสอน 28/09/2023

 

ขอให้มีสุขภาพดีและมีลาภ
บุญขนาบค้ำชูมีผู้หนุน
จิตเริงร่าอารมณ์จงสมดุล
ไม่ว้าวุ่นงานเดินเงินไหลมา

คำสอน 28/09/2023

 

คนดีจะมีอำนาจภายในตนเอง
ไม่ต้องแย่งชิงอำนาจจากผู้อื่นก็ได้
คนที่แสวงหาอำนาจจากภายนอก
ส่วนใหญ่มักจะเป็นคนไม่ดี

27 กันยายน 2566

คำสอน 27/09/2023


 ถ้าเป็นโรคเบาหวาน
หรือมีน้ำตาลในเลือดสูง

1.ลดอาหารพวกแป้ง ของหวาน ไขมัน
2.ดื่มน้ำมะนาวผสมน้ำต้มสุก
หลังอาหารทุกมื้อและก่อนนอน
3.ทานผักที่มีรสขมเป็นประจำทุกวัน
เช่น มะระ เพกา ขี้เหล็ก เป็นต้น
4.ทานผลไม้รสเปรี้ยว เช่น ส้มทุกชนิด
มะนาว มะเฟือง มะไฟ ฝรั่ง ส้มโอ ฯลฯ

หมายเหตุ:
ทานทุกอย่างนี้เป็นประจำ แต่อย่าทาน
ในปริมานที่เยอะจนเกินไป

คำสอน 27/09/2023

 

เห็นคนต้องมองให้เห็นว่า
คนทุกคนล้วนเป็นมนุษย์เหมือนกัน
จึงจะเห็นความต่างอย่างหลากหลาย
โดยเห็นความสวยงามได้
แต่ถ้าคุณมองคนแบบเป็นคนๆไป
จะเห็นความจริงได้แค่ว่า
แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงเท่านั้น

คัมภีร์อนุตรธรรมภาคจิตจักรวาล 27/09/2023

#คัมภีร์อนุตรธรรมภาคจิตจักรวาล
(เพื่อยุวจิตจักรวาลยุคสุดท้าย)
 
พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
 
ถ้ามีคนอย่างน้อย 3 คนบนพื้นที่ทุก 33.33 ตร.กม.
สามารถหมุนธรรมจักรด้วยความรักเพื่อให้ร่วมกัน
โดยมีมหาสติและปณิธานแห่งนิพพานเพื่อหลุดพ้น
จนทำให้จิตหยาบทั้งสามเข้าถึงจิตตปัญญากันได้
แม้จะมีใครยั่วยุเย้ายวนใครด้วยเงื่อนไขลบหรือบวก
จนสั่นสะเทือนขันธ์ห้าผลิตพลังงานร่วมแห่งรักได้
 
โดยแต่ละคนจะเหวี่ยงมันออกมาภายนอกร่างกาย
เพื่อทำการปฏิสัมพันธ์กันจนเกิดเป็นพายุแม่เหล็ก
ที่หมุนวนดุจดั่งพายุหมุนขึ้นบริเวณเหนือพื้นที่ตรงนั้น
อันเป็นผลจากพลังงานร่วมแห่งรักบริสุทธิ์
 βx ได้
 
ลองหลับตานึกคิดให้เป็นภาพด้วยสมองซีกขวาดูว่า
ถ้าทุกพื้นที่สี่เหลี่ยมจัตุรัสบนดาวเคราะห์โลกดวงนี้
ซึ่งมีขนาดพื้นที่เท่ากันและมีคนสามคนสร้าง
 βx ได้
เหนือศีรษะพวกคุณหรือบนท้องฟ้าจะปรากฏอะไรขึ้น
หากไม่ใช่พายุหมุน
 “รูปกรวยคว่ำ” ที่ได้จากธรรมจักร
ของชาวดาวโลกเกิดขึ้นรอบโลกเต็มไปหมดทุกพื้นที่
ยิ่งถ้าคนทั้งสามในทุกพื้นที่สี่เหลี่ยมจัตุรัสดังกล่าวนั้น
สามารถหมุนธรรมจักรร่วมกันได้อย่างต่อเนื่องด้วยแล้ว
เหนือบรรยากาศโลกจะมีค่าสนามแม่เหล็กเป็นบวก
ที่เกิดจากการปฏิสัมพันธ์กันของพายุหมุนรูปกรวยคว่ำ
หรือจะเรียกสั้นๆว่า
 #พายุหมุนแห่งธรรมจักร ก็ได้นะ
 
ดังนั้น
ถ้าพวกคุณชาวโลกสามารถหมุนธรรมจักรในตนเองได้
คือ
 “คนตนเอง” ในสองมิติให้เป็นหนึ่งเดียวกันได้สำเร็จ
จนก้าวหน้าไปถึงขั้นชักชวนคนใกล้ตัวในครอบครัวคุณ
รวมกระทั่งชวนคนข้างบ้านเรือนเคียงและคนในสังคม
ให้มาร่วมกันหมุนธรรมจักรไปด้วยกันทุกวันเวลาแล้ว
ปรากฏการณ์มหัศจรรย์ที่พระเจ้าทรงออกแบบไว้นี้
มันก็จะเกิดขึ้นจริงเป็นกระบวนการทางพลังงานจริง
แม้สองตาเปล่าพวกคุณจะมองไม่เห็นมันก็ตาม
ซึ่งมันจะเกิดเป็นพายุแม่เหล็กที่จะเป็นหนึ่งเดียวกัน
โดยเหวี่ยงหมุนไปด้วยกันกับคลื่นสนามแม่เหล็กโลก
ที่แกนแม่เหล็กโลกเหวี่ยงมันออกมาจากการระเบิด
ขณะก้อนธาตุออกซิเจนเหนียวหนืดเกิดการบิดตัว
จนยังผลให้โลกนี้เหวี่ยงหมุนรอบตัวเองได้ต่อเนื่อง
 
เรากล่าวไว้ในตอนที่แล้วว่า
ปรากฏการณ์บนท้องฟ้าที่เกิดจาก
 #ธรรมจักร
ซึ่งเกิดขึ้นจริงในมิติทางพลังงานนั้นเป็นรูปกรวยคว่ำ
แต่สองตาของพวกคุณล้วนมองไม่เห็นมัน
ซึ่งนักวิทยาศาสตร์โลกพิสูจน์รู้ได้แต่เพียงว่า
รอบโลกมีสนามแม่เหล็กที่หมุนวนปกคลุมหุ้มห่ออยู่
โดยไม่รู้ว่าสนามแม่เหล็กโลกที่พวกเขาค้นพบนั้น
เป็นสนามพลังงานที่มีพายุแม่เหล็กจากจิตมนุษย์
เป็นส่วนผสมอยู่ในนั้นด้วย
 
มายาที่จะสามารถพิสูจน์ได้อย่างเป็นรูปธรรมก็คือ
เมื่อใดยุคใดที่จิตสามนึกของมนุษย์โลกตกต่ำลง
บนท้องฟ้าจะมีเมฆหมอกสีดำคล้ำลอยอยู่มากมาย
โดยเฉพาะบนท้องฟ้าเหนือชุมชนถิ่นอาศัยของผู้คน
มันจะปรากฏก้อนเมฆสีดำลอยต่ำๆอยู่มากกว่าจุดอื่น
เพราะเมฆสีดำคล้ำมากเนื่องจากมีความชื้นสูงมาก
ซึ่งความชื้นนี้เกิดจากมวลไอน้ำที่รวมตัวกันเป็นเมฆ
โดยไอน้ำละอองน้ำรวมตัวกันเป็นก้อนเมฆสีดำได้
เพราะมีประจุลบอันเกิดจาก
 “กรรมจักร” ของมนุษย์
ที่ใช้กิเลสสั่นสะเทือนจิตไร้สำนึกเหวี่ยงออกมาทิ้งไว้
 
อนุภาคประจุลบอันเกิดจากการหมุนกรรมจักร
ที่ประดาผู้ล้มเหลวทางจิตวิญญาณบนโลกเขาทำกัน
มันก็คือ
 “ขยะรกโลก” ที่ได้จากขันธ์ห้าของพวกคุณ
ที่ขยันก่อกรรมทำกันขึ้นมาในแบบที่โลกไม่ต้องการ
รวมทั้งการทำบุญทำดีแล้วร้องขอสิ่งตอบแทนด้วย
โลกและผู้อื่นสรรพสิ่งอื่นจะนำไปใช้ทำประโยชน์ไม่ได้
เป็นผลลัพธ์ทางพลังงานที่ใครทำผู้นั้นต้องรับผิดชอบ
 
ประจุบวกและลบจากกระบวนการขันธ์ห้าของมนุษย์
ที่สั่นสะเทือนจิตหยาบอย่างไม่ถูกต้องแบบรายวันนี้
มันคือคุณสมบัติกรรมของคลื่นแม่เหล็กที่มนุษย์ก่อขึ้น
ซึ่งพระเจ้าทรงเรียกว่า
 “พลังงานกรรม” นี่เอง
เมื่อมันถูกเหวี่ยงออกมาทิ้งไว้ในอากาศอยู่มากมาย
เพื่อรอให้เจ้าของตายแล้วกลับมาเกิดใหม่ในชาติต่อไป
มาเกิดใหม่เพื่อชำระมันทิ้งไปจากระบบโลกให้หมดสิ้น
 
ถ้าเป็นกรรมดีที่หวังสิ่งตอบแทน
จิตวิญญาณของคนนั้นก็จะกลับมาเกิดใหม่มีร่างใหม่
เพื่อทำการรับกรรมดีนั้นตามที่ร้องขอกันเอาไว้
กรรมดีที่เป็นขยะซึ่งโลกไม่ต้องการจึงจะถูกชำระได้
แต่ถ้าเป็นกรรมด้านลบหรือกรรมชั่วที่ตัวทำไว้
จิตวิญญาณก็ต้องกลับมาเกิดใหม่หลังพ้นจากนรกได้
เพื่อชดใช้บุรพกรรมนั้นและเรียนรู้ที่จะแก้ไขใหม่
ด้วยการพบเจอเงื่อนไขสถานการณ์เดิมนั้นในชาตินี้อีก
ถ้าตัดสินใจตอบสนองเงื่อนไขนั้นได้ถูกต้องแล้ว
พลังงานกรรมด้านลบนั้นก็จะแตกสลายหายไปทันที
 
พวกศัตรูของมนุษย์
ที่พยายามบิดเบือนคำสอนของพระศาสดา
ที่พยายามหลอกลวงให้พวกคุณเสพติดกิเลส
ที่พยายามหลอกให้ทิ้งสังคมปลีกวิเวก
ที่พยามหลอกว่านั่งกรรมฐานช่วยให้นิพพานได้
 
ที่พยายามหลอกให้คุณไปเป็นกรรมกรแสง
อยู่บนสวรรค์มายาที่พระเจ้ามิได้ทรงสร้างไว้
 
ที่พยายามนำเอาของเน่าเหม็นมาหลอกล่อ
ซึ่งเป็นอุตริอวิชชาทั้งหลายทั้งปวง
จนหลายคนทำตัวเป็นดั่งอีกแร้งรุมกินของเน่าเหม็น
เพราะสัตว์ตายที่ไหนจะมีอีแร้งไปรุมทึ้งกันที่นั่น
 
ศัตรูของมนุษย์กระทำเช่นนี้
เพื่อหลอกให้มนุษย์ต้องตายไร้ซึ่งความเป็นอมตะ
เพราะหลักใหญ่คือเข้าถึงความรักและปัญญาไม่ได้
เนื่องจากจิตหยาบถูกกิเลสมารครอบงำไว้
แม้กระทั่งการทำบุญสุนทานยังทำด้วยกิเลสกันเลย
กิเลสมารในจิตหยาบนี่แหละที่ทำให้จิตวิญญาณเสื่อม
 
ด้วยเหตุนี้เอง
โลกมนุษย์จึงมีท้องฟ้าสีดำคล้ำอันน่ากลัว
เพราะมีขยะประจุลบถูกเหวี่ยงออกมามากมาย
ซึ่งเป็นผลมาจาก
 “กรรมจักร” ที่พวกคุณก่อทั้งสิ้น
 
ขยะในบรรยากาศมีมากเท่าไหร่มวลเมฆจะยิ่งหนามาก
ฝนฟ้าก็จะตกหนักมากขึ้นจนเกิดอุทกภัยฉับพลัน
เนื่องจากปริมาณน้ำรอระบายมีมากเพราะไหลไม่ทัน
พายุแม่เหล็กในก้อนเมฆก็จะเกิดการวิปริตแปรปรวน
จนปรากฏเป็นฟ้าแลบ ฟ้าร้อง และฟ้าผ่าอันน่ากลัว
เพราะขยะพลังงานกรรมที่เป็นประจุลบและบวก
เล่นล่อเอาเถิดกันวิ่งชนปะทะกันอย่างรวดเร็วรุนแรง
 
เมื่อใดที่ท้องฟ้ามีความชื้นสัมพัทธ์น้อย
ประจุลบและบวกพวกนี้ไม่มีมวลไอน้ำให้ยึดเกาะ
เพื่อรวมตัวกันเป็นเมฆฝนลอยต่ำก้อนโตตามปกติได้
ท้องฟ้านั้นจะแลเหมือนว่า
 “ฟ้าโปร่ง” ผิดปกติ
เพราะเบื้องบนสูงสุดนั้นไม่มีเมฆขาวฝอยๆลอยอยู่เลย
 
เมฆฝอยๆสีขาวในระดับสูงที่ลอยอยู่นั้น
เป็นเสมือน
 “ฝูงแกะ” ของพระเจ้าที่อยู่ในระบบโลก
อันเป็นมายาที่เป็นภาพสะท้อนสู่เบื้องฟ้าให้รู้เห็นว่า
ณ เวลานั้นโลกนี้มีจำนวนลูกแกะที่ดีของพระองค์
ที่ยังคงเหลืออยู่บนโลกนี้กันสักกี่มากน้อยตัวแล้ว
 
หมายเหตุ:
พระโอวาทนี้อนุญาตให้แชร์ได้
 
เอเมน สาธุ
ถ่ายทอดคลื่นความคิดจากองค์จิตจักรวาล
โดย
 #ปัญญาวิสุทธิ์
27/09/2566




คัมภีร์อนุตรธรรมภาคจิตจักรวาล 27/09/2023

#คัมภีร์อนุตรธรรมภาคจิตจักรวาล
(เพื่อยุวจิตจักรวาลยุคสุดท้าย)
 
พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
 
ถ้าจิตหยาบของจิตวิญญาณผู้มาเกิดในครรภ์มารดา
ไม่ถูกกระตุ้นให้สั่นสะเทือนด้านบวกด้วยพลังความรัก
ที่จิตวิญญาณคือตัวคุณกับจิตหยาบของบิดามารดา
รวมกันเป็น 3 แรงแข็งขันสั่นสะเทือนสมการ
 βx แล้ว
จิตวิญญาณของคุณก็จะไม่มีกายหยาบหรือกายสังขาร
ปกคลุมหุ้มห่อในมิติทางกายภาพจนเติบโตถึงคลอดได้
ทุกอย่างจะเป็นไปคล้ายดั่งอัตโนมัติและมหัศจรรย์ยิ่ง
ซึ่งเราเชื่อว่าผู้เป็นพ่อแม่ทุกคนยังไม่เคยมีผู้ใดรู้มาก่อน
โดยทุกคนที่เป็นทายาทแห่งองค์จิตจักรวาลเท่านั้น
ที่ถูกเปิดมิติให้รับรู้ความจริงเบื้องหลังมิติโลกเหล่านี้
 
เราปรารถนาที่จะกล่าวเตือนให้พวกคุณรู้ว่า
กระบวนการหมุนธรรมจักรร่วมกันด้วยความรักบริสุทธิ์
มันมิได้เป็นเรื่องยากเย็นลี้ลับอะไรเลยสักนิด
แม้พระศาสดาไม่เคยสอนไม่เคยบอกพวกคุณมาก่อน
เพียงแค่คุณรู้จักที่จะรักกันให้ได้อภัยกันเมตตากันให้เป็น
กระบวนการทางจิตในการ
 “หมุนธรรมจักร” ก็เป็นจริงแล้ว
 
ดังนั้น
ในกาลอดีตที่ผ่านมาถึงปัจจุบัน
แม้พวกคุณที่เป็นชาวโลกจะถูกหลอกถูกบิดเบือนปิดบัง
ไม่ให้รู้เรื่องที่จิตวิญญาณอาสาเข้ามาเกิดเป็นมนุษย์
เพื่อหมุนธรรมจักรร่วมกันด้วยความรักบริสุทธิ์แท้จริง
จะได้ใช้ขันธ์ห้าของจิตหยาบสร้างพลังงานร่วมด้านบวก
ซึ่งจำนวน 1% มอบให้โลกนำลงไปใช้บิดแกนแม่เหล็ก
เพื่อฉุดช่วยให้โลกทั้งดวงเหวี่ยงหมุนรอบตัวเองต่อเนื่อง
จนยังผลให้ระบบโลกเกิดความสมดุลได้อย่างยั่งยืน
โดยมนุษย์และทุกสิ่งในระบบโลกจะไม่เผชิญกับภัยพิบัติ
อันมีสาเหตุจากการเสียสมดุลของโลกนั่นเอง
 
ปรากฏการณ์ที่พลังงานร่วม 1% ที่ถูกเหนี่ยวรั้งลงไป
ปฏิสัมพันธ์กับอะตอมของก้อนธาตุออกซิเจนในแกนโลก
จนเกิดการระเบิดขึ้นในรูปแบบของ
 Nuclear Fission
ซึ่งเป็นปฏิกิริยาลูกโซ่ต่อเนื่องเรียกว่า Chain Re-action
แม้เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในมิติทางกายภาพก็ตาม
แต่มันเกิดขึ้นภายใต้ฝ่าเท้าพวกคุณลึกลงไปในแกนโลก
พวกคุณจึงไม่อาจรู้เห็นความจริงที่ว่านี้ได้
 
แต่พระเจ้าทรงเมตตาพวกคุณมาก
หากคุณใช้ความฉลาดทางปัญญาของสมองสองซีกได้
จากการสังเกตสิ่งแวดล้อมรอบตัวคุณแล้วนำมา
 #ฉุกคิด
คุณก็จะได้คำตอบจากมายาที่ทรงแสดงไว้ให้เห็นนั้น
 
ตัวอย่างเช่น
ทรงบอกใบ้ให้พวกคุณฉุกคิดเพื่อรู้ความจริงให้ได้ว่า
ต้นไม้ทุกต้นที่มีรากหยั่งลึกลงไปในดินนั้น
ทุกๆต้นเสมือนหนึ่งพวกเขามุดโผล่ขึ้นมาจากใต้ดิน
โดยมีใบไม้ส่วนใหญ่เป็นสีเขียวเข้มเต็มไปหมดเลย
เพื่อจะแสดงมายาให้คุณรู้ว่าในแกนโลกนั้นมีสีเขียว
เพราะก้อนธาตุออกซิเจนในแกนโลกมีสีเขียวมรกต
 
พระองค์ยังสร้างมายาแสดงให้พวกคุณรู้เห็นด้วยว่า
ใบไม้ที่มีสีเขียวนั้นมีรูใบหรือปากใบที่เขาหายใจออกมา
เป็นก๊าซออกซิเจนบริสุทธิ์ที่มนุษย์สัตว์ใช้หายใจได้ด้วย
ปรากฏการณ์นี้พระองค์ทรงมีพระประสงค์จะบอกให้รู้ว่า
ในแกนโลกคือโรงงานผลิตก๊าซออกซิเจนที่ใช้หายใจได้
โดยก๊าซออกซิเจนหลุดออกมาจากก้อนธาตุสีเขียว
เมื่อมีการระเบิดเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในตอนกลางวัน
เช่นเดียวกับการที่พืชสังเคราะห์แสงแล้วคายออกซิเจน
ออกมาให้ปรากฏได้เฉพาะในเวลากลางวันนั่นเอง
 
นอกจากนั้น
พระองค์ยังทรงกำหนดสร้างให้โลกมีลาวาไหลออกมา
จากรอยแตกแยกของเปลือกโลกหรือจากปล่องภูเขาไฟ
เพื่อจะบอกให้มนุษย์ผู้ไม่โง่ง่ายทั้งหลายได้เรียนรู้ด้วยว่า
ในแกนโลกยังมีลาวาที่ข้นและร้อนแรงจนสีแดงฉานอยู่
วันดีคืนดีมันก็จะทะลักออกมาหรือบ้วนออกมาให้รู้เห็นกัน
 
เพื่อแสดงให้เห็นว่าการระเบิดระดับอะตอมที่แกนโลก
ทำให้เกิดก๊าซออกซิเจนแทรกซึมขึ้นมาบนพื้นผิวโลก
เพื่อให้สิ่งมีชีวิตทั้งมนุษย์และสัตว์ใช้หายใจยังชีพกัน
ยังมีความร้อนแรงเกิดขึ้นจนแร่ธาตุหลอมละลาย
โดยแสดงให้เห็นเป็นลาวาสีแดงฉานจากใต้พื้นโลกแล้ว
ยังทรงกำหนดให้มีน้ำพุร้อนพุ่งขึ้นมาจากใต้ดินอีกด้วย
เพื่อยืนยันให้พวกคุณมั่นใจว่าในแกนโลกมันร้อนจริงๆ
มิใช่แกนโลกร้อนมาตั้งแต่กำเนิดโลกนับล้านๆปีมาแล้ว
เพราะโลกยังเย็นไม่สนิทโดย
 “เดาส่งเดช” แต่อย่างใด
 
แท้จริงแล้วที่แกนโลกยังร้อนอยู่ได้นั้น
เพราะมนุษย์โลกและสิ่งมีชีวิตในระบบโลกทั้งหลาย
ช่วยกันผลิตพลังงานความรักบริสุทธิ์ป้อนให้โลก
เพื่อจุดระเบิดอะตอมของธาตุออกซิเจนในแกนโลก
จากการ
 “หมุนธรรมจักร” หรือคนตนเองเพื่อเป็นมนุษย์
ตามที่เราเปิดเผยไว้ตั้งแต่ต้นตลอดวันและตลอดมา
 
ส่วนพลังงานร่วมด้านบวกอีกจำนวน 99%
จะเป็นปรากฏการณ์ทางพลังงานที่ตามนุษย์มองไม่เห็น
โดยพลังงานร่วมนี้จะเป็นคลื่นพลังงานไฟฟ้าแม่เหล็ก
ที่จะก่อตัวขึ้นดั่งพายุที่หมุนวนบนท้องฟ้าหรือทอร์นาโด
บริเวณเหนือศีรษะพวกคุณที่มอบความรักให้แก่กันอยู่
ถ้าพวกคุณผลิตสร้างพลังงานร่วมออกมาได้เข้มข้นมาก
พื้นที่การเกิดพายุหมุนจะครอบคลุมได้ถึง 33.33 ตร.กม.
 
พายุแม่เหล็กที่พวกคุณสร้างขึ้นโดยหมุนธรรมจักรกันนี้
เป็นพายุแห่งรักบริสุทธิ์ที่เกิดขึ้นเพื่อให้มิใช่เพื่อทำลาย
เหมือนกับพายุไต้ฝุ่น ทอร์นาโด หรือพายุเฮอริเคน
เพราะคนทุกคนที่ร่วมหมุนธรรมจักรกันอยู่ในขณะนั้น
จิตหยาบจะถูกกระตุ้นให้ยกระดับแรงสั่นสะเทือนสูงขึ้น
ผู้ใดที่ปกติสั่นสะเทือนสูงอยู่แล้วก็จะสั่นได้สูงขึ้นไปอีก
มันจะเกิดขึ้นต่อเนื่องนานเป็นวินาทีหรือเป็นชั่วโมงก็ได้
 
ที่สำคัญคือคนอื่นๆที่มิได้เกี่ยวข้องกับการหมุนธรรมจักร
เพราะยังล้มเหลวในภารกิจของจิตวิญญาณกันอยู่
หรือผู้ไม่ได้มีส่วนร่วมสร้างพายุหมุนแห่งรักกับกลุ่มคุณ
ถ้าหากขณะนั้นพวกเขาอยู่ในพื้นที่ 33.33 ตร.กม.
ซึ่งเป็นพิกัดพื้นที่เดียวกันกับที่พวกคุณอยู่แล้วละก็
คนเหล่านั้นจะได้รับอิทธิพลด้านบวกไปกับพวกคุณด้วย
โดยจิตหยาบของพวกเขาจะได้รับการกระตุ้นด้านบวก
ให้ยกระดับแรงสั่นสะเทือนสูงขึ้นไปจากปกติของเขาได้
ด้วยคลื่นการหมุนวนทางพลังงานที่ตามองไม่เห็น
 
เราเคยบอกความจริงพวกคุณมาหลายปีแล้วว่า
บนพื้นที่โลกทุกๆ 33.33 ตารางกิโลเมตรนั้น
ขอแค่มีคนดีอย่างน้อยสามคนที่รักได้อภัยเป็นเท่านั้น
เพียงเท่านี้
 #เมตตาธรรมก็ค้ำจุนสมดุลโลกได้แล้ว
ทั้งยังจะช่วยเหลือคนที่งมงายโง่ง่ายไม่เอาไหน
ให้ยกระดับจิตหยาบพวกเขาได้บ้างไม่มากก็น้อย
แม้พวกนี้จะหมุนเป็นแต่กรรมจักรด้วยกิเลสมารก็ตาม
 
ถ้าคนบนโลกนี้ทุกคน
ไม่ถูกคนนำทางตาบอดบิดเบือนสัจธรรม
โดยหลอกว่าพระศาสดาตรัสรู้เรื่องอริยสัจสี่
โดยหลอกว่าการปฏิบัติธรรมคือการนั่งกรรมฐาน
ด้วยการละทิ้งสังคมหรือครอบครัวเพื่อปลีกวิเวก
จนทำให้สมการพลังงาน
 βx ศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมาไม่ได้
ทำให้เกิดมาทั้งทีต้องเสียชาติเกิดกันไปเปล่าๆ
เพราะเอาแต่ทำตัวเหมือนอยากไปสวรรค์คนเดียว
 
ถ้าคนบนโลกนี้ทุกคน
ไม่ถูกปิดบังความลับเรื่องการหมุนธรรมจักร
แล้วบิดเบือนว่าพระศาสดาตรัสรู้เรื่องอริยสัจสี่
แทนที่จะเป็นเรื่อง
 “หลักการหมุนธรรมจักร” ร่วมกัน
ด้วยการใช้ความรักช่วยให้โลกเหวี่ยงหมุน
เพื่อค้ำจุนความสมดุลให้แก่โลกของตัวเองเอาไว้
พวกคุณก็จะอยู่ร่วมกันบนโลกนี้อย่างมีสันติสุข
ไม่ต้องเสี่ยงตายกับภัยพิบัติเพราะโลกเสียสมดุล
ไม่ต้องเผชิญกับภัยร้ายแรงจากปฏิบัติการชำระโลก
เพื่อเปลี่ยนมนุษย์กับโลกสู่ยุคพลังงานใหม่
ที่รุนแรงเกินคาดทั้งคนหายและแผ่นดินหายนั่นล่ะ
 
เอเมน สาธุ
ถ่ายทอดคลื่นความคิดจากองค์จิตจักรวาล
โดย
 #ปัญญาวิสุทธิ์
27/09/2566

26 กันยายน 2566

คำสอน 26/09/2023

 

คนเห็นแก่ตัว

เป็นผู้ที่ใช้จิตไร้สำนึกยังชีพ
เป็นผู้ที่สังคมไม่ต้องการ
เพราะไร้ศีลธรรมจรรยา
พวกนี้ไม่มีใครละวางความชั่วได้
ถ้ายังไม่ชำระจิตไร้สำนึกให้รู้สำนึก

คำสอน 26/09/2023

 

จิตสามนึกของมนุษย์

จิตสามนึกมี 2 จำพวก คือ
1.จิต "ไร้สำนึก"
เป็นจิตที่ใช้อารมณ์รู้สึกที่เคยตัว
แสดงพฤติกรรมนั้นๆตามจิตนึก
2.จิต "รู้สำนึก"
เป็นจิตที่ใช้ปัญญานึกคิดพิจารณา
ก่อนแสดงพฤติกรรมนั้นๆออกมา

คำสอน 26/09/2023

 

คุณรู้หรือไม่ว่า
ทานไข่ต้มทุกวัน
ช่วยรักษาอาการ
สมองเสื่อมได้

คำสอน 26/09/2023

 


ถ้าฉลาดมองโลก
ต้องมองให้เห็นความแตกต่าง
อย่างหลากหลายเสมอ
ด้วยการฝึกมองภาพรวมเท่านั้น

คำสอน 26/09/2023

 

การทำบุญสุนทานนั้นดีแล้ว
จิตจะผลิตพลังงานสะอาดให้โลก
แต่ถ้าคุณอธิษฐานขอสิ่งแลกเปลี่ยน
มันจะกลายเป็นพลังงานกรรมทันที
ซึ่งมิใช่พลังงานแบบที่โลกต้องการ

คำสอน 26/09/2023

 

ความสุขที่สุดคือความสงบ
ของจิต ที่ว่างจากตัวตั้งต้นคือ
กิเลส

เพราะกิเลสเป็นที่มาของ
ตัญหา ราคะ และอารมณ์
ขยะของจิต ซึ่งทำให้จิตไม่
สงบ หรือ เกิดทุกข์นั่นเอง

ดับการเกิดดับของกิเลสได้
จิตจะสงบ นั่นคือความสุข
แท้จริง

คัมภีร์อนุตรธรรมภาคจิตจักรวาล 26/09/2023

#คัมภีร์อนุตรธรรมภาคจิตจักรวาล
(เพื่อยุวจิตจักรวาลยุคสุดท้าย)
 
พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
 
ความรู้ที่เป็นความจริงระดับ #อนุตรธรรม
ซึ่งชาวโลกไม่รู้ว่าตนไม่รู้แต่จะต้องรู้นั้นมีอยู่หลายสิ่ง
โดยหนึ่งในหลายสิ่งที่พวกคุณจะต้องรู้เอาไว้นั้น
นั่นคือเรื่องการยกระดับจิตหยาบของตนเองให้สูงขึ้น
ให้เป็นหนึ่งเดียวกันกับจิตวิญญาณของตนให้จงได้
ตั้งแต่ภพชาติแรกที่ได้รับโอกาสให้มาเกิดเป็นคน
ซึ่งคุณจะต้องมีภพชาติเดียวโดยไม่มีหน้าที่ตาย
คุณต้องมีชีวิตเป็นอมตะจนตลอดยุค 6 หมื่นปีให้ได้
 
#การยกระดับจิตหยาบตนเอง นี่แหละ
เป็นเรื่องใหญ่และสำคัญสูงสุดของมนุษย์ทุกคน
ที่จะต้องเรียนรู้และบอกต่อกันไปให้ได้ว่า
ตั้งแต่จิตวิญญาณคุณปฏิสนธิเป็นตัวอ่อนหรือทารก
ภายในครรภ์ของมารดาตั้งแต่วันแรกนั้น
การยกระดับจิตหยาบของจิตวิญญาณคือตัวคุณนั้น
มันได้เริ่มต้นกระบวนการตั้งแต่วันนั้นมาจนถึงวันนี้
ซึ่งเป็นวันในปัจจุบันขณะเมื่อคุณยังคงมีชีวิตอยู่
โดยพระบิดาแห่งจิตวิญญาณหรือพระผู้เป็นเจ้า
คือ
 #องค์จิตจักรวาล ที่พระบุตรเอกเรียกว่า God
เป็นพระผู้ทรงออกแบบกำหนดเอาไว้ให้ดีแล้ว
 
เมื่อจิตวิญญาณแก่นแท้เข้าปฏิสนธิในครรภ์มารดา
จิตหยาบที่เป็นตัวแทนของจิตวิญญาณของคุณ
ซึ่งเป็นกลุ่มพลังงานในรูปของคลื่นความถี่ต่างๆนั้น
ยังไม่มีรูปธรรมที่เป็นรูปทรงเรขาคณิตอะไรเลย
กลุ่มพลังงานที่เป็น
 “จิตหยาบ” นี้จึงมีมิติเป็นศูนย์
 
ถ้าจะให้จิตวิญญาณคุณมีกายหยาบปกคลุมหุ้มห่อ
เพื่อการทำหน้าที่ตามพันธะสัญญา 6 บนโลกนี้ได้
พระองค์จึงทรงกำหนดรูปแบบเครื่องยนต์แห่งกรรม
ที่พวกคุณเรียกโดยรวมว่า
 #กายสังขาร ชายหญิง
โดยทรงกำหนดให้จิตหยาบเป็นผู้สร้างกายหยาบขึ้น
ตามความก้าวหน้าในการยกระดับของจิตหยาบนั้น
พระศาสดาจึงทรงเรียกกายหยาบว่า
 “กายสังขาร”
เพราะกายหยาบถูกปรุงแต่งสร้างขึ้นด้วยจิตหยาบ
โดยจิตหยาบจะปรุงแต่งตามคุณสมบัติของตนเอง
จากที่จิตวิญญาณแก่นแท้คือคุณเองถ่ายทอดไว้ให้
 
เราหวังว่าคุณคงจะไม่สับสนกันหรอกนะว่า
ตัวตนแก่นแท้ซึ่งเป็นจิตวิญญาณผู้ขันอาสามาเกิดนี้
ก็เป็นตัวตนที่แท้จริงของตัวคุณเองนี่แหละ
ส่วนจิตหยาบก็คือพลังงานที่ตัวคุณแบ่งภาคออกมา
เพื่อให้รับบทบาทเป็น
 #คนสองมิติ แทนตัวคุณ
โดยจิตหยาบหรือ
 #จิตปัจจุบัน ของตัวคุณนี่แหละ
จะแสดงบทบาทเป็น “ผู้รับมอบอำนาจ”
 เต็ม 100%
เพื่อทำหน้าที่ตามพันธะสัญญา 6 ที่ให้ไว้กับพระเจ้า
ขณะมีภพชาติเป็นคนสองมิติยังไม่ตายยังมีชีวิตอยู่
 
ความมหัศจรรย์ของการยกระดับจิตหยาบ
ที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันแรกนาทีแรกแห่งการปฏิสนธิ
ซึ่งเริ่มต้นสตาร์ทที่ในครรภ์ของมารดาคุณนั้น
มันเกิดขึ้นได้ด้วยพลังอำนาจแห่งความรักบริสุทธิ์
จากจิตหยาบของมารดาบิดาของคุณเองด้วย
ในทันทีที่รู้ว่ามารดากำลังตั้งครรภ์แล้วนั่นแหละ
โดยมีความรักจากจิตวิญญาณคือตัวคุณเองร่วมด้วย
ทั้งสามรูปธรรมที่เรากล่าวมาข้างต้นนั้น
จะเป็นผู้ร่วมกันทำให้สมการพลังงาน
 βx ศักดิ์สิทธิ์
คือ
 βx ==3X² (β1 + β2 + β3 +…+ βxโดย X เป็น 3
 
พลังงานรวมจากความรักอย่างสุดซึ้งที่เป็นรักบริสุทธิ์
ของพ่อแม่ลูกรวมสามรูปธรรมดังกล่าวนี้เอง
จะช่วยกันยกระดับจิตหยาบจากมิติที่
 “ศูนย์” คือ 0D
ให้ค่อยๆสูงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้หยดเลือดหยดเดียว
พัฒนาการขึ้นมาจนมีตัวตนรูปลักษณ์เป็นตัวอ่อนได้
โดยยกระดับมิติจาก 0
เป็น 1สู่ 4จึงตกฟากได้
จากเลือดแม่ก้อนเดียวทำให้จิตหยาบของคุณ
มีกายหยาบหรือเครื่องยนต์แห่งกรรมห่อหุ้มปกคลุมไว้
เพราะจิตหยาบกับวิญญาณคุณอยู่ในมิติทางพลังงาน
จะดำรงตนเองอยู่อย่างอิสระไม่ได้ถ้าเป็นคนสองมิติ
 
พัฒนาการทางกายหยาบของทารกทุกรูปธรรม
มันก้าวหน้าได้เพราะจิตหยาบยกระดับสู่มิติที่สูงขึ้น
โดยแสดงมายาเป็นความกว้าง
 x ยาว x สูง x หนา
จากทารกน้อยเป็นกุมารน้อยที่น่ารักเมื่อคลอดออกมา
หลังจากอยู่ในครรภ์มารดานานราว 9 เดือนแล้ว
กุมารน้อยของพ่อแม่จะมีจิตหยาบเป็น 4
กันทุกคน
 
คำว่า 0D (ศูนย์ดี) หมายถึงจิตหยาบนั้นยังไม่มีมิติ
แปลว่าจิตหยาบนั้นยังเป็นแค่กลุ่มพลังงานกลุ่มหนึ่ง
ยังไม่มีรูปทรงเรขาคณิตใดๆเกิดขึ้น
 
คำว่า 4D (สี่ดี) หมายถึงกลุ่มพลังงานที่เป็นจิตหยาบ
สามารถฟอร์มตนเองขึ้นมาจนเกิดรูปทรงเรขาคณิต
ที่มี 4 เหลี่ยมมุมคือมีความกว้างยาวสูงและหนาแล้ว
ด้วยความรักบริสุทธิ์ของพ่อแม่และจิตวิญญาณผู้มาเกิด
ร่วมใจกันสร้างสมการ
 βx ของพระเจ้าให้ศักดิ์สิทธิ์ได้
มันคือ
 #กระบวนการหมุนธรรมจักร ร่วมกันในครอบครัว
ตามแบบแผนที่พระเจ้าทรงกำหนดไว้นั่นแหละ
 
คุณเห็นหรือยังล่ะว่า
นอกจากพระองค์ทรงเมตตาอนุญาตให้คุณมาเกิดแล้ว
ยังทรงเมตตาออกแบบกระบวนการลึกลับขึ้นในครรภ์
เพื่อช่วยให้คุณมีเครื่องยนต์แห่งกรรมมีชีวิตขึ้นมาได้
แทนที่จะเป็นแค่ลูกแกะหรือจิตวิญญาณเปล่าเปลือย
ที่เกิดในระบบโลกแล้วทำอะไรไม่ได้เพราะไร้กายหยาบ
 
เมื่อคุณเป็นทารกเกิดใหม่แล้ว
พระเจ้ายังทรงออกแบบให้ตัวตนคุณแลดูจิ้มลิ้มน่ารัก
เพื่อใช้ความน่ารักของมายารูปลักษณ์ที่เป็นคุณนั้น
เป็นเงื่อนไขด้านบวกให้คนข้างบ้านหรือคนนอกบ้าน
เมื่อสัมผัสรู้ดูเห็นตัวคุณที่เป็นกุมารน้อยผู้กำลังน่ารัก
ด้วยการมองด้วยการอุ้มด้วยการสัมผัสลูบไล้ผิวกาย
แล้วสั่นสะเทือนจิตหยาบจนเกิดเป็นความรักเมตตา
โฟกัสหรือเพ่งมาที่ดวงตาของกุมารน้อยอย่างคุณ
ตาที่สามของคุณที่เป็นกุมารน้อยจะสั่นสะเทือนเพื่อรับรู้
ด้วยคลื่นพลังงานร่วมที่มีค่าของเอ็กซ์เป็นบวกหนึ่ง
โดยมีคนแปลกหน้าคุ้นหน้าที่เป็นคนนอกบ้านเข้าร่วม
 
ปฏิบัติการที่ว่านี้เป็นปฏิบัติการเพื่อการ “ค้ำจุน”
ความสมดุลของจิตหยาบของกุมารน้อยหลังคลอด
เพื่อการสร้างเสริมเติมเต็มรูปธรรมของจิตหยาบ
ให้อยู่ในระดับของ 4
ที่สมบูรณ์ด้วยนั่นเอง
ซึ่งคุณจะเห็นได้ว่ากุมารน้อยจะพัฒนาเป็นเด็กน้อย
จากพลิกคว่ำพลิกหงายจนลุกนั่งตั้งไข่ล้มต้มไข่ลุก
จากคลานเป็นเดินจากเดินเป็นวิ่งจากวิ่งเป็นปีนป่าย
มายาที่คุณเห็นกุมารน้อยเด็กน้อยสำแดงพฤติกรรม
เป็นพัฒนาการของจิตหยาบในการยกระดับทั้งสิ้น
 
ต่อนี้ไปถ้าพบว่าเด็กคนไหนพัฒนาการช้ากว่าเด็กอื่น
พวกคุณคงพอจะวิเคราะห์กันเองได้บ้างแล้วล่ะว่า
เกิดจากสาเหตุอะไรได้บ้างมันเป็นเพราะอะไรกันแน่
คำตอบหนึ่งที่คุณอาจนึกคิดเองไม่ได้แต่ต้องรู้ก็คือ
มันเป็น
 “เวรกรรม” ที่จิตวิญญาณของเด็กน้อยคนนั้น
ถือติดตัวมาเกิดเพื่อต้องการให้จิตปัจจุบันได้เรียนรู้
เพราะเป็นบทเรียนและบททดสอบที่ท้าทายยิ่ง
 
เอเมน สาธุ
ถ่ายทอดคลื่นความคิดจากองค์จิตจักรวาล
โดย
 #ปัญญาวิสุทธิ์
26/09/2566




25 กันยายน 2566

คำสอน 25/09/2023

 

พืชต้องปรุงอาหาร
ด้วยการนำแร่ธาตุมาสังเคราะห์แสง
ก่อนนำมาใช้เลี้ยงชีวิตให้เติบโต
มนุษย์ต้องสังเคราะห์โลกียะธรรม
ด้วยพลังงานแสงของปัญญาญาณ
เพื่อทำให้เป็นโลกุตรธรรม
ก่อนนำมาใช้เลี้ยงชีวิตมิให้เติบตาย

คำสอน 25/09/2023

 

เครื่องยนต์แห่งกรรมมนุษย์
จะผลิตสร้างพลังงานได้ 2 แบบ
แบบแรกเป็นพลังงานกรรมส่วนบุคคล
แบบที่สองเป็นพลังงานสะอาด
ที่โลกนำไปใช้หมุนรอบตัวเองได้

คัมภีร์อนุตรธรรมภาคจิตจักรวาล 25/09/2023

#คัมภีร์อนุตรธรรมภาคจิตจักรวาล
(เพื่อยุวจิตจักรวาลยุคสุดท้าย)
 
พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
 
การที่ดาวเคราะห์โลกดวงนี้เกิดการเสียสมดุล
เนื่องจากมนุษย์ยังหมุนธรรมจักรในตนเองไม่ได้
อีกทั้งยังหมุนธรรมจักรร่วมกับคนอื่นๆไม่ได้ด้วย
เพราะ
 #สอบตกบททดสอบจิตสามนึกแห่งรัก
 
ใครดีมาข้าดีตอบก็ไม่ได้
เพราะว่ามองไม่เห็นคุณค่าแห่งความดีงามของเขา
เนื่องจากมองหาและมองเห็นแต่ประโยชน์จากเขา
โดยเอาประโยชน์ที่ตนจะได้จากเขาเป็นตัวตั้ง
จึงยังผลให้นัยน์ตาฝ้าฟางเพราะ
 “กิเลส” บังตา
 
ใครชั่วมาข้าก็จะชั่วตอบ
ยิ่งถ้าใครทำชั่วกับตัวข้ามากจิตก็จะขุ่นมัวมาก
เมื่อจิตขุ่นมัวมากอันเกิดจากบริวารของกิเลสมาร
จำพวก
 #ตัณหากับอารมณ์ขยะรายวันทั้งปวง
มันก็ยิ่งทำให้จิตใจมืด คือ เป็นคน #ใจดำอัมมะหิต
แถมด้วยจิตใจบอดคือ เป็นคนที่ #เข้าถึงรักแท้ไม่ได้
โดยรักแท้หมายถึง “รักเพื่อให้” อันเป็นรักที่บริสุทธิ์
เป็น
 #รักแบบพระเจ้า ที่โลกต้องการมิใช่รักเพื่อเอา
ซึ่งเป็นแบบที่มนุษย์ผู้เป็นทาสของกิเลสต้องการ
 
มนุษย์ส่วนใหญ่ที่จิตใจยังไม่ใสสวย
จึงทำตนประเภท
 #หนามยอกเอาหนามบ่ม
โดยยึดหลัก “กระแทกแรง กระดอนกลับแรง”
บางรายยังมีแถมดอกเบี้ยทบต้นเมื่อตอนเอาคืนด้วย
เวลาตอบโต้ต่อต้านจึงรุนแรงกว่าตอนที่ถูกกระทำ
 
มนุษย์เมื่อเจอหนามยอกหนามตำในชีวิตจริง
ถ้าจะบ่งหนามออกจากมือหรือเท้าด้วยตัวเองนั้น
ไม่มีใครคว้าหนามชนิดเดียวกันมาบ่งเอาหนามออก
เพราะหนามที่เอามาบ่งนั้นอาจจะหักคาหนามเก่า
หรือจะทำให้แผลนั้นบอบช้ำมากขึ้นโดยใช่เหตุ
เขาจะกลับบ้านเพื่อใช้
 “เข็มแหลม” บ่งมันออกมา
ซึ่งเขาจะลวกเข็มด้วยน้ำร้อนหรือเช็ดให้สะอาดก่อน
เพื่อป้องกันการอักเสบเพราะแผลติดเชื้อนั่นเอง
 
ดังนั้น
เมื่อพวกคุณเป็นเหมือนดั่งถูก
 “หนาม” ยอก “อก”
อกในที่นี้หมายถึง “จิตหยาบ” หรือจิตมนุษย์นี่แหละ
ขณะคุณเจ็บอกเพราะถูกคนชั่วทำชั่วทิ่มตำจิตใจนั้น
คุณจึงต้องใช้
 #เข็มแหลมและสะอาด บ่งหนามด้วย
 
คำว่า “เข็มแหลม” หมายถึง ความฉลาดทางปัญญา
คำว่า
 “เข็มสะอาด” ก็คือปัญญาที่ไม่มีกิเลสครอบงำ
 
เพื่อจัดการชำระ “หนามตำใจคุณ” ให้ลุล่วงหลุดออก
โดย
 “หนาม” ที่ตำใจคุณก็คือ “ตัวปัญหา” นั่นเอง
 
สังคมมนุษย์โลกที่เต็มไปด้วยความวุ่นวายสับสน
มีการต่อสู้กันมีการแข่งขันกันจนขาดความสุขสงบ
เพราะคนส่วนใหญ่ไม่รู้หน้าที่ของตนว่าเกิดมาทำไม
โดยสนใจกันแต่เรื่องทางโลกในแบบ
 “กินขี้ปี้นอน”
มองหาแต่การตอบสนองความต้องการทางกายภาพ
ไม่ให้ความสำคัญกับความต้องการทางจิตวิญญาณ
ในฐานะที่พวกคุณเกิดมาเป็น
 “คนสองมิติ” กันเลย
 
คำว่า #จิตเป็นนายกายเป็นบ่าว
ทุกคนล้วนรู้กันหมดแต่เมื่อรู้แล้วก็เท่านั้น
เพราะไม่เคยฉุกคิดกันต่อให้สุดทางบ้างเลยว่า
จิตหรือจิตวิญญาณของตนนั้นเป็นใครมาจากไหน
มาเกิดเป็นมนุษย์โลกจำนวนมากมายกันทำไม
ตนมีหน้าที่ต้องทำอะไรทางจิตวิญญาณบ้าง
จิตหยาบหรือจิตมนุษย์เป็นอะไรกันกับจิตวิญญาณ
ฯลฯ
 
การศึกษาธรรมะของคนชอบธรรมส่วนใหญ่
จึงได้แต่เรียนรู้เรื่องประวัติของพระศาสดา
เรียนรู้เรื่องการสวดมนต์ขอศีลขอพร
เรียนรู้ที่จะปฏิบัติพิธีกรรมทางศาสนาให้เข้มขลัง
เรียนรู้ที่จะถือศีลกินเจเพื่อการปฏิบัติตามประเพณี
เรียนรู้ที่จะอธิษฐานร้องขอส่วนบุญส่วนกุศลที่ตนทำ
เรียนรู้ที่จะอุทิศส่วนบุญกุศลให้แก่เจ้ากรรมนายเวร
 
เรียนรู้เรื่องการปฏิบัติกรรมฐานสมาธิแบบปลีกตัวทำ
โดยเชื่อว่าจะสามารถช่วยชำระจิตตนให้ใสสะอาดได้
โดยเชื่อว่าจะฝึกตนเองให้มี
 “สติ” แข็งแกร่งยิ่งขึ้นได้
โดยเชื่อว่าจะฝึกให้ตนฉลาดจะรับมือกับคนชั่วได้
โดยไม่เคยสังเกตว่าตนเองก็ปฏิบัติธรรมกันมานาน
แต่ยังไม่สามารถนิพพานกิเลสก่อนตายได้สักที
ทั้งๆที่คุณก็เป็นคนชอบทำที่มุ่งปฏิบัติธรรมตลอดมา
สาเหตุที่จิตวิญญาณไม่ก้าวหน้าเป็นเพราะอะไรกันแน่
 
คำตอบโดยรวมก็คือ
 
เพราะจิตหยาบยังมีกิเลสแฝงอยู่จิตคุณจึงสกปรก
จนสั่นสะเทือนขันธ์ห้าทางด้านบวกบริสุทธิ์ไม่ได้
เช่น ทำบุญสร้างกุศลโดยอธิษฐานขอสิ่งตอบแทน
ด้วยการขอให้ชาตินี้และชาติหน้าสารพัดสิ่งที่จะขอ
นี่จึงเป็นการทำบุญกุศลด้วยจิตที่ยังไม่ใสบริสุทธิ์จริง
เพราะมีกิเลสเคลือบแฝงอยู่แบบเนียนๆ
 
ทั้งๆที่ในความเป็นจริงแล้ว
ถ้าคุณมั่นใจว่าคุณกำลังเอา
 1 บวกกับ 1 อยู่
ผลลัพธ์ที่คุณทำจะมีคำตอบเท่ากับ
 2 แน่นอน
เพราะจำนวน
 2 เป็นผลลัพธ์ของ 1 บวก 1 นั่นเอง
หากคุณต้องการจะได้ผลลัพธ์เท่ากับสองแล้ว
อันหมายถึงต้องการที่จะสร้างบุญสร้างกุศล
เพียงแค่คุณต้องทำในสิ่งที่เป็นบุญกุศลไว้เท่านั้น
ย่อมได้กุศลผลบุญวันยังค่ำเพราะคนทำก็คือคุณ
จะทำพิเรนทร์
 “ร้องขอส่วนบุญ” ที่ตนทำเองทำไม
 
การทำบุญสร้างกุศลแล้วร้องขอส่วนบุญ
โดยอ้างเอา
 #อานิสงส์ ที่เกิดขึ้นจากการทำบุญนั้น
เป็นสิ่งแลกเปลี่ยนกับบางสิ่งที่ตนกำลังอยากอยู่
เป็นต้นว่าอยากจะได้ อยากจะมี อยากเห็นอยากเป็น
ที่ถูกขับเคลื่อนด้วยกิเลสตัณหาแบบเนียนๆล้วนๆ
สิ่งที่อยากได้อยากมีจึงมักจะเป็นทรัพย์สินเงินทอง
ซึ่งเป็นการร้องขอ
 “รางวัล” ตอบแทนการทำบุญนั้น
โดยอ้างว่าร้องขอจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากลจักรวาล
ที่เป็นใครรูปธรรมใดคนที่ร้องขอเองก็ไม่อาจรู้ได้
คนที่ร้องขอก็ไม่รู้ว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์นั้นจะให้ได้หรือไม่
การร้องขอรางวัลตอบแทนนั้นเป็นจริงได้หรือเปล่า
 
เราจะกล่าวความจริงให้พวกคุณรู้ว่า
พวกที่สวมรอยว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของชาวโลก
ก็คือ
 “จิตวิญญาณผีโสโครก” ของพวกคนยักษ์
ที่เข้ามากระทำการล่วงเกินมนุษย์โลกเอาไว้
จนต้องถูกชำระทิ้งจากกรณีน้ำท่วมโลกยุคโนอาห์
แล้วกลับบ้านเกิดแดนสุญตาไปหาพระเจ้าไม่ได้
เพราะไม่มีพันธะสัญญา
 6 เหมือนจิตวิญญาณมนุษย์
จึงต้องเป็นจิตวิญญาณพเนจรคอยทำตนเป็นดั่งปลิง
คอยดักดูดพลังงานจิตด้านบวกของมนุษย์
ที่ชอบปฏิบัติกรรมฐานแล้วแผ่เมตตาออกมาข้างนอก
เพื่อมาเติมเต็มให้ตนเองเนื่องจากตนไม่มีกายหยาบ
จึงไม่สามารถปฏิบัติทำเยี่ยงมนุษย์โลกได้
 
พวกเขาจะคอยดักดูดพลังงานจิตด้านบวก
จากการปฏิบัติเท็คนิกสมาธิของคนชอบทำสิ่งที่ชอบ
โดยไม่เข้าใจว่าสิ่งที่ตนชอบทำอยู่นั้นชอบธรรมไหม
มันเป็นธรรมชาติที่ถูกต้องแท้จริงหรือเปล่า
หรือเป็นแค่การปฏิบัติทำอย่างหนึ่งเท่านั้นเอง
 
เราจะกล่าวความจริงให้รู้ว่า
การชำระขยะคือกิเลสมารที่แฝงอยู่ในจิตนั้น
มันจะต้องปฏิบัติธรรมกันในชีวิตจริงอยู่ในสังคม
ด้วยการเรียนรู้จากประสบการณ์จริงเท่านั้น
ซึ่งมันจะมีวิธีฝึกปฏิบัติอยู่ด้วยกัน
 2 วิธี คือ
 
#วิธีแรก
คุณต้องพร้อมเผชิญหน้ากับสถานการณ์
หรือเงื่อนไขต่างๆที่จะนำไปสู่การเกิดกิเลส
เพื่อเรียนรู้ว่า
 “กิเลสมาร” มันเกิดขึ้นในจิตตอนไหน
ซึ่งเราเปิดเผยความจริงให้พวกคุณรู้มาแล้วว่า
กิเลสมันมาตอนที่คุณเผลอสติไปชั่ววูบนั่นแหละ
โดยจิตจะเกิดความรู้สึกชอบไม่ชอบขึ้นมาทันที
 
การเกิดความรู้สึกนี่เองที่เรียกว่า #จิตตก จากปกติ
เพราะสภาวะจิตปกติก็คือจิตที่มีอาการสุขสงบอยู่
ซึ่งขณะนั้นจิตกำลังสั่นสะเทือนเป็นคลื่นความถี่สูง
พอเกิดความรู้สึกชอบหรือไม่ชอบขึ้นมาเมื่อใด
จิตก็จะสั่นสะเทือนจากความถี่สูงลดลงมาต่ำเมื่อนั้น
อาการใจสั่นเนื้อตัวสั่นมือเท้าสั่นตัวร้อนวูบวาบ
พวกคุณเข้าใจว่าเกิดอาการ
 “ว้าวุ่น” กระวนกระวาย
เมื่อได้สัมผัสรู้ดูเห็นสิ่งนั้นเรื่องนั้นนั่นเอง
 
ถ้าคุณระวังตนเองไว้ไม่ให้จิตตกได้
จิตคุณก็จะปลอดภัยจากกิเลสมารได้แล้ว
ซึ่งคุณต้องคุมจิตหยาบไว้ด้วย
 #มหาสติ ของพระเจ้า
ก็คือ
 #ธรรมชาติสมาธิ แบบไม่หนีสังคมไม่ปลีกวิเวก
ไม่แกล้งทำตนเป็นคนหูหนวกตาบอดเป็นใบ้
โดยใช้สิ่งแวดล้อมคนรอบข้างในครอบครัวและสังคม
เป็นตัวช่วยสร้างเงื่อนไขแต่ให้คุณเป็นครูสอนตนเอง
 
การฝึกปฏิบัติเป็นประจำควบคุมจิตได้บ่อยๆ
ด้วยวิธีป้องกันไม่ให้เกิดกิเลสจนจิตตกเอาไว้ให้ได้
จิตคุณก็จะเกิดความชำนาญคือ
 “แน่วนิ่ง” มากขึ้น
นานวันเข้าจิตคุณเมื่อถูก
 #ชำนาน ก็จะเชี่ยวชาญเอง
 
ไปที่ภูกระต่ายเข้ากระบวนการฝึกธรรมชาติสมาธิ
ด้วยโปรแกรมปฏิบัติการ
 “ไซโคโชว์” ร่วมกับเพื่อนๆ
แทนฝึกกรรมฐานแบบเท็คนิกสมาธิที่คุณคุ้นเคยดูสิ
มันจะช่วยยกระดับจิตปัญญาให้คุณได้มากกว่าอีกนะ
 
#วิธีที่สอง
วิธีนี้ต้องฝึกควบคู่กันไปกับวิธีแรกที่เรากล่าวมา
คือฝึกการใช้ปัญญาของสมองสองซีกให้นึกไวคิดไว
ขณะที่กิเลสมารและบริวารกิเลสมันเบาบางไปบ้างแล้ว
ขณะนั้นจิตหยาบของคุณมันจะสดใสมากยิ่งขึ้น
เมื่อจิตหยาบสดใสว่างไปจากกิเลสได้มากเท่าใด
พลังอำนาจของจิตคือ
 “ฌาน” จะสูงขึ้นตามไปด้วย
 
พลังอำนาจของจิตที่เรียกว่าฌาน
คือแรงสั่นสะเทือนของจิตที่ยกระดับสูงขึ้นด้านบวก
ที่คุณสามารถนำไปใช้สั่นสะเทือนเซลล์สมองสองซีก
ให้มัน
 “ตื่นตัว” เพื่อการ “ตื่นรู้” เพื่อการ “คิดรู้”
ตามคำสั่งจากจิตสามนึกของคุณอย่างทระนงองอาจ
คุณจะเป็นคนนึกไวคิดไวมากกว่าในคนปกติทั่วไป
ทั้งสามารถคิดทำในสิ่งที่ถูกต้องเหมาะสมดีงามได้
นานวันเข้าแทนที่จะได้แค่คิดรู้คุณจะ
 “หยั่งรู้” ได้ด้วย
 
ถ้าคุณฝึกปฏิบัติธรรมชาติสมาธิในชีวิตจริง
ไม่ทิ้งครอบครัวไม่หนีสังคมไม่ทำตนเป็นคนพิการ
ไม่ทำตนเป็นเหมือนลูกกำพร้าผู้ให้กำเนิดจิตวิญญาณ
คุณจะพบความก้าวหน้าทางจิตตปัญญาอย่างรวดเร็ว
คุณจะเข้าถึง
 “มหัศจรรย์แห่งจิตของตน” ได้ง่ายดาย
โดยไม่ต้องทำตนอุตริพิสดารแต่อย่างใดเลย
 
แค่คนตนเองให้เป็นมนุษย์ให้เป็น
หมุนธรรมจักรในตนเองและหมุนร่วมกันให้ได้
ปฏิบัติตนไปตามธรรมชาติของพระเจ้าเท่านั้น
เพียงเท่านี้ก็เกินพอแล้ว
 
เอเมน สาธุ
ถ่ายทอดคลื่นความคิดจากองค์จิตจักรวาล
โดย
 #ปัญญาวิสุทธิ์
25/09/2566