28 พฤษภาคม 2567

คัมภีร์อนุตรธรรมภาคจิตจักรวาล 28/05/2024

 #คัมภีร์อนุตรธรรมภาคจิตจักรวาล

 

พี่ๆน้อง ๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย

เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า

 

สิ่งที่ทำให้พวกคุณเกิด “ความเสื่อม” มีหลายอย่าง

อย่างหนึ่งที่สำคัญที่สุดและแก้ยากก็คือ #ความกลัว

ถ้ามันเกิดขึ้นมาภายในจิตหยาบของคุณได้เมื่อไหร่

โอกาสที่จะเกิดขึ้นอีกในครั้งต่อๆไปนั้นจะยิ่งง่ายขึ้น

แถมจะระวังป้องกันมันมิให้เกิดอีกยากมากขึ้นเรื่อยๆ

เพราะมันจะกลายเป็น “ความเคยตัว” ไปในที่สุด

 

เมื่อมันเคยตัวไปแล้ว

พลังอำนาจอันเกิดจากการสั่นสะเทือนของจิตหยาบ

มันก็จะเกิดความตกต่ำลงไปเพราะว่าจิตหยาบป่วย

เนื่องจากจิตหยาบได้ถูกถ่วงรั้งเอาไว้ด้วย “ความกลัว”

ยิ่งพวกคุณ “ขี้กลัวจนเคยตัว” พลังจิตก็จะยิ่งตกต่ำ

นี่เป็นที่มาของประโยคที่ว่า #ความกลัวทำให้เสื่อม

 

ปกติแล้วจิตหยาบของมนุษย์ทุกคนนั้น

มีความสามารถที่จะสั่นสะเทือนได้ทีละเรื่องทีละอย่าง

มันจะไม่อาจสั่นสะเทือนพร้อมกันได้ทีละหลายๆเรื่อง

 

#ตัวอย่างเช่น

จิตหยาบจะสั่นสะเทือนเป็นความรู้สึกชอบกับไม่ชอบ

หรือสั่นสะเทือนเป็นพอใจกับไม่พอใจพร้อมกันไม่ได้

 

จิตหยาบจะสั่นสะเทือนเป็นอารมณ์โกรธกับไม่โกรธ

จิตหยาบจะสั่นสะเทือนเป็นความเมตตากับไม่เมตตา

จิตหยาบจะสั่นสะเทือนเป็นความอยากกับไม่อยาก

จิตหยาบจะสั่นสะเทือนเป็นความรักกับไม่รัก

 

โดยจะสั่นสะเทือนพร้อมกันในขณะเดียวกันนั้นไม่ได้

ถ้าจิตหยาบสั่นสะเทือนพร้อมกันทั้งสองด้านเมื่อไหร่

มันจะทำให้เกิดสภาวะแห่งความเสื่อมขึ้นมาอีกอย่าง

นั่นคือสิ่งที่เรียกว่า #ความลังเล หรือความไม่แน่ใจ

คำว่า “ลังเล” แปลความว่า #จะเอาดีหรือไม่เอาดีหนอ

 

#ตัวอย่างเช่น

จิตหยาบจะสั่นสะเทือนเป็นการนึกออกนึกเอานึกเอง

ด้วยการสั่นสะเทือนพร้อมกันทั้ง “สามนึก” นั้นไม่ได้

 

จิตหยาบจะสั่นสะเทือนเป็น “นึกออก นึกเอา นึกเอง”

ด้วยการ “นึกลบ” ควบคู่ไปกับ “นึกบวก” พร้อมๆกัน

ในเรื่องเดียวกันและภายในเวลาเดียวนั้นก็ไม่ได้ด้วย

 

คุณต้องใช้จิตหยาบ “นึกออก” ในด้านลบหรือบวก

ด้านใดด้านหนึ่งแต่เพียงด้านเดียวเท่านั้น

โดยต้องนึกทีละเรื่องจะนึกหลายเรื่องพร้อมกันไม่ได้

 

คุณต้องใช้จิตหยาบ “นึกเอา” ในด้านลบหรือบวก

ด้านใดด้านหนึ่งแต่เพียงด้านเดียวเท่านั้น

โดยต้องนึกทีละเรื่องจะนึกหลายเรื่องพร้อมกันไม่ได้

 

คุณต้องใช้จิตหยาบ “นึกเอง” ในด้านลบหรือบวก

ด้านใดด้านหนึ่งแต่เพียงด้านเดียวเท่านั้น

โดยต้องนึกทีละเรื่องจะนึกหลายเรื่องพร้อมกันไม่ได้

 

ถ้าคุณไม่เข้าใจจิตหยาบของคุณเอง

โดยไม่รู้ว่าขีดความสามารถเป็นอย่างไร

ไม่รู้ว่าจิตหยาบของตนมันทำงานอย่างไรแล้ว

พลังอำนาจของจิตที่เรียกว่า #ฌาน นั้น

คุณจะเข้าถึงพลังอำนาจสูงสุดของมันไม่ได้

ซึ่งมันจะทำให้พลังอำนาจทางปัญญาของสมอง

พลอยตกต่ำลงตามไปด้วยเสมอ

ที่เรากล่าวโดยรวมว่า “ทำให้เสื่อม” นั่นแหละ

 

ดังนั้น

จิตหยาบที่ทำงานพร้อมกันมากกว่าหนึ่งเรื่อง

กับสภาวะจิตหยาบในขณะที่กำลังเกิดความกลัวอยู่

มันจะเป็นลักษณะของจิตหยาบในปัจจุบันขณะ

ที่กำลังสั่นสะเทือนอยู่ 2 อย่างในเวลาเดียวกัน

นั่นคือถ้าคุณกำลังจะนึกคิดเรื่องใดเรื่องหนึ่งอยู่

แล้วดันมี “ความกลัว” เข้ามาแทรกเสริมเพิ่มเติมด้วย

พลังอำนาจของจิตหรือพลังฌานมันจะตกต่ำลงทันที

ซึ่งมันจะยังผลให้พลังอำนาจทางปัญญาในการคิด

ที่เรียกว่า “พลังญาณ” พลอยตกต่ำลงตามไปด้วย

พลังปัญญาที่ตกต่ำลงเพราะสมองสั่นสะเทือนต่ำลง

ทำให้ความเข้มสนามแม่เหล็กของสมองต่ำลงด้วย

ค่าความเข้มสนามแม่เหล็กของสมองนี่แหละ

คือตัวชี้วัดความฉลาดทางปัญญาในขณะนั้นนั่นเอง

 

ด้วยเหตุนี้เอง

ความกลัวจึงเป็นที่มาของความเสื่อมทั้ง 2 อย่าง

คือ พลังจิตเสื่อมและพลังทางปัญญาก็เสื่อม

 

สิ่งที่พวกคุณจักต้องปฏิบัติก็คือ

กำจัดความกลัวออกไปจากจิตหยาบให้สิ้นไปให้ได้

ด้วยวิธีลดละเลิกความกลัวนั้นด้วยความไม่กลัว

โดยเปลี่ยนความกลัวให้เป็น #ความกล้า แทน

 

#กล้าได้กล้าเสีย

#กล้าเผชิญหน้า

#กล้าริเริ่มกล้าลงมือทำ

#กล้าเสี่ยง่

#กล้าคิด #กล้าตัดสินใจ

 

วิธีเปลี่ยนความกลัวให้เป็นความกล้ามี 3 วิธี

 

1.#ค่อยๆสั่งสมความสำเร็จไปทีละน้อยๆ

เพื่อสร้างพลังความเชื่อมั่นในตนเองให้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

จากผลสำเร็จที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าเมื่อคุณลงมือทำ

 

2.#ฉลาดเลือกทำแต่สิ่งง่ายๆก่อน

ไม่อวดดีอวดเก่งอวดฉลาดทำในสิ่งยากๆก่อน

ทั้งๆที่คุณยังไม่เคยมีประสบการณ์นั้นมาก่อนเลย

เพื่อการันตีความผิดพลาดล้มเหลวไม่ให้มันเกิดขึ้น

มิเช่นนั้นแล้วมันจะทำให้คุณเสียกำลังใจนั่นแหละ

 

3.#หัดทำอะไรให้สำเร็จด้วยตนเองตามลำพังบ้าง

จงอย่าชอบวานให้คนอื่นคิดแทนทำแทนอยู่ร่ำไป

เพราะมันจะทำให้ความมั่นใจในตนเองลดต่ำลง

เมื่อคุณขาดความมั่นใจมันก็จะเปลี่ยนเป็นความกลัว

ตัวอย่างเช่น

 

#กลัวการผิดพลาด

#กลัวความล้มเหลว

#กลัวจะแก้ไขไม่ได้

#กลัวว่าตนจะรับผิดชอบไม่ได้

#กลัวคนหัวเราะเยาะ

#กลัวถูกดูหมิ่นเหยียดหยาม

#กลัวเสียฟอร์ม #กลัวเสียหน้า

#กลัวๆกล้าๆ

 

เห็นหรือยังว่าที่เรากล่าวมาทั้งหมดนั้น

ถ้าคุณใช้จิตหยาบของตนกันไม่เป็น

คุณก็จะเข้าถึงพลังอำนาจของจิตตปัญญาไม่ได้

รวมทั้งถ้าตัวคุณเป็น “คนขี้กลัว” ด้วยแล้ว

อำนาจทางจิตตปัญญาของคุณก็จะตกต่ำลง

จนยากจะประสบความสำเร็จในชีวิตและจิตวิญญาณ

 

กราบพระบาทพระบิดาที่ทรงเมตตา

เอเมน สาธุ

#ปัญญาวิสุทธิ์

28/05/2567