21 พฤษภาคม 2567

คัมภีร์อนุตรธรรมภาคจิตจักรวาล 21/05/2024

 #คัมภีร์อนุตรธรรมภาคจิตจักรวาล

 

พี่ๆน้อง ๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย

เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า

 

ดาวเคราะห์โลกเสรีดวงนี้

สามารถเหวี่ยงหมุนรอบตัวเองได้อย่างต่อเนื่อง

เพราะองค์จิตจักรวาลพระผู้ทรงกำหนดสร้างเอกภพ

ได้ทรงติดตั้งก้อนธาตุออกซิเจนที่บริสุทธิ์ 100%

เอาไว้ภายในแกนกลางของโลกด้วย

 

ก้อนธาตุออกซิเจนบริสุทธิ์นี้มีสีเขียวใสเหมือนมรกต

โดยจะมีลักษณะเหนียวๆหนืดๆคล้ายกับ “ตังเม”

ธาตุออกซิเจนบริสุทธิ์นี้จะหาจากที่ไหนในโลกนี้ไม่มี

มีอยู่แห่งเดียวก็คือภายในใจกลางโลกเสรีนี้เท่านั้น

 

#อะตอมของธาตุออกซิเจน ภายในใจกลางโลกนี้

จะมีคุณสมบัติพิเศษที่สำคัญอยู่ 3 ประการ คือ

 

1.คอยทำหน้าที่ดูดซับรับเอาประจุลบอิสระ

ที่เกิดขึ้นภายในระบบโลกจากกระบวนการต่างๆ

ซึ่งเป็นส่วนเกินความสมดุลทางไฟฟ้าของพระเจ้า

จากที่พระองค์ทรงกำหนดสร้างเอาไว้ให้แล้ว

โดยจะใช้เป็นสถานที่เก็บอิเล็กตรอนอิสระเหล่านั้น

เพื่อมิให้บรรยากาศโลกสกปรกด้วยอนุภาคขยะ

ที่จะทำให้ฟ้าของพระองค์เสียสมดุลทางไฟฟ้าไป

 

#ตัวอย่างเช่น

ประจุลบอิสระที่เป็น “อิเล็กตรอนอิสระ”

ที่ชาวโลกเหวี่ยงมันออกมาด้วยกระบวนการขันธ์ห้า

เมื่อแต่ละคนสั่นสะเทือนเป็น #กรรมจักร ให้เกิดขึ้น

โดยขับเคลื่อนด้วยกิเลสตัณหาราคะและอารมณ์ขยะ

แล้ววิญญาณขันธ์ของคนพวกนี้จะเหวี่ยงมันออกมา

ทิ้งให้ล่องลอยเป็นขยะประจุลบอยู่ในบรรยากาศโลก

อนุภาคอิเล็กตรอนอิสระทั้งหลายนี้จะรวมตัวกับไอน้ำ

จนเกิดเป็นมวลเมฆฝนก้อนใหญ่แล้วตกลงมากับฝน

 

เมื่อตกลงมาถึงพื้นแผ่นดินโลกหรือพระแม่ธรณีแล้ว

โลกก็จะเหนี่ยวรั้งประจุลบอิสระเหล่านี้ลงไปเก็บไว้

ที่ก้อนธาตุออกซิเจนภายในแกนโลกกันต่อไป

ซึ่งเป็นกระบวนการที่พระเจ้าทรงออกแบบเอาไว้ให้

เพื่อชำระบรรยากาศโลกให้ปราศจากประจุลบอิสระ

ตามวิธีการสร้างสมดุลทางธรรมชาติของพระองค์

เมื่อประจุลบอิสระจากกรรมจักรมันมีมากจนเกินไป

จึงยังผลให้ธาตุออกซิเจนในแกนโลกที่เคยเขียวใส

ดั่งเนื้อของพระแก้วมรกตที่วัดพระแก้วที่สนามหลวง

เปลี่ยนเป็นสีเขียวแบบ “ทึบแสง” ไม่โปร่งใสอีกแล้ว

 

#ตัวอย่างเช่น

นักวิทยาศาสตร์ค้นพบว่า

เครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิดที่ตนผลิตสร้างขึ้นนั้น

จะต้องต่อสายดินเพื่อนำประจุลบลงสู่แผ่นดินโลก

มิเช่นนั้นแล้วกระแสไฟฟ้าคืออิเล็กตรอนจะลัดวงจร

วิ่งเข้าสู่ร่างกายของผู้ใช้มันแทน

คนๆนั้นก็จะถูกไฟฟ้าช็อตจนเป็นอันตรายแก่ชีวิตได้

 

อิเล็กตรอนที่วิ่งลงดินนี่แหละ

มันจะถูกดึงดูดเหนี่ยวรั้งลงไปเก็บที่แกนโลก

 

2.อะตอมของก้อนธาตุออกซิเจนในแกนโลก

จะมีปฏิกิริยาที่ว่องไวกับอนุภาคประจุบวกอิสระ

ที่เกิดจากการสั่นสะเทือนขันธ์ห้าด้วยความรักเพื่อให้

เช่น การอดทน อดกลั้น ให้อภัย ใจดีมีเมตตา

การทำบุญสุนทานโดยไม่มีเงื่อนไขในการกระทำ

การทำบุญโดยต้องไม่ร้องขออะไรเป็นสิ่งตอบแทน

 

พลังงานจิตที่เป็นคลื่นความถี่ทางไฟฟ้าแม่เหล็ก

ซึ่งมีอนุภาคประจุบวกอิสระเป็นคุณสมบัติอยู่ด้วยนั้น

จะถูกพวกคุณเหวี่ยงออกมาสู่บรรยากาศภายนอก

แล้วรวมตัวกับความชื้นจนเกิดเป็นมวลเมฆเช่นกัน

ถ้ามีปริมาณมากก็จะเกิดพายุแม่เหล็กขึ้นในก้อนเมฆ

เพราะประจุบวกเหล่านี้จะถูกประจุลบวิ่งเข้าชนปะทะ

ในที่สุดประจุบวกที่เหลือประมาณ 1% ของทั้งหมด

ก็จะตกลงสู่พื้นโลกพร้อมกับน้ำฝนและประจุลบด้วย

 

เมื่ออนุภาคประจุบวกแม้จะเหลือน้อยมาก

ถูกเหนี่ยวรั้งลงไปยังแกนโลกได้แล้ว

ก็จะไปทำปฏิกิริยาทางไฟฟ้ากับอนุภาคประจุลบ

ที่เป็นคุณสมบัติทางไฟฟ้าของก้อนธาตุออกซิเจน

ปฏิกิริยาทางไฟฟ้านี้มนุษย์เรียกว่า Nuclear Fission

หรือเรียกว่า “ปฏิกิริยานิวเคลียร์” ระดับอะตอมนั่นเอง

โดยการระเบิดนิวเคลียร์จะเกิดขึ้นต่อเนื่องแบบลูกโซ่

ภาษาวิชาการจะเรียกว่า Chain Reaction

ซึ่งเป็นการระเบิดต่อเนื่องแบบพวงประทัดไม่มีผิด

 

ผลของระเบิดนิวเคลียร์ที่เกิดขึ้นต่อเนื่องในแกนโลก

จะทำให้เกิดปรากฏการณ์ต่างๆดังต่อไปนี้ คือ

 

1.ก้อนธาตุออกซิเจนเหนียวหนืดที่แกนโลก

เมื่อได้รับประจุบวกจากการหมุนธรรมจักรของพวกคุณ

จนเกิดการระเบิดนิวเคลียร์อย่างต่อเนื่องได้แล้ว

ซึ่งมันจะเกิดขึ้นเฉพาะด้านที่เป็นเวลากลางวันเท่านั้น

ผลจากการระเบิดซีกเดียวแกนโลกก็จะเกิดการบิดตัว

คนทั้งสองซีกโลกจึงต้องผลัดกันเป็นยามประจำโลก

เพื่อผลัดกันหมุนธรรมจักรเฉพาะเวลากลางวัน

เพื่อทำให้แกนโลกเกิดการบิดตัวอย่างต่อเนื่องได้

 

การที่แกนโลกบิดตัวอย่างรุนแรงต่อเนื่อง

แรงระเบิดที่รุนแรงกับการบิดตัวที่รุนแรงดังกล่าวนี้

จึงเป็นที่มาของการทำให้โลกหมุนรอบตัวเองต่อเนื่อง

ถ้ามนุษย์โลกยังหมุนธรรมจักรด้วยความรักเพื่อให้ได้

โลกก็จะเหวี่ยงหมุนรอบตัวเองได้เรื่อยไปโดยตลอด

จึงเป็นที่มาของคำตรัสที่ว่า #เมตตาธรรมค้ำจุนโลก

ซึ่งพระพุทธองค์ทรงตรัสเอาไว้เมื่อสองพันกว่าปีแล้ว

 

2.แกนโลกเมื่ออะตอมระเบิดต่อเนื่องได้แล้ว

ก็จะคายก๊าซออกซิเจนที่พวกคุณและสัตว์ทั้งหลาย

ใช้ในการหายใจเพื่อการดำรงชีวิตออกมาให้

เป็นก๊าซออกซิเจนสะอาดบริสุทธิ์ที่ใครๆก็ฉวยใช้ได้

เพราะไม่มีใครเป็นเจ้าของจับจองมันเอาไว้ได้

ซึ่งมันเป็นพลังงานสะอาดชนิดหนึ่งที่พวกคุณต้องรู้

 

ไม่ต่างจากพลังงานความรักเพื่อให้

ที่พวกคุณผลิตได้จากการหมุนธรรมจักรด้วยขันธ์ห้า

จะต้องผลิตจากความรักที่สะอาดบริสุทธิ์ไร้เงื่อนไข

ทำด้วยอดทน อดกลั้น ให้อภัย มีจิตใจเมตตากรุณา

ทำด้วยการไม่ขอสิ่งใดตอบแทนและไม่มีเงื่อนไข

โดยไม่อุทิศบุญกุศลที่ทำนั้นให้ตนเองหรือให้ใคร

พลังงานความรักที่เกิดขึ้นจึงจะเป็นพลังงานสะอาด

ที่โลกและทุกสรรพสิ่งนำเอาไปใช้ประโยชน์กันได้

เหมือนที่พวกคุณหายใจเอาก๊าซออกซิเจนเข้าไปฟรี

เพราะไม่มีใครเป็นเจ้าของนั่นแหละคุณ

 

3.คลื่นแม่เหล็กโลกจะถูกเหวี่ยงออกมาในทุกวินาที

ซึ่งเป็นอีกหนึ่งในผลลัพธ์ของการระเบิดที่แกนโลก

โดยมีคลื่นพลังงานไฟฟ้าแม่เหล็กถูกเหวี่ยงออกมา

ซึ่งปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุกๆวินาที

จึงเกิดเป็น #โครงข่ายสนามแม่เหล็ก ห่อหุ้มโลกไว้

ลักษณะคล้ายการยกตัวขึ้นลงของปอดขณะหายใจ

เราจึงเรียกว่าการสั่นสะเทือนของสนามแม่เหล็กโลก

จะต้องเต้นยกตัวสูงขึ้นจากพื้นโลก 6 หมื่นกิโลเมตร

จึงจะเป็นระดับมาตรฐานที่พระองค์ทรงกำหนดไว้

อีกทั้งต้องมีค่าความเข้มไม่น้อยกว่า 14 เก๊าส์ด้วย

 

ประโยชน์ของโครงข่ายสนามแม่เหล็กโลก

ที่ยกตัวสูงขึ้นปกคลุมหุ้มห่อดาวโลกดวงนี้ไว้ก็คือ

มันจะทำหน้าที่เป็นรั้วป้องกันเทหวัตถุจากอวกาศ

มิให้ชนปะทะโลกจนอาจทำให้โลกมีภัยร้ายแรงได้

โดยสนามแม่เหล็กจะเสียดสีกับเทหวัตถุที่พุ่งเข้ามา

จนเกิดความร้อนสูงแล้วลุกไหม้ก่อนจะตกถึงพื้นโลก

พวกคุณและทุกสิ่งในระบบโลกจะอยู่รอดปลอดภัย

 

นอกจากนั้น

ระบบโครงข่ายสนามแม่เหล็กที่สูง 6 หมื่นกิโลเมตร

จะทำให้คุณสามารถสื่อสารทางจิตกับรูปธรรมอื่นๆ

ที่อยู่ในอนันตจักรวาลนี้ทั้งใกล้และไกลได้ดีอีกด้วย

เพราะสนามแม่เหล็กโลกจะเชื่อมกับสนามพลังงาน

ของดวงดาวระบบอื่นในลักษณะโครงข่ายโยงใยกัน

โดยเส้นแรงสนามแม่เหล็กโลกจะเป็นดั่งสายสื่อสาร

ในการสื่อสารทางจิตระหว่างกันและระหว่างดาวด้วย

ซึ่งการติดต่อต่างดาวจะเป็นบทเรียนยุคพลังงานใหม่

ถ้าใครรอดชีวิตและข้ามผ่านไปสู่ยุคพลังงานใหม่ได้

จะต้องเผชิญกับบทเรียนอันสำคัญนี้ต่อไปกันแน่นอน

 

นอกจากนั้น

ค่าความเข้มสนามแม่เหล็กโลกระดับ 14 เก๊าส์นี้

เป็นค่าคงที่ซึ่งเครื่องยนต์แห่งกรรมของพวกคุณ

ได้รับการติดตั้ง “เส้นใยเกลียวแม่เหล็ก” ไว้ในเซลล์

ทั้งเซลล์ร่างกายและเซลล์อวัยวะทั่วทั้งระบบ

ซึ่งพระองค์ทรงติดตั้งเอาไว้ในนิวคลิโอไทด์คู่ซ้าย

 

เมื่อพวกคุณใช้ความรักเพื่อให้สั่นสะเทือนขันธ์ห้า

ทำการหมุนธรรมจักรในตนเองและหมุนร่วมกันแล้ว

พลังงานไฟฟ้าแม่เหล็กที่พวกคุณเหวี่ยงมันออกมา

จะถูกนำไปใช้เป็นพลังงานในการบิดแกนโลก

เพื่อทำให้โลกเกิดการเหวี่ยงหมุนรอบตัวเองได้นั้น

พวกคุณที่เกาะติดกับโลกก็จะเหวี่ยงหมุนไปกับโลก

โดยจะหมุนตัดผ่านสนามแม่เหล็กอย่างต่อเนื่องด้วย

กลไกเส้นใยเกลียวแม่เหล็กหรือ Digitalis ทุกเซลล์

จะทำให้เกิดกระแสไฟฟ้าเหนี่ยวนำขึ้นในระดับเซลล์

อวัยวะภายใน เช่น หัวใจ ตับ ไต ไส้ ปอด ต่างๆ

จึงสามารถทำงานได้เป็นอัตโนมัติแม้ยามที่คุณหลับ

เพราะมีกระแสไฟฟ้าให้ใช้เป็นพลังงานอยู่ทุกเวลา

 

กราบพระบาทพระบิดาที่ทรงเมตตา

เอเมน สาธุ

#ปัญญาวิสุทธิ์

21/05/2567