#คัมภีร์อนุตรธรรมภาคจิตจักรวาล
(เพื่อยุวจิตจักรวาลยุคสุดท้าย)
พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
พระโอวาทจากองค์จิตจักรวาล
ที่พระองค์ทรงสื่อถ่ายทอดถึงพวกท่านผ่านเรามา
เป็นเรื่องของ “นิพพาน” ในความหมายแรกก็คือ
#เรื่องของนิพพานก่อนตาย
คือ “การนิพพานกิเลส” หรือดับการเกิดดับของกิเลส
ด้วยการชำระหรือดับให้สิ้นเชื้อที่มีแฝงอยู่ในจิตหยาบ
โดยหลักการชำระแบบง่ายๆก็คือ
1.เมื่อจิตรับรู้สิ่งเร้าใดๆจากกลไกอายตนะภายนอก
จิตมีหน้าที่แค่เรียนรู้ว่าสิ่งนั้นคืออะไรเป็นอะไรอย่างไร
ซึ่งกล่าวสั้นๆก็คือ #รับรู้เพื่อเรียนรู้
ตัวอย่างเช่น
ถ้ามีใครสักคนมายืนชี้หน้าด่าว่าคุณอย่างสาดเสียเทเสีย
ก็ให้คุณแค่เรียนรู้เท่านั้นว่า
1.1 เขากำลังด่าคุณมิได้ชื่นชมคุณ
1.2 เมื่อรู้แล้วว่าคุณกำลังถูกด่าก็ให้ฟังแค่ว่า
เขาด่าคุณด้วยเรื่องอะไรบ้าง
1.3 อะไรบ้างที่เป็นสาเหตุให้คุณถูกเขาด่าแบบนั้น
1.4 เขาด่าเพราะคุณทำผิดต่อเขาเช่นนั้นจริงหรือไม่
ถ้าพบว่าคุณผิดจริงก็ต้องยอมรับความจริงที่ถูกเขาด่า
จงอย่าไปด่าตอบหรือโกรธตอบเขาเด็ดขาด
เพราะว่านั่นเป็นการชวนกันหมุนกรรมจักรไปลงนรก
เพราะถ้าคุณด่าตอบหรือโกรธกลับเมื่อถูกเขาด่า
แสดงว่าคุณไม่ยอมรับกรรมที่ได้ทำผิดต่อเขานั้น
เมื่อตายแล้วจิตวิญญาณคุณต้องไปรับกรรมนั้นในนรก
เพื่อสร้างสติทางวิญญาณด้วยการสำนึกรู้ให้ได้ว่า
ตอนที่เป็นมนุษย์นั้นจิตหยาบทำผิดบาปอะไรไว้
จึงต้องตกนรกแล้วรับทุกข์ในแบบที่ยมบาลหยิบยื่นให้
ถ้าจิตวิญญาณนึกไม่ออกบอกไม่ได้ว่าทำผิดอะไร
จิตวิญญาณคือตัวคุณนี่แหละจะต้องทนทุกข์อยู่เช่นนั้น
จนกว่าจะสำนึกได้ว่าความผิดบาปนั้นคืออะไรกันแน่
หากนึกไม่ออกบอกไม่ได้ก็ต้องถูกทำทุกข์อยู่อย่างนั้น
นั่นคือจะต้องตกนรกยาวนานกันเลยทีเดียว
ยิ่งในรายที่ตอนยังมีชีวิตเป็นมนุษย์
จิตหยาบปลิ้นปล้อนกะล่อนตอแหลหรือว่าโกหกเก่ง
พูดเท็จพูดไม่จริงและไม่ยอมรับความจริงว่าตนเองผิด
เป็นคนประเภทเชื่อถือไม่ได้กับชอบยืนกระต่ายขาเดียว
ปฏิบัติตนแบบนี้เป็น “สันดาน” จนฝังไว้ในสัญญาขันธ์
เมื่อจิตวิญญาณตายแล้วก็จะถือรหัสโกหกไปนรกด้วย
ขณะที่ตอนเป็นมนุษย์ว่าสันดอนขุดง่ายสันดานขุดยาก
ถ้าตายเป็นจิตวิญญาณแล้วจะมิขุดออกยากยิ่งกว่าหรือ
นอกจากนั้น
เมื่อเขาด่าคุณมาแล้วคุณด่าตอบเขากลับไป
นอกจากจิตวิญญาณของทั้งคุณและเขาต้องตกนรกแล้ว
เมื่อพ้นขุมนรกออกมาจนได้รับโอกาสให้เกิดใหม่ได้
จิตวิญญาณของคุณทั้งสองคนจะถูกกรรมเกี่ยวเหนี่ยวมา
ให้ต้องเผชิญชะตากรรมนั้นร่วมกันอีกในชาติใดชาติหนึ่ง
ตามแรงโกรธแค้นอาฆาตพยาบาทที่ฝังอยู่ในสัญญาขันธ์
ให้พวกคุณได้กลับมาแก้ไขใหม่ให้ถูกต้องกว่าที่ผ่านมา
แต่ถ้าจิตวิญญาณใครพยาบาทด้วยการโกรธแค้นรุนแรง
จิตวิญญาณฝ่ายนั้นก็จะทำการ #แก้แค้นแทนการแก้ไข
เรื่องเล็กก็จะกลายเป็นเรื่องใหญ่เรื่องง่ายจะกลายเป็นยาก
เหตุเพราะพวกคุณไม่รู้ว่าจิตหยาบโดยสัญญาขันธ์นั้น
มันสามารถจะจำได้ทั้งเรื่องราวและอารมณ์รู้สึกนึกคิด
โดยไม่มีอายุขัยในการบันทึกข้อมูลและจดจำอารมณ์รู้สึก
เพราะความทรงจำทั้งหมดในสัญญาขันธ์ของจิตหยาบนั้น
จะถูกถ่ายทอดให้จิตวิญญาณเมื่อก่อนตายเพียงไม่กี่นาที
เนื่องจากทุกสิ่งที่จิตหยาบทำจิตวิญญาณต้องรับผิดชอบ
แม้ว่าจิตวิญญาณมิได้ทำผิดบาปนั้นด้วยตนเองก็ตาม
#การใดที่ผู้รับมอบอำนาจเป็นผู้กระทำลงไป
#ผู้มอบอำนาจต้องรับผิดชอบเหมือนตนทำเองทั้งหมด
#โดยจะปฏิเสธความรับผิดชอบว่าตนไม่ได้ทำนั้นไม่ได้
1.5 ถ้าฟังดูแล้วเรียนรู้ได้ว่าเขาด่าเพราะเขาเข้าใจผิด
คุณก็จะต้องรีบ “ข่มใจตนไว้” โดยต้องไม่โกรธตอบ
ปล่อยให้คำด่ากับอาการที่เขาแสดงออกหรือกระทำต่อคุณ
เป็นเพียงแค่ #ข้อมูล ที่คุณสัมผัสรู้ดูเห็นมันได้เท่านั้นก็พอ
จงอย่าใช้ข้อมูลนั้นเป็นสิ่งเร้าเย้ายั่วกิเลสในจิตหยาบให้ตื่น
ด้วยการหยิบฉวยเอาข้อมูลนั้นมาเป็น #เงื่อนไขด้านลบ
เพื่อทำร้ายจิตหยาบของคุณให้ไม่สงบจนเกิดทุกข์ขึ้นได้
ขั้นตอนนี้คือ #รับรู้ไม่รับเอา ด้วยการครอง #มหาสติ ให้ได้
โดยมหาสติหมายถึง #การมีธรรมชาติสมาธิ ของคนปกติ
ซึ่งปฏิบัติได้โดยไม่ต้องแกล้งทำเป็นคนหูหนวกตาบอด
ก็สามารถเอาชนะกิเลสมารในจิตหยาบของคุณได้ง่ายแล้ว
ถ้ายิ่งคุณครองมหาสติตามมรรควิถีจิตจักรวาลเป็นประจำ
จิตหยาบของคุณที่ปกติมันจะซุกซนเหมือนพวกลิงค่างนั้น
จะเกิดความสงบเสงี่ยมจนอยู่ในโอวาทของคุณได้มากขึ้น
นานวันเข้าจิตหยาบของคุณก็จะถูกชำระกิเลสไปจนสิ้น
เพราะมันกลายเป็นคุณสมบัติใหม่ของจิตหยาบคุณไปแล้ว
จากการที่คุณฉลาดรับรู้โดยไม่รับเอามาสร้างกิเลสอีกเลย
ดังนั้น
การรู้เท่าทันกิเลสในจิตหยาบตนเอง
การรู้เท่าทันเงื่อนไขของสิ่งเร้าต่างๆจากภายนอก
การรู้เท่าทันเงื่อนไขของสิ่งเร้าต่างๆจากจิตของตนเอง
ที่ประกอบด้วย “สามนึก” หรือรวมเรียกว่าจิตสามนึก
จึงเป็นวิธีการชำระจิตให้สะอาดปราศจากกิเลสมาร
ดีกว่าการทำตามคนนำทางตาบอดที่ทำให้อายตนะบอด
เพราะวิธีปฏิบัติทำตามลำพังโดยไม่มีใครเป็นเงื่อนไขให้
หรือว่ามีแต่คุณก็แกล้งทำเป็นคนพิการด้านอายตนะ
เพื่อปิดหน้าต่างที่เป็นช่องทางผัสสะของจิตหยาบเอาไว้
ทำให้จิตหยาบรับรู้ข้อมูลไม่ได้การเรียนรู้จึงเกิดขึ้นไม่ได้
ซึ่งเป็นการปฏิบัติธรรมที่ไม่ถูกต้องตรงธรรมแต่อย่างใด
นี่จึงเป็นที่มาของคำว่า #บวชนานแล้วนิพพานไม่ได้
หมายถึงดับการเกิดดับของกิเลสไม่ได้นั่นเอง
เพราะมุ่งที่จะปฏิบัติธรรมคนเดียวทั้งๆที่เป็นสัตว์สังคม
เพราะมุ่งทำอายตนะทั้งห้าให้พิการทั้งๆที่มันยังปกติอยู่
เพราะไม่เข้าใจคำว่า #ธรรมชาติผู้กำหนดไว้คือพระเจ้า
เพราะไม่เข้าใจว่า
ที่คนชอบธรรมทุกคนจะต้องปฏิบัติจะต้องทำกันนั้น
เป็นแบบไหนกันแน่ระหว่าง “ธรรมชาติ” กับ “ธรรมดา”
(ยังมีตอนต่อไปอีก)
เอเมน สาธุ
ถ่ายทอดคลื่นความคิดจากองค์จิตจักรวาล
โดย #ปัญญาวิสุทธิ์
24/10/2566
(เพื่อยุวจิตจักรวาลยุคสุดท้าย)
พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
พระโอวาทจากองค์จิตจักรวาล
ที่พระองค์ทรงสื่อถ่ายทอดถึงพวกท่านผ่านเรามา
เป็นเรื่องของ “นิพพาน” ในความหมายแรกก็คือ
#เรื่องของนิพพานก่อนตาย
คือ “การนิพพานกิเลส” หรือดับการเกิดดับของกิเลส
ด้วยการชำระหรือดับให้สิ้นเชื้อที่มีแฝงอยู่ในจิตหยาบ
โดยหลักการชำระแบบง่ายๆก็คือ
1.เมื่อจิตรับรู้สิ่งเร้าใดๆจากกลไกอายตนะภายนอก
จิตมีหน้าที่แค่เรียนรู้ว่าสิ่งนั้นคืออะไรเป็นอะไรอย่างไร
ซึ่งกล่าวสั้นๆก็คือ #รับรู้เพื่อเรียนรู้
ตัวอย่างเช่น
ถ้ามีใครสักคนมายืนชี้หน้าด่าว่าคุณอย่างสาดเสียเทเสีย
ก็ให้คุณแค่เรียนรู้เท่านั้นว่า
1.1 เขากำลังด่าคุณมิได้ชื่นชมคุณ
1.2 เมื่อรู้แล้วว่าคุณกำลังถูกด่าก็ให้ฟังแค่ว่า
เขาด่าคุณด้วยเรื่องอะไรบ้าง
1.3 อะไรบ้างที่เป็นสาเหตุให้คุณถูกเขาด่าแบบนั้น
1.4 เขาด่าเพราะคุณทำผิดต่อเขาเช่นนั้นจริงหรือไม่
ถ้าพบว่าคุณผิดจริงก็ต้องยอมรับความจริงที่ถูกเขาด่า
จงอย่าไปด่าตอบหรือโกรธตอบเขาเด็ดขาด
เพราะว่านั่นเป็นการชวนกันหมุนกรรมจักรไปลงนรก
เพราะถ้าคุณด่าตอบหรือโกรธกลับเมื่อถูกเขาด่า
แสดงว่าคุณไม่ยอมรับกรรมที่ได้ทำผิดต่อเขานั้น
เมื่อตายแล้วจิตวิญญาณคุณต้องไปรับกรรมนั้นในนรก
เพื่อสร้างสติทางวิญญาณด้วยการสำนึกรู้ให้ได้ว่า
ตอนที่เป็นมนุษย์นั้นจิตหยาบทำผิดบาปอะไรไว้
จึงต้องตกนรกแล้วรับทุกข์ในแบบที่ยมบาลหยิบยื่นให้
ถ้าจิตวิญญาณนึกไม่ออกบอกไม่ได้ว่าทำผิดอะไร
จิตวิญญาณคือตัวคุณนี่แหละจะต้องทนทุกข์อยู่เช่นนั้น
จนกว่าจะสำนึกได้ว่าความผิดบาปนั้นคืออะไรกันแน่
หากนึกไม่ออกบอกไม่ได้ก็ต้องถูกทำทุกข์อยู่อย่างนั้น
นั่นคือจะต้องตกนรกยาวนานกันเลยทีเดียว
ยิ่งในรายที่ตอนยังมีชีวิตเป็นมนุษย์
จิตหยาบปลิ้นปล้อนกะล่อนตอแหลหรือว่าโกหกเก่ง
พูดเท็จพูดไม่จริงและไม่ยอมรับความจริงว่าตนเองผิด
เป็นคนประเภทเชื่อถือไม่ได้กับชอบยืนกระต่ายขาเดียว
ปฏิบัติตนแบบนี้เป็น “สันดาน” จนฝังไว้ในสัญญาขันธ์
เมื่อจิตวิญญาณตายแล้วก็จะถือรหัสโกหกไปนรกด้วย
ขณะที่ตอนเป็นมนุษย์ว่าสันดอนขุดง่ายสันดานขุดยาก
ถ้าตายเป็นจิตวิญญาณแล้วจะมิขุดออกยากยิ่งกว่าหรือ
นอกจากนั้น
เมื่อเขาด่าคุณมาแล้วคุณด่าตอบเขากลับไป
นอกจากจิตวิญญาณของทั้งคุณและเขาต้องตกนรกแล้ว
เมื่อพ้นขุมนรกออกมาจนได้รับโอกาสให้เกิดใหม่ได้
จิตวิญญาณของคุณทั้งสองคนจะถูกกรรมเกี่ยวเหนี่ยวมา
ให้ต้องเผชิญชะตากรรมนั้นร่วมกันอีกในชาติใดชาติหนึ่ง
ตามแรงโกรธแค้นอาฆาตพยาบาทที่ฝังอยู่ในสัญญาขันธ์
ให้พวกคุณได้กลับมาแก้ไขใหม่ให้ถูกต้องกว่าที่ผ่านมา
แต่ถ้าจิตวิญญาณใครพยาบาทด้วยการโกรธแค้นรุนแรง
จิตวิญญาณฝ่ายนั้นก็จะทำการ #แก้แค้นแทนการแก้ไข
เรื่องเล็กก็จะกลายเป็นเรื่องใหญ่เรื่องง่ายจะกลายเป็นยาก
เหตุเพราะพวกคุณไม่รู้ว่าจิตหยาบโดยสัญญาขันธ์นั้น
มันสามารถจะจำได้ทั้งเรื่องราวและอารมณ์รู้สึกนึกคิด
โดยไม่มีอายุขัยในการบันทึกข้อมูลและจดจำอารมณ์รู้สึก
เพราะความทรงจำทั้งหมดในสัญญาขันธ์ของจิตหยาบนั้น
จะถูกถ่ายทอดให้จิตวิญญาณเมื่อก่อนตายเพียงไม่กี่นาที
เนื่องจากทุกสิ่งที่จิตหยาบทำจิตวิญญาณต้องรับผิดชอบ
แม้ว่าจิตวิญญาณมิได้ทำผิดบาปนั้นด้วยตนเองก็ตาม
#การใดที่ผู้รับมอบอำนาจเป็นผู้กระทำลงไป
#ผู้มอบอำนาจต้องรับผิดชอบเหมือนตนทำเองทั้งหมด
#โดยจะปฏิเสธความรับผิดชอบว่าตนไม่ได้ทำนั้นไม่ได้
1.5 ถ้าฟังดูแล้วเรียนรู้ได้ว่าเขาด่าเพราะเขาเข้าใจผิด
คุณก็จะต้องรีบ “ข่มใจตนไว้” โดยต้องไม่โกรธตอบ
ปล่อยให้คำด่ากับอาการที่เขาแสดงออกหรือกระทำต่อคุณ
เป็นเพียงแค่ #ข้อมูล ที่คุณสัมผัสรู้ดูเห็นมันได้เท่านั้นก็พอ
จงอย่าใช้ข้อมูลนั้นเป็นสิ่งเร้าเย้ายั่วกิเลสในจิตหยาบให้ตื่น
ด้วยการหยิบฉวยเอาข้อมูลนั้นมาเป็น #เงื่อนไขด้านลบ
เพื่อทำร้ายจิตหยาบของคุณให้ไม่สงบจนเกิดทุกข์ขึ้นได้
ขั้นตอนนี้คือ #รับรู้ไม่รับเอา ด้วยการครอง #มหาสติ ให้ได้
โดยมหาสติหมายถึง #การมีธรรมชาติสมาธิ ของคนปกติ
ซึ่งปฏิบัติได้โดยไม่ต้องแกล้งทำเป็นคนหูหนวกตาบอด
ก็สามารถเอาชนะกิเลสมารในจิตหยาบของคุณได้ง่ายแล้ว
ถ้ายิ่งคุณครองมหาสติตามมรรควิถีจิตจักรวาลเป็นประจำ
จิตหยาบของคุณที่ปกติมันจะซุกซนเหมือนพวกลิงค่างนั้น
จะเกิดความสงบเสงี่ยมจนอยู่ในโอวาทของคุณได้มากขึ้น
นานวันเข้าจิตหยาบของคุณก็จะถูกชำระกิเลสไปจนสิ้น
เพราะมันกลายเป็นคุณสมบัติใหม่ของจิตหยาบคุณไปแล้ว
จากการที่คุณฉลาดรับรู้โดยไม่รับเอามาสร้างกิเลสอีกเลย
ดังนั้น
การรู้เท่าทันกิเลสในจิตหยาบตนเอง
การรู้เท่าทันเงื่อนไขของสิ่งเร้าต่างๆจากภายนอก
การรู้เท่าทันเงื่อนไขของสิ่งเร้าต่างๆจากจิตของตนเอง
ที่ประกอบด้วย “สามนึก” หรือรวมเรียกว่าจิตสามนึก
จึงเป็นวิธีการชำระจิตให้สะอาดปราศจากกิเลสมาร
ดีกว่าการทำตามคนนำทางตาบอดที่ทำให้อายตนะบอด
เพราะวิธีปฏิบัติทำตามลำพังโดยไม่มีใครเป็นเงื่อนไขให้
หรือว่ามีแต่คุณก็แกล้งทำเป็นคนพิการด้านอายตนะ
เพื่อปิดหน้าต่างที่เป็นช่องทางผัสสะของจิตหยาบเอาไว้
ทำให้จิตหยาบรับรู้ข้อมูลไม่ได้การเรียนรู้จึงเกิดขึ้นไม่ได้
ซึ่งเป็นการปฏิบัติธรรมที่ไม่ถูกต้องตรงธรรมแต่อย่างใด
นี่จึงเป็นที่มาของคำว่า #บวชนานแล้วนิพพานไม่ได้
หมายถึงดับการเกิดดับของกิเลสไม่ได้นั่นเอง
เพราะมุ่งที่จะปฏิบัติธรรมคนเดียวทั้งๆที่เป็นสัตว์สังคม
เพราะมุ่งทำอายตนะทั้งห้าให้พิการทั้งๆที่มันยังปกติอยู่
เพราะไม่เข้าใจคำว่า #ธรรมชาติผู้กำหนดไว้คือพระเจ้า
เพราะไม่เข้าใจว่า
ที่คนชอบธรรมทุกคนจะต้องปฏิบัติจะต้องทำกันนั้น
เป็นแบบไหนกันแน่ระหว่าง “ธรรมชาติ” กับ “ธรรมดา”
(ยังมีตอนต่อไปอีก)
เอเมน สาธุ
ถ่ายทอดคลื่นความคิดจากองค์จิตจักรวาล
โดย #ปัญญาวิสุทธิ์
24/10/2566
