10 ตุลาคม 2566

คัมภีร์อนุตรธรรมภาคจิตจักรวาล 10/10/2023

#คัมภีร์อนุตรธรรมภาคจิตจักรวาล
(เพื่อยุวจิตจักรวาลยุคสุดท้าย)
 
พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
 
จิตวิญญาณซึ่งเป็นตัวตนแก่นแท้ของคุณเอง
ผู้อาสาพระเจ้ามาเกิดเป็นมนุษย์อยู่ในระบบโลก
เพื่อทำหน้าที่ตาม #พันธะสัญญา 6 ประการ
ภายใต้เงื่อนไขหนึ่งยุคก็คือ 60,000 ปีโลกนั้น
ทุกรูปธรรมจักต้องทำหน้าที่ประจำอยู่กับโลก
จะละทิ้งโลกไปชั่วคราวหรือยาวนานไม่ได้เลย
 
คำว่า “ละทิ้ง” หมายความว่าจะผละงานวางมือไป
ไม่ยอมทำหน้าที่ใช้เมตตาธรรมค้ำจุนโลกไม่ได้
แปลว่าคุณจะทำให้จิตวิญญาณคุณต้องตายไม่ได้
จะทำให้จิตวิญญาณต้องเวียนว่ายตายเกิดก็ไม่ได้
โดยจู่ๆ คุณจะล่องหน “หายตัว” ไปจากระบบโลก
ไปเกิดเป็นเทพเทวดาลอยค้างอยู่บนสวรรค์มายา
เพื่อทำตนเป็นแผงโซล่าเซลล์ให้ผีโสโครกก็ไม่ได้
หรือว่าจะหล่นลงไปติดค้างอยู่ในแดนนรกก็ไม่ได้
จะหลงมิติตกชั้นไปเกิดเป็นสัตว์ประจำโลกก็ไม่ได้
จะเป็นจิตวิญญาณพเนจรไม่ยอมผุดเกิดก็ไม่ได้
 
แม้กระทั่งขณะยังไม่ตายจะทำตนเป็นกรรมกรแสง
ที่คอยผลิตสร้างพลังงานบวกหยาบๆให้ผีโสโครก
ได้ “ดักดูดพลัง” โดยเชื่อมจิตกับตาที่สามของคุณ
ผ่านปฏิบัติการทางเท็คนิกที่เรียกว่ากรรมฐานสมาธิ
ทั้งในแบบเป็นรายบุคคลและเป็นแบบสมาธิหมู่
เพราะถูกหลอกลวงให้เป็นกรรมกรหรือเป็นคนงาน
โดยใช้เครื่องยนต์แห่งกรรมของมนุษย์ที่คุณมี
ผลิตสร้างพลังงานบวกที่ไม่สะอาดที่โลกไม่ต้องการ
แต่พวกจิตวิญญาณของผีโสโครกนั้นมันต้องการมาก
เพราะไม่มีกายหยาบที่จะผลิตเองแบบมนุษย์ได้
จึงหลอกใช้มนุษย์เป็นเครื่องมือนั่นเอง
 
มีคำถามว่า
ทำไมจิตวิญญาณผีโสโครกจึงต้องการพลังงานบวก
โดยหลอกลวงให้มนุษย์ตกเป็นเครื่องมือของพวกเขา
เพราะพวกเขาเชื่อว่าถ้าได้พลังงานบวกแม้ไม่สะอาด
จากการผลิตด้วยจิตหยาบที่สั่นสะเทือนเป็นขันธ์ห้าได้
พลังงานนั้นจะช่วยเติมเต็มในส่วนที่ขาดให้พวกตนได้
ยังจะดีกว่าเป็นจิตวิญญาณที่อดหยากหิวโหยแน่นอน
 
เราเคยกล่าวความจริงให้รู้กันมานานแล้วว่า
เพราะจิตวิญญาณของพวกผีโสโครกทั้งหลาย
ที่ยังคงล่องลอยอยู่ในเอกภพเพราะกลับบ้านไม่ได้นั้น
เป็นจิตวิญญาณพวก “คนยักษ์” ผู้ทำผิดกฎพระเจ้า
ด้วยการผสมพันธุ์ข้ามเผ่าดาวกับหญิงสาวชาวดาวโลก
จนยังผลให้จิตวิญญาณเสื่อมสมดุลจากมิติที่ 6D
ลดลงมาอยู่ที่ระดับ 5D หรือเสียสมดุลลงไปจากเดิม
จนเป็นรูปธรรมทางพลังงานที่มี 5 เหลี่ยมมุมเท่านั้น
เพราะใช้อภิญฤทธิ์ที่ตนมีอยู่ล่อลวงมนุษย์ให้หลงใหล
มนุษย์จึงเสพติดกิเลสจนงมงายทำให้ใช้ปัญญาไม่ได้
ส่วนพวกเขานั้นแม้จะมีฤทธิ์มากกว่าพวกคุณกันอยู่
แต่ก็ไม่ค่อยมีผู้ใดกล้าเสี่ยงอวดสำแดงกันไปมากแล้ว
 
สู้ส่งตัวแทนของพวกตนเข้ามาเล่นบท “อวตาร”
ชักจูงให้พวกคุณเป็นกรรมกรเพื่อช่วยทำงานให้
โดยหลอกขาย “ความเชื่อ” และขาย “ความศรัทธา”
ด้วยพิธีกรรมอำพรางกับการอ้างความขลังบังหน้า
จนผู้โง่ง่ายกลายร่างเป็นอีแร้งรุมทึ้งของเน่าเหม็นไป
ทั้งลัทธิบ้าหวยบ้างลัทธิเทพเจ้าบ้างลัทธิมารบ้าง
ทั้งลัทธิที่สื่อมาแต่เสียงแล้วอ้างว่าเป็นต่างดาวบ้าง
โดยเรือนร่างตัวเป็นๆยังไม่เคยเผยให้ใครแลเห็นเลย
เพราะตัวเป็นๆนั้นไม่มีจะสร้างมายาก็ต้องใช้พลังเยอะ
 
ดังนั้น
เมื่อคุณจะรับข่าวสารความรู้ทั้งเก่าและใหม่อะไร
คุณจึงต้องคิดก่อนคิดเพื่อวิเคราะห์ค้นหาสาระก่อน
จึงค่อยนำเอาสาระที่วิเคราะห์ได้นั้นมาพิจารณา
ก่อนจะตัดสินใจว่า “เชื่อ” ก่อนตอบตนเองว่า “ใช่”
โดยต้องบอกตนเองว่า “ไม่เชื่อ” ถ้าคุณยังไม่เข้าใจ
ต้องบอกตนเองว่า “เชื่อ” ถ้าคุณอธิบายมันได้แล้ว
เพราะข่าวสารหรือองค์ความรู้ใหม่ใดๆก็ตาม
ถ้าคุณปฏิเสธมันไปทันทีทั้งที่คุณเองยังไม่เข้าใจ
หรือคุณเชื่อตามทันทีทั้งที่คุณยังอธิบายมันไม่ได้
ที่กล่าวนี้มันเป็นนิยามของคำว่า #งมงาย นั่นเอง
ซึ่งคนที่หมุนธรรมจักรเพื่อเป็นมนุษย์สำเร็จแล้ว
จะไม่มีวันงมงายให้คนหรือผีโสโครกหลอกได้เลย
 
ถ้าพวกคุณยังเข้าถึงอำนาจทางปัญญาไม่ได้
ถ้าพวกคุณยังขาดอำนาจทางความรู้ที่ถูกต้อง
ถ้าพวกคุณยังขาดอำนาจทางสัจธรรมที่เป็นจริง
พวกคุณก็จะใช้ #กิเลส ตัดสินว่าเชื่อไม่เชื่อเสมอ
ซึ่งเป็นลักษณะของการใช้อารมณ์รู้สึกนำปัญญา
ที่คุณจะเรียกตนเองว่า “มนุษย์” อย่างเต็มคำไม่ได้
 
คุณจึงต้องมุ่งปฏิบัติธรรมในชีวิตประจำวัน
ด้วยการหาทาง #นิพพานกิเลส ให้สิ้นก่อนที่จะตาย
ยิ่งนิพพานสำเร็จก่อนตายเร็วเท่าไหร่ได้ยิ่งดีเท่านั้น
เพราะถ้าจิตหยาบว่างจากกิเลสได้อย่างสิ้นเชิงแล้ว
อุปสรรคในการหมุนธรรมจักรร่วมกันจะไม่มีอีกต่อไป
เนื่องจากไม่มีกิเลสชักพาคุณให้หมุนกรรมจักรนั่นเอง
 
ด้วยเหตุนี้เอง
มนุษย์โลกจึงถูกหลอกลวงให้หลงทางปฏิบัติธรรม
โดยบิดเบือนความจริงเรื่องการตรัสรู้ของพระศาสดา
จากเรื่อง #ธรรมจักรกัปปวัตนสูตร ไปเป็น #อริยสัจสี่
ที่ทรงชี้ชัดว่าจิตวิญญาณมาเกิดเป็นมนุษย์กันทำไม
คำตอบแท้จริงคือ “มาใช้เมตตาธรรมค้ำจุนโลก”
มาช่วยกันใช้ความรักเพื่อช่วยให้โลกหมุนต่อเนื่อง
มาเป็น #เพื่อนร่วมงานกับโลก คำว่าโลกคือทุกสิ่ง
 
คำว่า “เพื่อนร่วมงาน” ที่ว่านี้จึงเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่มาก
มิใช่มาเกิดบนโลกแล้วเกลียดกลัวตัวทุกข์จนขึ้นสมอง
จนถูกหลอกลวงให้หนีไปเสพสุขอยู่บนสวรรค์มายา
ซึ่งแท้แล้วเป็นแค่ที่ว่างโล่งของพระเจ้าที่ทรงสร้างไว้
โดยพวกคุณถูกหลอกให้อยากไปและหลอกให้เชื่อ
จนทำให้จิตวิญญาณคุณโดยเมอร์คขะบาห์หลงมิติ
จึงเนรมิตสวรรค์มายากับวิมานเมืองแก้วขึ้นมาให้
ตามพิมพ์เขียวที่คุณเห็นจนชินตาอยู่ใน “วัตร” ที่แวะ
โดย “หลอกซ้อนหลอก” นี้ใครโง่ง่ายก็รู้ทันยากแท้
 
แต่พวกคุณมาเกิดก็เพื่อเห็นแก่ส่วนรวมเท่านั้น
พวกคุณจึงต้องทำเพื่อโลกก็คือ “ส่วนรวม” นี่เอง
จึงไม่ควรปล่อยเวลาให้สูญเปล่าไปกับการเห็นแก่ตัว
ด้วยการทำบุญเบื้องล่างเอาไปสร้างสวรรค์เบื้องบน
ซึ่งมิใช่หน้าที่ของจิตวิญญาณที่อาสาพระเจ้ามาทำ
ที่ต้องทำคือทำเพื่อจิตวิญญาณของตนและเพื่อโลก
จิตหยาบหรือจิตมนุษย์ต้องไม่หลงทำผิดเช่นนั้นอีก
จึงจะปฏิบัติธรรมเยี่ยง #คนชอบธรรม ที่แท้จริงได้
 
ดังนั้น
ถึงเวลาแล้วที่พวกคุณจะต้องเรียนรู้ว่า
ถ้าพวกคุณไม่ทำในสิ่งสมควรต้องทำตามที่อาสามา
คือร่วมกันใช้เมตตาธรรมค้ำจุนสมดุลโลกเอาไว้ให้ได้
แต่ดันไปทำอย่างอื่นเพื่อสนองกิเลสตัณหาตนเอง
และทำเพื่อผีโสโครกเพราะตกหลุมพรางพวกเขา
จิตวิญญาณกับเครื่องยนต์แห่งกรรมมนุษย์นั้น
จะต้องกลายเป็น “ขยะ” ชิ้นหนึ่งที่จะถูกชำระทิ้ง
ตามแผนการชำระโลกแบบ #ภัยซ้อนภัย ในอีกไม่ช้า
 
การถูกชำระทิ้งเพราะเป็นขยะรกโลกแบบที่ว่านี้
เราหมายถึงขยะชิ้นนั้นมิได้ตายแบบ “คนยักษ์”
จากมหันตภัยน้ำท่วมโลกในสมัยของ “โนอาห์”
ที่ตายแค่เพียงกายหยาบในมิติทางกายภาพเท่านั้น
โดยเหลือแต่จิตวิญญาณที่เป็นผีโสโครกเวียนวนอยู่
เพราะจำทางกลับบ้านเกิดของจิตวิญญาณไม่ได้
เพราะจำพระบิดาแห่งจิตวิญญาณของตนก็ไม่ได้
 
แต่จิตวิญญาณของพวกคุณในมิติทางพลังงาน
ก็จะถูกกระทำให้ “แตกสลาย” คล้ายฟองสบู่แตก
ด้วยปฏิบัติการทางเท็คนิกโดยช่างเท็คนิกของพระเจ้า
เนื่องจากเป็นดวงจิตวิญญาณที่ไม่สะอาดบริสุทธิ์
จะกลับบ้านเกิดแดนสุญตาของผู้ว่างจากทุกสิ่งไม่ได้
 
เพราะจิตหยาบยังเป็นปีกอีกข้างหนึ่งของจิตวิญญาณ
เพื่อพากันบินออกไปจากห้องทดลองของพระเจ้า
ที่เรียกว่า #เอกภพ ในสภาวะการ “หลุดพ้น” ก็ไม่ได้
เนื่องจากจิตหยาบไม่รู้จักว่าความรักแท้คืออะไร
ไม่รู้ว่าหน้าที่ของจิตหยาบต้องทำเพื่อจิตวิญญาณ
และต้องทำเพื่อโลกเสรีของตนนี้อย่างไรกันบ้าง
โดยไม่รู้ไม่เข้าใจเรื่องการ “หมุนธรรมจักร” นั่นเอง
 
จงอย่าหลงยึดติดคำว่า “ธรรมจักร”
ให้เป็นแค่เพียงธงสัญลักษณ์ในทางศาสนาเท่านั้น
เพราะความหมายแท้จริงนั้นยิ่งใหญ่สุดประมาณ
เนื่องจากมนุษย์ทุกคนสัตว์ทุกตัวรวมทั้งคุณเองด้วย
ไม่เว้นแม้ต้นไม้ทุกต้นที่พระเจ้าทรงปลูกไว้บนโลก
เพียงแค่สั่นสะเทือนขันธ์ห้าภายในจิตของตนให้ได้
พวกคุณและทุกสิ่งก็ช่วยให้โลกหมุนรอบตัวเองแล้ว
 
ในบทเรียนนี้ตอนต่อไป
เราจะมาเรียนรู้เรื่องวิธีการ “หมุนธรรมจักร” กัน
 
(ยังมีตอนต่อไป)
 
เอเมน สาธุ
ถ่ายทอดคลื่นความคิดจากองค์จิตจักรวาล
โดย #ปัญญาวิสุทธิ์
10/10/2566