#คัมภีร์อนุตรธรรมภาคจิตจักรวาล
พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
ไม่ว่าจะใช้คำว่า
“ยึดติด” หรือ “ติดยึด”
ในคุณสมบัติทั้ง 5 อย่างที่เรากล่าวไว้ในตอนที่แล้ว
จิตคุณมันจะทำให้สิ่งนั้นเกิดมีอัตตาตัวตนขึ้นทันที
ไม่ว่าปกติแล้วสิ่งนั้นมันจะมีตัวตนรูปลักษณ์
ให้ใช้อายตนะภายนอกสัมผัสรู้ดูเห็นกันได้หรือไม่
แต่สิ่งที่จิตหยาบของคุณหลงยึดติดมันเข้าให้
สิ่งนั้นจะมี
“อัตตาตัวตน” เกิดขึ้นในจิตหยาบเสมอ
จงจำไว้ว่าอัตตาตัวตนรูปลักษณ์ของสรรพสิ่งใดๆ
ที่คุณสัมผัสรู้ดูเห็นมันได้ด้วยอายตนะภายนอกทั้งห้า
มันคือคุณสมบัติที่เป็นเงามายาของสรรพสิ่งนั้น
ที่ปรากฏให้เห็นอยู่ในมิติโลกทางกายภาพนั่นแหละ
ซึ่งตัวตนมายาเหล่านี้มิใช่ปัญหาอะไรของคุณหรอก
แต่ปัญหาแท้จริงก็คือ
“อัตตาตัวตน” ของสิ่งนั้น
ที่จิตหยาบของคุณมันสร้างขึ้นมาเองเพื่อจะยึดมันไว้
ตัวอย่างเช่น
กรณีที่คุณติดสุขเพราะอยากมีความสุขไม่อยากทุกข์
กรณีที่คุณติดทุกข์เพราะไม่อยากทุกข์หรือกลัวทุกข์
จิตหยาบของคุณจะสร้าง
“ตัวตน” ของทุกข์สุขขึ้นมา
อัตตาตัวตนที่น่ากลัวที่เป็นต้นเหตุแห่งทุกข์ที่แท้จริง
จึงเป็นอัตตาตัวตนที่เกิดขึ้นอยู่ในจิตนี่แหละ
ถ้าสถาปนิกนึกสร้างภาพด้วยการออกแบบบ้าน
ภาพมายาที่เกิดขึ้นในจิตของสถาปนิกก็คือภาพจริง
เมื่อสถาปนิกนึกสร้างภาพบ้านที่ตนออกแบบได้แล้ว
จึงถ่ายทอดแบบบ้านหลังนั้นออกมาเป็น
“พิมพ์เขียว”
ภาพบ้านในพิมพ์เขียวที่จะนำไปให้ช่างก่อสร้าง
ใช้ยึดเป็นต้นแบบในงานก่อสร้างตามที่กำหนดนั้น
จึงเป็นอัตตาที่จิตหยาบสร้างขึ้นมาเพื่อยึดสิ่งนั้นไว้
อัตตาตัวตนของสรรพสิ่งกับอัตตาในจิตที่สร้างขึ้น
มันก็ไม่ต่างจากตัวอย่างที่เรากล่าวอ้างนั่นแหละ
ซึ่งมันก็คือปรากฏการณ์ของ
“เงาซ้อนเงา” นั่นเอง
ถ้าคุณจะละวางตัวตนที่เป็นเงามายา
เพื่อไม่ให้ยึดติดจนเกิดความทุกข์ลำเค็ญในจิตใจ
คุณจะไปละวางกันที่อัตตาตัวตนมายาข้างนอกมิได้
เพราะว่าสรรพสิ่งภายนอกเหล่านั้นมิใช่ตัวปัญหา
มันมิใช่สาเหตุแห่งทุกข์ที่แท้จริงแต่อย่างใด
จงจำไว้ว่า #คันตรงไหนคุณก็ต้องเกาที่ตรงนั้น
ถ้าคุณเกิดทุกข์ร้อนกายใจขึ้นมาเมื่อไหร่
ก็ต้องหาให้พบว่าสาเหตุแห่งทุกข์นั้นมันคืออะไร
สาเหตุแห่งทุกข์นั่นแหละคือสิ่งที่เรียกว่า
#ปัญหา
เมื่อรู้ว่าปัญหาที่พาให้ทุกข์นั้นมันคืออะไรแล้ว
คุณก็ใช้ปัญญาคิดหาทางออกจากปัญหานั้นให้ได้
เมื่อคิดค้นวิธีแก้ไขปัญหาได้อย่างมั่นใจแล้ว
ขั้นสุดท้ายคุณก็ต้องนำวิธีที่คิดได้มาปฏิบัติจริง
ทั้งสามขั้นตอนนี้ก็คือ
#ทุกข์ #สมุทัย #นิโรธ
ซึ่งเป็น #อริยสัจสาม ตามที่พระพุทธองค์สอนไว้
สำหรับจัดการความทุกข์อันเกิดจากปัญหา
ที่คนรอบข้างมักขว้างโยนมาให้คุณทุกเมื่อเชื่อวัน
ส่วนมรรคมีองค์ 8 นั้น
เป็นสิ่งที่พระพุทธองค์ทรงแนะนำพวกคุณไว้
เพื่อให้คุณใช้ปฏิบัติตนขณะอยู่ร่วมกับคนในสังคม
นั่นคือการปฏิบัติดีปฏิบัติชอบด้วย
“สัมมาทั้งแปด”
เพราะถ้าคุณปฏิบัติดีปฏิบัติชอบโดยไม่ก้าวล่วงใคร
เขาก็จะไม่ทำชั่วโต้ตอบคุณคืนมาอย่างแน่นอน
คุณก็จะมีชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างสันติสุข
เราจึงกล่าวย้ำให้รู้อยู่เสมอว่า
#ทุกข์สุขเกิดที่จิตหยาบของคุณ มิใช่ที่อื่น
ถ้าแก้ปัญหาที่นำพาความทุกข์มาให้จะต้องแก้ที่จิต
เราอธิบายมาเพื่อเป็นทางเลือกสำหรับคุณ
โดยไม่ต้องกลัวทุกข์จนอยากหนีไปขึ้นสวรรค์มายา
ถ้าฉลาดแล้วคุณก็ต้องกล้าๆหน่อย
กราบพระบาทพระบิดาที่ทรงเมตตา
เอเมน สาธุ
12/05/2567