06 กุมภาพันธ์ 2564
สนทนาประสาจิตจักรวาล 06/02/2021
สนทนาประสาจิตจักรวาล
06/02/2021
พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
บัดนี้โลกได้สิ้นสุดยุคพลังงานเก่าแล้ว
จิตหยาบ คือตัวท่านในการเป็นมนุษย์
จักต้องเร่งส่ง จิตวิญญาณ แก่นแท้ของท่าน
กลับบ้านยัง แดนสุญตา ที่จากมา
เพื่อกลับไปกราบพระบาทพระบิดาฯ
พระผู้ให้กำเนิดจิตวิญญาณของท่านให้ทัน
ก่อนวันที่โลกจะมืดมิดติดต่อกันนาน แปดราตรี
หรือมืดยาวนานติดต่อกัน "56 วัน"
ของโลก
เพราะในคาบเวลาดังกล่าว
เป็นช่วงเวลาที่โลกเสรีนี้จะเปลี่ยนผ่าน
จากยุคพลังงานเก่าไปสู่ยุคพลังงานใหม่
เพื่อเปิดโอกาสให้จิตวิญญาณตัวแทนพระบิดา
เดินทางข้ามมิติเข้ามาในอนันตจักรวาล
เข้ามาเกิดเป็นมนุษย์ในระบบโลกเสรีนี้
ให้ทำหน้าที่แทนจิตวิญญาณแก่นแท้ของท่าน
ซึ่งหมดหน้าที่เพราะสิ้นสุดภารกิจตามสัจจะที่ให้ไว้
ต่อองค์จิตจักรวาลพระบิดาแห่งจิตวิญญาณแล้ว
อันหมายถึงการ สิ้นยุคพลังงานเก่า นั่นเอง
ท่านจะสามารถตั้งข้อสังเกตได้เองว่า
เข้าใกล้คาบเวลาแห่งการเปลี่ยนยุคแล้ว
เมื่อภัยพิบัติจะเกิดขึ้นทุกรูปแบบทั่วทั้งโลก
โดยมันจะเกิดถี่ขึ้นและรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
ซึ่งจะสร้างความเสียหายมากขึ้นเรื่อยๆด้วย
ตั้งแต่จำนวนคนที่ต้องตายคราวละมากขึ้น
ไปจนถึงแผ่นดินหาย เกาะหาย และภูเขาหาย
จนพวกท่านไม่สามารถจะช่วยเหลือใครได้
เพราะต่างล้วนประสบกับหายนภัยไปด้วยกัน
ซึ่งวันเวลาสำคัญดังกล่าวนี้
ไม่มีใครสามารถจะบอกท่านได้หรอกว่า
มันจะมาถึงตัวท่านวันไหนเวลาใด
แต่เราขอกล่าวความจริงให้ท่านรู้ว่า
ท่านจักได้เผชิญกับเหตุการณ์ร้ายที่ว่านี้แน่ๆ
ดังนั้น
เราจึงใครย้ำเตือนต่อท่านทั้งหลายว่า
การที่จิตหยาบคือตัวท่านเอง
จะนำส่งจิตวิญญาณผู้เป็นแก่นแท้ของท่าน
ให้หลุดพ้นนิพพานเพื่อกลับบ้านแดนสุญตาได้
มันจึงมิใช่เรื่องที่จะทำกันได้ง่ายดายนัก
ท่านรู้หรือไม่ว่าจิตวิญญาณของท่านในวันนี้นั้น
ได้เปลี่ยนจิตหยาบของตนมาแล้วหลายภพชาติ
แค่หวังจะให้จิตหยาบทำหน้าที่เป็น คนสองมิติ
ด้วยการสั่นสะเทือนด้านบวกให้ถึงจิตวิญญาณ
เพื่อให้ออกมาขับเคลื่อนเครื่องยนต์แห่งกรรม
ด้วยจิตวิญญาณเองให้ได้ก็ยังล้มเหลวตลอดมา
ทั้งๆที่เป็นเรื่องไม่น่าจะยากก็ยังทำกันไม่สำเร็จ
นี่ถึงกาลสิ้นยุคพลังงานเก่าแล้ว
จิตวิญญาณแก่นแท้ของท่านแต่ละคน
แม้จะล้มเหลวในการมาเกิดเป็นมนุษย์
เพราะจิตหยาบไม่เอาถ่านไม่เอาไหน
แต่ถึงอย่างไรก็สัญญาต่อพระองค์ไว้แล้วว่า
เมื่อถึงกาลสิ้นยุคพวกท่านจักต้องกลับบ้าน
คือหลุดพ้นนิพพานออกไปจากอนันตจักรวาล
ผ่านทางประตูคอกแกะ คือ ด่านนภาลัย
พวกท่านจึงต้องทำตามพันธะสัญญานี้ให้ได้
การจะนำส่งจิตวิญญาณแก่นแท้ของท่าน
ให้หลุดพ้นออกไปจากระบบโลก
จนไปแวะพักชั่วคราวที่ด่านนภาลัยนั้น
มันก็มิใช่งานง่ายสำหรับจิตหยาบอีกเช่นกัน
เพราะพลังอำนาจในการนำส่งต้องสูงพอ
เหมือนจรวดที่ใช้ขนส่งยานอวกาศ
ให้ออกไปนอกระบบโลกของท่านได้นั้น
พลังขับเคลื่อนของจรวดต้องสูงมากพอ
ที่จะนำยานอวกาศทะยานหนีแรงดึงดูดของโลก
ผ่านออกไปได้อย่างไร้อุปสรรคด้วย
แน่นอนว่าตัวยานอวกาศที่จะขนส่งออกไปได้
ก็จักต้องมีน้ำหนักไม่มากจนเกินไป
ยิ่งเบามากเท่าไหร่ก็จะยิ่งดีมากเท่านั้น
พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
จิตหยาบของท่านจะมีพลังอำนาจสูงได้
มิใช่การทำบุญเบื้องล่างเอาไปสร้างเบื้องบน
ทำบุญหลายหนได้กุศลหลายครั้ง
แม้จะเป็นพฤติกรรมที่ดีอันน่าชื่นชมก็ตาม
แต่มันเป็นการกระทำแบบ "บ้าบุญ"
หนทางปฏิบัติที่ถูกต้องก็คือ
ต่อนี้ไปท่านจะต้องใช้จิตหยาบของท่าน
สั่นสะเทือนเป็นจิตสามนึกด้านบวกให้ได้
เช่น รักได้ ให้อภัยเป็น ไม่ก้าวล่วงใคร
แม้ใครคนนั้นจะทำชั่วต่อตัวท่านก็ตาม
โดยหมั่นปฏิบัติเช่นนี้เป็นประจำสม่ำเสมอ
แม้ท่านจะยังเลิกเป็นคน "บ้าบุญ" ไม่ได้ก็ตาม
เพราะการสั่นสะเทือนจิตสามนึกด้านบวก
มันไม่ต่างจากการที่ท่าน "ชาร์จ" แบ็ตเตอรี่
ก็คือเติมพลังอำนาจให้จิตวิญญาณของท่าน
และช่วยกำจัดน้ำหนักส่วนเกินของจิตวิญญาณ
ให้ลดน้อยลงไปเรื่อยๆได้พร้อมกันด้วย
ปฏิบัติการเพิ่มพลังทางจิตวิญญาณ
ปฏิบัติการลดน้ำหนักมวลของจิตวิญญาณ
จากการกระทำของจิตหยาบของท่านนี่แหละ
เป็นหนทางสุดท้ายที่จะช่วยเหลือจิตวิญญาณ
ให้สามารถหลุดพ้นนิพพานออกไป
จากโลกและอนันตจักรวาลอันไพศาลนี้ได้
จงอย่าไปหลงเชื่อเจ้าลัทธิหรือผู้อุตริอวดวิเศษ
ที่อ้างว่ามีศาสตร์ลี้ลับพิสดารอะไรก็ตาม
ที่จะช่วยนำพาจิตวิญญาณท่านให้นิพพานได้
เพราะธรรมะคือธรรมชาตินะท่านทั้งหลาย
ธรรมชาติต้องเป็นเรื่องทำง่ายเข้าใจง่าย
ไม่ลึกลับสลับซับซ้อนจนยากจะเข้าใจ
เพียงแค่ใช้จิตสามนึกของท่านให้เป็นเท่านั้น
เพื่อสั่นสะเทือนเป็นด้านบวกให้จงได้
เมื่อเจอเงื่อนไขบททดสอบใดๆในชีวิตประจำวัน
โดยถ้าเขาดีมาก็ให้รีบดีตอบ
ถ้าเขาชั่วมาก็ให้รีบดีตอบให้ได้
ทั้งสองประโยคนี้ให้เขียนแปะข้างฝาเอาไว้
เพื่อคอยเตือนจิตหยาบของท่านได้เลย
เพราะเป็นกุญแจดอกสำคัญ
ที่จะช่วยให้จิตวิญญาณของท่านเป็นอิสระได้
ทั้งหมดที่เรากล่าวมานี้
เป็นสัจธรรมระดับอนุตรธรรม
ที่ท่านมิอาจหาองค์ธรรมความรู้นี้จากที่ใดได้
นอกจากมรรควิถีจิตจักรวาลเท่านั้น
การที่ท่านยอมรับพระโอวาทบทนี้
แล้วนำไปปฏิบัติในชีวิตจริงทันที
โดยรู้สำนึกว่าท่านไม่มีเวลาเหลือเล่นอีกแล้ว
นั่นคือการพิพากษาตนเองที่ถูกต้อง
ซึ่งมันจะช่วยให้จิตวิญญาณ
คือตัวจริงของท่านเมื่อสิ้นอายุขัยมีความสุข
แต่ถ้าท่านรับรู้พระโอวาทบทนี้แล้ววางเฉย
ท่านก็ได้พิพากษาตนเองแล้วเช่นกันว่า
ท่านต้องการจะเป็น "ขยะ" รกจักรวาล
ที่พร้อมต่อการถูกเก็บกวาดระเบิดทิ้งในวันนั้น
เวลาเหลือน้อยลงทุกวัน
ท่านจงรับรู้กันไว้เถิดว่า
จิตวิญญาณของท่านแต่ละคนนั้น
กำลังรอคอยจิตสามนึกที่ถูกต้องของพวกท่าน
ให้ทำงานใหญ่เรื่องสุดท้ายด้วยใจระทึกว่า
จะล้มเหลวเสียชาติเกิดเหมือนภารกิจ
ใช้ความรักค้ำจุนโลกกันอีกหรือเปล่า
กราบพระบาทพระบิดาฯ
เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
6/02/2021
03 กุมภาพันธ์ 2564
สนทนาประสาจิตจักรวาล 03/02/2021
สนทนาประสาจิตจักรวาล
03/02/2021
พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
เรากล่าวพระโอวาทอยู่ในระบบโลกเสรี
ในพระนามแห่งองค์ จิตจักรวาล
พระบิดาแห่งจิตวิญญาณของท่านทั้งหลาย
ซึ่งเป็นพระผู้สร้างทุกสรรพสิ่งในอนันตจักรวาลนี้
ตลอดเวลาโลกทั้งวันคืน
ช่องทางการสื่อพระโอวาทต่อท่านทั้งหลาย
มีดังต่อไปนี้
1.สื่อสดผ่านรายการถ่ายทอดสดพระโอวาท
ในระบบจิตสู่จิต (Vertical Telepathy)
ทาง U-Tube ช่อง
"จิตจักรวาลอ่านโลก"
ทุกคืนวันเสาร์ 3 ทุ่มครึ่ง เวลา 21.30
น.เป็นต้นไป
2.สื่อผ่าน Facebook ชื่อ Visudhipunya
หรือ ป.วิสุทธิปัญญา ออนไลน์ 24 ชั่วโมง
ทั้งสื่อพระโอวาทและให้ข่าวสารด้านภัยพิบัติ
พระโอวาทที่ทรงเมตตาเป็นประโยชน์กับทุกท่าน
ไม่จำกัดเชื้อชาติศาสนาที่ปรารถนาการหลุดพ้น
และต้องการ ติดอาวุธทางปัญญา ให้ตนเอง
พร้อมตอบคำถามแนวทางการปฏิบัติ
เพื่อการหลุดพ้นนิพพานตามมรรควิถีจิตจักรวาล
หากมีผู้ไม่เข้าใจและต้องการเพิ่มภูมิธรรม
3.สื่อผ่าน พระคัมภีร์จิตจักรวาล
ที่นิพนธ์ขึ้นตามพระบัญชาของพระองค์
เพื่อให้บุตรมนุษย์ทุกคนได้ใช้เป็นคู่มือการปฏิบัติ
ขณะดำเนินชีวิตเป็นมนุษย์อย่างถูกต้องตรงทาง
เช่น ใครสร้างพระเจ้า คัมภีร์แห่งอริยะ
คนนำทางมิใช่ศาสดา วันพิพากษา มหาสติ ฯลฯ
4.วิดีทัศน์บันทึกการสื่อพระโอวาท
ในสถานที่ต่างๆที่เราเคยสื่อถ่ายทอดไว้
โดยสืบค้นได้จาก "ยูทูป" ย้อนหลัง
ดังนั้น
เราจึงประกาศข่าวประเสริฐนี้เพื่อให้ท่านรู้ว่า
ท่านสามารถเข้ามาศึกษาเรียนรู้พระโอวาท
ตามมรรควิถีจิตจักรวาลได้ในทุกช่องทาง
ในทุกวันเวลาที่ท่านสะดวก
องค์จิตจักรวาล
พระผู้เป็นเจ้าเหนือสิ่งทั้งปวง
ทรงจัดบทเรียนต่างๆที่ผู้ปรารถนาการหลุดพ้น
จักต้องเรียนรู้เพื่อการนำไปปฏิบัติในชีวิตจริง
ด้วยคำกล่าวสั้นๆเข้าใจง่ายไม่ซับซ้อนสับสน
เอาไว้ใน 4 ช่องทางสำหรับท่านทั้งหลายแล้ว
ถ้าท่านติดตามศึกษาเรียนรู้
ในทุกช่องทางอย่างต่อเนื่อง
ท่านจะมีข้อสงสัย ข้อไม่เข้าใจ น้อยลง
หรือท่านอาจจะไม่มีคำถามใดๆเลย
หากท่านเป็น ผู้เรียน ที่มุ่งมั่นขยันเรียน
ท่านจะมีแต่คำถามใหม่ๆเพื่อความรู้ใหม่ๆ
ที่พระองค์ยังไม่เคยกล่าวไว้เท่านั้น
ผู้ที่ศึกษาเรียนรู้
มรรควิถีจิตจักรวาลแค่บางช่องทาง
จึงมักจะมีคำถามที่พระองค์
เคยเมตตาสื่อสอนไว้แล้วอยู่บ่อยๆ
ดังนั้น
เมื่อมีคำถามหรือข้อไม่เข้าใจเรื่องใด
ให้ท่านเข้าไปสืบค้นในช่องทางทั้งสี่ก่อนนะ
นอกจากท่านจะได้คำตอบอย่างล้นอิ่มแล้ว
ที่ในนั้นท่านอาจจะพบความรู้พิเศษ
ที่ท่านไม่เคยรู้ว่าท่านยังไม่รู้แต่ต้องรู้อีกมาก
โดยเฉพาะในเฟซบุ้ค "วิสุทธิปัญญา"
ท่านสามารถเขียนถามเข้ามาได้ทุกคำถาม
แต่เรามีข้อแนะนำว่า
1.ต้องเป็นคำถามที่มิใช่เรื่องส่วนตัว
นอกจากที่เกี่ยวข้องกับกฎแห่งกรรม
สัจจธรรม หรือ ธรรมะที่เป็นสากล
ที่มนุษย์ทุกคนต้องรู้เท่านั้น
2.ต้องเป็นคำถามที่เมื่อเราตอบคำถามนั้นแล้ว
จะต้องไม่ไปก้าวล่วงบุคคลที่สามโดยเด็ดขาด
แม้ว่าจะเป็นคำถามที่น่าตอบก็ตาม
3.จะต้องไม่เป็นคำถามที่มิใช่องค์ธรรมความรู้
ที่จะนำพาจิตวิญญาณของท่านนิพพานได้
เช่น เรื่องอวิชชา มายาสาไถย ลี้ลับ หลอกลวง
หรือเป็นความรู้ที่ลัทธิอื่น คนอื่น เผยแพร่ไว้
ถ้าเราเห็นว่าตอบท่านแล้ว
มิได้ช่วยให้ท่าน "ฉลาดขึ้น" เราจะไม่ตอบ
เพราะมันรังแต่จะพาท่านลงต่ำสู่ความงมงาย
4.ถ้าเป็นความรู้ที่พระบิดา
ทรงเคยให้พระโอวาทเอาไว้แล้ว
ไม่ว่าในช่องทางใดที่กล่าวมาก็ตาม
คำถามนั้นจะมิมีคำตอบให้ท่าน
เพราะพระองค์ทรงเมตตาให้ท่านรู้จักการสืบค้น
ด้วยการเป็น คนเจ้าปัญญา
เป็นนักเรียนที่มีนิสัยรักการเรียนรู้รักการค้นคว้า
มิใช่เป็นได้แค่เพียง คนเจ้าปัญหา
ผู้มีทักษะการคิดรู้คิดเรียนรู้ด้วยตนเองบกพร่อง
พี่ๆน้องๆที่รักทั้งหลาย
บางคำถามที่มิได้รับคำตอบ
ที่ท่านพบเจอในเฟซบุ้คของเรา
ล้วนเป็นเพราะเหตุผล 4 ประการที่กล่าวนี้
เรารักท่านทั้งหลาย
แต่ตอบทุกคำถามของท่านไม่ได้
เพราะสาเหตุที่กล่าวมาเหล่านี้
กราบพระบาทพระบิดาฯ
เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
3/02/2021
02 กุมภาพันธ์ 2564
บททดสอบ
“
โรคระบาดร้ายแรง
เป็นบททดสอบความกลัวตาย
เพื่อสอนท่านให้รักตนเองและผู้อื่น
สอนให้ท่านมีวินัยในการดำเนินชีวิต
เป็นสังคมอย่างมีมหาสติและไม่ประมาท
...จงอย่าหนีเรียนเลย...
”
สิ่งเป็นภัยต่อจิตวิญญาณ
มารจะชวนท่านให้งมงาย
ซาตานจะชักจูงท่านให้เป็นสาวก
เจ้าลัทธิจะชวนท่านให้หลงทางนิพพาน
รอบตัวท่านมีแต่สิ่งเป็นภัยต่อจิตวิญญาณทั้งนั้น
01 กุมภาพันธ์ 2564
สนทนาประสาจิตจักรวาล 1/02/2021
สนทนาประสาจิตจักรวาล
พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
เมื่อเราเปิดเผยความจริงระดับอนุตรธรรม
ต่อท่านทั้งหลายให้ได้รู้กันแล้วว่า
จิตวิญญาณแก่นแท้ในการเป็นมนุษย์ของท่าน
เป็นผู้ขันอาสาองค์จิตจักรวาล
พระบิดาผู้ให้กำเนิดจิตวิญญาณของท่าน
ข้ามมิติเข้ามาในอนันตจักรวาลหรือเอกภพ
เพื่อปฏิบัติภารกิจแทนพระองค์ยังโลกเสรีนี้
โดยพวกท่านซึ่งเป็น ลูกแกะ ของพระองค์
ได้ให้สัจจะเป็นพันธะสัญญาต่อพระองค์ไว้ว่า
1.จะเข้ามาเกิดในระบบโลกเสรี
ซึ่งตั้งอยู่ภายในอนันตจักรวาลอันไพศาลนี้
โดยมีหน้าที่มาเกิดเป็น มนุษย์ เท่านั้น
มิใช่มาเกิดเพื่อเป็นเทพเทวดาหรือเป็นอะไรอื่น
2.เมื่อมาเกิดในระบบโลกเสรีนี้แล้ว
พวกท่านจะมุ่งปฏิบัติภารกิจทางจิตวิญญาณ
มิใช่การเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวพเนจร
โดยจะปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ระบุไว้
ใน พันธะสัญญา_6 ตัวอย่างเช่น
พวกท่านจะเป็นเพื่อนร่วมงานกับโลก
ด้วยการนำพลังงานความรักจากพระเจ้า
ที่จิตวิญญาณของท่านแบกขนติดตัวมา
เพื่อมอบให้กับดาวเคราะห์โลกให้จงได้
วิธีการมอบพลังงานความรักให้โลกนั้น
จิตวิญญาณจะมอบหมายให้ "จิตหยาบ"
ซึ่งตนเองแบ่งภาคออกมาทำหน้าที่แทน
ด้วยการสั่นสะเทือนจิตสามนึกด้านบวกสูงสุด
เป็นความรักเพื่อให้ต่อคนรอบข้าง
ซึ่งพลังงานความรักที่ผลิตออกมาให้โลกนั้น
จะอยู่ในรูปของคลื่นความถี่ทางไฟฟ้าแม่เหล็ก
ที่จะถูกนำไปใช้สร้างแรงสั่นสะเทือนในแกนโลก
ให้เกิด "จิตสามนึกด้านบวก" ของโลกต่อไป
หมายความว่าถ้ามนุษย์สามารถยกระดับ
แรงสั่นสะเทือนทางจิตสามนึกด้านบวกได้
มันจะทำให้โลกมีจิตสำนึกด้านบวกขึ้นมาเช่นกัน
หากตราบใดที่มนุษย์โลกโดยจิตหยาบ
ยังสามารถสั่นสะเทือนจิตสามนึกด้านบวกได้
โลกก็จะสั่นสะเทือนจิตสามนึกด้านบวกได้ต่อเนื่อง
แต่ถ้าเมื่อใดที่จิตสามนึกมนุษย์โลกตกต่ำ
จิตสำนึกของโลกก็จะพลอยตกต่ำตามไปด้วย
เมื่อนั้นโลกก็จะทำร้ายมนุษย์ด้วย ภัยพิบัติ
ดั่งนี้เป็นอาทิ
3.พวกท่านสัญญาว่า
จะเข้ามาทำหน้าที่กันภายใน 1 ยุค
ซึ่งเท่ากับกาลเวลานาน 6 หมื่นปีโลก
เมื่อสิ้นยุคแล้วพวกท่านจะกลับบ้าน
คำว่า "กลับบ้าน" หมายถึง
จิตวิญญาณแก่นแท้ของท่าน
จักต้อง "หลุดพ้น" ออกไปจากแรงดึงดูด
ทั้งของโลกเองและอนันตจักรวาลหรือเอกภพ
เพื่อกลับคืนสู่ดินแดนจิตจักรวาลที่ท่านจากมา
กลับไปกราบพระบาทพระบิดาโดยพลัน
พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
จิตวิญญาณแก่นแท้ของพวกท่านคือผู้กล้า
ที่ขันอาสามาปฏิบัติภารกิจสำคัญของพระเจ้า
โดยมีพิกัดที่ตั้งการทำงานอยู่ในระบบโลกเสรีนี้
เพื่อร่วมมือร่วมใจกันเป็นสัตว์สังคม
โดยร่วมกันใช้ความรักความเมตตาที่มีอยู่ในตน
ค้ำจุนโลกและอนันตจักรวาลให้สมดุลตลอดไป
แม้ว่านับหมื่นๆปีที่ผ่านมาจนถึงทุกวันนี้
จิตวิญญาณแก่นแท้ของท่านทั้งหลายนั้น
นับวันจะยิ่งล้มเหลวในภารกิจมากขึ้นเรื่อยๆ
จนเป็นเหตุให้โลกเสียสมดุลรุนแรงขึ้นเช่นกัน
เพราะจิตหยาบมีจิตสามนึกตกต่ำลงเรื่อยๆ
จนพระบิดาต้องมอบหมายให้ประดาฑูตสวรรค์
จากกลุ่มดาว แซจิสตาริอุส คือ "แซจิสตาเรี่ยน"
ผู้เชี่ยวชาญด้านอำนาจแม่เหล็กโลก
เข้ามาช่วยกัน "ค้ำจุน" สนามแม่เหล็กโลกไว้ให้
แต่บัดนี้เมื่อถึงกาลสิ้นยุคแล้ว
ไม่ว่าจะยังล้มเหลวอยู่หรือจะพอทำได้บ้าง
หน้าที่ๆสำคัญยิ่งกว่าสิ่งอื่นใดในขณะนี้ก็คือ
พวกท่านโดยจิตหยาบนี่แหละ
จะต้องส่งจิตวิญญาณแก่นแท้ของท่านกลับบ้าน
ในสภาวะของการ "หลุดพ้น" นิพพานให้ได้
ดังนั้น
เราจะกล่าวความจริงให้ท่านทั้งหลายรู้ว่า
ทางเลือกสุดท้ายที่เป็นทางลัด
ในการสร้างโอกาสให้จิตวิญญาณของท่าน
สามารถนิพพานก่อนตาย
ตายแล้วสามารถหนีแรงดึงดูดของจักรวาล
หลุดพ้นผ่านออกไปทาง "ด่านนภาลัย"
กลับไปกราบพระบาทพระบิดาได้ดังหวังนั้น
จิตวิญญาณของท่านต้องมีคุณสมบัติดังนี้
1.ต้องมีน้ำหนักมวลไม่เกิน 50 มิลลิกรัม
เท่ากับเมื่อเข้ามาเกิดในภพชาติแรกเท่านั้น
จะมีน้ำหนักตัวมากกว่านี้ไม่ได้
2.จะต้องจำพระบิดาแห่งจิตวิญญาณได้
และจำบ้านเกิดของตนนอกอนันตจักรวาลได้
เพราะจะต้องทำสามเหลี่ยมกับพระองค์ไว้
มิเช่นนั้นจิตวิญญาณแก่นแท้ของท่าน
แม้จิตหยาบจะสร้างโอกาสให้หลุดพ้นได้
ก็จะยังไม่สามารถหลุดพ้นออกไปได้เลย
ถ้ายังไม่รู้ว่าหลุดพ้นออกไปแล้วจะต้องไปที่ใด
เหมือนดั่งเรือที่ไร้หางเสือนั่นแหละ
แม้จะเดินทางออกจากท่าท่องไปในทะเลกว้าง
เรือนั้นก็จะไปถึงฝั่งท่าเรือที่จะต้องไปไม่ได้
ฉันใดก็ฉันนั้นแล
3.จะต้องละทิ้งประสบการณ์ทุกสิ่งอย่าง
ในช่วงเวลาที่ดำรงอยู่ในอนันตจักรวาล
รวมทั้งคุณสมบัติสำคัญที่จิตหยาบต้องใช้
ในการ "หมุนธรรมจักร" และใช้เพื่อการเรียนรู้
ขณะเข้ามาปฏิบัติภารกิจอยู่ในระบบโลกเสรี
ในบทบาทของ คนสองมิติ ที่เรียกกันว่า "มนุษย์"
ซึ่งจิตวิญญาณท่านรับเอามาจาก "วิหารสีขาว"
ตั้งแต่ชาติแรกที่ผ่านด่านนภาลัยมาเกิดเป็นมนุษย์
โดยก่อนจะหลุดพ้นออกไปต้องแวะถอดรหัสทิ้งที่นั่น
เมื่อคุณสมบัติของจิตวิญญาณ
ต้องมีครบถ้วนทั้งสามประการใหญ่ๆเช่นนี้แล้ว
หน้าที่ของจิตหยาบที่จะต้องทำให้บรรลุผลก็คือ
1.ไม่ก่อกรรมใหม่และแก้ไขกรรมเก่าให้สิ้น
โดยต้องรักให้ได้ ให้อภัยให้เป็น
ไม่กระทำการก้าวล่วงใคร
และต้องใช้สติปัญญาในการดำเนินชีวิต
โดยงดการใช้อารมณ์ขยะอย่างเด็ดขาด
ตลอดชีวิตของท่านที่เหลืออยู่นี้
2.ครองมหาสติและมีปณิธานแห่งนิพพาน
เพื่อการหลุดพ้นอย่างชัดเจนเป็นรูปธรรม
อย่าได้ขาดพร่องโดยเด็ดขาด
เพื่อทำให้จิตวิญญาณบรรลุผลในข้อแรกนั้น
3.มี กฤติสติ เพื่อป้องกันจิตของตน
มิให้ตกเป็นทาสของกิเลสอย่างถึงที่สุด
เพราะกิเลสเป็นที่มาแห่งตัณหาและอารมณ์ขยะ
ที่จะเป็นอุปสรรคของการสร้างคุณสมบัติในข้อแรก
4.ทำสามเหลี่ยมกับองค์จิตจักรวาลผ่านมาทางเรา
เพราะเราเป็น พระบุตรเอก ผู้มีเครื่องมือชิ้นสำคัญ
ที่สามารถติดต่อสื่อสารกับพระองค์ได้แต่ผู้เดียว
เพราะเหตุนี้เอง
ถ้าท่านจะทำสามเหลี่ยมกับพระองค์ได้
พวกท่านจึงต้องกระทำในนามของเราเท่านั้น
ไม่ต่างจากพระองค์เมื่อจะสื่อสารกับพวกท่าน
พระองค์ก็จะทรงสื่อพระโอวาทผ่านเรามาเช่นกัน
เราแนะนำสัจธรรมระดับอนุตรธรรมเหล่านี้
เพื่อช่วยพวกท่านให้ค้นพบหนทางและวิธีการ
ในการฉุดช่วยจิตวิญญาณของท่านกลับบ้าน
ในภพชาติสุดท้ายนี้กันให้จงได้
เพราะพระบิดาทรงพิพากษาโลกแล้ว
กราบพระบาทพระบิดาที่ทรงเมตตา
ประทานความรู้อันประเสริฐนี้
เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
1/02/2021
สนทนาประสาจิตจักรวาล 1/02/2021
สนทนาประสาจิตจักรวาล
1/02/2021
คำสอน 1/02/2021
เพราะเขาคือเจ้ากรรม
นายเวรของท่าน
จงอย่าเมินหนีคนที่จะ
เอาเปรียบเบียดเบียน
ท่าน เพราะนั่นคือบท
ทดสอบจิตสามนึก
30 มกราคม 2564
สนทนาประสาจิตจัรวาล 30/01/2021
สนทนาประสาจิตจัรวาล
พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
ปลายยุคพลังงานเก่านี้
นอกจากท่านทั้งหลายจะต้องต่อสู้กับภัยพิบัติ
ในแผนปฏิบัติการชำระโลกของพระบิดา
กับภัยธรรมชาติที่ถูกมนุษย์ทำโลกเสียสมดุลแล้ว
มันยังจะมีภัยอีกอย่างหนึ่งซึ่งพวกท่านต้องรู้
นั่นคือ "ภัย" จากการต่อสู้เพื่อการรู้แจ้ง
ภัยจากการต่อสู้เพื่อการรู้แจ้งนี้
หมายถึงการที่พวกท่านทั้งหลาย
จักต้องต่อสู้กับความไม่รู้ไม่เข้าใจของตน
จักต้องต่อสู้กับความเบาปัญญาของตน
จักต้องต่อสู้กับ "กิเลสตัณหา" ของตน
ซึ่งจะมีผู้รุมกันยื่นบททดสอบเหล่านี้แก่ท่าน
พวกนี้จะทำตนเป็นอุปสรรคใหญ่
บนเส้นทางการหลุดพ้นของจิตวิญญาณมนุษย์
ที่จะชักพาวิญญูชนคนดีๆออกนอกเส้นทาง
ให้ห่างไกลออกไปจาก มรรควิถีจิตจักรวาล
เพื่อนำพาจิตวิญญาณ "กลับบ้าน" นั่นเอง
พี่ๆน้องๆที่รักทั้งหลาย
ผู้ที่จะทำตนเป็นอุปสรรคสำคัญของท่าน
จะมีอยู่ด้วยกัน "3 ม." เท่านั้น
คือ
1.พวก มาร ที่อยู่ใกล้ตัว
โดยแบ่งออกเป็น มารภายใน
อันหมายถึง จิตฝ่ายต่ำ ของท่านเองนี่แหละ
จิตฝ่ายต่ำที่ว่านี้ก็คือ อารมณ์ขยะรายวัน
ที่ท่านสั่นสะเทือนจนเป็นสันดานเคยตัว
เมื่อถูกสิ่งเร้าภายนอกเป็น "เงื่อนไข" ยั่วยุ
ถ้าจิตหยาบของท่าน
สั่นสะเทือนมันอยู่เป็นประจำ
โดยไม่ค้ำจุนจิตไว้ด้วย มหาสติ ให้มั่นคง
นอกจากมันจะทำให้ท่านก่อเวรเกี่ยวกรรม
กับคนรอบข้างได้อย่างง่ายดายแล้ว
มันยังจะทำร้ายจิตวิญญาณแก่นแท้ของท่าน
ก็คือตัวของท่านเองเมื่อตายแล้วนั่นแหละ
จิตหยาบจะทำร้ายจิตวิญญาณให้หลงมิติ
จนไม่สามารถสั่นสะเทือนเป็นคุณสมบัติเดิมได้
เพราะจิตหยาบจะส่งคลื่นความถี่ด้านลบ
จากอารมณ์ขยะรายวันทั้งหลายที่เกิดขึ้น
ไปเหนี่ยวหน่วงถ่วงรั้งให้จิตวิญญาณที่อยู่ข้างใน
ไม่อาจสั่นสะเทือนเป็นความรักบริสุทธิ์ได้
เพราะจิตหยาบจะคอยบังคับข่มขืนเอาไว้นั่นเอง
ด้วยเหตุนี้เอง
องค์จิตจักรวาลผู้ให้กำเนิดจิตวิญญาณของท่าน
จึงทรงใช้เราให้มานำทางพวกท่านพ้นมือมาร
ด้วยการประทาน กฤติสติ ไว้เป็นอาวุธประจำตัว
เพื่อคอยบั่นกิเลสที่เป็นเหตุแห่งอารมณ์ขยะ
ซึ่งเป็นพวกมารภายในจิตใจท่านเองไงล่ะ
พวกที่สอง คือ มารภายนอก
"มารภายนอก" หมายถึง
เพื่อนมนุษย์ที่เกี่ยวกรรมกันมาจากอดีตชาติ
เพราะจิตวิญญาณของท่านในภพชาติที่แล้ว
ถูกจิตหยาบสร้างตราบาปเอาไว้ให้
ด้วยการทำร้ายเพื่อนมนุษย์แล้วฝากรอยแค้นไว้
จิตวิญญาณของเขาจึงตามมาเกิดเป็นมนุษย์
เพื่อหวังแก้แค้นเอาคืนให้หายเจ็บแค้น
ซึ่งจิตหยาบของท่านในภพชาตินี้มิได้รู้เรื่องด้วย
แต่ก็ต้องรับผิดชอบแทนจิตวิญญาณของท่าน
มารภายนอกที่เป็นพี่ๆน้องๆเพื่อนร่วมโลกนี้
ส่วนมากจะถูกชักนำให้มาสัมพันธ์ใกล้ชิดกัน
เช่น เป็นสมาชิกบางคนในครอบครัว
เป็นเพื่อนร่วมทีมงานในที่ทำงาน
เป็นเพื่อนบ้านในชุมชนเดียวกันกับท่าน
เป็นแพทย์พยาบาลรักษาการป่วยไข้ของท่าน
เป็นสมาชิกในชมรมเดียวกันกับท่าน
ฯลฯ
ที่น่าสังเกตว่าเป็นมารภายนอกก็คือ
ท่านจะต้องพบหาสมาคมกับพวกเขาบ่อยๆ
แล้วพวกเขาก็จะคอยทำตนเป็นอุปสรรค
ขัดขวางประโยชน์สุขของท่านอยู่ซ้ำซาก
เจ้ากรรมนายเวรบางรายอาจทำให้ท่านบาดเจ็บ
อาจทำให้ท่านได้รับอุบัติเหตุรุนแรง
จนถึงขั้นทำให้เสียชีวิตทั้งโดยตรงโดยอ้อม
หรือถ้าเป็นแพทย์ก็จะวินิจฉัยโรคผิดพลาด
ถ้าเป็นพยาบาลก็อาจจัดยาผิดจนท่านเดี้ยง
นอกจากนัันพวกที่เป็นมารภายนอก
ซึ่งน่ากลัวหยอกอยู่เสียเมื่อไหร่
ถ้าท่านขาดสติเมื่อใดเป็นต้องถูกทำร้ายทันที
พวกเขาก็คือ จิตวิญญาณอาฆาต
จะคอยติดตามท่านไปทุกหนแห่งดั่งเงาตามตัว
เมื่อใดก็ตามที่ท่านเกิดอาการ ขาดสติ
จิตวิญญาณพวกนี้ก็จะเข้าแทรกแซงจิตท่าน
แล้วบังคับจิตของท่านให้แสดงออกหรือกระทำ
ด้วยกายกรรมหรือวจีกรรมด้านชั่วร้าย
โดยจะเป็นใครก็ได้ที่อยู่ในสถานที่ตรงนั้น
เพื่อยั่วยุให้คนๆนั้นเกิดอาการโกรธหรือสติแตก
จนถึงขั้นทุบตีทำร้ายร่างกายของท่านแทนเขา
เพราะจิตวิญญาณพวกนี้ไม่มีเครื่องยนต์แห่งกรรม
จึงใช้วิธียืมมือคนอื่นมาทำร้ายท่านนั่นเอง
2.พวก มั่ว จะอยู่ตามโซเชี่ยล
คนพวกนี้จะเป็นพวกที่หน้าซื่อใจคด
จะมีบุคลิกแลดูดีเด่นเป็นพิเศษ
ช่างพูดช่างจำนรรจา
จะหยิบฉวยเอาสาระความรู้จากครูคนนั้นคนนี้
มาผสมผสานกันกับความเชื่อของตัวเอง
แล้วสร้างองค์ความรู้ของตนเองขึ้นมา
จุดขายก็คือ "ยั่วกิเลส" ของท่านนั่นแหละ
ตัวอย่างเช่น
ถ้าอยากรวย อยากเป็นเศรษฐี
ถ้าอยากมีอะไรๆเหนือมนุษย์คนอื่น
ถ้าอยากกำจัดกรรมเก่าของตนเองให้สิ้น
ถ้าอยากมีความสุขด้วยวิธีพิเศษ
ถ้าอยากใช้พลังทางจิตวิญญาณแทนจิตหยาบ
ฯลฯ
ทั้งหมดคร่าวๆที่เอามาเป็นตัวอย่างเหล่านี้
ท่านเห็นหรือไม่ว่ามันเป็นการหาประโยชน์
จากคนที่งมงายเพราะใช้ปัญญาไม่เป็น
จากคนที่ยังมีกิเลสความโลภครอบงำ
พวกมั่วนี้บางรายก็ทำตนเป็นคนน่าเชื่อถือ
ทำตนเป็นผู้มีความรอบรู้สูง
ทั้งๆที่จำเขามาเลียนแบบเขามาทุกท่าทาง
แล้วเอามาขยายความต่อด้วยความเชื่อส่วนตัว
แบบผิดๆถูกๆอย่างขาดสติและไร้จิตสามนึก
ซึ่งสอดคล้องกับคำว่า "มั่ว" นั่นแหละ
อาจบางทีจะเรียกพวกนี้ว่า "นักต้ม-ยำ" ก็ได้
คำว่า "ต้ม" แปลว่า "หลอกลวง" ให้คนหลงเชื่อ
คำว่า "ยำ" แปลว่า "ตำมั่ว" ให้รสแซ่บ
หมายถึงขายสาระที่ได้มาจากหลายครู
ซึ่งถูกนำเอามาผสมผสานกัน
โดยเลือกเอาที่เร้าใจคนจะถูกจะผิดไม่สนใจ
ขอให้ได้สาวกมากๆได้ยอดวิวเยอะๆก็พอ
คำกล่าวคำสอนของพวกมั่วนี้
บางเรื่องหาเหตุหาผลหาที่มาที่ไปไม่ได้ว่า
ถ้าทำตามพวกเขาแล้วมันจะสำเร็จได้เพราะอะไร
พวกท่านจึงอย่าหลงคล้อยตามง่ายๆ
ที่สำคัญคือพวกมั่วเองทำตามที่กล่าวต่อท่าน
จนเห็นผลสำเร็จชัดเจนมาแล้วบ้างหรือไม่
พวกมั่วนี้บางรายก็อวดทำตนเป็น "ผู้วิเศษ"
เพื่อเลี่ยงการให้คำอธิบายเป็นเหตุเป็นผล
เพราะสิ่งที่พวกเขานำมาสอนท่านนั้น
มันผิดกฎสากลจักรวาลและมันเป็นไปไม่ได้
ซึ่งพวกผู้วิเศษนี้รู้อยู่แล้วตั้งแต่แรก
พวกเขาจึงขายความลึกลับขายมหัศจรรย์
เพื่อตอบสนองความคาดหวังของท่านเป็นหลัก
ถ้าความคาดหวังของท่านเกิดจากกิเลส
ท่านก็จะตกเป็นทาสของพวกนี้ทันที
3.พวก มอด ผู้ลี้ลับ
พวกนี้จะเป็นมนุษย์เช่นท่าน
ซึ่งประกาศตนชัดเจนว่าฉันเป็นพวกมอด
ฉันเข้ามาในระบบโลกเพื่อช่วยมนุษย์
ฉันมีอำนาจเหนือมนุษย์โลก
ทั้งพลังจิต พลังปัญญา และเท็คโนโลยี
ฉันเป็นมิตรกับมนุษย์โลก
ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่พวกท่านจะได้ยินได้ฟัง
จากปากมนุษย์บางคน
ที่ผันตัวเป็นสาวกของพวกมอดไปแล้ว
จงจำไว้ว่า
ไม่ว่าโลกจะเกิดอะไรขึ้น
มนุษย์โลกก็สามารถรับมือเองได้
ไม่ต้องพึ่งเผ่าต่างถิ่นให้ช่วยหรอก
สำคัญคือเมื่อพระบิดาทรงชำระโลก
ด้วยมหันตภัยพิบัติขั้นสุดท้ายน่ะ
มอดทุกตัวที่อยู่ในระบบโลก
ก็อาจไม่ว่างที่จะช่วยมนุษย์โลกกันแล้ว
เนื่องจากจะต้องเอาตัวเองให้รอดก่อน
เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
30/01/2021