01 กุมภาพันธ์ 2564

สนทนาประสาจิตจักรวาล 1/02/2021

สนทนาประสาจิตจักรวาล

พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
เมื่อเราเปิดเผยความจริงระดับอนุตรธรรม
ต่อท่านทั้งหลายให้ได้รู้กันแล้วว่า
จิตวิญญาณแก่นแท้ในการเป็นมนุษย์ของท่าน
เป็นผู้ขันอาสาองค์จิตจักรวาล
พระบิดาผู้ให้กำเนิดจิตวิญญาณของท่าน
ข้ามมิติเข้ามาในอนันตจักรวาลหรือเอกภพ
เพื่อปฏิบัติภารกิจแทนพระองค์ยังโลกเสรีนี้
โดยพวกท่านซึ่งเป็น ลูกแกะ ของพระองค์
ได้ให้สัจจะเป็นพันธะสัญญาต่อพระองค์ไว้ว่า
1.จะเข้ามาเกิดในระบบโลกเสรี
ซึ่งตั้งอยู่ภายในอนันตจักรวาลอันไพศาลนี้
โดยมีหน้าที่มาเกิดเป็น มนุษย์ เท่านั้น
มิใช่มาเกิดเพื่อเป็นเทพเทวดาหรือเป็นอะไรอื่น
2.เมื่อมาเกิดในระบบโลกเสรีนี้แล้ว
พวกท่านจะมุ่งปฏิบัติภารกิจทางจิตวิญญาณ
มิใช่การเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวพเนจร
โดยจะปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ระบุไว้
ใน พันธะสัญญา 6 ตัวอย่างเช่น
พวกท่านจะเป็นเพื่อนร่วมงานกับโลก
ด้วยการนำพลังงานความรักจากพระเจ้า
ที่จิตวิญญาณของท่านแบกขนติดตัวมา
เพื่อมอบให้กับดาวเคราะห์โลกให้จงได้
วิธีการมอบพลังงานความรักให้โลกนั้น
จิตวิญญาณจะมอบหมายให้ "จิตหยาบ"
ซึ่งตนเองแบ่งภาคออกมาทำหน้าที่แทน
ด้วยการสั่นสะเทือนจิตสามนึกด้านบวกสูงสุด
เป็นความรักเพื่อให้ต่อคนรอบข้าง
ซึ่งพลังงานความรักที่ผลิตออกมาให้โลกนั้น
จะอยู่ในรูปของคลื่นความถี่ทางไฟฟ้าแม่เหล็ก
ที่จะถูกนำไปใช้สร้างแรงสั่นสะเทือนในแกนโลก
ให้เกิด "จิตสามนึกด้านบวก" ของโลกต่อไป
หมายความว่าถ้ามนุษย์สามารถยกระดับ
แรงสั่นสะเทือนทางจิตสามนึกด้านบวกได้
มันจะทำให้โลกมีจิตสำนึกด้านบวกขึ้นมาเช่นกัน
หากตราบใดที่มนุษย์โลกโดยจิตหยาบ
ยังสามารถสั่นสะเทือนจิตสามนึกด้านบวกได้
โลกก็จะสั่นสะเทือนจิตสามนึกด้านบวกได้ต่อเนื่อง
แต่ถ้าเมื่อใดที่จิตสามนึกมนุษย์โลกตกต่ำ
จิตสำนึกของโลกก็จะพลอยตกต่ำตามไปด้วย
เมื่อนั้นโลกก็จะทำร้ายมนุษย์ด้วย ภัยพิบัติ
ดั่งนี้เป็นอาทิ
3.พวกท่านสัญญาว่า
จะเข้ามาทำหน้าที่กันภายใน 1 ยุค
ซึ่งเท่ากับกาลเวลานาน 6 หมื่นปีโลก
เมื่อสิ้นยุคแล้วพวกท่านจะกลับบ้าน
คำว่า "กลับบ้าน" หมายถึง
จิตวิญญาณแก่นแท้ของท่าน
จักต้อง "หลุดพ้น" ออกไปจากแรงดึงดูด
ทั้งของโลกเองและอนันตจักรวาลหรือเอกภพ
เพื่อกลับคืนสู่ดินแดนจิตจักรวาลที่ท่านจากมา
กลับไปกราบพระบาทพระบิดาโดยพลัน
พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
จิตวิญญาณแก่นแท้ของพวกท่านคือผู้กล้า
ที่ขันอาสามาปฏิบัติภารกิจสำคัญของพระเจ้า
โดยมีพิกัดที่ตั้งการทำงานอยู่ในระบบโลกเสรีนี้
เพื่อร่วมมือร่วมใจกันเป็นสัตว์สังคม
โดยร่วมกันใช้ความรักความเมตตาที่มีอยู่ในตน
ค้ำจุนโลกและอนันตจักรวาลให้สมดุลตลอดไป
แม้ว่านับหมื่นๆปีที่ผ่านมาจนถึงทุกวันนี้
จิตวิญญาณแก่นแท้ของท่านทั้งหลายนั้น
นับวันจะยิ่งล้มเหลวในภารกิจมากขึ้นเรื่อยๆ
จนเป็นเหตุให้โลกเสียสมดุลรุนแรงขึ้นเช่นกัน
เพราะจิตหยาบมีจิตสามนึกตกต่ำลงเรื่อยๆ
จนพระบิดาต้องมอบหมายให้ประดาฑูตสวรรค์
จากกลุ่มดาว แซจิสตาริอุส คือ "แซจิสตาเรี่ยน"
ผู้เชี่ยวชาญด้านอำนาจแม่เหล็กโลก
เข้ามาช่วยกัน "ค้ำจุน" สนามแม่เหล็กโลกไว้ให้
แต่บัดนี้เมื่อถึงกาลสิ้นยุคแล้ว
ไม่ว่าจะยังล้มเหลวอยู่หรือจะพอทำได้บ้าง
หน้าที่ๆสำคัญยิ่งกว่าสิ่งอื่นใดในขณะนี้ก็คือ
พวกท่านโดยจิตหยาบนี่แหละ
จะต้องส่งจิตวิญญาณแก่นแท้ของท่านกลับบ้าน
ในสภาวะของการ "หลุดพ้น" นิพพานให้ได้
ดังนั้น
เราจะกล่าวความจริงให้ท่านทั้งหลายรู้ว่า
ทางเลือกสุดท้ายที่เป็นทางลัด
ในการสร้างโอกาสให้จิตวิญญาณของท่าน
สามารถนิพพานก่อนตาย
ตายแล้วสามารถหนีแรงดึงดูดของจักรวาล
หลุดพ้นผ่านออกไปทาง "ด่านนภาลัย"
กลับไปกราบพระบาทพระบิดาได้ดังหวังนั้น
จิตวิญญาณของท่านต้องมีคุณสมบัติดังนี้
1.ต้องมีน้ำหนักมวลไม่เกิน 50 มิลลิกรัม
เท่ากับเมื่อเข้ามาเกิดในภพชาติแรกเท่านั้น
จะมีน้ำหนักตัวมากกว่านี้ไม่ได้
2.จะต้องจำพระบิดาแห่งจิตวิญญาณได้
และจำบ้านเกิดของตนนอกอนันตจักรวาลได้
เพราะจะต้องทำสามเหลี่ยมกับพระองค์ไว้
มิเช่นนั้นจิตวิญญาณแก่นแท้ของท่าน
แม้จิตหยาบจะสร้างโอกาสให้หลุดพ้นได้
ก็จะยังไม่สามารถหลุดพ้นออกไปได้เลย
ถ้ายังไม่รู้ว่าหลุดพ้นออกไปแล้วจะต้องไปที่ใด
เหมือนดั่งเรือที่ไร้หางเสือนั่นแหละ
แม้จะเดินทางออกจากท่าท่องไปในทะเลกว้าง
เรือนั้นก็จะไปถึงฝั่งท่าเรือที่จะต้องไปไม่ได้
ฉันใดก็ฉันนั้นแล
3.จะต้องละทิ้งประสบการณ์ทุกสิ่งอย่าง
ในช่วงเวลาที่ดำรงอยู่ในอนันตจักรวาล
รวมทั้งคุณสมบัติสำคัญที่จิตหยาบต้องใช้
ในการ "หมุนธรรมจักร" และใช้เพื่อการเรียนรู้
ขณะเข้ามาปฏิบัติภารกิจอยู่ในระบบโลกเสรี
ในบทบาทของ คนสองมิติ ที่เรียกกันว่า "มนุษย์"
ซึ่งจิตวิญญาณท่านรับเอามาจาก "วิหารสีขาว"
ตั้งแต่ชาติแรกที่ผ่านด่านนภาลัยมาเกิดเป็นมนุษย์
โดยก่อนจะหลุดพ้นออกไปต้องแวะถอดรหัสทิ้งที่นั่น
เมื่อคุณสมบัติของจิตวิญญาณ
ต้องมีครบถ้วนทั้งสามประการใหญ่ๆเช่นนี้แล้ว
หน้าที่ของจิตหยาบที่จะต้องทำให้บรรลุผลก็คือ
1.ไม่ก่อกรรมใหม่และแก้ไขกรรมเก่าให้สิ้น
โดยต้องรักให้ได้ ให้อภัยให้เป็น
ไม่กระทำการก้าวล่วงใคร
และต้องใช้สติปัญญาในการดำเนินชีวิต
โดยงดการใช้อารมณ์ขยะอย่างเด็ดขาด
ตลอดชีวิตของท่านที่เหลืออยู่นี้
2.ครองมหาสติและมีปณิธานแห่งนิพพาน
เพื่อการหลุดพ้นอย่างชัดเจนเป็นรูปธรรม
อย่าได้ขาดพร่องโดยเด็ดขาด
เพื่อทำให้จิตวิญญาณบรรลุผลในข้อแรกนั้น
3.มี กฤติสติ เพื่อป้องกันจิตของตน
มิให้ตกเป็นทาสของกิเลสอย่างถึงที่สุด
เพราะกิเลสเป็นที่มาแห่งตัณหาและอารมณ์ขยะ
ที่จะเป็นอุปสรรคของการสร้างคุณสมบัติในข้อแรก
4.ทำสามเหลี่ยมกับองค์จิตจักรวาลผ่านมาทางเรา
เพราะเราเป็น พระบุตรเอก ผู้มีเครื่องมือชิ้นสำคัญ
ที่สามารถติดต่อสื่อสารกับพระองค์ได้แต่ผู้เดียว
เพราะเหตุนี้เอง
ถ้าท่านจะทำสามเหลี่ยมกับพระองค์ได้
พวกท่านจึงต้องกระทำในนามของเราเท่านั้น
ไม่ต่างจากพระองค์เมื่อจะสื่อสารกับพวกท่าน
พระองค์ก็จะทรงสื่อพระโอวาทผ่านเรามาเช่นกัน
เราแนะนำสัจธรรมระดับอนุตรธรรมเหล่านี้
เพื่อช่วยพวกท่านให้ค้นพบหนทางและวิธีการ
ในการฉุดช่วยจิตวิญญาณของท่านกลับบ้าน
ในภพชาติสุดท้ายนี้กันให้จงได้
เพราะพระบิดาทรงพิพากษาโลกแล้ว
กราบพระบาทพระบิดาที่ทรงเมตตา
ประทานความรู้อันประเสริฐนี้
เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา

1/02/2021