30 มกราคม 2564

สนทนาประสาจิตจัรวาล 30/01/2021

สนทนาประสาจิตจัรวาล

30/01/2021



พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า

ปลายยุคพลังงานเก่านี้
นอกจากท่านทั้งหลายจะต้องต่อสู้กับภัยพิบัติ
ในแผนปฏิบัติการชำระโลกของพระบิดา
กับภัยธรรมชาติที่ถูกมนุษย์ทำโลกเสียสมดุลแล้ว
มันยังจะมีภัยอีกอย่างหนึ่งซึ่งพวกท่านต้องรู้
นั่นคือ "ภัย" จากการต่อสู้เพื่อการรู้แจ้ง

ภัยจากการต่อสู้เพื่อการรู้แจ้งนี้
หมายถึงการที่พวกท่านทั้งหลาย
จักต้องต่อสู้กับความไม่รู้ไม่เข้าใจของตน
จักต้องต่อสู้กับความเบาปัญญาของตน
จักต้องต่อสู้กับ "กิเลสตัณหา" ของตน
ซึ่งจะมีผู้รุมกันยื่นบททดสอบเหล่านี้แก่ท่าน

พวกนี้จะทำตนเป็นอุปสรรคใหญ่
บนเส้นทางการหลุดพ้นของจิตวิญญาณมนุษย์
ที่จะชักพาวิญญูชนคนดีๆออกนอกเส้นทาง
ให้ห่างไกลออกไปจาก มรรควิถีจิตจักรวาล
เพื่อนำพาจิตวิญญาณ "กลับบ้าน" นั่นเอง

พี่ๆน้องๆที่รักทั้งหลาย

ผู้ที่จะทำตนเป็นอุปสรรคสำคัญของท่าน
จะมีอยู่ด้วยกัน "3 ม." เท่านั้น คือ

1.พวก มาร ที่อยู่ใกล้ตัว
โดยแบ่งออกเป็น มารภายใน
อันหมายถึง จิตฝ่ายต่ำ ของท่านเองนี่แหละ

จิตฝ่ายต่ำที่ว่านี้ก็คือ อารมณ์ขยะรายวัน
ที่ท่านสั่นสะเทือนจนเป็นสันดานเคยตัว
เมื่อถูกสิ่งเร้าภายนอกเป็น "เงื่อนไข" ยั่วยุ

ถ้าจิตหยาบของท่าน
สั่นสะเทือนมันอยู่เป็นประจำ
โดยไม่ค้ำจุนจิตไว้ด้วย มหาสติ ให้มั่นคง
นอกจากมันจะทำให้ท่านก่อเวรเกี่ยวกรรม
กับคนรอบข้างได้อย่างง่ายดายแล้ว
มันยังจะทำร้ายจิตวิญญาณแก่นแท้ของท่าน
ก็คือตัวของท่านเองเมื่อตายแล้วนั่นแหละ

จิตหยาบจะทำร้ายจิตวิญญาณให้หลงมิติ
จนไม่สามารถสั่นสะเทือนเป็นคุณสมบัติเดิมได้
เพราะจิตหยาบจะส่งคลื่นความถี่ด้านลบ
จากอารมณ์ขยะรายวันทั้งหลายที่เกิดขึ้น
ไปเหนี่ยวหน่วงถ่วงรั้งให้จิตวิญญาณที่อยู่ข้างใน
ไม่อาจสั่นสะเทือนเป็นความรักบริสุทธิ์ได้
เพราะจิตหยาบจะคอยบังคับข่มขืนเอาไว้นั่นเอง

ด้วยเหตุนี้เอง
องค์จิตจักรวาลผู้ให้กำเนิดจิตวิญญาณของท่าน
จึงทรงใช้เราให้มานำทางพวกท่านพ้นมือมาร
ด้วยการประทาน กฤติสติ ไว้เป็นอาวุธประจำตัว
เพื่อคอยบั่นกิเลสที่เป็นเหตุแห่งอารมณ์ขยะ
ซึ่งเป็นพวกมารภายในจิตใจท่านเองไงล่ะ

พวกที่สอง คือ มารภายนอก

"มารภายนอก" หมายถึง
เพื่อนมนุษย์ที่เกี่ยวกรรมกันมาจากอดีตชาติ
เพราะจิตวิญญาณของท่านในภพชาติที่แล้ว
ถูกจิตหยาบสร้างตราบาปเอาไว้ให้
ด้วยการทำร้ายเพื่อนมนุษย์แล้วฝากรอยแค้นไว้
จิตวิญญาณของเขาจึงตามมาเกิดเป็นมนุษย์
เพื่อหวังแก้แค้นเอาคืนให้หายเจ็บแค้น
ซึ่งจิตหยาบของท่านในภพชาตินี้มิได้รู้เรื่องด้วย
แต่ก็ต้องรับผิดชอบแทนจิตวิญญาณของท่าน

มารภายนอกที่เป็นพี่ๆน้องๆเพื่อนร่วมโลกนี้
ส่วนมากจะถูกชักนำให้มาสัมพันธ์ใกล้ชิดกัน
เช่น เป็นสมาชิกบางคนในครอบครัว
เป็นเพื่อนร่วมทีมงานในที่ทำงาน
เป็นเพื่อนบ้านในชุมชนเดียวกันกับท่าน
เป็นแพทย์พยาบาลรักษาการป่วยไข้ของท่าน
เป็นสมาชิกในชมรมเดียวกันกับท่าน
ฯลฯ

ที่น่าสังเกตว่าเป็นมารภายนอกก็คือ
ท่านจะต้องพบหาสมาคมกับพวกเขาบ่อยๆ
แล้วพวกเขาก็จะคอยทำตนเป็นอุปสรรค
ขัดขวางประโยชน์สุขของท่านอยู่ซ้ำซาก
เจ้ากรรมนายเวรบางรายอาจทำให้ท่านบาดเจ็บ
อาจทำให้ท่านได้รับอุบัติเหตุรุนแรง
จนถึงขั้นทำให้เสียชีวิตทั้งโดยตรงโดยอ้อม
หรือถ้าเป็นแพทย์ก็จะวินิจฉัยโรคผิดพลาด
ถ้าเป็นพยาบาลก็อาจจัดยาผิดจนท่านเดี้ยง

นอกจากนัันพวกที่เป็นมารภายนอก
ซึ่งน่ากลัวหยอกอยู่เสียเมื่อไหร่
ถ้าท่านขาดสติเมื่อใดเป็นต้องถูกทำร้ายทันที
พวกเขาก็คือ จิตวิญญาณอาฆาต
จะคอยติดตามท่านไปทุกหนแห่งดั่งเงาตามตัว

เมื่อใดก็ตามที่ท่านเกิดอาการ ขาดสติ
จิตวิญญาณพวกนี้ก็จะเข้าแทรกแซงจิตท่าน
แล้วบังคับจิตของท่านให้แสดงออกหรือกระทำ
ด้วยกายกรรมหรือวจีกรรมด้านชั่วร้าย
โดยจะเป็นใครก็ได้ที่อยู่ในสถานที่ตรงนั้น
เพื่อยั่วยุให้คนๆนั้นเกิดอาการโกรธหรือสติแตก
จนถึงขั้นทุบตีทำร้ายร่างกายของท่านแทนเขา
เพราะจิตวิญญาณพวกนี้ไม่มีเครื่องยนต์แห่งกรรม
จึงใช้วิธียืมมือคนอื่นมาทำร้ายท่านนั่นเอง

2.พวก มั่ว จะอยู่ตามโซเชี่ยล
คนพวกนี้จะเป็นพวกที่หน้าซื่อใจคด
จะมีบุคลิกแลดูดีเด่นเป็นพิเศษ
ช่างพูดช่างจำนรรจา
จะหยิบฉวยเอาสาระความรู้จากครูคนนั้นคนนี้
มาผสมผสานกันกับความเชื่อของตัวเอง
แล้วสร้างองค์ความรู้ของตนเองขึ้นมา
จุดขายก็คือ "ยั่วกิเลส" ของท่านนั่นแหละ
ตัวอย่างเช่น

ถ้าอยากรวย อยากเป็นเศรษฐี
ถ้าอยากมีอะไรๆเหนือมนุษย์คนอื่น
ถ้าอยากกำจัดกรรมเก่าของตนเองให้สิ้น
ถ้าอยากมีความสุขด้วยวิธีพิเศษ
ถ้าอยากใช้พลังทางจิตวิญญาณแทนจิตหยาบ
ฯลฯ

ทั้งหมดคร่าวๆที่เอามาเป็นตัวอย่างเหล่านี้
ท่านเห็นหรือไม่ว่ามันเป็นการหาประโยชน์
จากคนที่งมงายเพราะใช้ปัญญาไม่เป็น
จากคนที่ยังมีกิเลสความโลภครอบงำ

พวกมั่วนี้บางรายก็ทำตนเป็นคนน่าเชื่อถือ
ทำตนเป็นผู้มีความรอบรู้สูง
ทั้งๆที่จำเขามาเลียนแบบเขามาทุกท่าทาง
แล้วเอามาขยายความต่อด้วยความเชื่อส่วนตัว
แบบผิดๆถูกๆอย่างขาดสติและไร้จิตสามนึก
ซึ่งสอดคล้องกับคำว่า "มั่ว" นั่นแหละ
อาจบางทีจะเรียกพวกนี้ว่า "นักต้ม-ยำ" ก็ได้

คำว่า "ต้ม" แปลว่า "หลอกลวง" ให้คนหลงเชื่อ
คำว่า "ยำ" แปลว่า "ตำมั่ว" ให้รสแซ่บ
หมายถึงขายสาระที่ได้มาจากหลายครู
ซึ่งถูกนำเอามาผสมผสานกัน
โดยเลือกเอาที่เร้าใจคนจะถูกจะผิดไม่สนใจ
ขอให้ได้สาวกมากๆได้ยอดวิวเยอะๆก็พอ

คำกล่าวคำสอนของพวกมั่วนี้
บางเรื่องหาเหตุหาผลหาที่มาที่ไปไม่ได้ว่า
ถ้าทำตามพวกเขาแล้วมันจะสำเร็จได้เพราะอะไร
พวกท่านจึงอย่าหลงคล้อยตามง่ายๆ
ที่สำคัญคือพวกมั่วเองทำตามที่กล่าวต่อท่าน
จนเห็นผลสำเร็จชัดเจนมาแล้วบ้างหรือไม่

พวกมั่วนี้บางรายก็อวดทำตนเป็น "ผู้วิเศษ"
เพื่อเลี่ยงการให้คำอธิบายเป็นเหตุเป็นผล
เพราะสิ่งที่พวกเขานำมาสอนท่านนั้น
มันผิดกฎสากลจักรวาลและมันเป็นไปไม่ได้
ซึ่งพวกผู้วิเศษนี้รู้อยู่แล้วตั้งแต่แรก
พวกเขาจึงขายความลึกลับขายมหัศจรรย์
เพื่อตอบสนองความคาดหวังของท่านเป็นหลัก
ถ้าความคาดหวังของท่านเกิดจากกิเลส
ท่านก็จะตกเป็นทาสของพวกนี้ทันที

3.พวก มอด ผู้ลี้ลับ
พวกนี้จะเป็นมนุษย์เช่นท่าน
ซึ่งประกาศตนชัดเจนว่าฉันเป็นพวกมอด
ฉันเข้ามาในระบบโลกเพื่อช่วยมนุษย์
ฉันมีอำนาจเหนือมนุษย์โลก
ทั้งพลังจิต พลังปัญญา และเท็คโนโลยี
ฉันเป็นมิตรกับมนุษย์โลก
ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่พวกท่านจะได้ยินได้ฟัง
จากปากมนุษย์บางคน
ที่ผันตัวเป็นสาวกของพวกมอดไปแล้ว

จงจำไว้ว่า
ไม่ว่าโลกจะเกิดอะไรขึ้น
มนุษย์โลกก็สามารถรับมือเองได้
ไม่ต้องพึ่งเผ่าต่างถิ่นให้ช่วยหรอก
สำคัญคือเมื่อพระบิดาทรงชำระโลก
ด้วยมหันตภัยพิบัติขั้นสุดท้ายน่ะ
มอดทุกตัวที่อยู่ในระบบโลก
ก็อาจไม่ว่างที่จะช่วยมนุษย์โลกกันแล้ว
เนื่องจากจะต้องเอาตัวเองให้รอดก่อน

เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
30/01/2021