#คัมภีร์อนุตรธรรมภาคจิตจักรวาล
พี่ๆน้อง
ๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
สมการพลังงานรวมจากจิตสามนึกด้านบวก
ที่เกิดจากพวกคุณร่วมกันตั้งแต่สามคนขึ้นไป
นั่นคือเริ่มจากแต่ละครอบครัวพ่อแม่ลูกนั้น
มันคือพลังงานความรักที่เป็นคลื่นไฟฟ้าแม่เหล็ก
หรืออาจเรียกว่าเป็น
“พลังงานแสง” ก็ได้
สมการที่ว่านี้ก็คือ
Σβx ═ 3X²(β₁ + β₂ + β₃ + …+βx)
สมการนี้อ่านว่า
ผลรวมทางพลังงานจากจิตสามนึกด้านบวก
ที่เป็น
“ความรักเพื่อให้” จะมีค่าเท่ากับ
สามเท่าของคนอย่างน้อยสามคนยกกำลังสอง
คูณด้วยผลรวมทางพลังงานของคนทั้งสามคนนั้น
สมการนี้จะเรียกว่า #พลังงานธรรมจักร ก็ได้
หรือเรียกว่า #สมการพลังงานธารสายน้ำนม ก็ได้
พวกคุณจะต้องรู้ว่า
พลังงานที่พี่น้องชาวโลกเสรีช่วยกันผลิตมันออกมา
ด้วยรักเพื่อให้คืออดทนอดกลั้นอภัยและเมตตากัน
ที่เราเรียกว่าร่วมกัน
“หมุนธรรมจักร” ในยามตื่นนั้น
นอกจากจะถูกนำไปใช้
“ค้ำจุนสมดุลโลก” แล้ว
โลกยังใช้สร้างสมดุลให้กับกาแล็กซี่ธารสายน้ำนม
ด้วยการทำให้กาแล็กซี่เหวี่ยงหมุนหมุนได้อีกด้วย
โดยพลังงานที่โลกต้องการจากพวกคุณเพียง
1%
ของพลังงานทั้งหมดที่พวกคุณแต่ละครอบครัวผลิต
แล้วเหวี่ยงออกมาภายนอกมอบให้โลกในทุกวินาที
กาแล็กซี่
“ธารสายน้ำนม” นี้พวกคุณส่วนใหญ่
เรียกตามภาพมายาที่ตามองเห็นว่า
#ทางช้างเผือก
แต่แท้จริงแล้วพระบิดาทรงสร้างขึ้นให้เห็น
เป็นลักษณะของธารน้ำนมที่มีสีขาวเอาไว้ให้เห็น
เพื่อให้ลูกๆอย่างพวกคุณได้ใช้เป็นที่สังเกตกันว่า
ถ้าลูกๆจะกลับบ้านไปกราบพระบาทพระผู้ให้กำเนิด
ก็ให้เดินไปตามธารน้ำนมสีขาวนี้จะไปถึงพระองค์แน่
เพราะพระองค์ทรงเป็นห่วงพวกคุณที่จากมาเสียนาน
เพื่อมาทำหน้าที่เพื่อนร่วมงานกับโลกอยู่ในเอกภพนี้
นานคนละร่วม 6 หมื่นปีเศษต่อหนึ่งยุคเป็นอย่างน้อย
โอกาสที่จะจำทางกลับบ้านไม่ได้นั้นมีสูงยิ่ง
เพื่อถวายพระเกียรติด้วยความกตัญญูต่อพระองค์
ขอให้ทุกคนเปลี่ยนมาเรียกว่า
“ธารสายน้ำนม” แทน
การเรียกว่า
“ทางช้างเผือก” จะเหมาะสมมากกว่ามั้ย
พระเจ้าหรือพระผู้สร้างที่มีเพียงพระองค์เดียว
ทรงกำหนดให้ระบบสุริยะจักรวาลที่มีโลกนี้อยู่ด้วย
ทำหน้าที่เป็นเสมือนจุดศูนย์กลางของเอกภพ
เพื่อสร้างความสมดุลของเอกภพทั้งระบบเอาไว้ให้ได้
ด้วยการทำให้เส้นผ่านศูนย์กลางในแนวระนาบ
คือกาแล็กซี่ธารสายน้ำนมที่มีขนาดใหญ่ที่สุดนี้
เหวี่ยงหมุนรอบตัวเองในแนวระนาบได้อย่างต่อเนื่อง
แต่การเหวี่ยงหมุนจะเกิดขึ้นไม่ได้
ถ้าบนเส้นผ่านศูนย์กลางของเอกภพคือธารสายน้ำนม
มีระบบสุริยะของโลกที่มีดาวเคราะห์จำนวน
9 ดวง
ติดตั้งอยู่เพื่อทำหน้าที่สำคัญนี้แค่เพียงระบบเดียว
จึงทรงออกแบบสร้างสุริยะจักรวาลอีกระบบหนึ่งขึ้นมา
โดยกำหนดให้ระบบนั้นมีดาวเคราะห์รวมทั้งสิ้น
5 ดวง
ทรงกำหนดให้ดาวพลูโตของระบบสุริยะจักรวาลนี้
ทำหน้าที่สำคัญในการเป็น
“เศษส่วนของเมอริเดี้ยน”
ให้เป็นทูตเชื่อมสัมพันธไมตรีกับระบบสุริยะตรงข้าม
ด้วยการย้ายไปเป็นดาวเคราะห์ดวงที่
6 ของระบบนั้น
ซึ่งลักษณะการโคจรจะเป็นแบบเครื่องหมาย
Infinity
โดยดาวพลูโตนี้เมื่อโคจรจนครบหนึ่งรอบแล้ว
จะย้ายไปโคจรอยู่วงนอกสุดของอีกระบบสุริยะหนึ่ง
เมื่อโคจรครบหนึ่งรอบแล้วโลกก็จะดึงดูดกลับคืนมา
ซึ่งจะใช้เวลาในการทำหน้าที่นานครั้งละ
3 ปีที่หายไป
จนนักดาราศาสตร์พบเห็นความผิดปกตินี้แต่ไม่เข้าใจ
จึงได้ทำการตัดดาวพลูโตออกไปจากระบบสุริยะทั้งเก้า
จนเหลือแค่ 8 ดวงซึ่งถ้าทำได้จริงก็จะหายนะแน่นอน
เพราะการสู่รู้และอวดฉลาดของพวกเขานั่นแหละ
โชคยังดีที่พวกเขาเปลี่ยนแปลงเรื่องนี้ไม่ได้
กราบพระบาทพระบิดาที่ทรงเมตตา
เอเมน สาธุ
18/05/2567