พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราได้กล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายมาแล้วว่า
สวรรค์มายานั้นพระบิดาแห่งจิตวิญญาณมิได้สร้าง
ซึ่งเป็นภพภูมิมายาที่คนชอบธรรมหลายคน
พากันหลงทางไปนิพพานผ่านทางนั้นกันตลอดมา
ตั้งแต่ยุคที่พระพุทธองค์ยังทรงมีพระชนม์อยู่
มีหลักฐานคือทรงเตือนสติประดาสาวกในยุคนั้นว่า
คำว่า
“นิพพานแบบตาลยอดด้วน” นั้นหมายถึง
การตายแล้วจิตวิญญาณลอยไปขึ้นสวรรค์มายา
ไปเสวยสุขเป็นเทพเทวดาบนทิพยวิมานอยู่บนนั้น
ไม่อาจกลับลงมาเกิดเป็นมนุษย์บนโลกได้ง่ายๆอีก
หนึ่งเพราะ
“หลงติดใจ” ในราคะจริตที่ได้อยู่ตรงนั้น
เช่น
มองลงมาเห็นมนุษย์แล้วคิดว่าตนมีสุขมากกว่า
เพราะได้แต่งตัวสวยงามด้วยเสื้อผ้าอาภรณ์
ได้สวมชฎาสวมมงกุฎพร้อมเครื่องประดับอันเลอค่า
ได้อยู่ในวิมานแก้วอลังการณ์งานสร้างที่หรูหรากว่า
อยากจะกินอะไรเพียงแค่นึกถึงสิ่งนั้นก็ได้ดื่มกินแล้ว
ที่สำคัญคืองานการไม่ต้องหาทำให้ลำบากกายใจ
จะอยู่เป็นครอบครัวผัวเมียเพื่อเสพกามกันต่อก็ยังได้
การเกิดมาแล้วไม่มีการเฒ่าชะแรแก่ชรา
หรือว่าเจ็บไข้ได้ป่วยล้มหมอนนอนเสื่อก็ไม่มี
ไม่มีอายุขัยโดยกายสังขารก็ไม่เสื่อมเหมือนมนุษย์
อ่านถึงตรงนี้แล้วพวกคุณรู้สึกว่า
ไปเกิดเป็นเทพเทวดาอยู่บนนั้น
มันเยี่ยมกว่าการเกิดเป็นมนุษย์ไหมล่ะ
หลายคนที่จิตหยาบยังติดกิเลสอยู่
จึงหลงทางนิพพานผ่านไปทางนี้กันเป็นแถว
ซึ่งเราเคยให้สติทางวิญญาณแก่ชาวโลกแล้วว่า
ถ้าคนชอบธรรมปรารถนาจะนิพพานคือหลุดพ้น
โดยคำว่า “นิพพาน”
แปลว่า #กลับบ้านที่จากมา
ก็จงรู้ว่า #มาทางไหนคุณต้องกลับไปทางนั้น
ตาม
“กฎแห่งการแกว่งแขนของนาฬิกา” แบบลูกตุ้ม
คุณจะนิพพานกลับบ้านหรือหลุดพ้นไปทางนั้นไม่ได้
คนที่เขาสร้างตึกสูงๆหลายๆชั้นนั้น
ไม่มีใครสร้างทางเข้าออกของตึกไว้บนดาดฟ้าหรอก
เขาจะสร้างทางเข้าออกตัวตึกเอาไว้ที่พื้นชั้นล่าง
ไม่มีใครสร้างเอาไว้แม้ในชั้นใต้ดินอีกต่างหาก
พระเจ้าหรือพระผู้สร้างผู้ทรงเป็นพระบิดาของเรา
ก็มิทรงออกแบบทางเข้าออกเอกภพหรือประตูมิติ
ให้พวกคุณต้องหลุดลอยขึ้นไปทางสวรรค์มายา
หรือว่าหลุดหล่นหลุดลงผ่านไปทางขุมนรกเช่นกัน
ถ้าจะหลุดพ้นนิพพานกันแบบง่ายๆ
ก็คือต้องกลับไปจากการเป็นมนุษย์โลกนี่แหละ
พระเยซูคริสต์ทรงเปรียบเทียบว่าทางเข้าออก
ที่จิตวิญญาณพวกคุณอันหมายถึงฝูงแกะพระบิดา
เดินทางข้ามมิติกันเข้ามาก็คือ
“ประตูคอกแกะ”
ทรงเปรียบประตูผ่านเข้าออกนี้ว่าเป็น
“ประตูหอ”
ทรงเปรียบพระนิเวศน์ของพระเจ้าว่าเป็น
“เรือนหอ”
โดยทรงเปรียบไว้ว่าพระองค์ทรงเป็น
#เจ้าบ่าว
ที่จะเดินทางกลับมารับเจ้าสาวก็คือพวกคุณทั้งโลก
ด้วยการกลับมาจูงมือเจ้าสาวผ่านเข้าประตูเรือนหอ
จะทรงเลือกเจ้าสาวเฉพาะคนที่ถือตะเกียงที่มีน้ำมัน
คือคนที่ไม่โง่ง่ายเพราะใช้ปัญญาของสมองคิดเป็น
ส่วนคนโง่ที่สมองมีปัญญาแต่ไม่รู้จักใช้จะไม่ถูกเลือก
นั่นคือหลังสิ้นพระชนม์บนไม้กางแขนแล้ว
พระจิตวิญญาณบริสุทธิ์จะทรงหลุดพ้นกลับบ้านไป
เพื่อย้อนคืนกลับเข้ามาใหม่มาฉุดช่วยมนุษย์อีกครั้ง
มาช่วยลูกแกะทั้งฝูงของพระเจ้าก็คือพวกคุณทุกคน
ให้ทันก่อนมืดค่ำโดยจะมืดนาน
8 ราตรีของพระเจ้า
นั่นคือโลกทั้งดวงจะมืดพร้อมกันยาวนาน
56 วัน
พร้อมกับมหันตภัยพิบัติที่รุนแรงยิ่งกว่ายุคโนอาห์
ซึ่งเกิดจากปฏิบัติการชำระโลกครั้งสุดท้ายปลายยุค
สองเพราะ
“กลับลงมายาก”
เนื่องจากโลกไม่เอื้อให้ผู้หลุดลอยได้หลุดหล่น
เพราะจิตวิญญาณที่ผิดพลาดหลุดลอยขึ้นไป
เป็นรูปธรรมจิตวิญญาณของผู้ปฏิบัติบำเพ็ญธรรม
ซึ่งเป็นพวกที่ก่อกรรมทำบาปไว้น้อยกว่าคนทั่วไป
น้ำหนักมวลของจิตวิญญาณจึงเบากว่าคนส่วนใหญ่
เพราะมี “ผงกรรม”
หรือรหัสบุรพกรรมแม่เหล็กน้อย
ทำให้โลกออกแรงดึงดูดเหนี่ยวรั้งได้น้อยกว่าคนอื่น
จิตวิญญาณพวกเขาจึงต้องลอยเหมือนเมฆบนฟ้า
ซึ่งมีอยู่หลายชั้นเพราะน้ำหนักมวลเมฆมันไม่เท่ากัน
ถ้าเกิดเป็นเมฆก็ยังดีกว่าจิตวิญญาณพวกนี้นะ
เพราะเมฆสามารถรวมมวลเพิ่มให้มีน้ำหนักมากขึ้น
จนในที่สุดสามารถควบแน่นแล้วตกลงมาเป็นฝนได้
แต่จิตวิญญาณของผู้หลุดลอยจะลอยค้างอยู่ตรงนั้น
มีอยู่หนทางเดียวคือต้องลอยขึ้นไปเรื่อยๆทีละน้อยๆ
แต่ต้องทำให้น้ำหนักมวลตนเองลดน้อยลงให้จงได้
จึงต้องเรียนรู้วิธีขจัดบุรพกรรมแม่เหล็กที่ติดตัวอยู่
ซึ่งเราบอกแล้วไงว่าเป็นปฏิบัติการทางเท็คนิก
สำหรับผู้เชี่ยวชาญพิเศษเท่านั้นมันจึงไม่ง่ายเลย
สู้ใช้มรรควิถีจิตจักรวาลแบบชาวบ้านที่ง่ายกว่าไม่ได้
#นอกจากจะชอบทำเรื่องง่ายให้เป็นเรื่องยากเท่านั้น
ดังนั้น
พวกคุณจึงไม่ต้องสงสัยว่า
ทำไมสวรรค์มายานั้นจึงมีหลายชั้น
ทำไมจิตวิญญาณจึงล่องลอยขึ้นไปอยู่ตรงนั้นได้
เพราะเราได้อธิบายตามหลักวิทยาศาสตร์ให้รู้แล้ว
สาเหตุที่พวกเขาลอยขึ้นไปเป็นเทพเทวดากันมาก
เพราะว่าจิตวิญญาณพวกนี้เป็น
“คนชอบธรรม”
ที่เชื่อตามหรือก้าวตาม
“คนนำทางตาบอดชรา”
เป็นพวกที่จิตวิญญาณผีโสโครกหลอกพาไปขังไว้
โดยหลอกให้เชื่อว่าเป็นถนนที่จะนำไปสู่นิพพานได้
ยิ่งลอยสูงเท่าไหร่ก็ยิ่งเข้าใกล้นิพพานมากเท่านั้น
จากการที่พวกเขามีแนวคิดกับความเชื่อแบบนี้แหละ
คุณจะสังเกตได้จากคำถามที่พวกนี้จะถามกันขรมว่า
#นิพพานนั้นเป็นอัตตาหรืออนัตตา?
ทำให้ทั้งคนถามและคนฟังคำถามพากันสับสนต่อ
เราบอกแล้วว่า
การที่จิตวิญญาณคนชอบธรรมลอยขึ้นไปข้างบน
คือการหลุดลอยขึ้นไปค้างเป็นเทพเทวดาอยู่บนนั้น
โดยมีคำอธิบายความตามหลักวิทยาศาสตร์รองรับ
ที่พวกผีโสโครกที่เป็นจิตวิญญาณสกปรกนั้นรู้ดีอยู่
มีก็แต่คนที่ถูกหลอกเท่านั้นที่มิอาจล่วงรู้ความจริงนี้
เราจะขอกล่าวความจริงให้รู้เพิ่มเติมไว้ด้วยว่า
พวกเขาหลอกพาจิตวิญญาณพวกคุณให้หลงทาง
ด้วยวิธีการสอนให้เชื่อว่าเกิดเป็นมนุษย์นั้นทุกข์มาก
เกิดเป็นมนุษย์นั้นแสนจะลำบากลำบนเหลือเกิน
แถมยังบิดเบือนพระวจนะของพระศาสดาว่า
พระองค์ก็ทรงหนีทุกข์จนพบอริยสัจสี่ที่มีมรรคแปด
ทั้งๆที่ทรงตรัสรู้ความจริงว่าจิตวิญญาณมาเกิด
เพื่อหมุนธรรมจักรด้วยเมตตาธรรมค้ำจุนสมดุลโลก
ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่กว่าเรื่องกลัวทุกข์หนีทุกข์เสียอีก
จึงหลอกให้หยิบเอาความทุกข์มาเป็นตัวประกัน
เราถามคุณว่า
จิตคุณนั้นถ้าเปรียบเป็นลำไส้ที่มีกากอุจจาระล้นอยู่
เวลาคุณนำพาตัวเองไปทางไหนไปอยู่ที่ใดก็ตาม
กากอุจจาระนั้นมันติดตัวคุณไปด้วยเสมอใช่ไหม
ความทุกข์ในจิตของคุณก็ไม่ต่างกันกับกากอุจจาระ
ถ้าคุณยังไม่ถ่ายออกมาให้หมดหรือยังไม่ชำระทุกข์
ไปไหนมาไหนทั้งกากอุจจาระหรือความทุกข์ก็ยังอยู่
ขอให้คนชอบธรรมทั้งหลายได้ฉุกคิดในเรื่องนี้ด้วย
ถ้าคุณกลัวทุกข์นั่นคุณก็ถูกหลอกให้ติดทุกข์
ถ้าคุณอยากมีความสุขจนอยากหนีโลกไปสวรรค์มายา
เท่ากับว่าคุณก็กำลังติดทุกข์โดยเอาสุขเป็นตัวตั้งอยู่ดี
นี่คือแผนการสกปรกของผีโสโครกที่หลอกมานับพันปี
มีคำถามว่า
ทำไมเมื่อคุณหลงทางไปอยู่บนนั้น
พวกคุณจึงมีมายาสวรรค์ที่เหมือนกันคล้ายกันได้
เพราะพวกคุณไม่รู้ว่าสัญญาขันธ์นั้นเป็นเหตุ
จากภาพวาดตามฝาผนังตามวิหารที่เห็นอยู่เป็นประจำ
จากเรื่องเล่าที่เป็นคำกล่าวย้ำซ้ำๆกันให้คุณฟัง
มันจะถูกคุณบันทึกเอาไว้ในสัญญาขันธ์โดยอัตโนมัติ
เพราะสัญญาขันธ์เป็นเครื่องมือของจิตวิญญาณ
ที่พวกคุณต้องถือติดตัวมาจากด่านนภาลัย
ก่อนผ่านเข้ามาเกิดเป็นมนุษย์ในระบบโลกเสรีนี้
ซึ่งเป็นเสมือนดั่งกลไกสำคัญในเครื่องคอมพิวเตอร์
ในการบันทึกคุณสมบัติของจิตวิญญาณ
และบันทึกข้อมูลประวัติว่าจิตหยาบทำอะไรไปบ้าง
ถ้าจิตหยาบคุณหลงเชื่อตามคนนำทางตาบอด
ที่ถูกผีโสโครกหลอกมาอีกทอดหนึ่งแล้ว
จิตวิญญาณของคุณจะหลงมิติหรือหลงผิดตามด้วย
โดยจิตวิญญาณในภาคส่วนของเมอร์คขะบาห์
ที่พวกคุณเรียกว่า #พลังจิตใต้สามนึก ที่มีฤทธิ์นั้น
เขาจะเนรมิตประดิดสร้างมายาให้ตามที่คุณเชื่อนั่น
เมื่อเชื่อตามมายาเดียวกันสวรรค์มายาจึงเหมือนกัน
เพราะความจริงมันเป็นสิ่งลวงตามที่เรากล่าวนี้
มันสามารถเกิดขึ้นจริงได้เมื่อตายแล้วก็เพราะว่า
พวกคุณเสพติดกิเลสแม้จะเป็นผู้ชอบปฏิบัติธรรมอยู่
ตัวบ่งชี้ก็คือ
“อยากไปสวรรค์” นั่นคือตัณหาตัวใหญ่
ทันทีที่ตายไปมอร์คขะบาห์จะพาไปทางนั้นทันที
ลอยไปได้สูงแค่ไหนก็จะไปสถิตอยู่ที่ตรงชั้นนั้น
นักธรรมที่เป็นฆราวาสแต่เดินตามคนนำทางตาบอด
จะลอยไปอยู่สวรรค์มายาชั้นล่างที่เหนือโลกหน่อย
ชั้นนี้จะเป็นพวกเทพเทวดาชฎาแหลมเขาอยู่กัน
แต่ในชั้นที่สูงขึ้นไปมากกว่าชั้นล่างๆนี้นั้น
จะเป็นสวรรค์ของพวก
“นักพรต” ที่เก่งกรรมฐาน
พวกเขาจะมีคำว่า
“พระ” นำหน้าชื่อชั้นสวรรค์กัน
(ในบทนี้เรายังมีตอนต่อไปอีก)
กราบพระบาทพระบิดาที่ทรงเมตตา
เอเมน สาธุ
12/05/2567