08 พฤษภาคม 2567

คัมภีร์อนุตรธรรมภาคจิตจักรวาล 8/05/2024

 #คัมภีร์อนุตรธรรมภาคจิตจักรวาล

 

พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย

เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า

 

ในการเกิดมาเป็น “คน” กับเขาคนหนึ่งนั้น

จิตวิญญาณผู้ขันอาสามาเกิดเป็นคุณในแต่ละคน

มีความต้องการให้พวกคุณทำหน้าที่ #คน สองมิติ

คือจิตหยาบกับกายหยาบหรือกายสังขาร

ให้เป็นหนึ่งเดียวกันกับ “จิตวิญญาณ” ให้สำเร็จ

ตั้งแต่ภพชาติแรกที่คุณได้รับโอกาสให้มาเกิดแล้ว

 

ถ้าทำสำเร็จพวกคุณก็จะไม่มีวันตายจะมีชีวิตอมตะ

สามารถทำหน้าที่ตาม “พันธะสัญญา 6” จนสิ้นยุค

คือยาวนาน 60,000 ปีโลกซึ่งเป็นอายุขัยแท้จริงได้

โดยไม่ต้องเวียนเกิดเวียนตายหลายภพชาติจนบัดนี้

และไม่ต้องแปลกใจว่าพวกต่างดาวทั้งหลาย

ทำไมมีอายุยืนหลายพันปีกันได้นั่นมันจริงหรือเท็จ

ซึ่งเราขอยืนยันว่าพวกเขามีอายุขัยยืนยาวได้จริงแท้

 

เหตุผลที่พวกเขามีอายุยืนยาวหลายพันปี

เรามีคำตอบให้พวกคุณได้เรียนรู้กันไว้ดังต่อไปนี้

 

1.เพราะพระเจ้าหรือพระผู้สร้าง

คือองค์จิตจักรวาลทรงกำหนดสร้างเอาไว้เช่นนั้น

 

เนื่องจากพระองค์ทรงกำหนดสร้างพวกต่างดาวขึ้น

ก่อนที่จะสร้างพวกคุณให้มาเกิดกันอยู่ในระบบโลก

พวกเขาจึงเป็นสิ่งมีชีวิตในรูปของ “รุ่นทดลองสร้าง”

เพื่อการ “ทดลองใช้” สำหรับการหาแบบที่เหมาะสม

ในการสร้างเครื่องยนต์แห่งกรรมรูปธรรมมนุษย์

ที่จะส่งเข้ามาทำหน้าที่เป็นเพื่อนร่วมงานกับโลก

ให้เหมาะสมที่สุดและมีประสิทธิผลสูงสุดนั่นเอง

 

ทรงกำหนดสร้างพวกเขาให้มีกายหยาบ

ที่ประกอบด้วยโครงสร้างทางชีววิทยาเป็นหลัก

โดยมีกระบวนการทางชีวภาพในระดับเซลล์

ที่ถูกถักทอเอาไว้ด้วยโครงข่าย DNA ของพระเจ้า

ซึ่งมีเครื่องยนต์แห่งกรรมที่เป็นรูปลักษณ์ของสัตว์

เป็นต้นแบบของการกำหนดสร้างพวกเขาขึ้นมา

ทรงกำหนดให้เซลล์ร่างกายและอวัยวะทุกเซลล์นั้น

สามารถเจริญเติบโตเพื่อการดำรงอยู่ได้เรื่อยๆไป

โดยสร้างใหม่แทนเซลล์เก่าที่เสื่อมสลายไปได้ด้วย

นั่นคือพวกเขาจะมีชีวิตเป็นอมตะคือไม่มีการตาย

สามารถดำรงชีวิตอยู่ค้ำฟ้าบนดาวนั้นได้ตลอดไป

 

2.พวกต่างดาวที่มีอายุยืนยาวทั้งหลาย

จะมีเพียงจิตวิญญาณที่ข้ามมิติเข้ามาจากแดนสุญตา

ซึ่งเป็นพระนิเวศน์ของพระเจ้าคือบ้านเกิดของตนเอง

ทำหน้าที่เป็นตัวตนผู้ขับเคลื่อนเครื่องยนต์แห่งกรรม

ที่มีสมองก้อนเดียวเหมือนสัตว์ประจำโลกในการคิดรู้

แต่มีความฉลาดทางปัญญาของสมองมากกว่าสัตว์

 

พวกนี้ส่วนใหญ่จะมีรูปธรรมลักษณะคล้ายมนุษย์โลก

โดยเวลายืนนั่งหรือเดินจะเอาลำตัวตั้งฉากกับพื้นเสมอ

ยกเว้นในเวลาหลับนอนหรือเมื่อเอนเล่นเพื่อพักผ่อน

จึงจะเอาลำตัวเหยียดขนานไปกับพื้นโลก

 

เพราะมีสมองก้อนเดียว

ความฉลาดทางปัญญาจึงไม่มีความสลับซับซ้อนอะไร

จิตวิญญาณจึงใช้สัญชาติญาณขับเคลื่อนสมองเองได้

อีกทั้งยังใช้พลังจิตใต้สำนึกของจิตวิญญาณได้ด้วย

พวกต่างดาวบางเผ่าที่ถูกสร้างขึ้นมาก่อนเผ่าอื่นๆ

จึงสามารถใช้อภิญญฤทธิ์ของจิตวิญญาณกันได้ดี

 

ฤทธิ์อภิญญาของจิตวิญญาณที่ว่านี้

จะมีอยู่ด้วยกัน 6 อย่าง คือ

 

1.อิทธิวิธิ คือ แสดงฤทธิ์ได้

เช่น ล่องหนได้ เหาะได้ ดำดินได้ แปลงร่างได้

 

2.ทิพพโสต คือ มีหูทิพย์

3.เจโตปริยญาณ คือ กำหนดรู้วาระจิตผู้อื่นได้

4.ปุพเพนิวาสนุสติญาณ คือ ระลึกชาติได้

5.ทิพพจักขุ คือ มีตาทิพย์

6.อาสวักขยญาณ คือ รู้การทำอาสวะให้สิ้นไป

 

โดยพวกต่างดาวส่วนใหญ่จะเข้าถึงได้

แค่ “อิทธิวิธี” กับหูทิพย์และตาทิพย์เท่านั้น

ซึ่งพวกจิตวิญญาณผีโสโครกจะนิยมสำแดงฤทธิ์

เพื่อจูงใจให้พวกคุณศรัทธาหรือว่าทำให้คุณกลัว

เพราะทั้งศรัทธาและความกลัวมันคือความเชื่อ

ที่จะช่วยทำให้พวกเขามีอำนาจเหนือนำพวกคุณได้

 

โชคยังดีที่พี่น้องในต่างดาวทั้งหลาย

ส่วนใหญ่ที่เข้าถึงอภิญญฤทธิ์ 6 ได้แล้วนั้น

พวกเขาจะมีฝ่ายดีมากกว่าฝ่ายที่พาลเกเร

โดยฝ่ายดีจะไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวกับกิจการของมนุษย์

เพราะพวกเขาจะรู้และเข้าใจกฎจักรวาลของพระบิดา

พวกที่เข้ามาจุ้นจ้านมักจะเป็นฝ่ายที่เจตนาไม่ค่อยดี

เพราะรู้กฎกติกาดีอยู่แต่ก็ยังก้าวก่ายล่วงเกิน

 

3.เพราะพวกต่างดาวที่มีชีวิตเป็นอมตะนั้น

พวกเขาทั้งหลายไม่มี “จิตหยาบ” เหมือนมนุษย์

ที่ถูกกำหนดให้จิตหยาบเป็นผู้รับมอบอำนาจ

ให้คอยทำหน้าที่แทนจิตวิญญาณขณะมีชีวิตอยู่

พวกเขาคงมีแต่จิตวิญญาณผู้อาสามาเกิดเท่านั้น

โดยจิตวิญญาณมิได้ถือพันธะสัญญา 6 มาด้วย

หนึ่งในหกก็คือหมดภารกิจแล้วจะต้องกลับบ้าน

 

เมื่อเกิดมาแล้วจิตวิญญาณไม่ต้องกลับบ้าน

พวกต่างดาวเหล่านี้จึงไม่มีหน้าที่จะต้องตาย

แต่ต้องเป็นสิ่งมีชีวิตที่อยู่ประจำบนดาวนั้นตลอดไป

ซึ่งไม่ต่างจากสัตว์ประจำโลกทั้งหลายนี่แหละ

 

พวกเขาที่เกิดใหม่ก็เกิดไปที่ตายก็ตายไป

ใช้ชีวิตอยู่ด้วยการกินพืชผักผลไม้ที่ทรงปลูกไว้ให้

บางเผ่าก็อาจมีกัดกินกันเองทำร้ายกันเองก็มีบ้าง

จึงทำให้ดีเอ็นเอของพระเจ้าที่ทรงติดตั้งเอาไว้ให้

ผ่าเหล่ากลายพันธุ์จนเป็นดีเอ็นเอของสัตว์ร้ายไป

จนสร้างความดุร้ายก้าวร้าวทางจิตวิญญาณมากขึ้น

ซึ่งเราหมายถึงสัญชาติญาณดุร้ายของสัตว์หน้าขน

ที่พวกคุณสัมผัสรู้ดูเห็นในมนุษย์ส่วนใหญ่กันอยู่แล้ว

 

สาเหตุที่พวกคุณมีสัญชาตญาณสัตว์ร้ายแฝงอยู่

เป็นเพราะพวกคุณถูกเสี้ยมให้กินเลือดเนื้อของสัตว์

ทั้งๆที่กายสังขารคุณพระเจ้าทรงกำหนดให้กินพืช

สัญชาตญาณทางจิตวิญญาณของพวกคุณ

จึงบันทึกรหัสกรรมตามความโกรธแค้นของสัตว์ไว้

ยิ่งกินเลือดเนื้อสัตว์มากเท่าไหร่ก็ยิ่งโหดร้ายมากขึ้น

สัญชาตญาณการเป็นมนุษย์ของคุณจึงเปลี่ยนไป

โดยเฉพาะจิตสามนึกรักพวกพ้องมันเสื่อมสลายสิ้น

 

นอกจากสัญชาตญาณก้าวร้าวที่รับจากเนื้อสัตว์แล้ว

เครื่องยนต์แห่งกรรมของพวกคุณยังถูกดัดแปลง

โดยพวกต่างดาวที่แอบแฝงตัวเข้ามาทำตนเป็นมอด

ใช้เท็คโนโลยีนาโนตัดต่อพันธุกรรมของพวกคุณ

โดยนำดีเอ็นเอสัตว์ร้ายมาตัดต่อไว้กับดีเอ็นเอพระเจ้า

ทำให้เซลล์ร่างกายมนุษย์มีดีเอ็นเอสัตว์ร้ายแทรกอยู่

มันคือ “เซลล์มะเร็ง” ที่เติบโตเฉพาะที่นั่นเอง

คนที่ชอบกินเลือดเนื้อของสัตว์จงระวังมะเร็งไว้ให้ดี

เพราะมันคืออาหารชั้นดีของดีเอ็นเอสัตว์ร้ายในตัวคุณ

 

กราบพระบาทพระบิดาทรงเมตตา

เอเมน สาธุ

#ปัญญาวิสุทธิ์

8/05/2567