14 พฤษภาคม 2567

คัมภีร์อนุตรธรรมภาคจิตจักรวาล 14/05/2024

 พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย

เราได้กล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายมาแล้วว่า

 

พวกคนนำทางตาบอดถูกผีโสโครกหลอก

ให้บิดเบือนคำสอนขององค์พระศาสดาว่า

ทางไปสวรรค์มายานั้นเป็นเส้นทางสู่ #นิพพาน

โดยนิยามคำว่านิพพานเป็น #ตายแล้วไม่เกิดอีก

 

หลอกลวงชาวบ้านที่เป็นคนชอบธรรม

ให้หลงเชื่อตามกันมาว่าเกิดเป็นมนุษย์นั้นมีแต่ทุกข์

เช่น สอนว่าการเวียนว่ายตายเกิดเป็นทุกข์อย่างยิ่ง

ย้ายไปเกิดบนสวรรค์มายาเพื่อเสพสุขบนนั้นจะดีกว่า

เพราะไม่ต้องทำงานการอะไรไม่ต้องแก่ไม่ต้องตาย

อยากจะกินอะไรก็ได้กินแค่ได้เห็นได้กลิ่นก็อิ่มแล้ว

บนนั้นไม่ต้องมีปัญหามากมายเหมือนเกิดเป็นมนุษย์

 

ชาวบ้านที่เป็นคนชอบธรรมแต่จิตหยาบยังติดกิเลส

ซึ่งเป็นพวกที่ติดสุขติดทุกข์ติดสบายติดลำบากกันอยู่

เมื่อถูกจูงใจจนคล้อยตามแล้วก็จะเพียรทำทันที

ปฏิบัติการแบบ #ทำบุญเบื้องล่างเอาไปสร้างเบื้องบน

#ทำบุญหลายหนได้บุญกุศลหลายครั้ง จึงบังเกิด

อันเป็นการทำบุญด้วยกิเลสมิใช่ทำด้วยจิตสำนึก

ขันธ์ห้าจึงไม่สามารถผลิตพลังงานธรรมจักรออกมาได้

พลังงานจิตที่ผลิตออกมาได้จะเป็นพลังงานไม่สะอาด

เพราะเป็น “พลังงานที่มีรหัสกรรมส่วนตน” กำกับอยู่

คนไหนใครอื่นแม้แต่โลกเองก็เอาไปใช้ประโยชน์ไม่ได้

 

ท่านว่าการทำบุญสร้างกุศลด้วยกิเลสแบบนี้

มันเสียของเสียพลังงานที่อุตส่าห์สร้างกันขึ้นมามั้ยล่ะ

การเป็นคนดีด้วยความตั้งใจจริงแต่เสียท่าผีโสโครก

เหตุเพราะถูกหลอกอย่างแนบเนียนบวกกับความไม่รู้

จึงเป็นปัญหาใหญ่ของโลกเสรีตลอดมานับพันปีแล้ว

ปัญหาใหญ่ก็คือคนชอบธรรมหลงทางนิพพานกันหมด

ปัญหาใหญ่ต่อมาก็คือ #โลกขาดพลังงานที่ต้องการ

เพราะพวกท่านถูกหลอกจนหมุนธรรมจักรไม่สำเร็จ

โดยใช้ความรักเพื่อเอาที่เป็นกิเลสสั่นสะเทือนขันธ์ห้า

จึงไม่อาจใช้ #ความรักเพื่อให้ คือเมตตากันได้ง่ายนัก

 

ท่านจะต้องรู้ความจริงเอาไว้ด้วยว่า

องค์จิตจักรวาลพระบิดาแห่งจิตวิญญาณพวกท่าน

ทรงออกแบบให้มนุษย์ใช้เครื่องยนต์แห่งกรรม

สั่นสะเทือนขันธ์ห้าเพื่อหมุนธรรมจักรร่วมกับคนอื่น

โดยใช้พลังงานสะอาดที่ปราศจากกิเลสเจือปนอยู่

ที่เราใช้คำว่า #รักเพื่อให้ อันเป็นรักที่ไร้เงื่อนไข

จะได้ผลิตพลังงานสะอาดเป็นคลื่นพลังงานไฟฟ้า

ที่แกนโลกสามารถดูดซับรับเอาไปใช้ประโยชน์ได้

 

พวกท่านจะต้องรู้ว่า

#ในมิติพลังงานนั้นตามกฎแห่งกรรมใครทำใครได้

#ถ้าทำแล้วมีเงื่อนไขหรือทำแล้วขอสิ่งแลกเปลี่ยน

#ถ้าทำแล้วยกให้คนนั้นคนนี้พลังงานนั้นก็จะมีรหัส

เจ้ารหัสที่กำกับไว้นี่แหละทำให้พลังงานไม่สะอาด

ไม่ว่าโลกหรือใครจะเอาไปใช้ประโยชน์ไม่ได้

นอกจากผู้ที่ถูกเจาะจงหรือระบุเป็นสัจจะไว้เท่านั้น

 

พลังงานจิตที่เป็นพลังงานธรรมจักรที่สะอาดนั้น

จะเป็นประโยชน์ต่อโลกได้ในทางปฏิบัติก็ต่อเมื่อ

ท่านจะต้อง #ไม่ใส่รหัสกรรมกำกับมันเอาไว้ เท่านั้น

เพราะพลังงานดีๆที่ท่านผลิตมันออกมาได้นั้น

จะกลายเป็น #พลังงานกรรมแบบที่โลกไม่ต้องการ

ทำให้การหมุนธรรมจักรเพื่อโลกของท่านล้มเหลว

 

จงจำเอาไว้เสมอว่า

1.พลังงานสะอาดต้องไม่ผลิตด้วยกิเลสแอบแฝง

2.พลังงานสะอาดต้องไม่มีรหัสกรรมกำกับอยู่

3.พลังงานสะอาดต้องไม่มีใครเป็นเจ้าของมัน

คำว่า “ไม่มีใครเป็นเจ้าของ” แปลว่า

 

1.ผู้ก่อกรรมดีนั้นต้องทำโดยไม่ร้องขอเพื่อตนเอง

เพราะการทำดีหรือทำบุญสุนทานนั้นดีอยู่แล้ว

ไม่ต่างจากเอาหนึ่งมาบวกกับหนึ่งท่านต้องได้สอง

เพราะสองเป็นผลลัพธ์ของหนึ่งบวกหนึ่งอยู่แล้ว

เพียงใส่ใจว่ากำลังเอาหนึ่งบวกหนึ่งอยู่หรือเปล่า

ทำเท่านั้นก็เป็นพอจะไปร้องขอส่วนบุญอีกทำไม

ไม่ใช่ผีเปรตที่ทำบุญสร้างกุศลเองไม่ได้สักหน่อย

จึงต้องร้องขอเศษบุญขอแบ่งส่วนกุศลจากคนอื่น

 

2.ผู้ก่อกรรมดีนั้นต้องทำโดยไม่เจาะจงอุทิศให้ใคร

แม้แต่พ่อแม่ลูกเมียของตัวท่านเองโดยเด็ดขาด

เพราะพ่อแม่ลูกมีพลังอำนาจเมอร์คขะบาห์คล้ายกัน

ซึ่งพวกท่านสามารถสั่นสะเทือนถึงกันได้อยู่แล้ว

 

ไม่ว่าทำดีหรือทำชั่ว

ผัวทำลูกเมียได้ เมียทำลูกผัวก็ได้

พ่อแม่เป็นผู้ทำหรือเป็นผู้ก่อมันขึ้นมา

ประดาลูกๆทุกคนจะได้รับผลกรรมนั้นด้วยเสมอ

จะไปเปลี่ยนพลังงานสะอาดให้มันสกปรกไปทำไม

 

3.ผู้ก่อกรรมดีนั้นต้องไม่ใช้คำอุทิศว่าเวไนยทั้งหลาย

เพราะคำว่า “เวไนยสัตว์ทั้งหลาย” คำนี้ที่ท่านอุทิศ

หมายถึงรูปธรรมใดก็ได้ที่มีตัวตนอยู่ในจักรวาล

บุญกุศลที่ผลิตสร้างขึ้นทุกรูปธรรมก็เอาได้หมด

ไม่ว่าจะเป็นเปรต อสุรกาย สัตว์นรก ที่ท่านไม่รู้จัก

 

พวกท่านถูกหลอกให้สร้างสัจจะคำว่าเวไนยขึ้นมา

โดยไม่รู้ว่าตนนั้นถูกวางยาให้ผลิตพลังงานแสง

ที่มีพวกมารหรือผีโสโครกคอยดักดูดอยู่อย่างสุจริต

โดยไม่ผิดกฎของพระเจ้าแบบเนียนๆกันไปแล้วล่ะ

คนใจบุญแต่โง่ง่ายอย่างพวกท่านทั้งหลายไม่รู้ว่า

การทำบุญของท่านนั้นมันคือ “การยื่นดาบให้ศัตรู”

โดยที่ท่านกลายเป็น “กรรมกรแสงของมาร” ไปแล้ว

มารพวกนี้คือพวกที่พระเยซูทรงเรียกว่า “ผีโสโครก”

เป็นพวกที่คอยกลั่นแกล้งโดยจะทำตนเป็นอุปสรรค

คอยบิดเบือนคำสอนของพระศาสดาในทุกศาสนา

พาให้ศาสนิกชนหลงทางนิพพานหลงทางกลับบ้าน

จนพวกท่านจำทางกลับบ้านเกิดของตนไม่ได้

พวกท่านทำตนเป็นลูกกำพร้าไม่เอาพระบิดาแล้ว

จนบางท่านกลายเป็นกรรมกรแสงกันไปไม่รู้ตัวก็มี

ยิ่งยุคนี้หน้าตาสวยๆหล่อๆจ้อเก่งหัวดีแต่ไม่เฉลียว

จะได้เป็นคนนำทางตาบอดที่หิวแสงรุ่นใหม่ง่ายมาก

 

กราบพระบาทพระบิดาที่ทรงเมตตา

เอเมน สาธุ

#พระบุตรเอก

14/05/2567