#คัมภีร์อนุตรธรรมภาคจิตจักรวาล
(เพื่อยุวจิตจักรวาลยุคสุดท้าย)
พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
สิ่งมีชีวิตที่เป็น #คนสองมิติ
ซึ่งจิตวิญญาณหรือพระจิตถูกแบ่งภาคจากแดนสุญตา
เดินทางเข้ามาจุติอยู่ในเอกภพตรงพิกัดโลกเสรีแห่งนี้
มีหน้าที่ “คนตนเอง” ทั้งสองมิติให้เข้ากันอย่างลงตัว
คำว่า “สองมิติ” หมายถึง
มิติแรกเป็นมิติของจิตวิญญาณด้านของ #แก่นแท้
ผู้เดินทางข้ามมิติเข้ามาเกิดอยู่ในระบบโลก
มิติที่สองเป็นมิติของกายหยาบด้านของ #จิตหยาบ
โดยจิตหยาบเป็นกลุ่มพลังงานที่จิตวิญญาณคือคุณเอง
แบ่งภาคออกมาให้ทำหน้าที่แทนเมื่อรับโอกาสมาเกิด
ตั้งแต่แรกปฏิสนธิอยู่ในครรภ์มารดาแล้ว
ซึ่ง “จิตหยาบ” ที่เป็นกลุ่มพลังงานดังกล่าวนี้
จะเป็นรูปธรรมเริ่มต้นที่มีรูปทรงเรขาคณิตเป็น “ศูนย์”
หรือเขียนเป็นภาษาวิชาการว่า “0D” (ศูนย์ไดเม็นชั่น)
คำว่า “ศูนย์ไดเม็นชั่น” หมายถึงจิตหยาบยังไม่มีรูปทรง
ยังไม่มีรูปทรงนี้หมายถึงเป็นรูปธรรมที่ยังไม่มีเหลี่ยมมุม
ไม่มีความกว้างความยาวความสูงและไม่มีความหนา
จิตหยาบเริ่มจากการเป็นแค่เพียงจุดเล็กๆจุดหนึ่งเท่านั้น
เมื่อปฏิสนธิผ่านไปแล้วราว 3 เดือน
จิตหยาบของจิตวิญญาณผู้อาสาพระเจ้าเข้ามาเกิด
จะยกระดับแรงสั่นสะเทือนของตนเองสูงขึ้นทางด้านบวก
โดยมี 3 รูปธรรมร่วมกันสั่นสะเทือนหรือ “ปลุกเสก” ให้
มีบิดามารดาและจิตวิญญาณของผู้มาเกิดใหม่คือคุณเอง
สามพลังแรงแข็งขันที่สั่นสะเทือนร่วมกันเป็นความรัก
ซึ่งเป็นไปตามสมการพลังงานร่วมของคนสามคนคือ ∑βx
อันเกิดจากการปฏิสัมพันธ์ทางจิตที่พระบิดาออกแบบไว้
แรงสั่นสะเทือนที่เกิดขึ้นจากสามรูปธรรมนี้
จะเป็นเหตุให้กลุ่มพลังงานของจิตหยาบหรือจิตมนุษย์
ถูกกระตุ้นให้เกิดการสั่นสะเทือนขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง
ผลของการสั่นสะเทือนตลอดทุกวันเวลาที่ถูกปลุกเสก
ยังผลให้จิตหยาบของผู้มาใหม่เกิดความศักดิ์สิทธิ์ขึ้น
โดยเปลี่ยนจากกลุ่มพลังงานมาเป็นคลื่นพลังงาน
ที่สั่นสะเทือนแบบลดเลี้ยวเกี่ยวพันกันอยู่อย่างต่อเนื่อง
จนกลายเป็นรูปทรงเรขาคณิตที่เริ่มจะมีมุมเพิ่มขึ้นมา
จากมิติที่ศูนย์คือยังไม่มีรูปทรงอะไร
ก็จะมีรูปทรงเพิ่มขึ้นมาในลักษณะของ “จุด” หรือหยด
โดยมายาที่ปรากฏคือ #หยดเลือด ในครรภ์เมื่อตั้งครรภ์
ต่อจากนั้นหยดเลือดที่มีพลังงานของจิตหยาบกำกับอยู่นี้
จะสั่นสะเทือนในทิศทางระหว่างจุดสองจุดอย่างต่อเนื่อง
ในลักษณะของการสั่นสะเทือนที่เป็นแบบเส้นตรง
ซึ่งบ่งชี้ว่าจิตหยาบนั้นกำลังย่างเข้าสู่มิติที่ 2D แล้ว
เป็นเพราะอำนาจแห่งความรัก
จากทั้งสามรูปธรรมที่มีความคล้ายคลึงกันด้านบุคลิก
ที่สั่นสะเทือนร่วมกันปฏิสัมพันธ์กันอย่างต่อเนื่อง
จิตหยาบของจิตวิญญาณผู้มาเกิดใหม่ในครรภ์มารดา
จะพัฒนาหรือยกระดับแรงสั่นสะเทือนสูงขึ้นต่อเนื่องได้
โดยมีมายาในมิติทางกายภาพที่ปรากฏให้เห็นก็คือ
ทารกน้อยที่ในครรภ์นั้นจะโตวันโตคืนเลยทีเดียว
การเติบโตทางกายภาพหรือกายหยาบของทารก
เป็นมายาแสดงความก้าวหน้าพัฒนาการของจิตหยาบ
เริ่มจากมิติที่ศูนย์ - มิติที่ 4 หรือ 4D ภายในเก้าเดือน
ซึ่งถึงกำหนดในการกำเนิดบนดาวเคราะห์โลกนี้แล้ว
ที่พวกคุณเรียกว่าได้เวลา #ตกฟากตกฟูก ของลูกแล้ว
แต่เนื่องจาก
พระเจ้าทรงออกแบบไว้ให้พ่อแม่ลูกสามรูปธรรม
ทำให้สมการ ∑βx เกิดความศักดิ์สิทธิ์เป็นอัตโนมัติ
เฉพาะตอนที่ลูกผู้มาเกิดใหม่กำลังอยู่ในครรภ์เท่านั้น
หลังจากตกฟูกตกฟากหรือคลอดออกมาแล้ว
จิตหยาบของจิตวิญญาณทารกน้อยผู้มาเกิดใหม่
ยังจะต้องอาศัยความรักจากคนรอบข้างและคนใกล้ตัว
เพื่อเพิ่มจำนวนของตัว X ที่เป็นตัวแปรของสมการนี้
ให้มีจำนวนมากกว่าสามคือพ่อแม่และตัวลูกเองด้วย
พระบิดาแห่งจิตวิญญาณหรือพระเจ้าที่ทรงให้คุณมา
จึงทรงประทานมายารูปลักษณ์ที่น่ารักน่าเอ็นดูไว้ให้
แม้ว่าบิดามารดาจะมีมายารูปลักษณ์ที่ขี้เหร่แค่ไหน
แต่เจ้าทารกน้อยที่คลอดออกมาใหม่ก็จะจิ้มลิ้มน่ารัก
ใครเห็นก็อยากกอดอยากอุ้มใครเห็นก็รักก็เมตตา
แม้ขี้มูกขี้ตามอมแมมบนสองแก้มอย่างไรก็ดูว่าน่ารัก
ทั้งนี้ก็เพื่อช่วยกระตุ้นจิตหยาบของผู้พบเห็น
สั่นสะเทือนจิตหยาบสร้างขันธ์ห้าด้วย #รักและเมตตา
ให้คนรอบข้างและคนใกล้ตัวมาช่วยกันหมุนธรรมจักร
เพื่อปลุกเสกฟูมฟักจิตหยาบของทารกที่เกิดใหม่
ให้ยกระดับรูปธรรมสู่มิติที่สูงขึ้นจากสี่เหลี่ยมมุมคือ 4D
เพื่อให้มีเหลี่ยมมุมเท่ากับจิตวิญญาณของตนคือ 6D
ที่เรียกว่าเป็นหนึ่งเดียวกันให้จงได้ในภพชาติที่เกิดมานี้
ดังนั้น
พวกคุณจะต้องรู้ว่าความรักบริสุทธิ์แท้ๆ
ที่เป็นความรักเพื่อให้ซึ่งคนรอบข้างกับคนใกล้ตัวคุณ
มิใช่จำเพาะจากพ่อแม่ผู้ปกครองญาติพี่น้อง
ที่พวกเขาล้วนต่างตั้งใจหยิบยื่นมาให้แก่คุณเท่านั้น
มันเป็นสิ่งอันพึงปรารถนาของจิตวิญญาณของคุณ
เพราะว่ามันจะช่วยยกระดับจิตหยาบของคุณได้นั่นเอง
การทำตนโดดเดี่ยวปลีกวิเวกหรือไม่แคร์ใคร
โดยไม่ทำตัวเป็นสัตว์มีสังคมให้สมกับที่อาสามาเกิดนั้น
จึงนับว่า “เสียชาติเกิด” เป็นอย่างยิ่ง
เพราะละทิ้ง “เพื่อนร่วมงาน” ที่จะช่วยให้คุณสำเร็จ
ในภารกิจสำคัญของจิตวิญญาณไปอย่างไม่น่าอภัย
เพราะภารกิจหลักของจิตวิญญาณของพวกคุณนั้น
ต้องการให้พ่อแม่และคนรอบข้างตนเองทุกๆคน
หยิบยื่นความรักที่บริสุทธิ์โดยไม่หวังสิ่งตอบแทนให้
เพื่อช่วยยกระดับจิตหยาบของตนสู่มิติที่สูงขึ้นเรื่อยๆ
เมื่อทารกนั้นโตขึ้นครบสามขวบจนเป็นกุมารน้อยแล้ว
ความน่ารักน่าชมน่าเอ็นดูของรูปลักษณ์ก็จะเริ่มน้อยลง
เพราะสะพานเชื่อมสมองทั้งสองซีกได้สร้างเสร็จแล้ว
อันเป็นตัวบ่งชี้ว่า #กฎแห่งกรรม เริ่มต้นทำงานแล้ว
กุมารน้อยทุกคนจึงต้องมีพ่อแม่ผู้ปกครองครูอาจารย์
คอยอบรมบ่มนิสัยให้ #ทำตนเป็นคนน่ารัก ด้วยตนเอง
เพื่อเป็นการทดแทนความน่ารักน่าเอ็นดูที่หายไปให้ได้
#ความน่ารัก ที่พ่อแม่ผู้ปกครอง
ต้องสอนเด็กของตนให้ประพฤติปฏิบัติไว้
ตั้งแต่เล็กสืบไปจนเติบโตเป็นผู้ใหญ่
ซึ่งมีอยู่ด้วยกันรวมทั้งสิ้นเป็น “3 น่า” ก็คือ
1.เป็นคน #น่านับถือ
คือ เป็นผู้มีความฉลาดรอบรู้
เป็นผู้ที่มีทักษะความสามารถด้านต่างๆ
อันเกิดจากพรแสวงและพรสวรรค์
2. เป็นคน #น่าเชื่อถือ
คือ เป็นผู้ที่เชื่อถือไว้วางใจได้
เป็นผู้ที่มีสัจจะกล่าวคำไหนต้องเป็นคำนั้น
ไม่เหลาะแหละโลเล ไม่เหลวไหล
3. เป็นคน #น่ายึดถือ
คือ เป็นผู้ที่คนอื่นสามารถเอาเยี่ยงอย่างได้
เพราะเป็นคนดีมีน้ำใจโอบอ้อมอารีต่อผู้อื่น
พร้อมจะอุทิศตนช่วยเหลือผู้อื่นได้ทุกเมื่อ
เป็นผู้ที่ไว้วางใจได้ว่าไม่ทรยศคิดคดต่อใคร
ถ้าใครมีคุณสมบัติครบทั้ง 3 น่าที่ว่านี้
แม้รูปลักษณ์จะไม่สวยไม่รวยไม่หล่อแต่ก็สมาร์ท
เพราะเป็นคนที่มีคุณค่าซึ่งคนทั้งสังคมจะมีศรัทธา
เมื่อเป็นคนที่คนส่วนใหญ่ศรัทธาพวกเขาก็จะรักคุณ
รักเพราะเห็นในคุณค่าจากการมี “สามน่า” นี่แหละ
พวกคุณยังต้องรู้อีกว่า
การทำตนให้คนอื่นรักและศรัทธาอย่างจริงใจนั้น
ถ้าปากคุณสิ้นกลิ่นน้ำนมคือครบสามขวบขึ้นไปแล้ว
คุณหย่านมคือทิ้งนมหันมาทานอาหารอย่างอื่นแล้ว
เพราะถ้ายังดื่มนมก็จะไปบำรุงเซลล์มะเร็งให้เติบโต
จนต้องเสียชีวิตเพราะมะเร็งจะทำร้ายจนถึงตายได้
เนื่องจากเซลล์มะเร็งมันคือดีเอ็นเอของสัตว์ร้าย
ที่ถูกลักลอบนำเอามาตัดต่อพันธุกรรมเอาไว้
กับดีเอ็นเอของพระเจ้าในเครื่องยนต์แห่งกรรมมนุษย์
ซึ่งถ่ายทอดกันมาทางกรรมพันธุ์ตั้งแต่ยุคโบราณแล้ว
โดยดีเอ็นเอสัตว์ร้ายนี้จะแฝงอยู่ตรงเซลล์ไหนก็ได้
ทั้งเซลล์ร่างกายและเซลล์อวัยวะภายในไม่มีใครล่วงรู้
กว่าจะรู้ก็ต่อเมื่อมันออกฤทธิ์ให้เห็นแต่ก็สายไปแล้ว
คนที่ชอบกินเลือดเนื้อของสัตว์ทั้งสุกทั้งดิบทุกรูปแบบ
คนที่โตเกินสามขวบแล้วแต่ยังชอบดื่มนมจงระวังให้ดี
คุณมีโอกาสเสี่ยงเป็นมะเร็งค่อนข้างสูงกว่าใครเพื่อน
ด้วยเหตุนี้เอง
การที่คุณต้องทำตัวให้น่ารักในสายตาของคนอื่น
กับการเรียนรู้ที่จะรักคนรอบข้างทุกคนให้ได้
ไม่ว่าเขาคนนั้นจะเป็นใครจะทำดีหรือทำร้ายจิตใจคุณ
คุณก็พร้อมที่จะยอมรักยอมรับและยอมร่วมสังคมได้
โดยไม่มีข้อแม้หรือไม่มีเงื่อนไขอะไรทั้งสิ้น
ซึ่งมันจะเป็นความจริงได้แน่นอนถ้าคุณรู้แล้วว่า
ความรักความเมตตาของคุณและของพวกเขานั้น
เป็นสิ่งที่จิตวิญญาณพวกคุณทุกคนล้วนต้องการมัน
คุณจะยินดีที่จะรักคนที่ทำตัวไม่น่ารัก
คุณจะยินดีที่จะเมตตาคนที่น่าสงสาร
คุณจะยินดีให้อภัยคนที่ทำตัวไม่น่าให้อภัย
เพื่อทำการหมุนธรรมจักรภายในตนเอง
แล้วแสดงพฤติกรรมทางด้านบวก
เป็นวจีกรรมกับกายกรรมออกมาภายนอก
เพื่อเป็นสิ่งเร้าช่วยกระตุ้นให้จิตหยาบของพวกเขา
สั่นสะเทือนขันธ์ห้าตอบสนองคุณกลับมา
ด้วยความรักหรือความสงบเป็นพฤติกรรมภายนอก
ในแบบที่คุณก็พึงพอใจในการตอบสนองของเขา
นี่คือการชวนให้พวกเขามาหมุนธรรมจักรร่วมกัน
การหมุนธรรมจักรในตนเองได้สำเร็จ
จึงเป็นเงื่อนไขขั้นต้นที่พวกคุณทุกคนมีหน้าที่ต้องทำ
เพื่อการยกระดับมิติของจิตหยาบของตนให้สูงขึ้น
ถ้าทำขั้นต้นสำเร็จการหมุนธรรมจักรร่วมกันก็เกิดได้
เพราะตัวคุณก็จะเป็นเงื่อนไขด้านบวกให้คนอื่นๆ
เสมือนชวนพวกเขาให้มาร่วมหมุนธรรมจักรด้วยกัน
ทำให้ตัวเอ็กซ์ในสมการพลังงานร่วมมีจำนวนเพิ่ม
พลังงานร่วมที่จะเกิดขึ้นก็มีปริมาณมากขึ้นได้ด้วย
ความศักดิ์สิทธิ์ของสมการพลังงานร่วม ∑βx นี้
นอกจากจะมีผลต่อการยกระดับมิติของจิตหยาบ
ของทุกคนที่สั่นสะเทือนขันธ์ห้าเป็นรักบริสุทธิ์กันแล้ว
คนอื่นๆที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไรกับพวกคุณด้วย
ถ้าพวกเขาดำเนินชีวิตอยู่บนพื้นที่ 33.33 ตร.กิโลเมตร
ซึ่งเป็นบริเวณพื้นที่เดียวกันกับพวกคุณด้วยแล้ว
จิตหยาบของพวกเขาจะได้รับอิทธิพลนั้นไปด้วยกัน
พลังงานร่วมจากจิตสามนึกด้านบวกของพวกคุณ
จะสามารถกระตุ้นจิตหยาบพวกเขาให้สั่นสะเทือนสูงขึ้น
โดยที่ทั้งพวกคุณและพวกเขาเหล่านั้นไม่รู้ตัว
นี่เป็นความจริงที่พระพุทธองค์ค้นพบแต่ถูกมารบิดเบือน
ลวงให้คนนำทางตาบอดพาพวกคุณหลงทางมาตลอด
เพราะมารคือผีโสโครกต้องการให้จิตหยาบคุณตกต่ำ
ไม่อาจยกระดับให้สูงขึ้นตามความจริงกันได้ง่ายๆ
หลอกให้เสพกิเลสแม้แต่ทำบุญทำดีก็ให้ทำด้วยกิเลส
หลอกให้กินเลือดเนื้อของสัตว์หลอกให้ทำผิดบาป
ส่งเสริมให้คุณมีอายุสั้นจนเห็นว่าการตายเป็นสิ่งปกติ
ปิดกั้นโอกาสการใช้ความรักค้ำจุนสมดุลโลก
ด้วยการหลอกให้บ้าบุญสะสมบุญเพื่อไปสวรรค์มายา
หลอกให้ไปสวรรค์มายาปั่นหูว่าไปนิพพานไปทางนั้น
จึงขยันทำตนเป็นดั่งคนที่มีอายตนะพิการทั้งวันคืน
ด้วยหวังว่าทำตนแบบนั้นตายแล้วไม่กลับมาเกิดอีกได้
ทำให้ความหมายแท้จริงของคำว่า “นิพพาน” เพี้ยนไป
ปฏิบัติธรรมมานานจึงไม่รู้ว่ามรรคผลแท้จริงคืออะไรแน่
(ยังมีตอนต่อไป)
เอเมน สาธุ
ถ่ายทอดคลื่นความคิดจากองค์จิตจักรวาล
โดย #ปัญญาวิสุทธิ์
26/10/2566