24 มิถุนายน 2560

#พระบิดาแห่งจิตวิญญาณ #ทรงโปรดเวไนย (ภาค 4)


#พระบิดาแห่งจิตวิญญาณ
#ทรงโปรดเวไนย (ภาค 4)

To Whom It May Concern
*****************************
บุตรรักแห่งบิดาทั้งหลาย
พี่ๆน้องๆที่ <3 แห่งเราทั้งหลาย

"เสียงกัมปนาท กราดเกรี้ยว เสียวระทึก
ดั่งยามดึก ฟ้าผ่า พาแตกตื่น
ครูสั่งศิษย์ กีดกัน ทุกวันคืน
ห้ามยุ่งยื่น เป็นมิตร จิตจักรวาล"

ต่อไปนี้เป็นคำถามอีกชุดหนึ่ง
ซึ่งผู้อาวุโสท่านเดียวกันได้ถามศิษย์ไว้

คำถามที่ 3: (เป็นชุดเลย)
***********
3.1 สำนักจิตจักรวาลมีอาจารย์บรรยายกี่คน 
3.2 มีองค์กร มีทีมงานแบบไหน อย่างไร 
3.3 ศูนย์กลางอยู่ที่ไหน?

วิเคราะห์คนถาม:
*****************
เราจะกล่าวความจริงที่เราเห็น
เกี่ยวกับตัวคุรุอาวุโสผู้สั่งห้ามศิษย์
มิให้มาศึกษา #จิตจักรวาล ว่า

นอกจากท่านที่อ้างตนเป็นคุรุจะมิใส่ใจว่า
เรา "ป.วิสุทธิปัญญา" สื่อสอนเรื่องอะไร
ทำไมศิษย์ท่านจึงขยันมาศึกษา
แสวงหาองค์ธรรมกับจิตจักรวาลกันนัก
เพื่อจะได้ช่วยกลั่นกรองให้ศิษย์โง่
รู้แยกแยะว่าไหนธรรมแท้ไหนธรรมเทียม
ให้สมกับที่วางตนเป็นครูบาอาจารย์เขาไว้
ให้ศิษย์สำนักตั้งมากมายได้พึ่งปัญญาครู

ท่านยังออกคำสั่งห้ามศิษย์มิให้ยุ่งเกี่ยว
โดยมีข้ออ้างเดียวที่มิใช่เหตุผลเลยนั่นคือ

#จิตจักรวาลไม่มีที่มาที่ไป
#จิตจักรวาลไม่มีพงศาธรรม

ซึ่งกรณี "พงศาธรรม" ของจิตจักรวาลนั้น
ในตอนที่ผ่านมารวมสองวันแล้ว
ท่านทั้งหลายรวมทั้งอาวุโสผู้เป็นต้นเรื่อง
คงจะได้รับความสว่างกระจ่างใจกันแล้วว่า

แท้จริงนั้น "องค์จิตจักรวาล" 
ทรงเป็นจิตแห่งจักรวาล
#ทรงเป็นต้นธารแห่งองค์ธรรมที่ยิ่งใหญ่
ทรงดำรงอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ
ของดาวเหนือ

ทรงมีพระบุตรเอกรวม 24 พระองค์
เป็นผู้ผลัดกันรับพระบัญชาถือสายธรรม
ข้ามมิติมายังโลกเสรีเพื่อเผยแพร่องค์ธรรม
และทำการฉุดช่วยเวไนยตลอดมา
ถึงวันนี้ยุคนี้คบเพลิงดังกล่าว
ได้ถูกหยิบยื่นมาสู่มือของเราแล้ว
เพื่อให้เรากล่าวพระโอวาทต่อมนุษย์โลก
ในพระนามแห่งองค์จิตจักรวาล
เพื่อนำพาพวกท่านกลับบ้านยังแดนสุญตา
พร้อมทำหน้าที่พิพากษาโลก
ด้วยการคัดปลาขึ้นจากน้ำ
และส่งเสียงเรียกแกะหลงฝูงกลับเข้าคอก
ให้ทันก่อน 56 วัน 8 ราตรีจะมาถึง

ทั้งหมดที่กล่าวลำดับความมานี้
ภารกิจแห่งองค์จิตจักรวาลผ่านพระบุตรเอก
รวมทั้งสิ้น 24 พระองค์ กับเราอีกหนึ่งคน
โดยได้ใช้เวลาโลกผ่านมาตราบจนบัดนี้ 
นับได้ "หกหมื่นแปดร้อยปีเศษ" มาแล้ว

เราจึงใคร่ถามท่านอาวุโสผู้นี้นิดหนึ่งนะว่า
ภารกิจแห่งจิตจักรวาลนั้น
มันไม่มีพงศาธรรม
ตามที่ท่านกล่าวหาจริงแท้แน่หรือ

เพราะท่านอาวุโสมัวแต่เก็บตัวอยู่กับความมืด
เฝ้าแต่จมปลักอยู่กับด้านเงาแห่งพระบิดา
ท่านจึงเข้าไม่ถึงแก่นแท้แห่งองค์จิตจักรวาล
ท่านจึงมิอาจแลเห็นเราดังเช่นศิษย์ท่านเห็น
เพราะเรากับพระบิดาอยู่ในฝั่งฟากฟ้าสว่าง

ดังนั้น
มันจึงเป็นการกล่าวความเท็จและป้ายสีเรา
ถ้าถือศีลก็ศีลขาดกระจุย
ถ้าเป็นครูก็ขาดคุณสมบัติแห่งครูสอนธรรมะ
อันเป็นนัยะแห่งความเสื่อมแล้วใช่หรือไม่ล่ะ

เมื่อได้ทราบอีกว่า
ท่านยังกระทำข่มขู่ศิษย์โง่ของท่าน

ด้วยการขู่ว่า....
การไปศึกษาองค์ธรรมกับจิตจักรวาล
เป็นการไม่เคารพครูบาอาจารย์
และเป็นการไม่เทอดทูนธรรมอีกด้วย

เราสลดใจแทนพวกเขาจังเพราะเห็นว่า
มันเป็นคำกล่าวหาที่รุนแรงและใจร้ายยิ่ง
เพราะใช้จุดอ่อนของศิษย์โง่ที่เป็นคนดี
ที่ขลาดกลัวต่อการกระทำผิดบาปต่อครู
ขลาดกลัวต่อการลบหลู่สัจธรรมอยู่แล้ว
มาเป็นเครื่องมืออย่างไร้สติ

ทั้งๆที่ท่านเองก็รู้ดีว่า
การแสวงหาองค์ธรรมความรู้กันเอาเอง
เป็นภาระอันหนักหน่วงของนักบรรยายธรรม
ในสังกัดสำนักท่านตลอดมาหลายปีแล้ว
ที่พวกเขาจักต้องแสวงหาความรู้กันเอง
เพื่อไปบรรยายธรรมในกลุ่มของตน
ตามหัวข้อต่างๆที่อาวุโสกำหนดเอาไว้ให้

มันไม่น่ายินดีเช่นนั้นหรือ
ที่ศิษย์สาวกของท่าน
ฉลาดที่จะมายกระดับจิตตปัญญา
แสวงหาองค์ความรู้จากฝั่ง #พระบิดา บ้าง
ถ้าฝั่งนี้ตอบโจทย์พวกเขาได้ดีหรือดีกว่า
เรามิเห็นว่าจะมีอะไรเสียหายหรือใครเสื่อม

หรือที่พยายามกระทำทุกทาง
อย่างไม่คำนึงถึงผิดถูกดีชั่วบาปบุญคุณโทษ
เพื่อมิให้ศิษย์ตนข้องแวะกับจิตจักรวาลนั้น
เป็นเพราะการกลัวว่า #จะเสียศิษย์สาวก ไป
จะทำให้สำนักเสียหายคลายความมั่นคง

เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
#จิตจักรวาล มิใช่ "สำนัก"
เรามิได้มาเกิดชาตินี้เพื่อสร้างสำนัก
แต่เรามาสร้าง "สำนึก" ให้เวไนยต่างหาก

ที่จิตจักรวาลจึงมีใครเข้าใครออกก็ได้
เราไม่เคยสนใจจำนวนตัวเลขของสาวก
เราจึงไม่มีกลยุทธแบบขายตรงเพื่อล่าสาวก
เราจึงไม่เคยคิดยื้อแย่งสาวกจากสำนักไหน
เพราะมันเป็นเรื่องเบาปัญญามากสำหรับเรา

เราไม่มีเวลาว่างให้กับการหวงหรือหาสาวก
เนื่องจากเราใส่ใจในองค์ธรรมที่จะสื่อสอน
เพื่อนำพาเวไนยผู้ใฝ่ดีให้หลุดพ้นมากกว่า

เราเห็นว่า "คุณภาพ" ในงานฉุดช่วยเวไนย
เป็นภารกิจหลักที่สำคัญกว่า
การตั้งหน้าตั้งตาแต่จะจัดตั้งองค์กร
หรือขยายเครือข่ายสำนัก

ภารกิจศักดิ์สิทธิ์ของจิตจักรวาล
จึงเน้นที่การสื่อพระโอวาท
เน้นที่การพัฒนาจิตตปัญญาให้แก่ทุกคน
เพื่อนำพาจิตวิญญาณกลับบ้านกันให้ได้
ตามที่เราขันอาสาพระบิดามา

เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
สำนักของท่านนั้นมันจะดำรงคงอยู่ได้
ไปอีกยาวนานมั่นคงสักแค่ไหน
ท่านจงอย่าใช้การตลาดแบบธุรกิจขายตรง
เพราะการให้ธรรมะแก่ประชาชน
มันมิใช่การขายสินค้าให้แก่ประชาชน

หลักการ "ให้" นั้นจะต้องเน้นในสิ่งที่ให้
ว่าเป็นสิ่งที่ดี มีคุณประโยชน์ ล้ำค่าแค่ไหน
ส่วนเรื่องตัวตนของ "คนที่ให้" 
กับ "จำนวนคน" ที่จะทำหน้าที่แจกหรือให้
เป็นเรื่องรองโดยไม่ต้องเน้นมากก็ได้

หมายความว่า
คนที่จะรับเขาจะพิจารณาในสิ่งที่เขาจะได้
ว่าเขาพอใจ ภูมิใจ ศรัทธา อยากได้มั้ย
ส่วนตัวตนคนที่จะให้เขาจะใส่ใจน้อยกว่า
ถ้าท่านเน้นที่ภารกิจฉุดช่วยเวไนยจริง
ท่านจักต้องเน้นที่คุณภาพของผู้สอนธรรมะ
กับการชำระ "องค์ธรรม" ให้ศักดิ์สิทธิ์ไว้
มิใช่เน้นที่การทวีจำนวนสาวก
จนเกิดพฤติกรรมล่าสาวกและหวงสาวก

ธุรกิจขายตรงนั้น

1.เขาต้องมีองค์กรจัดตั้งที่แข็งแกร่ง
2.มีผู้บริหารองค์กร
และนักล่าลูกค้าที่มีศักยภาพ

3.มีจำนวนนักล่าลูกค้าจำนวนมากๆ
4.มีภาพพจน์องค์กรและสินค้าเป็นที่ยอมรับ
5.มีประชาสัมพันธ์ส่งเสริมการขาย
เพื่อจูงใจลูกค้าของตนสม่ำเสมอ

6.ตัวสินค้าจักต้องตอบโจทย์ผู้ซื้อได้
และมีการพัฒนาคุณภาพสินค้าเรื่อยๆ

งานเผยแพร่ธรรมะ
ที่บริสุทธิ์และศักดิ์สิทธิ์นั้น
ฟ้าดินจักเมตตา
หลักคิดหลักทำแบบธุรกิจขายตรงทั้ง 6 นี้
ท่านอาวุโสไม่จำเป็นจะต้องเลียนแบบ
นำมาปฏิบัติครบทั้งหมดหรอก

เพียงจัดทีมบรรยายธรรมที่มีคุณภาพ
เน้นการให้ธรรมะด้วยองค์ธรรมที่ถูกต้อง
ตามครรลองแห่งฟ้า อย่าบิดเบือน
ไม่ทะเลาะกันเองภายในให้ผู้คนเล่าลือ
เพราะจิตแต่ละคนยังมีมลทินอยู่

หากปฏิบัติได้ตามนี้
ในไม่ช้ามันจะช่วยฉุดรั้งเวไนยทั่วหล้า
เข้าไปหาสำนักของท่านเอง

เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
24-06-2017

หมายเหตุ:
ต้องการจะศึกษาเรียนรู้
กรณีศึกษานี้ต่อในภาค 5
โปรดยกมือขึ้นอีกครั้ง

คำเตือน:
เราสอนให้นักเรียนฝึกคิดให้เกิดทักษะ
เพื่อให้ท่านทั้งหลาย
ฉลาดที่จะหยิบปัญญามานิพพาน
จากกรณีศึกษานี้เท่านั้น
เรามิได้นำมากล่าวเพื่อให้ท่านก้าวล่วงผู้อื่น

จงแสดงความคิดเห็นต่อบทเรียน
จงบอกตนเองว่าได้จิตตปัญญาอันใด
เพิ่มมากขึ้นจากเดิมได้บ้าง
นั่นคือสิ่งเดียวที่เราปรารถนา
จากนักเรียนทุกๆท่าน....เอเมน สาธุ

22 มิถุนายน 2560

#พระบิดาแห่งจิตวิญญาณ #ทรงโปรดเวไนย (ภาค 3)


#พระบิดาแห่งจิตวิญญาณ
#ทรงโปรดเวไนย (ภาค 3)
To Whom It May Concern:
*****************************
บุตรรักแห่งบิดาทั้งหลาย
พี่ๆน้องๆที่ <3 แห่งเราทั้งหลาย

"เสียงกัมปนาท กราดเกรี้ยว เสียวระทึก
ดั่งยามดึก ฟ้าผ่า พาแตกตื่น
ครูสั่งศิษย์ กีดกัน ทุกวันคืน
ห้ามยุ่งยื่น เป็นมิตร จิตจักรวาล"

คำถามที่ 2: 
************
อาจารย์อาวุโสท่านเดียวกันกับ
ผู้ที่สั่งศิษย์สาวกของตนไว้ว่า
ห้ามเข้ามาศุึกษาธรรมกับจิตจักรวาล
ห้ามยุ่งเกี่ยวกับอาจารย์ปริญญา ตันสกุล
โดยเด็ดขาด

ยังมีคำกล่าวกึ่งถามแต่ไม่ถาม
ต่อผู้ที่ตนออกคำสั่งห้ามอีกด้วยว่า

2)เธอกำลังทำอะไร? 
เธอกำลังไม่เคารพอาจารย์ 
ไม่เทิดทูนธรรมนะ

วิเคราะห์คำกล่าวและคนกล่าว:
*******************************
พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
อาวุโสท่านนี้ที่กล่าวว่า

#เธอกำลังไม่เคารพอาจารย์
#ไม่เทิดทูนธรรม

เราเห็นว่าคนกล่าว
น่าจะกล่าวอย่างขาดสติ
ไม่มึนก็เมาไม่เมาก็สับสนในตนเอง
ไม่สับสนในตนเองเพราะคิดไม่ตก
ก็คงจะกล่าวออกมาอย่างขาดสติ

ถามว่าทำไมเราจึงวิเคราะห์เช่นนี้
คำตอบก็คือเพราะเรามองว่า
คุรุท่านนี้น่ะคงต้องเข้าใจผิด
ในศิษย์ของตนเป็นแน่
หรือถ้าไม่เข้าใจผิด
ก็คงเพราะมีจิตระแวง

เนื่องจากการที่ศิษย์ของตน
แวะเข้ามาศึกษา
หาองค์ธรรมนอกกำมือตน
กับแหล่งความรู้นี้
ที่มีนามว่า #จิตจักรวาล นั้น

ไม่เห็นจะเป็นเรื่องเลวร้าย
เหลวไหลที่ตรงไหน
ไม่เห็นว่าจะลบหลู่ครู
ให้เสื่อมศรีที่ตรงไหน

ไม่เห็นว่า
จะไม่เทอดทูนธรรมที่ตรงไหน

ศิษย์ของท่านย่อมสามารถ
เรียนรู้อะไรๆกับคุรุคนไหน
ในโลกกว้างได้
เพื่อทำให้เขารอบรู้และฉลาดมากขึ้น
ซึ่งน่ายินดีสำหรับครูผู้รักศิษย์ด้วยซ้ำ
ที่ศิษย์ของตนเป็นคนใฝ่รู้เยี่ยงนี้
ที่ศิษย์ของตนไม่เป็นศิษย์โง่ๆ
อยู่กับครูอาวุโสแค่คนเดียวชั่วชีวิตนี้

ท่านทำตนเหมือนกับว่า
ในบรรณพิภพนี้น่ะ
มีเอกแห่งคุรุอยู่คนเดียวเท่านั้น
คือท่านเอง
ถ้าไปเรียนรู้กับครูคนอื่นๆแล้ว
มันจะทำให้ท่านอับอาย
เสื่อมเกียรติศักดิ์ศรี
เพราะคนอื่นใดในโลกนี้
ท่านมองว่าเป็นครู
ที่ต่ำต้อยกว่าท่านทั้งนั้น

ดังนั้น
ด้วยเหตุผลดั่งว่ามานี้เอง
ท่านจึงสรุปเอาดื้อๆเลยว่า
การที่ศิษย์ท่านมาศึกษาจิตจักรวาล
มันทำให้ท่านต้องอับอายเสื่อมศักดิ์ศรี
เพราะมีคุรุเกรดดีแล้วยังแอบหนี
ไปหาครูผู้ต่ำต้อยคนอื่นอีก
ท่านจึงกล่าวตำหนิว่า
เป็นศิษย์ไม่เคารพอาจารย์

เราจึงขอกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลาย
และต่อท่านอาวุโสเพิ่มเติมว่า

ถ้าให้เรามองท่านให้สูงขึ้นไปกว่านี้
แทนที่จะมองแค่ว่าท่าน "หลงตัวเอง" 
เราก็ยังมองได้อีกว่า

การที่ท่านตำหนิศิษย์อย่างไร้เมตตา
ว่าไม่เคารพอาจารย์ 
ไม่เทอดทูนธรรมนั้น
มันเป็นคำขู่ให้ศิษย์โง่นั้นหวั่นกลัว

มันเป็นคำกล่าวหาของคนฉลาด
ที่จะทำให้ศิษย์โง่
ซึ่งเป็นคนดีแต่ขลาดเขลา
บังเกิดความขลาดกลัวที่จะทำผิดต่อครู
จนลืมที่จะคิดต่อเพื่อให้ได้รู้ว่า
อันตัวกูไม่เคารพครู
ไม่เทอดธรรมครูที่ตรงไหน
จะได้ไม่ไปเปิดหูเปิดตา
กับครูที่ไหนอีกไงล่ะ

พฤติกรรมชั้นเชิงสูงเยี่ยงนี้เรามองว่า
เป็นพฤติกรรมขู่เข็ญศิษย์สาวก
เพราะกลัวว่าตนจะเสียสาวกไป
กลัวว่าถ้าขืนปล่อยให้ไปศึกษาที่อื่น
ถ้าไปแล้วไปลับไม่กลับคืนสำนัก
แล้วสำนักจะเหลือใครถ้าไร้สาวก

เราจะบอกท่านตรงๆว่า
ถ้ามุ่งเน้นแต่การจะสร้างสำนัก
ด้วยการเพิ่มทวีจำนวนสาวก
ให้เหมือนกับการล่าสมาชิก
ในกลุ่มธุรกิจขายตรงแล้ว
ท่านจะตกหลุมพรางของตัวเองทันที

เพราะท่านจะเห็นว่าสาวกแต่ละคน
มีความสำคัญต่อสำนักเหนือสิ่งอื่น
ซึ่งท่านจะยอมให้เขาขาดหายไปไม่ได้
จึงต้องหาเพิ่มไปเรื่อยๆ
ท่านจึงต้องทำทุกทางทั้งหลอกทั้งขู่
เพื่อให้พวกเขายังต้องอยู่กับท่านตลอด

จึงใช้วิธีง่ายๆแต่ได้ผลเกินคาด
นั่นคือเปิดตลาดขายความกลัว
ต่อสาวกของตน

สอนให้กลัวต่อการไม่เคารพอาจารย์
สอนให้กลัวต่อการผิดสัจจะ
สอนให้กลัวต่อการอกตัญญูไม่รู้คุณ
ซึ่งคนดีๆเขามักจะกลัวทำผิดบาปในเรื่องนี้
วิธีขายความกลัวจึงขายง่ายถ้าศิษย์โง่

ดังนั้น
จึงไม่ยินยอมให้สาวกไปศึกษาที่อื่น
เพราะถ้าเขารู้มากขึ้น ฉลาดขึ้น เก่งขึ้น
พวกเขาก็จะมีความองอาจ
กล้าหาญมากขึ้น

พวกเขาจะยิ่งสนุก
กับการเรียนรู้โลกมากขึ้น
พวกเขาจะต้องไม่หลบมุม
อยู่กับความมืดอีกแล้ว

นี่ไง...คือ ความเสื่อมโทรม
ต่อให้จัดตั้งองค์กรใว้แข็งแกร่งเพียงใด
ก็มิอาจเหนี่ยวรั้งจิตใจของใครได้เลย
เรารู้ว่าอาวุโสทั้งหลายก็รู้
ซึ่งวันนี้เราเป็นคนนอกสำนักก็รู้
เราจึงขอทักให้ท่านรู้ไว้ด้วยความรัก

ทางออกที่ต้องทำคือ
อย่าเน้นแต่จะล่าสาวก
การสอนสื่อธรรมะมิใช่ธุรกิจขายตรง
เพราะหัวใจของงานสื่อสอนธรรมะ
คือ องค์ธรรมที่ถูกต้องถ่องแท้
ที่จะนำพาจิตวิญญาณพี่ๆน้องๆ
กลับบ้านเกิดเมืองนอน
ได้ถูกทางต่างหาก

ไม่ใช่เน้นที่จำนวนสาวก
ด้วยการมุ่งล่าสาวก
โดยไม่ใส่ใจในคุณภาพของสาวก
จึงเน้นแต่การออกกฏกติกาบังคับ
เพราะสาวกเยอะควบคุมยาก
ถ้ากฏหย่อน

ท่านเห็นรึไม่ว่า
ถ้าเริ่มต้นผิด คิดผิด 
มันจะเกิดการสับสนวุ่นวายไปหมด

งานพัฒนาคุณภาพสาวก
งานชำระองค์ธรรมชั้นสูง
ที่อาวุโสแต่โบราณท่านดำเนินการ
ไว้เป็นแบบอย่างที่ดีสืบมา
จึงทำท่าว่าจะเสื่อมคลายลงไปตามกาล
เพราะขาดการชำระว่า
มีองค์ธรรมใดที่มันผิดเพี้ยนไป
ตามกาลสี่ร้อยปีที่ผ่านมาแล้วบ้าง

วันๆจึงได้แต่ภูมิใจในองค์กรจัดตั้ง
แล้วมานั่งหวั่นกลัวสาวกจะหนีหาย
แต่การสร้างความภูมิใจใน "องค์ธรรม"
กลับย่อหย่อนผ่อนคลาย
ไม่รู้กันหรืออย่างไรว่า
#องค์ธรรม ต่างหาก
ที่สำนักจะยืนหยัดได้อย่างองอาจ

ถ้าเป็นคุรุที่แท้จริงแล้ว
เมื่อทราบว่าสาวกของตน
หันหน้ามาศึกษาธรรมจากจิตจักรวาล
คำถามของคุรุผู้รักศิษย์ที่จิตบริสุทธิ์
น่าจะสอบถามศิษย์ของตนว่า
เธอไปเรียนรู้อะไรมาบ้างล่ะ
ช่วยเอ่ยอ้างให้ครูอาวุโสฟังหน่อยได้มั้ย

อาวุโสควรต้องตั้งใจฟังอย่างใส่ใจ
แล้วค่อยๆพิจารณาด้วยปัญญาว่า

#ที่ศิษย์ของท่านไปคาบความรู้มานั้น
#ไหนเป็นอาหารไหนเป็นสารพิษ
โดยวิเคราะห์ให้ศิษย์ฟังเป็นฉากๆ
ด้วยความฉลาดปราดเปรื่อง

ถ้าเมตตาศิษย์จริงท่านควรทำดั่งว่านี้
มันจึงจะสมเกียรติศักดิ์ศรีแห่งคุรุอาวุโส

กับคำกล่าวที่ว่า
#เธอกำลังไม่เคารพอาจารย์
#เธอไม่เทิดทูนธรรม

เราวิเคราะห์ว่าเป็นคำขู่
ที่เกิดจากความกลัวของคนกล่าวขู่

ส่วนจะกลัวอะไรนั้น
เราได้ใช้ปัญญาอันน้อยนิดของเรา
วิเคราะห์ให้ท่านทั้งหลาย
ได้เรียนรู้กันกระจ่างแจ้งแล้ว

ท่านจะเห็นเป็นตัวอย่างได้ว่า
กรณีที่เราต้องมาแสดงธรรมเยี่ยงนี้
ก็เพื่อแสดงให้เห็นว่า
#ความกลัว มันทำให้เสื่อมจริงๆ

เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
22-06-2017

หมายเหตุ:
ใครอยากเรียนต่อ ภาค 4
กรุณาช่วยชูมือสูงๆอีกครั้ง

21 มิถุนายน 2560

#พระบิดาแห่งจิตวิญญาณ #ทรงโปรดเวไนย (ภาค 2)


#พระบิดาแห่งจิตวิญญาณ
#ทรงโปรดเวไนย (ภาค 2)

To Whom It May Concern:
*****************************
บุตรรักแห่งบิดาทั้งหลาย
พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย

"เสียงกัมปนาท กราดเกรี้ยว เสียวระทึก
ดั่งยามดึก ฟ้าผ่า พาแตกตื่น
ครูสั่งศิษย์ กีดกัน ทุกวันคืน
ห้ามยุ่งยื่น เป็นมิตร จิตจักรวาล"

คำสั่งที่ 1:
**********
1)ห้ามศึกษาจิตจักรวาล
ห้ามเผยแพร่จิตจักรวาล

#สาเหตุเพราะไม่มีที่มาที่ไป
#ไร้ซึ่งพงศาธรรม

วิเคราะห์เหตุผลของคนสั่ง:
***************************
เราจะกล่าวความจริงให้ท่านทั้งหลายรู้ว่า

อาวุโสท่านนี้ยังสั่งห้ามศิษย์ของตน
มิให้เข้ามาศึกษามรรควิถีจิตจักรวาล
ด้วยเหตุผลที่มิใช่เหตุผล
ซึ่งคนที่มีภูมิปัญญาแท้ๆจะมองได้ว่า
มันเป็นแค่เพียง "ข้ออ้าง" ที่ขาดตรรกะ
จากการไม่รอบคอบในการใช้ปัญญา
จากการไม่ยอมศึกษาเรียนรู้ให้ถ่องแท้
จึงด่วนสรุปเอาง่ายๆด้วยอคติที่ในตน

จึงได้กล่าวร้ายป้ายสีอันเป็นเท็จ
ในภารกิจของจิตจักรวาล
ต่อศิษย์สาวกของตนเอง
ที่พวกเขารู้เรื่องและเข้าใจ
สัจธรรมแห่งจิตจักรวาล
ดียิ่งกว่าคุรุของเขาด้วยซ้ำว่า

#สาเหตุเพราะจิตจักรวาลไม่มีที่มาที่ไป
#จิตจักรวาลไร้ซึ่งพงศาธรรม

เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
สมาชิกครอบครัวจิตจักรวาลนี้
ประกอบด้วยศาสนิกชนคนประพฤติธรรม
จากทุกชนชั้นทุกศาสนา

ไม่ต้องมาเข้ารีตก็เข้ามาศึกษาได้
ไม่ยอมรับพระบิดาไม่ศรัทธาเรา
พวกเขาผู้ใฝ่ดีก็เข้ามาศึกษาที่นี่ได้เช่นกัน

ดังนั้น
ญาติธรรมทั้งหลายจึงล้วนรู้ความจริง
ที่เราจะกล่าวต่อท่านซ้ำอีกสักครั้งดังนี้

1.#องค์จิตจักรวาล
ทรงเป็นพระบิดาแห่งจิตวิญญาณ
ทรงเป็นพระผู้สร้างเอกภพและทุกสรรพสิ่ง
ทรงเป็นผู้เริ่มต้นและสิ้นสุดของทุกสรรพสิ่ง
ทรงเป็นจุดศูนย์กลางของมหาจักรวาล
ทรงเป็นพระผู้เป็นเจ้าเหนือทุกสิ่งที่ทรงสร้าง
ทรงเป็นพระเจ้าเพียงหนึ่งเดียว

2.#องค์จิตจักรวาล
ทรงอนุญาตให้เรา
กลับมาอีกครั้งตามสัญญา
เพื่อมาประกาศปิดยุคพลังงานเก่า
เพื่อมาตามพี่ๆน้องๆทางจิตวิญญาณกลับบ้าน
เพื่อมาปฏิบัติการพิพากษาโลกเสรีนี้
ให้ทันก่อนที่เหตุการณ์ 56 วัน 8 ราตรีจะมาถึง

ทรงมีพระบัญชาให้เรามา
กล่าวพระโอวาทต่อท่านทั้งหลาย
ในพระนามบุตรเอกแห่งพระองค์

3.#องค์จิตจักรวาล
ทรงส่งให้เรามาเปล่งเสียงเรียกหา
ประดาแกะอีกมากมายที่หลงฝูงอยู่
แกะตัวใดจำเสียงเรียกจากเจ้าของได้
จะได้รีบกลับมาเข้าฝูงเข้าคอกได้ถูกทาง
ก่อนพายุจะมาก่อนฟ้าจะผ่าถึงตาย

ส่วนเจ้าแกะตัวดื้อที่ได้ยินแล้วไม่ใส่ใจ
ก็คงต้องปล่อยทิ้งไว้ในป่า
ให้อยู่กับพวกแกะที่จำเจ้าของตนเองไม่ได้
ทิ้งให้เป็นภักษาหารของสัตว์ร้ายแทน

พระองค์ทรงส่งให้เรามา
ทำหน้าที่คัดปลาดีๆมีอนาคตขึ้นจากน้ำ
เพราะโลกมนุษย์ในอีกไม่ช้า
จะมีแผ่นน้ำมากกว่าแผ่นดิน
ปลาจำนวนมากจะพากันสำลักน้ำ
เราจึงต้องรีบจับปลาขึ้นเรือก่อนปลาตาย
เพื่อนำไปปล่อยยังดินแดนที่ปลอดภัย

4.พี่น้องที่รักแห่งเราทั้งหลาย
ความจริงทั้งหมดที่เรากล่าวมานั้น
จุดเริ่มต้นก็มาจากองค์จิตจักรวาล
พระผู้ทรงเป็นต้นธารแห่งสายธรรมทุกสาย
พระผู้ทรงเป็นผู้ให้กำเนิดทุกสรรพสิ่ง

เราสื่อสารกับพระองค์ในระบบจิตสู่จิต
ที่เรียกว่า Vertical Telepathy
โดยทรงสื่อพระโอวาทผ่านมาทางเรา
เพื่อกล่าวต่อมนุษย์แห่งโลกเสรี
ที่เป็นบุตรมนุษย์ของพระองค์
ซึ่งเป็นพี่ๆน้องๆของเราอยู่จนบัดนี้

เราจึงขอถามท่านผู้อ้างตนเป็นคุรุว่า
จนบัดนี้แล้วปัญญาของท่านยังไม่เห็นว่า
จิตจักรวาลมีที่มาที่ไปอยู่อีกไหม?

ทุกคำสื่อสอนจากพระบิดา
ที่ทรงสื่อถ่ายทอดผ่านมาทางเรา
กว่าจะเดินทางผ่านจิตตปัญญาแห่งเรา
แล้วผ่านออกจากปากเรามาถึงหูท่านได้
มันต้องใช้เวลานานร่วมสามนาที

ทั้งๆที่ความเร็วในการเดินทางของคลื่นจิต
เท่ากับความเร็วของแสง
ที่เปลี่ยนค่าเป็นสองเท่าในทุกๆวินาที

ซึ่งคลื่นการสื่อสารนี้เดินทางเร็วมาก
แต่ยังต้องใช้เวลาร่วมสามนาทีต่อถ้อยคำ
แสดงว่า "องค์ธรรม" จากพระองค์
เดินทางมาไกลมากจากที่อันไกลโพ้น

ดังนั้น
การกล่าวร้ายดั่งป้ายสีจิตจักรวาลว่า
ไม่มีที่มาที่ไปจึงไม่ให้ศิษย์ไปศึกษาเรียนรู้
จึงเป็นเรื่องของคุรุที่ขาดคุณสมบัติโดยแท้

ถ้าเช่นนั้นปูตัวหนึ่งที่อยู่ในธรรมชาติ
ก็มิอาจเป็นครูสอนธรรมะท่านได้
เพราะปูมันไม่มีพงศาธรรม...โอเคนะ

พระบิดาทรงสอนเราว่า
ทุกสรรพสิ่งในธรรมชาติมีธรรมะแฝงอยู่
ทุกสรรพสิ่งจึงเป็นครูสอนมนุษย์ได้
ว่าแต่ว่าจะมีปัญญามองเห็นธรรมะนั้นมั้ย
เท่านั้นเอง

5.เราขอยืนยันว่า
ความทั้งหมดที่เรากล่าวมาคือความจริง
คำสื่อสอนทั้งหมดในทุกกาลเวลา
เรากล่าวออกมาในพระนามแห่งพระบิดา
ที่ทรงสื่อผ่านเรามาทั้งสิ้น

เรามิได้จดจำความรู้ใครมาใส่ปาก
แล้วเที่ยวอ้างตนเป็นครู
หรือบังคับใครให้เป็นศิษย์
อันเป็นลักษณะของการไม่มีที่มาที่ไป
เพราะท่านคุรุจำมาพูดเองกล่าวเอง
แล้วจะมาอ้างว่ามีพงศาธรรมอะไร

มรรควิถีจิตจักรวาล
แสดงความจริงอย่างมีที่มาที่ไป
และมีพระบิดาแห่งจิตวิญญาณ
ทรงเป็นต้นธารแห่งพงศาธรรมที่แท้จริง

จงอย่าเที่ยวนำเอาพงศาธรรมมาอ้าง
เพี่อกักขังศิษย์ท่านให้จมปลักในความมืด
เพราะเราและพระบิดาอยู่ฟากของสว่าง
ถ้าใครยังฝักใฝ่อยู่ในความมืด
ท่านจะแลเห็นเราและพระบิดาได้อย่างไร

เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
21-06-2017

หมายเหตุ:

ยังมีต่อภาค 3
ถ้าอยากศึกษาต่อกรุณายกมืออีกครั้ง