24 มิถุนายน 2560

#พระบิดาแห่งจิตวิญญาณ #ทรงโปรดเวไนย (ภาค 4)


#พระบิดาแห่งจิตวิญญาณ
#ทรงโปรดเวไนย (ภาค 4)

To Whom It May Concern
*****************************
บุตรรักแห่งบิดาทั้งหลาย
พี่ๆน้องๆที่ <3 แห่งเราทั้งหลาย

"เสียงกัมปนาท กราดเกรี้ยว เสียวระทึก
ดั่งยามดึก ฟ้าผ่า พาแตกตื่น
ครูสั่งศิษย์ กีดกัน ทุกวันคืน
ห้ามยุ่งยื่น เป็นมิตร จิตจักรวาล"

ต่อไปนี้เป็นคำถามอีกชุดหนึ่ง
ซึ่งผู้อาวุโสท่านเดียวกันได้ถามศิษย์ไว้

คำถามที่ 3: (เป็นชุดเลย)
***********
3.1 สำนักจิตจักรวาลมีอาจารย์บรรยายกี่คน 
3.2 มีองค์กร มีทีมงานแบบไหน อย่างไร 
3.3 ศูนย์กลางอยู่ที่ไหน?

วิเคราะห์คนถาม:
*****************
เราจะกล่าวความจริงที่เราเห็น
เกี่ยวกับตัวคุรุอาวุโสผู้สั่งห้ามศิษย์
มิให้มาศึกษา #จิตจักรวาล ว่า

นอกจากท่านที่อ้างตนเป็นคุรุจะมิใส่ใจว่า
เรา "ป.วิสุทธิปัญญา" สื่อสอนเรื่องอะไร
ทำไมศิษย์ท่านจึงขยันมาศึกษา
แสวงหาองค์ธรรมกับจิตจักรวาลกันนัก
เพื่อจะได้ช่วยกลั่นกรองให้ศิษย์โง่
รู้แยกแยะว่าไหนธรรมแท้ไหนธรรมเทียม
ให้สมกับที่วางตนเป็นครูบาอาจารย์เขาไว้
ให้ศิษย์สำนักตั้งมากมายได้พึ่งปัญญาครู

ท่านยังออกคำสั่งห้ามศิษย์มิให้ยุ่งเกี่ยว
โดยมีข้ออ้างเดียวที่มิใช่เหตุผลเลยนั่นคือ

#จิตจักรวาลไม่มีที่มาที่ไป
#จิตจักรวาลไม่มีพงศาธรรม

ซึ่งกรณี "พงศาธรรม" ของจิตจักรวาลนั้น
ในตอนที่ผ่านมารวมสองวันแล้ว
ท่านทั้งหลายรวมทั้งอาวุโสผู้เป็นต้นเรื่อง
คงจะได้รับความสว่างกระจ่างใจกันแล้วว่า

แท้จริงนั้น "องค์จิตจักรวาล" 
ทรงเป็นจิตแห่งจักรวาล
#ทรงเป็นต้นธารแห่งองค์ธรรมที่ยิ่งใหญ่
ทรงดำรงอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ
ของดาวเหนือ

ทรงมีพระบุตรเอกรวม 24 พระองค์
เป็นผู้ผลัดกันรับพระบัญชาถือสายธรรม
ข้ามมิติมายังโลกเสรีเพื่อเผยแพร่องค์ธรรม
และทำการฉุดช่วยเวไนยตลอดมา
ถึงวันนี้ยุคนี้คบเพลิงดังกล่าว
ได้ถูกหยิบยื่นมาสู่มือของเราแล้ว
เพื่อให้เรากล่าวพระโอวาทต่อมนุษย์โลก
ในพระนามแห่งองค์จิตจักรวาล
เพื่อนำพาพวกท่านกลับบ้านยังแดนสุญตา
พร้อมทำหน้าที่พิพากษาโลก
ด้วยการคัดปลาขึ้นจากน้ำ
และส่งเสียงเรียกแกะหลงฝูงกลับเข้าคอก
ให้ทันก่อน 56 วัน 8 ราตรีจะมาถึง

ทั้งหมดที่กล่าวลำดับความมานี้
ภารกิจแห่งองค์จิตจักรวาลผ่านพระบุตรเอก
รวมทั้งสิ้น 24 พระองค์ กับเราอีกหนึ่งคน
โดยได้ใช้เวลาโลกผ่านมาตราบจนบัดนี้ 
นับได้ "หกหมื่นแปดร้อยปีเศษ" มาแล้ว

เราจึงใคร่ถามท่านอาวุโสผู้นี้นิดหนึ่งนะว่า
ภารกิจแห่งจิตจักรวาลนั้น
มันไม่มีพงศาธรรม
ตามที่ท่านกล่าวหาจริงแท้แน่หรือ

เพราะท่านอาวุโสมัวแต่เก็บตัวอยู่กับความมืด
เฝ้าแต่จมปลักอยู่กับด้านเงาแห่งพระบิดา
ท่านจึงเข้าไม่ถึงแก่นแท้แห่งองค์จิตจักรวาล
ท่านจึงมิอาจแลเห็นเราดังเช่นศิษย์ท่านเห็น
เพราะเรากับพระบิดาอยู่ในฝั่งฟากฟ้าสว่าง

ดังนั้น
มันจึงเป็นการกล่าวความเท็จและป้ายสีเรา
ถ้าถือศีลก็ศีลขาดกระจุย
ถ้าเป็นครูก็ขาดคุณสมบัติแห่งครูสอนธรรมะ
อันเป็นนัยะแห่งความเสื่อมแล้วใช่หรือไม่ล่ะ

เมื่อได้ทราบอีกว่า
ท่านยังกระทำข่มขู่ศิษย์โง่ของท่าน

ด้วยการขู่ว่า....
การไปศึกษาองค์ธรรมกับจิตจักรวาล
เป็นการไม่เคารพครูบาอาจารย์
และเป็นการไม่เทอดทูนธรรมอีกด้วย

เราสลดใจแทนพวกเขาจังเพราะเห็นว่า
มันเป็นคำกล่าวหาที่รุนแรงและใจร้ายยิ่ง
เพราะใช้จุดอ่อนของศิษย์โง่ที่เป็นคนดี
ที่ขลาดกลัวต่อการกระทำผิดบาปต่อครู
ขลาดกลัวต่อการลบหลู่สัจธรรมอยู่แล้ว
มาเป็นเครื่องมืออย่างไร้สติ

ทั้งๆที่ท่านเองก็รู้ดีว่า
การแสวงหาองค์ธรรมความรู้กันเอาเอง
เป็นภาระอันหนักหน่วงของนักบรรยายธรรม
ในสังกัดสำนักท่านตลอดมาหลายปีแล้ว
ที่พวกเขาจักต้องแสวงหาความรู้กันเอง
เพื่อไปบรรยายธรรมในกลุ่มของตน
ตามหัวข้อต่างๆที่อาวุโสกำหนดเอาไว้ให้

มันไม่น่ายินดีเช่นนั้นหรือ
ที่ศิษย์สาวกของท่าน
ฉลาดที่จะมายกระดับจิตตปัญญา
แสวงหาองค์ความรู้จากฝั่ง #พระบิดา บ้าง
ถ้าฝั่งนี้ตอบโจทย์พวกเขาได้ดีหรือดีกว่า
เรามิเห็นว่าจะมีอะไรเสียหายหรือใครเสื่อม

หรือที่พยายามกระทำทุกทาง
อย่างไม่คำนึงถึงผิดถูกดีชั่วบาปบุญคุณโทษ
เพื่อมิให้ศิษย์ตนข้องแวะกับจิตจักรวาลนั้น
เป็นเพราะการกลัวว่า #จะเสียศิษย์สาวก ไป
จะทำให้สำนักเสียหายคลายความมั่นคง

เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
#จิตจักรวาล มิใช่ "สำนัก"
เรามิได้มาเกิดชาตินี้เพื่อสร้างสำนัก
แต่เรามาสร้าง "สำนึก" ให้เวไนยต่างหาก

ที่จิตจักรวาลจึงมีใครเข้าใครออกก็ได้
เราไม่เคยสนใจจำนวนตัวเลขของสาวก
เราจึงไม่มีกลยุทธแบบขายตรงเพื่อล่าสาวก
เราจึงไม่เคยคิดยื้อแย่งสาวกจากสำนักไหน
เพราะมันเป็นเรื่องเบาปัญญามากสำหรับเรา

เราไม่มีเวลาว่างให้กับการหวงหรือหาสาวก
เนื่องจากเราใส่ใจในองค์ธรรมที่จะสื่อสอน
เพื่อนำพาเวไนยผู้ใฝ่ดีให้หลุดพ้นมากกว่า

เราเห็นว่า "คุณภาพ" ในงานฉุดช่วยเวไนย
เป็นภารกิจหลักที่สำคัญกว่า
การตั้งหน้าตั้งตาแต่จะจัดตั้งองค์กร
หรือขยายเครือข่ายสำนัก

ภารกิจศักดิ์สิทธิ์ของจิตจักรวาล
จึงเน้นที่การสื่อพระโอวาท
เน้นที่การพัฒนาจิตตปัญญาให้แก่ทุกคน
เพื่อนำพาจิตวิญญาณกลับบ้านกันให้ได้
ตามที่เราขันอาสาพระบิดามา

เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
สำนักของท่านนั้นมันจะดำรงคงอยู่ได้
ไปอีกยาวนานมั่นคงสักแค่ไหน
ท่านจงอย่าใช้การตลาดแบบธุรกิจขายตรง
เพราะการให้ธรรมะแก่ประชาชน
มันมิใช่การขายสินค้าให้แก่ประชาชน

หลักการ "ให้" นั้นจะต้องเน้นในสิ่งที่ให้
ว่าเป็นสิ่งที่ดี มีคุณประโยชน์ ล้ำค่าแค่ไหน
ส่วนเรื่องตัวตนของ "คนที่ให้" 
กับ "จำนวนคน" ที่จะทำหน้าที่แจกหรือให้
เป็นเรื่องรองโดยไม่ต้องเน้นมากก็ได้

หมายความว่า
คนที่จะรับเขาจะพิจารณาในสิ่งที่เขาจะได้
ว่าเขาพอใจ ภูมิใจ ศรัทธา อยากได้มั้ย
ส่วนตัวตนคนที่จะให้เขาจะใส่ใจน้อยกว่า
ถ้าท่านเน้นที่ภารกิจฉุดช่วยเวไนยจริง
ท่านจักต้องเน้นที่คุณภาพของผู้สอนธรรมะ
กับการชำระ "องค์ธรรม" ให้ศักดิ์สิทธิ์ไว้
มิใช่เน้นที่การทวีจำนวนสาวก
จนเกิดพฤติกรรมล่าสาวกและหวงสาวก

ธุรกิจขายตรงนั้น

1.เขาต้องมีองค์กรจัดตั้งที่แข็งแกร่ง
2.มีผู้บริหารองค์กร
และนักล่าลูกค้าที่มีศักยภาพ

3.มีจำนวนนักล่าลูกค้าจำนวนมากๆ
4.มีภาพพจน์องค์กรและสินค้าเป็นที่ยอมรับ
5.มีประชาสัมพันธ์ส่งเสริมการขาย
เพื่อจูงใจลูกค้าของตนสม่ำเสมอ

6.ตัวสินค้าจักต้องตอบโจทย์ผู้ซื้อได้
และมีการพัฒนาคุณภาพสินค้าเรื่อยๆ

งานเผยแพร่ธรรมะ
ที่บริสุทธิ์และศักดิ์สิทธิ์นั้น
ฟ้าดินจักเมตตา
หลักคิดหลักทำแบบธุรกิจขายตรงทั้ง 6 นี้
ท่านอาวุโสไม่จำเป็นจะต้องเลียนแบบ
นำมาปฏิบัติครบทั้งหมดหรอก

เพียงจัดทีมบรรยายธรรมที่มีคุณภาพ
เน้นการให้ธรรมะด้วยองค์ธรรมที่ถูกต้อง
ตามครรลองแห่งฟ้า อย่าบิดเบือน
ไม่ทะเลาะกันเองภายในให้ผู้คนเล่าลือ
เพราะจิตแต่ละคนยังมีมลทินอยู่

หากปฏิบัติได้ตามนี้
ในไม่ช้ามันจะช่วยฉุดรั้งเวไนยทั่วหล้า
เข้าไปหาสำนักของท่านเอง

เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
24-06-2017

หมายเหตุ:
ต้องการจะศึกษาเรียนรู้
กรณีศึกษานี้ต่อในภาค 5
โปรดยกมือขึ้นอีกครั้ง

คำเตือน:
เราสอนให้นักเรียนฝึกคิดให้เกิดทักษะ
เพื่อให้ท่านทั้งหลาย
ฉลาดที่จะหยิบปัญญามานิพพาน
จากกรณีศึกษานี้เท่านั้น
เรามิได้นำมากล่าวเพื่อให้ท่านก้าวล่วงผู้อื่น

จงแสดงความคิดเห็นต่อบทเรียน
จงบอกตนเองว่าได้จิตตปัญญาอันใด
เพิ่มมากขึ้นจากเดิมได้บ้าง
นั่นคือสิ่งเดียวที่เราปรารถนา
จากนักเรียนทุกๆท่าน....เอเมน สาธุ