08 ธันวาคม 2566

คัมภีร์อนุตรธรรมภาคจิตจักรวาล 8/12/2566

 #คัมภีร์อนุตรธรรมภาคจิตจักรวาล

(เพื่อยุวจิตจักรวาลยุคสุดท้าย)

 

พี่ๆน้อง ๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย

เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า

 

การเป็น #คนสองมิติ ของพวกคุณนั้น

ตั้งแต่แรกคลอดออกมาจากครรภ์มารดาเป็นทารก

พวกคุณจะเรียกตนเองว่า #มนุษย์ นั้นยังไม่ได้

โดยจะเรียกตนเองว่าเป็น “มนุษย์” ได้ก็ต่อเมื่อ

คุณต้อง “คน” ตนเองทั้งสองมิติให้เข้ากันก่อน

 

หมายความว่า

คุณจะต้องสั่นสะเทือนจิตสามนึกของจิตหยาบ

ด้วยการ “นึกออก นึกเอาและนึกเอง” ทั้งสามนึก

ตามกระบวนการ 5 ขั้นที่พวกคุณเรียกว่า #ขันธ์ห้า

คือ รูป เวทนา สัญญา สังขารและวิญญาณ

ซึ่งเป็นกระบวนการทั้งสองมิติให้เกิดขึ้นให้จงได้

 

เพราะคำว่า “มนุษย์” หมายถึงผู้ที่มีจิตใจสูง

แปลว่าคุณต้องสั่นสะเทือนจิตหยาบด้วยความถี่สูง

คลื่นความถี่สูงก็คือคลื่นบวกจาก #การรักเพื่อให้

ซึ่งมันตรงกันข้ามกับคลื่นความถี่ต่ำหรือคลื่นลบ

ที่เป็นคลื่นของ #กิเลสมาร และบริวารทั้งหลาย

พวกตัณหาราคะจริตและอารมณ์ขยะรายวันทั้งปวง

 

ดังนั้น

การจะเป็นมนุษย์ได้จึงต้องสามารถรักเพื่อให้ได้

แม้ใครคนนั้นเขาจะเป็นคนทำตัวไม่น่ารักกับคุณ

ต้องอภัยได้แม้ใครคนนั้นจะทำตัวไม่น่าให้อภัยเลย

ถ้าคุณสามารถสั่นสะเทือนจิตสามนึกแบบนี้ได้

คุณก็จะคนทั้งสองมิติให้เข้ากันเป็นหนึ่งเดียวได้แล้ว

วิธีคนทั้งสองมิติด้วยรักเพื่อให้นี่แหละคือ “ธรรมจักร”

เป็นหน้าที่หลักของ #จิตวิญญาณ ที่มาเกิดบนโลกนี้

 

วิธีการ #หมุนธรรมจักรในตนเอง ขั้นต้น

คือการเรียนรู้ที่จะใช้จิตหยาบหรือจิตมนุษย์ของคุณ

สั่นสะเทือนให้เกิดกระบวนการขันธ์ห้าด้วยความรัก

โดยทำงานร่วมกับอายตนะทั้งหกและสมองสองซีก

ด้วยจิตหยาบและกายหยาบให้สำเร็จให้จงได้

ซึ่งจะเข้าถึงความรักเพื่อให้ด้วยปัญญาของสมองได้

ก็ต่อเมื่อจิตหยาบคุณต้องว่างจากกิเลสมารเท่านั้น

โดยจิตหยาบจะต้องว่างจากกิเลสมารอย่างสิ้นเชิง

นั่นคือคุณต้องเรียนรู้ที่จะนิพพานกิเลสเสียให้สิ้นซาก

#วิธีนิพพานกิเลสให้สิ้นเชื้อนี่แหละคือการปฏิบัติธรรม

ซึ่งเป็นภารกิจขั้นต้นของ “จิตหยาบ” ของคุณเอง

 

มิเช่นนั้นแล้ว

คุณจะเสียชาติเกิดไปอีกหนึ่งภพชาติในทันที

เพราะจิตหยาบทำหน้าที่แทนจิตวิญญาณของตนมิได้

แปลความว่า #คุณเป็นมนุษย์ไม่เป็น เป็นมนุษย์ไม่ได้

เพราะคุณหมุนธรรมจักรในตนเองไม่สำเร็จ

อันหมายถึง “คนตนเองทั้งสองมิติ” ให้เข้ากันไม่เป็น

เพราะมัวแต่ไปนั่งสมาธิถือศีลกินเจบ้าบุญกันเท่านั้น

โดยเข้าใจว่านั่นคือการปฏิบัติธรรมที่ถูกต้องตรงจริง

ไม่เคยใส่ใจว่าถ้าตนจะนิพพานกิเลสต้องทำอย่างไร

 

เมื่อคนตนเองให้เป็นมนุษย์โดยหมุนธรรมจักรได้แล้ว

ภารกิจของจิตวิญญาณขั้นก้าวหน้าลำดับต่อไปก็คือ

คุณต้องเรียนรู้ที่จะหมุนธรรมจักรร่วมกันกับคนรอบข้าง

ด้วยการ #รักคนที่ไม่น่ารักได้ #อภัยคนไม่น่าอภัยได้

#มีใจรักและเมตตาต่อคนสัตว์และทุกสรรพสิ่งได้เสมอ

โดยไม่เลือกที่รักมักที่ชังและไม่มีเงื่อนไขใดๆทั้งสิ้น

นั่นคือ #รักโดยไม่หวังสิ่งตอบแทนหรือสิ่งแลกเปลี่ยน

ซึ่ง “คนรอบข้าง” เราหมายถึง #คนใกล้ตัวในครอบครัว

รวมทั้งคนข้างบ้านคนภายในทีมงานและคนในสังคม

 

คุณต้องเรียนรู้ที่จะรักพวกเขาให้ได้แล้วยังไม่พอ

คุณยังต้องเรียนรู้ที่จะทำตัวให้คนรอบข้างรักคุณให้ได้

ทั้งหมดนี้คือ #การปฏิบัติธรรม ที่ถูกต้องตรงจริงขั้นสูง

ต่อจากการหมุนธรรมจักรในตนเองที่เรากล่าวมาแล้ว

นั่นคือ #คุณจะรักคนชั่วคนนั้นอย่างสนิทใจได้อย่างไร

#คุณจะทำตัวให้คนอื่นรักคุณอย่างสนิทใจได้อย่างไร

แปลว่าคุณจะ #เข้าเถื่อนถ้ำปฏิบัติธรรมคนเดียวไม่ได้

เพราะว่าคุณเป็นมนุษย์และเป็นสัตว์สังคมนั่นเอง

 

ในบทนี้

เราต้องการเน้นย้ำให้คุณรู้ว่า

1.หน้าที่ในการปฏิบัติธรรมของคุณคืออะไรบ้าง

2.วิธีปฏิบัติธรรมที่ถูกตรงนั้นอย่างไรใช่อย่างไหนไม่ใช่

3.การหมุนธรรมจักรเป็นภารกิจหลักของจิตวิญญาณ

4.อุปสรรคของการหมุนธรรมจักรก็คือกิเลสมาร

5.คำว่านิพพานคือดับการเกิดดับของกิเลสที่ในจิตคุณ

6.นิพพานเป็นสิ่งที่คุณต้องทำ

7.การหมุนธรรมจักรในตนเองจะเกิดเองโดยอัตโนมัติ

แค่จิตหยาบของคุณสะอาดปราศจากกิเลสเท่านั้น

 

8.การหมุนธรรมจักรร่วมกันกับคนอื่นนั้นยากสุด

ตรงที่คุณจะทำตนให้น่ารักเหมือนตอนเป็นเด็กได้ยังไง

เพื่อให้ใครๆรักและเมตตาคุณให้ได้

9.การหมุนธรรมจักรร่วมกับคนอื่นนั้นยิ่งยากมากที่สุด

ตรงที่ตัวคุณเองจะรักคนที่ทำตนไม่น่ารักได้อย่างไร

โดยไม่มีข้อแม้ไม่มีข้ออ้างไม่มีเงื่อนไขอะไรทั้งสิ้น

 

ทั้ง 9 ข้อนี้คือการปฏิบัติธรรมที่แท้จริงที่ทุกคนต้องทำ

ไม่ว่าคุณจะเป็นฆราวาสเป็นนักพรตหรือจะเป็นนักบวช

ล้วนเป็น “สิ่งสมมติ” แท้แล้วคุณต้อง “คน” กันทั้งนั้น

การคนสองมิติในตนเองให้เข้ากันจนเป็นหนึ่งเดียว

ด้วยวิธีการหมุนธรรมจักรในตนเองที่ว่านี้นั้น

เป้าหมายหลักก็คือจิตหยาบกับกายหยาบของคุณ

จะต้องสั่นสะเทือนร่วมกันจนเป็นหนึ่งเดียวคลื่นเดียวกัน

ซึ่งเป็นคลื่นความถี่ของความรักมิใช่คลื่นของกิเลสมาร

แล้วใช้คลื่นความถี่ด้านบวกคือความรักดังกล่าวนั้น

สั่นสะเทือนกายหยาบคือกายกรรมกับวจีกรรม

เพื่อสร้างเงื่อนไขด้านบวกให้แก่คนอื่นๆที่อยู่รอบข้าง

ให้เขาหมุนธรรมจักรในตนเองเพื่อเป็นเงื่อนไขด้านบวก

กระทำตอบต่อคุณกลับมาให้จงได้

 

เอเมน สาธุ

ถ่ายทอดคลื่นความคิดจากองค์จิตจักรวาล

โดย #ปัญญาวิสุทธิ์

8/12/2566



คำสอน 8/12/2023

 

การรู้สึกชอบไม่ชอบ
เป็นกิเลสที่ทำให้อับเฉาเบาปัญญา
แต่การรู้สำนึกว่าผิดชอบดีชั่ว
เป็นความฉลาดทางจิตวิญญาณ
ที่ช่วยให้คุณพ้นกรรมได้

07 ธันวาคม 2566

คำสอน 7/12/2023

 

กิเลสมารดับได้ที่ความรู้สึก
การรู้สำนึกในบาปบุญคุณโทษ
เกิดได้จากสัมปชัญญะปัญญา

06 ธันวาคม 2566

คำสอน 6/12/2023

 

คุณจะยกระดับจิตจาก 4D สู่ 5D ด้วยตัวเองร่วม
กับพ่อแม่รวมสามคนไม่ได้แล้ว เพราะแรงสั่น
สะเทือนไม่พอ คุณจะต้องชวนคนรอบข้างมา
ร่วมด้วย

คำสอน 6/12/2023

 

เด็กเมื่อคลอดแล้ว จนยืนนั่งลุกวิ่งกลิ้งนอนได้
เอง แสดงว่าจิตหยาบของกุมารน้อยนั้นยกระดับ
ถึงมิติที่ 4D ได้แล้วด้วยรักของพ่อแม่

คำสอน 6/12/2023

 

เด็กน้อยทุกคน
ล้วนน่ารักน่าเอ็นดูเพราะพระบิดาเมตตาให้ใช้
ความน่ารักน่าเอ็นดูนั้นจูงใจให้คนรอบข้างมา
หมุนธรรมจักรร่วมกันนั่นเอง

คำสอน 6/12/2023

 

การยกระดับจิตหยาบสู่มิติที่ 5D มิใช่มีโลกใหม่ 
 มันเป็นความก้าวหน้าทางจิตของตัวคุณเองบน
โลกนี้ ที่ได้จากการหมั่นหมุนธรรมจักรเท่านั้น!

คำสอน 6/12/2023

 

คุณยกระดับจิตหยาบให้มีมิติสูงขึ้นได้ ด้วยการ
กระทำที่ตนเอง ไม่ต้องให้ใครช่วย ไม่ต้องมีโลก
ใหม่

คำสอน 6/12/2023

 

การย้อนกลับสู่โลกที่มี 3D ก็คือการที่จิต
วิญญาณต้องตายแล้วย้อนมาเกิดใหม่ในครรภ์
มารดา เป็นตัวตนทารกที่มีกว้างxยาวxสูงรวม
สามมิติ

คำสอน 6/12/2023

 

ความทุกข์และสุขของจิตเป็นสิ่งสมมติที่เกิดจาก
การเผชิญกับสิ่งเร้าบางสิ่ง แล้วปรุงแต่งด้วย
กิเลสตัณหา ถ้าชอบก็สุขไม่ชอบก็ทุกข์

คำสอน 6/12/2023

 

จงจำไว้ว่าการทำบุญคือการก่อกรรมดี มัน
สำคัญอยู่ที่ #วิธีทำ ไม่ใช้อยู่ที่ #บุญมากบุญ
น้อย ซึ่งเป็นการทำบุญที่ยังแอบฝังไว้ด้วย
กิเลสมาร

คำสอน 6/12/2023

 

วิธีนิพพานกิเลส
คือดับการเกิดดับของความรู้สึก
ไม่ยอมให้มันเกิดขึ้นมาได้อีก
โดยรับรู้เพื่อเรียนรู้เท่านั้น
เมื่อรับรู้แล้วต้องไม่รับเอามาปรุงแต่ง

05 ธันวาคม 2566

คำสอน 5/12/2023

 

ไทยมืดค่ำเร็วผิดปกติ ยุโรปหนาวจัดจนหิมะตก
หนักผิดปกติเช่นกัน ไทยกับฝรั่งอยู่คนละฝั่งฟ้า 
นี่แสดงว่าโลกกำลังแกว่งส่ายมากขึ้นแล้ว

คำสอน 5/12/2023

 

คบคนให้ดูหน้าซื้อผ้าให้ดูเนื้อคือจะคบใครต้อง
ดูว่าเขาเป็นคนดีรึไม่จะได้ระวังตัวไว้ ถ้าจะเชื่อ
ไม่เชื่อให้พิจารณาที่สาระมิใช่ที่ตัวคน

คำสอน 5/12/2023

 

การนั่งกรรมฐาน
ช่วยให้นิพพานกิเลสไม่ได้
ต้องใช้ประสบการณ์จริงเท่านั้น
คุณจึงจะนิพพานกิเลสได้

04 ธันวาคม 2566

คำสอน 4/12/2023

 

หลักการปฏิบัติธรรมมี 3 อย่าง คือ
1.ต้องรักคนที่ทำตัวไม่น่ารักให้ได้
2.ต้องทำตนให้คนอื่นรักให้ได้
3.ต้องไม่ก้าวก่ายล่วงเกินผู้อื่น

03 ธันวาคม 2566

คำสอน 3/12/2023

 

โลกเหวี่ยงหมุนรอบตัวต่อเนื่องได้
คุณต้องใช้ธรรมจักรจากรักแท้
บิดแกนโลกโยกสั่นจนผันแปร
เกิดผลแก่โลกกับคุณสมดุลกัน

02 ธันวาคม 2566

คำสอน 2/12/2023

 

อนิจจังทุกขังอนัตตา คือจิตที่เกิดกิเลส เดี๋ยว
เกิดเดี๋ยวดับอยู่ตลอดทำให้จิตไม่สงบคือทุกข์
เมื่อกิเลสนั้นดับจนสงบว่างจึงเป็นอนัตตา


คำสอน 2/12/2023

 

ดับกิเลสเวทนาก็จะว่าง
ขันธ์ห้าวางเหลือสี่ย่อมดีกว่า
สังขารขันธ์จะได้ไร้มายา
สร้างปัญหาเบือนบิดจนติดกรรม

คำสอน 2/12/2023

 

นิพพานกิเลสก็คือ ดับการเกิดดับของความรู้สึก
ชอบหรือไม่ชอบให้หมดสิ้น เมื่อดับสนิทแล้วจะ
ต้องไม่เกิดชอบไม่ชอบอีก จึงเรียกว่านิพพาน
ได้

คัมภีร์อนุตรธรรมภาคจิตจักรวาล 2/12/2566

#คัมภีร์อนุตรธรรมภาคจิตจักรวาล
(เพื่อยุวจิตจักรวาลยุคสุดท้าย)

พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า

พวกทายาทของผีโสโครกที่ทำตนเป็นกูรู
ที่หยิบยกเอาอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ของพระพุทธเจ้า
มาบิดเบือนคำสอนจนทำให้คนโง่ง่ายใช้ปัญญาไม่เป็น
พากันหลงเชื่อตามถลำลึกว่ากิเลสมารนั้นมิใช่ปัญหา
โดยอ้างว่าหลักแห่งอนิจจังทุกสิ่งสรรพ์ #ไม่เที่ยงแท้

คำว่า “ไม่เที่ยงแท้” หมายถึงมีการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป
กิเลสก็เหมือนกันเมื่อมันเกิดได้สักพักหนึ่งเดี๋ยวก็ดับเอง
เมื่อกิเลสมารเป็นสรรพสิ่งหนึ่งซึ่งเกิดเองดับเองได้แล้ว
มันจึงมิใช่ปัญหาจงอย่าไปวิตกกังวลสนใจกิเลสมาร
เพราะจะทำให้เสียเวลาไปโดยเปล่าดายจงอย่าโง่เลย

พี่ๆน้อง ๆ ที่รักแห่งเราทั้งหลาย
ใครเชื่อคนนำทางตาบอดที่บิดเบือนคำสอนพระศาสดา
ที่กล่าวว่า #กิเลสมิใช่ปัญหาถ้าอยากหลุดพ้น ข้างต้นนี้
พิจารณาดูแล้วผู้ใดเชื่อตามคำสอนของกรรมกรของมาร
คนผู้นั้นน่าจะเป็นฝ่ายโง่เองเสียมากกว่า

เพราะความหมายแท้จริงของ “ไตรลักษณ์” นั้น
สรรพสิ่งที่เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไปหรือเสื่อมสลายไป
พระศาสดาทรงหมายถึงสิ่งที่มี 2 มิติอยู่ในหนึ่งเดียว
นั่นคือสิ่งที่มีเปลือกนอกหรือกายหยาบในมิติของเนื้อหนัง
ห่อหุ้มแก่นแท้ที่เป็นรูปธรรมในมิติทางพลังงานไว้ข้างใน
เช่น ก้อนกรวด ก้อนหิน เม็ดทราย ก้อนดิน และวัตถุต่างๆ
รวมทั้งเครื่องยนต์แห่งกรรมรูปธรรมมนุษย์เองด้วย

สรรพสิ่งทั้งหลายเหล่านี้
พระเจ้าทรงเป็นพระผู้กำหนดสร้างหรือทำให้เกิดขึ้น
แต่ละสรรพสิ่งจะมีอายุขัยในการดำรงอยู่
โดยเวลาที่จะดำรงอยู่ขึ้นกับความเสื่อมของเปลือกนอก
ซึ่งเปลือกนอกเท่านั้นที่มีอัตราความเสื่อมไปตามกาล
เพราะเปลือกนอกเป็นสรรพสิ่งในมิติโลกทางกายภาพ
ที่มันจะเสื่อมสภาพไปตามเหตุปัจจัยของสิ่งแวดล้อม
ขณะที่ตัวตนแก่นแท้ที่เป็นพลังงานซึ่งเร้นอยู่ข้างในนั้น
ยังมีคุณสมบัติทุกสิ่งคงเดิมตามที่พระเจ้าทรงกำหนดไว้
จนเมื่อเปลือกน้อยเสื่อมไปหรือดับไปตามกาลของมัน
อัตตาตัวตนที่เคยเป็นมายาก็จะหายไปเหลือแต่พลังงาน
อันเป็นพลังงานที่เป็นแก่นแท้ที่สองตาเปล่ามองไม่เห็น

ดังนั้น
ทุกสรรพสิ่งที่มี #สองมิติ ซึ่งมีอยู่จริงภายในเอกภพนี้
เมื่อถูกสร้างขึ้นโดยพระผู้สร้างคือองค์จิตจักรวาลแล้ว
จะมีกำหนดเวลาในการดำรงอยู่หรือมีอายุขัยกำกับไว้ด้วย
เราขอย้ำกับพวกคุณว่า #เฉพาะสรรพสิ่งที่มีสองมิติ นะ
คือสิ่งที่มีเปลือกนอกเป็นกายหยาบหรือเนื้อหนังหุ้มอยู่
โดยมีพลังงานเป็นตัวตนที่แท้จริงเร้นอยู่ข้างในเท่านั้น
คุณจึงอ้างใช้กฎแห่ง #ไตรลักษณ์ ของพระพุทธองค์ว่า
สิ่งนั้นเกิดขึ้นตั้งอยู่และดับไปคืออนิจจังทุกขังอนัตตาได้
แต่เรื่องของ #สภาวะจิต ซึ่งเป็นคุณสมบัติของจิตหยาบ
ที่เป็นเรื่องของพลังงานแค่เพียงมิติเดียวไม่เกี่ยวกับกฎนี้

ตัวอย่างเช่น
เรื่องของกิเลสมารที่มันผุดขึ้นมาในจิตหยาบของคุณ
เมื่ออายตนะทั้งหกสั่นสะเทือนจากการสัมผัสรู้ดูฟังสิ่งเร้า
ที่คุณสัมผัสกับสิ่งเร้านั่นโน่นนี่อยู่ตลอดเวลาในยามตื่น
จิตคุณมันจะเกิดเวทนาคือเดี๋ยวรู้สึกชอบเดี๋ยวไม่ชอบ
ทำการตอบสนองสิ่งเร้านั่นโน่นนี่เรื่อยๆไปไม่หยุดหย่อน
ความรู้สึกที่เป็นเวทนาที่ว่านี้มันจะเกิดๆดับๆอยู่ทั้งวัน
จนดูเหมือนว่ามันเกิดเองแล้วดับเองก็ได้ไม่มีปัญหาอะไร
พวกมารโดยผีโสโครกจึงหลอกคุณว่าอย่าเสียเวลาดับมัน
ปล่อยวางมันทิ้งไว้ให้มันเป็นไปของมันแบบนั้นน่ะดีแล้ว

พวกคุณจะเชื่อพระบิดาหรือว่าเชื่อมารล่ะ
ถ้าพระเจ้าทรงเมตตาให้เรากล่าวกับพวกคุณว่า
ถ้าอยากหลุดพ้นกลับบ้านไปกราบพระบิดานอกเอกภพ
กิเลสมารในจิตหยาบนี่แหละตัวร้ายที่คุณต้องจัดการก่อน
จะปล่อยให้มันเกิดดับ...เกิดดับ..เกิดดับ...นั้นไม่ได้
เพราะกิเลสมารเป็นตัวแสบ! ที่ทำให้คุณ #หมุนกรรมจักร
จนเข้าถึงความรักเพื่อให้และใช้ปัญญาของสมองสองซีก
ทำการ #หมุนธรรมจักรในตนเอง ร่วมกันกับคนอื่นๆไม่ได้

ถ้าคุณ “หมุนธรรมจักร” ไม่ได้โดยหมุนกันแต่ “กรรมจักร”
จิตหยาบของคุณจะยกระดับให้สูงขึ้นจากมิติที่ 4 ถึงมิติที่ 6
เพื่อเป็นหนึ่งเดียวกันกับจิตวิญญาณของคุณเองไม่ได้เลย
ต่อให้คุณมีอายุขัยยืนยาวเป็นร้อยๆปีได้ก็ตาม
เพราะผู้นำพาจิตวิญญาณแก่นแท้ของคุณหลุดพ้นกลับบ้าน
คือ #จิตหยาบ หรือจิตมนุษย์ผู้ทำหน้าที่แทนแก่นแท้นี่เอง
มิใช่พระเจ้ามิใช่พระศาสดาและมิใช่มอดมารตนใดทั้งสิ้น

ดังนั้น
พระโอวาทจากพระเจ้าที่ทรงสื่อผ่านเรามานี่แหละ
เป็นหนทางเดียวที่จะทำให้จิตหยาบของคุณ
สามารถนำพาจิตวิญญาณแก่นแท้ของตนหลุดพ้นกลับบ้าน
เพื่อกลับไปกราบพระบาทพระบิดา ณ แดนสุญตา
ซึ่งอยู่นอกระบบเอกภพอันเป็นพระนิเวศน์ของพระองค์ได้

พวกคุณทุกคนสามารถเชื่อถือไว้วางใจเราได้
เพราะเราคือ “พระบุตรเอก” เป็นลูกคนเดียวที่พระองค์ส่งมา
เพื่อแจกขนมปังแห่งชีวิตให้ลูกแกะของพระองค์ได้กลืนกิน
เพื่อดำรงความเป็นอมตะของจิตวิญญาณคุณที่เป็นอนัตตา
เพื่อมิให้ตกลงไปสู่ #บ่อย่ำองุ่น หรือพลัดตกลงใน #บึงไฟ
ซึ่งบ่อย่ำองุ่นคือ “การมีสังสารวัฏ” บึงไฟก็คือ “นรก” นั่นเอง

ด้วยเหตุนี้เอง
ความเชื่อในคำสอนเรื่องการเกิดแก่เจ็บตายเป็นเรื่องธรรมดา
นี่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งซึ่งถูกมารพวกผีโสโครกหลอกมนุษย์ไว้
โดยนำเอากฎแห่งไตรลักษณ์ของพระพุทธเจ้ามาบิดเบือน
ทำให้คนส่วนใหญ่หลงเชื่อตามเพราะไม่รู้เท่าทันมานานแล้ว

เอเมน สาธุ
ถ่ายทอดคลื่นความคิดจากองค์จิตจักรวาล
โดย #ปัญญาวิสุทธิ์
2/12/2566 

01 ธันวาคม 2566

คัมภีร์อนุตรธรรมภาคจิตจักรวาล 1/12/2566

 #คัมภีร์อนุตรธรรมภาคจิตจักรวาล

(เพื่อยุวจิตจักรวาลยุคสุดท้าย)

 

พี่ๆน้อง ๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย

เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า

 

กูรูบางคนที่เป็นกรรมกรของมาร

ผู้ซึ่งไม่ปรารถนาดีต่อมวลมนุษย์โลกทั้งหลาย

ไม่อยากให้พวกคุณนำพาจิตวิญญาณกลับบ้าน

ที่เป็น “บ้านเกิดของจิตวิญญาณ” ข้างนอกเอกภพ

ซึ่งมารหรือพวก “ผีโสโครก” ไม่อาจหลุดออกไปได้

เนื่องจากเคยเห็นพระจิตวิญญาณบริสุทธิ์บางรูปธรรม

หลุดพ้นออกไปข้างนอกโดยหายไปจากเอกภพนี้ได้

พวกตนที่ล่องลอยอยู่จึงอยากจะตามออกไปบ้าง

แต่ตามออกไปไม่ได้ทั้งๆที่พวกตนก็มีอภิญญฤทธิ์อยู่

 

จึงพยายามบิดเบือนพระวจนะพระศาสดา

พาให้คนชอบธรรมหลงทำตามจนผิดทางกันมาตลอด

พยายามปิดบังสัจธรรมความจริงที่จริงแท้เอาไว้ไม่ให้รู้

หลอกให้เสพติดกิเลสจนเข้าถึงความรักกับปัญญา

ที่เป็นอำนาจสูงสุดในตนเองที่พระบิดาติดตั้งไว้ไม่ได้

ยังผลให้พี่ๆน้องๆแห่งเราทั้งหลายงมงายโง่ง่ายกันมาก

เพราะรักไม่ได้ให้อภัยไม่ได้ทำบุญก็ทำอย่างมีเงื่อนไข

วิญญาณขันธ์จึงผลิตได้แต่ #พลังงานกรรมส่วนบุคคล

ไม่อาจผลิตสร้างพลังงานสะอาดแบบที่โลกต้องการได้

ทำให้ดาวเคราะห์โลกต้องเสียสมดุลเพราะขาดพลังงาน

 

ถ้าโลกเสียสมดุลมากเท่าไหร่

ความเร็วในการหมุนรอบตัวเองจะช้าลงไปมากเท่านั้น

สิ่งที่เป็นตัวชี้วัดก็คือ “แกนหมุน” ของโลกจะแกว่งส่าย

ก๊าซออกซิเจนในทะเลในน้ำและในอากาศจะลดน้อยลง

จนบางเวลาบางพื้นที่ออกซิเจนจะเกิดการช็อตชั่วคราว

ฝูงปลาที่ว่ายน้ำกันอยู่จะขาดอากาศหายใจแบบฉับพลัน

จนพากันลอยคอขึ้นมาหายใจด้วยเหงือกเหนือพื้นน้ำ

แต่พวกเขาก็ต้องลอยคอตายเพราะไม่มีปอดช่วยหายใจ

 

ฝูงนกที่บินผ่านบริเวณน่านฟ้าที่ตรงนั้นก็เหมือนกัน

เมื่อขาดออกซิเจนที่ใช้หายใจแบบฉับพลันทันใด

ฝูงนกเหล่านั้นก็จะพากันพลัดตกลงมาตายกระทันหัน

เพราะสมองพวกเขาขาดก๊าซออกซิเจนจึงทำให้มึนงง

จนเกิดการเสียสมดุลทำให้ควบคุมตนเองต่อไปไม่ได้

เมื่อตกลงมาศีรษะก็ฟาดพื้นพวกเขาจึงต้องเสียชีวิตไป

 

นอกจากนั้น

ถ้าโลกขาดพลังงานสะอาดจากพลังงานจิตของมนุษย์

เส้นแรงสนามแม่เหล็กโลกก็จะเบี่ยงเบนจากเดิมไปด้วย

พวกคุณจะต้องรู้ว่าความโง่ความฉลาดของชาวดาวโลก

ขึ้นอยู่กับแนวเส้นแรงสนามแม่เหล็กโลกเป็นสำคัญด้วย

มิได้ขึ้นกับ “พันธุกรรม” และการฝึกคิดด้วยสมองเท่านั้น

 

ถ้าหากเส้นแรงสนามแม่เหล็กโลกพาดผ่านประเทศไทย

จะยังผลให้คนไทยทุกคนฉลาดมากกว่าคนในถิ่นอื่นทันที

เพราะในอดีตนั้นเส้นแรงแม่เหล็กโลกพาดผ่านภูมิภาคอื่น

อย่างหนาแน่นและแข็งแรงกว่าประเทศไทยในภูมิภาคนี้

#คนไทยจึงเป็นคนเจ้าปัญหามากกว่าเป็นคนเจ้าปัญญา

 

คนเจ้าปัญหา” คือคิดรู้เองไม่เป็นได้แต่อยากรู้ไปเรื่อย

จนต้องเรียนตามรู้ตามเชื่อตามก้าวตามคนชาติอื่นเสมอ

เพราะไปเน้นตรง #คำตอบ ที่ตนอยากรู้มากกว่าอย่างอื่น

เห็นว่าความรู้ก็คือ “คำตอบ” นั้นสำคัญเหนือกว่าสิ่งอื่นใด

การลอกเลียนแบบหรือขโมยความรู้ของคนอื่นจึงมีให้เห็น

ถ้าตนมีความรู้สึกว่ามันใช่เพราะเห็นแล้วได้ฟังแล้วชอบ

เนื่องจากเรียนรู้ไม่เป็นคิดเองไม่ได้

 

ส่วน “คนเจ้าปัญญา” คืออยากรู้อะไรก็คิดรู้ด้วยตัวเองได้

มีความเป็นผู้นำทางปัญญาเพราะว่าฉลาดในการใช้สมอง

โดยผู้คนเหล่านี้เห็นว่า #วิธีคิดหาคำตอบ สำคัญมากที่สุด

พวกนี้จึงจะเน้นตรงที่ “วิธีการคิด” วิธีการเรียนรู้มากกว่า

ภาษาฝรั่งเขาใช้คำว่าเป็นพวกถนัดใช้ How to นั่นแหละ

 

คนฉลาดพวกนี้จะมีความสามารถในการเรียบเรียงความคิด

จะมีความสามารถในการจัดลำดับขั้นตอนการเรียนรู้ได้ดี

คนฉลาดพวกนี้จึงสามารถสร้างองค์ความรู้ใหม่ๆขึ้นมาได้

คนไทยที่ไม่ถนัดทำแบบนี้จึงนิยมก้าวตามพวกเขามาตลอด

เพราะถนัดหาคำตอบหาความรู้มากกว่าการคิดรู้นั่นเอง

 

เรื่องของกิเลสนี่ก็เหมือนกัน

พวกกูรูที่รู้จริงบ้างไม่จริงบ้างซึ่งออกมาสอนพวกคุณ

อยู่ในโซเชี่ยลว่า“กิเลสไม่ใช่ปัญหาถ้าอยากหลุดพ้น”

ซึ่งเป็นสัจธรรมเทียมเท็จเพราะถูกบิดเบือนอย่างชัดเจน

แม้ประโยคนี้หากพิจารณาผิวเผินจะดูหรูหราเข้าท่าดีมาก

แต่มันเคลือบแฝงด้วยการอาบยาพิษเอาไว้ข้างนอก

 

เพราะความจริงที่จริงแท้ก็คือ

 

1.กิเลส คือ #ความรู้สึก ชอบ ไม่ชอบ

กับไม่แน่ใจว่าตนชอบหรือไม่ชอบก็คือ #ลังเล

พระพุทธองค์ทรงใช้คำว่า “เกิดเวทนา” ขึ้นมานั่นเอง

 

2.กิเลสจะเป็นเหตุให้เกิด “ตัณหา”

คือ #ความอยากไม่อยาก กับไม่แน่ใจว่าอยากไม่อยาก

หมายถึงความลังเลหรือไม่แน่ใจตนเองว่าจะเอายังไงดี

 

3.ถ้าคุณปล่อยให้มันเกิดกิเลสขึ้นมาเมื่อไหร่

ตัณหามันก็จะเกิดขึ้นตามมาเหมือนเงาตามตัวในทันที

คุณก็จะห้ามความอยากไม่อยากไม่ให้มันเกิดไม่ได้แล้ว

อยากหรือไม่อยากมากเท่าไหร่จะยิ่งดับยากมากเท่านั้น

 

ลองพิจารณาก็ได้ว่าถ้ารถวิ่งมาแรงๆคุณจะเบรกอยู่ไหม

จิตหยาบที่เกิดกิเลสจนก่อตัณหาเป็นเงาตามมาก็เช่นกัน

คุณจึงจัดการที่ “ตัณหา” ซึ่งเป็น “ผลของเหตุ” ไม่ได้

เราจึงแนะให้คุณ “ตัดกิเลส” คือ #ดับที่เวทนา เท่านั้น

เพราะว่ากิเลสมารเป็นเหตุให้เกิดตัณหานั่นเอง

 

4.จริงอยู่นะ

ตลอดวันคุณใช้อายตนะภายนอกทั้งห้ากับภายในอีกหนึ่ง

สัมผัสรู้ดูเห็นและเกิดจิตสามนึกจากสิ่งเร้านั้นตลอดเวลา

จิตหยาบคุณจะเกิดกิเลสคือความรู้สึกขึ้นมาเป็นเบื้องต้น

กิเลสก็จะนำคุณไปสู่ “ตัณหา” คือ #อยาก เป็นเบื้องกลาง

ตัณหาจะพาคุณตกลงไปในบึงไฟคืออารมณ์ขยะในที่สุด

 

5.จากเบื้องต้นสู่เบื้องกลางและเบื้องปลายท้ายสุดนั้น

ระหว่างทางจิตหยาบของคุณมันจะไม่สงบเพราะจิตตก

คำว่าจิตตกหมายถึงจิตเดิมจะสั่นสะเทือนเป็นความถี่สูง

เมื่อเกิดกิเลสตัณหาอารมณ์ขยะจิตก็จะสั่นเป็นความถี่ต่ำ

พวกผีโสโครกหรือพวกมารจึงหลอกว่านี่คือเกิด #ทุกข์

แล้วหลอกว่าการมาเกิดเป็นมนุษย์โลกเป็นทุกข์อย่างยิ่ง

เพราะ “วางยา” ให้พวกคุณเสพติดกิเลสเอาไว้ให้แล้วนี่

พวกคุณจึงมีคำว่า “ทุกๆคน ทุกๆวัน” นั่นคือทุกข์ตลอด

คนชอบธรรมจึงพากันเกิดทุกข์จนขึ้นสมองเหมือนกุ้งเลย

 

เพราะ “อุจจาระกุ้ง” หรือขี้กุ้งนั้นมันอยู่บนหัว

โดยคำว่า “อุจจาระ” นั้นมันหมายถึง “ขี้” ที่ไปอยู่บนหัว

แทนที่ขี้กุ้งควรจะอยู่ในท้องในลำไส้เหมือนสัตว์อื่น

จึงนำเอาคำว่า “ขี้ขึ้นสมอง” จากคุณลักษณ์ของกุ้ง

มาใช้กับคนที่เกลียดกลัวความทุกข์จนขึ้นสมองด้วย

เพราะคำว่า “ปลดทุกข์” หมายถึงการถ่ายอุจจาระใช่ไหม

นี่เป็นความแยบยลของภาษาไทยที่พระบิดากำหนดไว้

 

เพราะถูกหลอกให้กลัวทุกข์จนขึ้นสมองนี่แหละ

พวกคุณจึงหลงทางนิพพานแบบตาลยอดด้วนตลอดมา

จนไม่อยากมาเกิดเป็นมนุษย์อยากเกิดเป็นเทพเทวดา

ไปอยู่บนสวรรค์มายาที่พระบิดามิได้ปลูกสร้างไว้ให้อยู่

แล้วละทิ้งภารกิจจิตวิญญาณที่ขันอาสาพระองค์มาทำ

เพื่อร่วมกันใช้เมตตาธรรมค้ำจุนสมดุลโลกนี้เอาไว้

หายไปจากโลกโยกย้ายแก่นแท้ไปติดค้างกันอยู่บนนั้น

ไปเป็นกรรมกรของมารที่ตนเนรมิตวิมานเท็จขึ้นมาเอง

 

6.ชีวิตประจำวันของพวกคุณที่ยังตัดกิเลสไม่สิ้น

จึงตกหลุมพรางของกิเลสอยู่ตลอดมาและตลอดไป

โดย #หลุมพรางของกิเลส มีอยู่ 2 แบบ คือ

 

#แบบที่หนึ่ง

คือ ตกลงไปใน “บึงไฟ” หมายถึง #ไฟอารมณ์

ซึ่งเป็นบึงไฟที่ร้อนแรงสามารถเผาจิตและกายได้

ขณะที่คุณยังมีชีวิตอยู่ในระบบโลกนี้

โดยที่มันจะแผดเผาจิตวิญญาณคุณให้เร่าร้อน

เมื่อถึงวันที่คุณทิ้งกายสังขารจากการเป็นมนุษย์ด้วย

 

#แบบที่สอง

คือ ตกลงไปใน #บ่อย่ำองุ่น หมายถึง #สังสารวัฏ

คำว่า “สังสารวัฏ” หรือวัฏสงสารนี้หมายถึง

การเวียนว่ายตายเกิดของจิตวิญญาณอยู่ในสามภพภูมิ

อันมีโลกมนุษย์และภพภูมินรกซึ่งพระเจ้าเป็นผู้สร้างไว้

กับสวรรค์มายาที่พระองค์มิได้ทรงปลูกสร้างเอาไว้ให้

 

เพราะพวกคุณหลายคน

ยังต้องเกิดต้องตายวนเวียนกันอยู่ในสามภพภูมินี้

ทั้งๆที่พระองค์ให้มาเกิดกันคนละภพชาติเดียว

คือมีอายุขัยอยู่ได้ตลอดหกหมื่นปีโดยมีชีวิตเป็นอมตะ

เพื่อทำหน้าที่เป็นผู้พิทักษ์ความสมดุลของโลกเสรีนี้

ด้วยการทำหน้าที่อยู่ประจำโลกไม่ต้องโยกไปที่ไหน

แม้ใครต้องตกนรกพระองค์ก็สร้างนรกไว้ในแกนโลก

อย่างน้อยก็ช่วยทำหน้าที่ถ่วงโลกให้สมดุลได้ด้วย

 

ขณะไปติดค้างบนสวรรค์มายาเสวยสุขเพื่อตนเองนั้น

ยังเป็น “ขยะรกโลก” ที่รอวันจะถูกชำระทิ้งกันอีกด้วย

ในข้อหาผิดสัจจะในพันธะสัญญา 6 ไม่ยอมพิทักษ์โลก

เพราะเชื่อกรรมกรของผีโสโครกพวกคนนำทางตาบอด

ที่บิดเบือนพระวจนะและปิดบังสัจธรรมพระศาสดา

 

พี่ๆน้อง ๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย

 

ถ้ามองแบบมารที่สอนผ่านคนนำทางตาบอดหรือกูรูแล้ว

เกิดมาเป็นมนุษย์หรือเป็นเทพเทวดาหรือว่าอยู่ในนรก

ก็สามารถเหมาเข่งว่า #เป็นทุกข์อย่างยิ่ง ได้ทั้งสามภพ

 

เพราะไม่รู้ว่าถ้าไปเกิดบนสวรรค์มายาจะทุกข์เรื่องอะไร

เห็นมีกูรูสอนว่าได้อยู่วิมานเมืองแก้วแล้วกินหรูอยู่สบาย

งานการไม่ต้องทำได้แต่นั่งกรรมฐานเข้าฌานสมาบัติ

ชีวิตเทพเทวดาไม่ทุกข์ยากลำบากอะไรเลยนี่นา

จึงพากันยอมถูกหลอกแล้วไปฝักใฝ่อยู่ในเส้นทางนั้น

เพราะถูกสอนให้รังเกียจโลกกลัวตกนรกอยากไปสวรรค์

 

พระบิดาจึงทรงมีพระเมตตาให้เรากล่าวต่อพวกคุณว่า

#อยู่กับทุกข์ก็สุขได้ หากไม่ปฏิเสธมันโดยอยู่กับมันให้ได้

เปรียบดั่งการที่พวกคุณมีมือมีเท้าตามที่พระเจ้าสร้างให้

พวกคุณจึงรู้สึกเฉยชินไม่ทุกข์อะไรจนไม่รู้สึกอยากตัดทิ้ง

ไม่ต่างจากลิงที่มีหางยาวๆมันก็อยู่กับหางของมันได้

โดยมันจะอยู่กับหางของมันได้ทั้งชีวิตอย่างไม่เกิดทุกข์

เพราะลิงมองว่า “หางยาวๆ” เป็นสมบัติของมัน

ที่ใช้ประโยชน์เพื่อเอาไว้เกี่ยวเหนี่ยวกิ่งไม้ในบางครั้ง

ที่สองมือสองเท้ายังยึดเหนี่ยวเกี่ยวไว้กันตกไม่เพียงพอ

แถมหางยาวยังช่วยถ่วงดุลขณะวิ่งเดินห้อยโหนได้ด้วย

 

พวกทายาทของผีโสโครกที่ทำตนเป็นกูรู

จึงยกเอาอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ของพระพุทธเจ้า

มาบิดเบือนคำสอนจนทำให้คนโง่ง่ายใช้ปัญญาไม่เป็น

พากันหลงเชื่อตามถลำลึกโดยเชื่อว่ากิเลสมิใช่ปัญหา

โดยอ้างว่าหลักแห่งอนิจจังนั้นทุกสิ่งมัน #ไม่เที่ยงแท้

คำว่า “ไม่เที่ยงแท้” หมายถึง เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป

กิเลสก็เหมือนกันเมื่อมันเกิดได้พักหนึ่งเดี๋ยวก็ดับเอง

มิใช่ปัญหาพวกคุณจึงอย่าไปวิตกกังวลสนใจมันเลย

 

ไม่รู้ว่ากูรูตนนี้จะรู้สึก “ปวดแสบสีข้าง” กันบ้างไหม

เพราะปิดท้ายคำสอนท่อนนี้ไว้ว่า “ถ้าอยากหลุดพ้น”

ซึ่งเป็นคำกล่าวที่ค่อนข้างจะคลุมเครือไม่ชัดเจนว่า

อยากหลุดพ้นจากอะไรหลุดพ้นแบบไหนและอย่างไร

 

ใครอยากรู้ตอนต่อไปให้ยกมือขึ้น!!!

 

เอเมน สาธุ

ถ่ายทอดคลื่นความคิดจากองค์จิตจักรวาล

โดย #ปัญญาวิสุทธิ์

1/12/2566




คำสอน 1/12/2023

 กิเลสมารที่ในจิตคุณ
เดี่ยวเกิดเดี่ยวดับตลอดเวลา
ทำให้ใช้ปัญญาเพื่อหมุนธรรมจักร
ด้วยรักเพื่อให้ไม่ได้
จึงต้องดับการเกิดดับมันให้สิ้น
จะรอให้มันดับเองไม่ได้