18 พฤษภาคม 2567

คัมภีร์อนุตรธรรมภาคจิตจักรวาล 18/05/2024

 #คัมภีร์อนุตรธรรมภาคจิตจักรวาล

 

พี่ๆน้อง ๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย

เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า

 

สมการพลังงานรวมจากจิตสามนึกด้านบวก

ที่เกิดจากพวกคุณร่วมกันตั้งแต่สามคนขึ้นไป

นั่นคือเริ่มจากแต่ละครอบครัวพ่อแม่ลูกนั้น

มันคือพลังงานความรักที่เป็นคลื่นไฟฟ้าแม่เหล็ก

หรืออาจเรียกว่าเป็น “พลังงานแสง” ก็ได้

 

สมการที่ว่านี้ก็คือ

Σβx ═ 3X²(β₁ + β₂ + β₃ + …+βx)

สมการนี้อ่านว่า

ผลรวมทางพลังงานจากจิตสามนึกด้านบวก

ที่เป็น “ความรักเพื่อให้” จะมีค่าเท่ากับ

สามเท่าของคนอย่างน้อยสามคนยกกำลังสอง

คูณด้วยผลรวมทางพลังงานของคนทั้งสามคนนั้น

สมการนี้จะเรียกว่า #พลังงานธรรมจักร ก็ได้

หรือเรียกว่า #สมการพลังงานธารสายน้ำนม ก็ได้

 

พวกคุณจะต้องรู้ว่า

พลังงานที่พี่น้องชาวโลกเสรีช่วยกันผลิตมันออกมา

ด้วยรักเพื่อให้คืออดทนอดกลั้นอภัยและเมตตากัน

ที่เราเรียกว่าร่วมกัน “หมุนธรรมจักร” ในยามตื่นนั้น

นอกจากจะถูกนำไปใช้ “ค้ำจุนสมดุลโลก” แล้ว

โลกยังใช้สร้างสมดุลให้กับกาแล็กซี่ธารสายน้ำนม

ด้วยการทำให้กาแล็กซี่เหวี่ยงหมุนหมุนได้อีกด้วย

โดยพลังงานที่โลกต้องการจากพวกคุณเพียง 1%

ของพลังงานทั้งหมดที่พวกคุณแต่ละครอบครัวผลิต

แล้วเหวี่ยงออกมาภายนอกมอบให้โลกในทุกวินาที

 

กาแล็กซี่ “ธารสายน้ำนม” นี้พวกคุณส่วนใหญ่

เรียกตามภาพมายาที่ตามองเห็นว่า #ทางช้างเผือก

แต่แท้จริงแล้วพระบิดาทรงสร้างขึ้นให้เห็น

เป็นลักษณะของธารน้ำนมที่มีสีขาวเอาไว้ให้เห็น

เพื่อให้ลูกๆอย่างพวกคุณได้ใช้เป็นที่สังเกตกันว่า

ถ้าลูกๆจะกลับบ้านไปกราบพระบาทพระผู้ให้กำเนิด

ก็ให้เดินไปตามธารน้ำนมสีขาวนี้จะไปถึงพระองค์แน่

เพราะพระองค์ทรงเป็นห่วงพวกคุณที่จากมาเสียนาน

เพื่อมาทำหน้าที่เพื่อนร่วมงานกับโลกอยู่ในเอกภพนี้

นานคนละร่วม 6 หมื่นปีเศษต่อหนึ่งยุคเป็นอย่างน้อย

โอกาสที่จะจำทางกลับบ้านไม่ได้นั้นมีสูงยิ่ง

เพื่อถวายพระเกียรติด้วยความกตัญญูต่อพระองค์

ขอให้ทุกคนเปลี่ยนมาเรียกว่า “ธารสายน้ำนม” แทน

การเรียกว่า “ทางช้างเผือก” จะเหมาะสมมากกว่ามั้ย

 

พระเจ้าหรือพระผู้สร้างที่มีเพียงพระองค์เดียว

ทรงกำหนดให้ระบบสุริยะจักรวาลที่มีโลกนี้อยู่ด้วย

ทำหน้าที่เป็นเสมือนจุดศูนย์กลางของเอกภพ

เพื่อสร้างความสมดุลของเอกภพทั้งระบบเอาไว้ให้ได้

ด้วยการทำให้เส้นผ่านศูนย์กลางในแนวระนาบ

คือกาแล็กซี่ธารสายน้ำนมที่มีขนาดใหญ่ที่สุดนี้

เหวี่ยงหมุนรอบตัวเองในแนวระนาบได้อย่างต่อเนื่อง

 

แต่การเหวี่ยงหมุนจะเกิดขึ้นไม่ได้

ถ้าบนเส้นผ่านศูนย์กลางของเอกภพคือธารสายน้ำนม

มีระบบสุริยะของโลกที่มีดาวเคราะห์จำนวน 9 ดวง

ติดตั้งอยู่เพื่อทำหน้าที่สำคัญนี้แค่เพียงระบบเดียว

จึงทรงออกแบบสร้างสุริยะจักรวาลอีกระบบหนึ่งขึ้นมา

โดยกำหนดให้ระบบนั้นมีดาวเคราะห์รวมทั้งสิ้น 5 ดวง

 

ทรงกำหนดให้ดาวพลูโตของระบบสุริยะจักรวาลนี้

ทำหน้าที่สำคัญในการเป็น “เศษส่วนของเมอริเดี้ยน”

ให้เป็นทูตเชื่อมสัมพันธไมตรีกับระบบสุริยะตรงข้าม

ด้วยการย้ายไปเป็นดาวเคราะห์ดวงที่ 6 ของระบบนั้น

ซึ่งลักษณะการโคจรจะเป็นแบบเครื่องหมาย Infinity

 

โดยดาวพลูโตนี้เมื่อโคจรจนครบหนึ่งรอบแล้ว

จะย้ายไปโคจรอยู่วงนอกสุดของอีกระบบสุริยะหนึ่ง

เมื่อโคจรครบหนึ่งรอบแล้วโลกก็จะดึงดูดกลับคืนมา

ซึ่งจะใช้เวลาในการทำหน้าที่นานครั้งละ 3 ปีที่หายไป

จนนักดาราศาสตร์พบเห็นความผิดปกตินี้แต่ไม่เข้าใจ

จึงได้ทำการตัดดาวพลูโตออกไปจากระบบสุริยะทั้งเก้า

จนเหลือแค่ 8 ดวงซึ่งถ้าทำได้จริงก็จะหายนะแน่นอน

เพราะการสู่รู้และอวดฉลาดของพวกเขานั่นแหละ

โชคยังดีที่พวกเขาเปลี่ยนแปลงเรื่องนี้ไม่ได้

 

กราบพระบาทพระบิดาที่ทรงเมตตา

เอเมน สาธุ

#ปัญญาวิสุทธิ์

18/05/2567