27 ตุลาคม 2566

คัมภีร์อนุตรธรรมภาคจิตจักรวาล 27/10/2023

#คัมภีร์อนุตรธรรมภาคจิตจักรวาล
(เพื่อยุวจิตจักรวาลยุคสุดท้าย)
 
พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
 
พวกจิตวิญญาณพเนจรของประดา “ผีโสโครก”
เป็นศัตรูของพวกท่านทั้งหลายบนโลกเสรีนี้
ที่เข้ามาแทรกแซงแฝงตัวอยู่ในวัตถุบูชารูปเคารพ
ชักพาให้พวกคุณลุ่มหลงงมงายเข้าถึงปัญญาไม่ได้
อันหมายถึงทำให้พวกคุณเป็นคนโง่ง่ายไร้สติ
โดยใช้กิเลสซึ่งเป็นมารภายในจิตหยาบของคุณเอง
เป็นเครื่องมือทำร้ายทำลายจิตวิญญาณของคุณ
 
กิเลสมารจะกัดกร่อนทำลายจิตหยาบดั่งสนิมเหล็ก
ที่ทำให้เหล็กสึกกร่อนจากข้างนอกเข้าไปถึงข้างใน
เมื่อจิตหยาบของจิตวิญญาณชาตินั้นชำรุดใช้ไม่ได้
พระเจ้าจึงต้องยอมให้จิตวิญญาณพวกคุณต้องตาย
เพื่อให้ลงไปซ่อมจิตวิญญาณที่หลงมิติในแดนนรก
เพราะจิตหยาบเป็นตัวการหรือเป็นเหตุให้เสียสมดุล
ก่อนจะย้อนกลับสู่การเกิดใหม่ในชาติใหม่อีกครั้ง
เพื่อใช้จิตหยาบกลุ่มใหม่เริ่มภารกิจกันใหม่ต่อไปอีก
 
การเวียนว่ายตายเกิดของพวกคุณ
โดยจิตวิญญาณต้องมีสังสารวัฏตลอดมา
และการที่พวกคุณต้องมีอายุขัยนั้น
ล้วนมีสาเหตุมาจากกรณีที่ว่านี้ด้วยกันทั้งสิ้น
สาเหตุหลักก็คือถูกพวกนี้หลอกให้เสพกิเลสจนติด
จนทำลายความเป็นอมตะของจิตวิญญาณเสียสิ้น
 
วิธีการหลอกลวงมนุษย์ของมารภายนอก
ที่เป็นพวกผีโสโครกที่ว่านี้มี 5 อย่าง คือ
 
1.ทำให้กลัว
สร้างรูปสมมติของพวกตนให้แลดูน่าเกลียดน่ากลัว
ทั้งเป็นภาพเขียนและที่เป็นรูปปั้นรวมทั้งงานแกะสลัก
เอาไว้ให้พวกคุณก้มหัวเพื่อกราบไหว้บูชาพวกมัน
เพราะว่ากลัวพวกมารจะทำร้ายจึงยอมตนเป็นพวกมัน
โดยลืมไปว่าในศีรษะของตนนั้นมีจิตวิญญาณแก่นแท้
ซึ่งเป็นตัวแทนของพระผู้เป็นเจ้าผู้อยู่เหนือสิ่งทั้งปวง
สถิตประทับเป็น “องค์พระประธาน” อยู่ข้างใน
 
คำว่า “องค์พระประธาน” นี้เราหมายถึง
จิตวิญญาณของมนุษย์ผู้อาสามาเกิดยังโลกเสรีนี้
เป็นรูปธรรมทางพลังงานที่พระเจ้า #ประทาน ให้คุณ
มาทำหน้าที่แทนพระองค์ในห้องทดลองใหญ่คือเอกภพ
เพื่อเรียนรู้ว่าพระองค์สามารถที่จะกระทำสิ่งใดได้บ้าง
ทั้งในมิติโลกทางกายภาพที่เป็นด้านของกายหยาบ
กับมิติทางพลังงานด้านของจิตวิญญาณที่เป็นแก่นแท้
ซึ่งเป็นที่มาของการกำหนดให้มนุษย์เป็น #คนสองมิติ
เพื่อทำหน้าที่เรียนรู้และทดลองตามแผนของพระองค์
ซึ่งพวกคุณขันอาสาพระองค์กันมาเองมิได้ทรงบังคับใคร
 
พระองค์จึงทรงมอบ “พันธะสัญญา 6” ให้คุณรับสัจจะว่า
ถ้าอาสามาทำหน้าที่ในระบบโลกภายในห้องทดลองแล้ว
ทุกคนต้องมีเวรคือมีกำหนดระยะเวลาในการทำภารกิจ
ให้เป็น 1 ยุค คือ ระยะเวลานาน 60,000 ปีโลก
โดยต้องทำให้สำเร็จเรียบร้อยให้ทันก่อนกาลสิ้นยุค
เพื่อทำตัวให้พร้อมที่จะเดินทางกลับบ้านแดนสุญตาด้วย
 
#เมื่อมีเวรให้ทำแล้วพวกคุณต้องมีกรรมให้ก่อด้วย
 
คำว่า “มีกรรมให้ก่อ” หมายถึง
พวกคุณต้องมีภารกิจของจิตวิญญาณถือติดตัวมาด้วย
เพราะพวกคุณไม่ใช่ผีเร่ร่อนไม่ใช่จิตวิญญาณพเนจร
แต่เป็นจิตวิญญาณผู้มาจากพระนิเวศน์ของพระเจ้า
จิตวิญญาณแก่นแท้ของคุณคือตัวแทนของพระเจ้า
พวกคุณจึงเป็นรูปธรรมจิตวิญญาณอันทรงพระเกียรติ
ไม่ต่างจากจิตหยาบคุณคือตัวแทนจิตวิญญาณนั่นเอง
 
ภารกิจของจิตวิญญาณที่ต้องทำให้สำเร็จก็คือ
ใช้เมตตาธรรมคือความรักบริสุทธิ์หมุนธรรมจักรในตนเอง
เพื่อทำให้จิตหยาบสมดุลกันหรือเสมอกันกับจิตวิญญาณ
ด้วยการสั่นสะเทือนจนเป็นความถี่เดียวกันให้จงได้
ซึ่งหมายถึงการยกระดับจิตหยาบให้เข้าถึงมิติที่ 6D
มีรูปทรงเรขาคณิตหกเหลี่ยมมุมเท่ากับจิตวิญญาณให้ได้
เมื่อทำสำเร็จกับตนเองแล้วก็ชวนเพื่อนมนุษย์มาร่วมด้วย
ช่วยกันหมุนธรรมจักรด้วยรักเพื่อให้ตามแบบของพระเจ้า
ทำให้ขันธ์ห้าของจิตหยาบผลิตพลังงานด้านบวกให้โลก
เพื่อช่วยให้แกนโลกบิดตัวต่อเนื่องจนทำให้โลกหมุนได้
เมื่อทำให้โลกหมุนรอบตัวเองต่อเนื่องได้โลกนี้ก็สมดุล
ตามคำกล่าวที่ว่า #เมตตาธรรมค้ำจุนโลก นั่นเอง
 
ดังนั้น
พวกคุณจึงมิได้มาเกิดเพื่อเป็น “ขี้ข้า” หรือเป็นทาสใคร
ไม่ได้มาเกิดเพื่อเป็น #กรรมกรแสง ของผู้หนึ่งผู้ใด
แต่พวกคุณอาสามาเกิดเพื่อเป็น #เพื่อนร่วมงานกับโลก
เพราะพระเจ้าทรงประทานพลังอำนาจไว้ให้คุณแล้ว
อำนาจในตัวเองของคุณจะต้องได้จาก #จิตตปัญญา
อันหมายถึงความรักเพื่อให้ในแบบของพระองค์
กับความฉลาดทางจิตคือฉลาดนึกด้วยจิตสามนึก
และความฉลาดคิดด้วยปัญญาของสมองสองซีกเท่านั้น
 
แต่พลังอำนาจของพระเจ้าที่ประทานไว้ให้
ถ้าพวกคุณจะใช้การได้จะต้องเรียนรู้และฝึกฝนตนเอง
ด้วยการสั่นสะเทือนจิตและปัญญาของสมองให้ได้ก่อน
ไม่ต่างจากพระองค์ทรงปลูกสร้างพืชพันธุ์ธัญญาหารไว้
คุณแค่เพียงเก็บเกี่ยวเอามาบริโภคเป็นอาหารกันเท่านั้น
ซึ่งจะเป็นอาหารของคุณได้คุณก็ต้องเคี้ยวต้องกลืนเอง
ประโยชน์ในคุณค่าของอาหารทรงกำหนดเอาไว้ให้แล้ว
พลังอำนาจของจิตและสมองของพวกคุณก็เช่นกัน
พระองค์ทรงกำหนดเอาไว้ให้คุณแล้วจงใช้มันให้เป็น
 
ถ้าคุณฉลาดใช้จิตปัญญาในตนเอง
คุณก็จะสามารถทำรวยทำสวยทำเสร็จได้สมใจหวัง
ไม่ต้องนั่งวอนของ้องอนผีโสโครกแลกเครื่องเซ่นเลย
ไม่ต้องหาเครื่องรางของขลังเวทย์มนต์สายมูเตลูมาอุ้มชู
ไม่ต้องก้มหัวที่มีตัวแทนพระเจ้าอยู่กราบใครก็ไม่รู้
เรื่องกราบไหว้รูปไม้แกะสลักนี้พระเยซูก็ปฏิเสธมาตลอด
แม้กระทั่งเรื่องทรงเจ้าเข้าผีที่อ้างต้นว่าเป็นเทพเจ้า
ซึ่งเป็นการหลอกลวงของพวกผีโสโครกทั้งนั้น
 
พวกจิตวิญญาณของผีโสโครกที่ต้องหลอกลวงมนุษย์
เพราะไม่ต้องการให้มนุษย์หลุดพ้นกลับบ้านแดนสุญตา
เนื่องจากต้องการใช้มนุษย์เป็นเครื่องมือผลิตพลังจิต
ให้พวกตนได้คอยดักดูดกันตามอัธยาศัยสบายใจเฉิบ
ซึ่งมนุษย์มีหน้าที่ผลิตพลังจิตด้วยความรักและเมตตา
ในการใช้ค้ำจุนโลกของตนให้สมดุลกันอยู่แล้ว
เพียงแค่หลอกให้มนุษย์เสพติดกิเลสกันเสียได้
พลังงานจิตที่ผลิตออกมาก็จะเป็นพลังงานไม่สะอาด
ที่โลกจะนำเอาใช้ประโยชน์ตามต้องการจริงไม่ได้
ไม่ต่างจากน้ำมันที่สะอาดแต่เป็นน้ำมันที่ไม่บริสุทธิ์แท้
ก็นำเอาน้ำมันนั้นเติมใส่ในเครื่องยนต์ไม่ได้นั่นแหละ
ถ้าทำแบบนี้สำเร็จพวกผีโสโครกเองก็จะได้ประโยชน์
ส่วนมนุษย์นั้นก็เป็นฝ่าย “โง่ง่าย” อยู่ดังเดิม
 
นอกจากนั้นวิธีการทำให้กลัวยังมีอีกหลายรูปแบบ
เช่น มีการทรงเจ้าแต่จริงๆก็คือการเข้าผีหรือผีเข้า
ด้วยการแสดงกิริยาท่าทางที่น่ากลัวน่าเกลียด
ใช้เครื่องเคาะเครื่องตีที่เสียงดังฟังแล้วสั่นระทึกในอก
ใช้เสียงระเบิดเสียงประทัดที่จิตวิญญาณคุณต้องตกใจ
ใช้วิธีการลุยถ่านไฟที่ร้อนแดงให้พวกคุณแลเห็น
เพื่อเหน็บแนมว่าที่คุณกลัวตกกระทะทองแดงในนรก
เป็นคนขี้ขลาดตาขาวแท้จริงแล้วไม่น่ากลัวเท่าไหร่เลย
จึงทำการสำแดงให้ดูเพื่อให้พวกคุณซูฮกยกนิ้วให้
เพื่อขายศรัทธากับความเชื่อที่งมงาย
รวมทั้งสำแดงวิธีการทำร้ายตนเองด้วยศาสตราอาวุธด้วย
 
จิตวิญญาณผีโสโครกที่เข้าสิงร่างอยู่ไม่ได้เจ็บอะไร
เพราะขณะถูกเข้าทรงเข้าสิงเข้าแทรกนั้นถูกสะกดจิตไว้
แต่ร่างกายของร่างทรงที่เป็นมนุษย์ต่างหากที่จะเจ็บ
เมื่อเจ้าออกหรือผีออกไปจากร่างกายนั้นแล้ว
แต่เพราะความเชื่อว่าตนไม่เป็นอะไรไม่เจ็บไม่ปวดอะไร
จิตใต้สำนึกของร่างทรงนั้นจึงจัดการให้ไม่รู้เจ็บไม่รู้ปวด
ผีโสโครกที่ทิ้งร่างออกไปแล้วไม่ได้ช่วยอะไรอย่างที่คิด
 
เอเมน สาธุ
ถ่ายทอดคลื่นความคิดจากองค์จิตจักรวาล
โดย #ปัญญาวิสุทธิ์
27/10/2566