25 ตุลาคม 2566

คัมภีร์อนุตรธรรมภาคจิตจักรวาล 25/10/2023

#คัมภีร์อนุตรธรรมภาคจิตจักรวาล
(เพื่อยุวจิตจักรวาลยุคสุดท้าย)
 
พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
 
นิพพานในความหมายที่ 2 ก็คือ
#นิพพานหลังตายไปจากโลกนี้แล้ว
 
2.#นิพพานหลังตาย
 
คำว่า “นิพพานหลังตาย” หมายถึง
จิตวิญญาณซึ่งเป็นตัวตนที่แท้จริงของตัวคุณเอง
ที่มีรูปธรรมทางพลังงานเป็นรูปทรงเรขาคณิต
ที่มีจำนวน 6 เหลี่ยมมุมหรือมี 6 มิติ คือ 6
นั้น
เมื่อหมดหน้าที่ในการมาเกิดเป็น
 “คนสองมิติ”
คือยกระดับจิตหยาบเป็นหนึ่งเดียวกับจิตวิญญาณ
จนบรรลุภารกิจของตนตามพันธะสัญญา 6 แล้ว
จิตหยาบสามารถนำพาจิตวิญญาณกลับบ้านได้
โดยไม่ต้องเวียนว่ายตายเกิดในสามภพต่อไปอีก
 
แน่นอนว่า
ความหมายของคำว่า
 “นิพพาน” ขั้นสูงสุดนี้
มันคือการตายของจิตวิญญาณผู้เป็นแก่นแท้ของคุณ
ที่ตายแล้วตัวตนแก่นแท้นั้นจะไม่อยู่ในเอกภพนี้อีก
 
เอกภพซึ่งเป็น “อนันตจักรวาล” อันไพศาลนี้
เป็นห้องทดลองขนาดใหญ่ของพระเจ้าที่ทรงสร้างขึ้น
โดยกำหนดบทบาทหน้าที่ให้ทุกสรรพสิ่งที่อยู่ในระบบ
รับผิดชอบในการแสดงออกหรือกระทำหน้าที่ของตน
ใครมีหน้าที่สั่นสะเทือนตนเองอย่างไรก็ให้ทำไปตามนั้น
ซึ่งกฎของอนันตจักรวาลที่เป็นกฎของพระเจ้ามีกฎเดียว
คือ
 #กฎแห่งการเป็นหนึ่งเดียวกันของทุกสรรพสิ่ง
หมายถึง #เอกภพ ที่ทุกสิ่งล้วนเป็นหนึ่งเดียวกัน
 
อีกทั้งยังเป็นที่มาของคำว่า “เวไนยสัตว์ทั้งหลาย”
หมายถึงสรรพสิ่งมีชีวิตต่างๆที่มีอยู่จริงในระบบโลก
รวมทั้งสิ่งมีชีวิตในระบบดาวอื่นและต่างกาแล็กซี่ด้วย
ซึ่งเป็นผู้
 #มีเวรต้องทำมีกรรมต้องก่ออย่างมีนัยยะ
นั่นคือความหมายของคำว่า “เวไนยสัตว์” นั่นเอง
 
คำว่า “มีเวรต้องทำมีกรรมต้องก่อ” หมายถึง
ทุกชีวิตหรือทุกสิ่งล้วนมีหน้าที่แสดงออกหรือต้องทำ
ไม่มีสิ่งใดที่มีอยู่จริงในเอกภพนี้ที่ไม่มีหน้าที่ต้องทำ
ไม่มีผู้ใดสิ่งใดที่ไม่มีงานการให้ต้องรับผิดชอบเลย
แม้มดตัวเล็กๆตัวนึ่งเขาก็ยังมีเวรหรือมีเวลาที่ต้องทำ
ทั้งหน้าที่ต่อตนเองและต่อสิ่งแวดล้อมของมดเองด้วย
 
ภูเขาแต่ละลูกแต่ละเทือก
มีหน้าที่เป็นตัวถ่วงโลกให้สมดุลขณะหมุนรอบตัวเอง
โดยทำหน้าที่แบบเดียวกันกับตะกั่วที่ใช้ถ่วงล้อรถยนต์
เพื่อทำให้โลกไม่แกว่งไม่ส่ายขณะหมุนรอบตัวเองไป
ทุกสรรพสิ่งในระบบโลกจึงดำรงอยู่ได้อย่างสมดุล
นี่เป็นความจริงระดับอนุตรธรรมที่มนุษย์รู้เองไม่ได้
เพราะมันเป็นความลับเบื้องหลังมิติโลก
ที่ยากเกินกว่าปัญญาของสมองสองซีกจะเข้าถึงเองได้
 
พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
พวกคุณเป็นสิ่งมีชีวิตชนิดเดียวที่มีอยู่จริงในเอกภพ
ที่มีจิตวิญญาณอาสาพระเจ้าเข้ามาเกิดอยู่ในระบบโลก
โดยพวกคุณเป็นผู้มีสองภาคอยู่ในตนเองด้วยกันทั้งสิ้น
สำหรับภาคที่สองก็คือ
 “จิตวิญญาณ” หรือ #พระจิต
ซึ่งเป็นตัวตนแก่นแท้ของคุณขณะมีชีวิตเป็นมนุษย์
 
ส่วนภาคแรกคือ “จิตจักรวาลดวงเล็ก” หรือ #พระบุตร
ผู้แบ่งภาคพลังงานที่มี 11ออกมาเป็นรูปธรรม 6D
เพื่อเดินทางเข้ามาเกิดเป็นคนสองมิติที่โลกเสรีนี้
โดยมี
 “เวร” หรือวาระในการทำหน้าที่ 6 หมื่นปีโลก
เมื่อครบกำหนดแล้วค่อยตายเพื่อกลับบ้านที่จากมา
แปลว่าตลอดหกหมื่นปีพวกคุณไม่มีหน้าที่ต้องตาย
เนื่องจากพวกคุณจะละทิ้งหน้าที่ไปจากโลกนี้ไม่ได้
ต้องคอยทำหน้าที่เป็น
 #เพื่อนร่วมงานกับโลก เท่านั้น
 
จะละทิ้งโลกไปลงนรกหรือตกลงไปในบึงไฟก็ไม่ได้
จะตกลงไปในบ่อย่ำองุ่นที่เรียกว่า
 “สวรรค์มายา”
ให้พวกจิตวิญญาณผีโสโครกเหยียบย่ำเป็นกรรมกร
ผู้คอยนั่งกรรมฐานผลิตพลังงานให้พวกเขาดักดูด
เพราะถูกหลอกให้เมากิเลสที่เป็นความสุขเท็จก็ไม่ได้
พวกคุณมาเกิดบนโลกต้องทำหน้าที่อยู่คู่โลกเท่านั้น
พระเจ้าจึงกำหนดให้พวกคุณมีชีวิตเป็นอมตะกันมา
โดยไม่มีใครมีหน้าที่ต้องตายสักรายเดียว
ยกเว้นคนที่คิดถึงพระองค์แล้วอยากกลับก่อนเท่านั้น
 
คำว่า “นิพพาน” ในความหมายที่สองนี้
แปลตรงตัวโดยไม่อ้อมค้อมได้ว่า
 #กลับบ้าน
คำว่า “บ้าน” ในที่นี้หมายถึง บ้านเกิดเมืองนอน
ที่จิตวิญญาณคุณจากมานานแสนนานแล้วนั่นแหละ
คำว่า
 “บ้าน” มิได้หมายถึงสิ่งปลูกสร้างของมนุษย์
แต่เป็นที่ซึ่งจิตจักรวาลดวงเล็กตัวตนภาคแรกของคุณ
ดำรงตนเองอยู่อย่างสงบสุขตลอดมาและตลอดไป
 
เพราะว่า “จิตจักรวาลดวงเล็ก”
ตัวตนภาคแรกที่สูงส่งของผู้อาสามาเกิดเป็นมนุษย์
รวมทั้งรูปธรรมที่ไม่เคยอาสาพระเจ้ามาเกิดเป็นมนุษย์
ซึ่งเป็นจำนวนรูปธรรมที่มีมากกว่าผู้ขันอาสามานั้น
ต่างล้วนดำรงอยู่ ณ สถานที่แห่งนี้ด้วยกันทั้งสิ้น
เนื่องจากจิตจักรวาลดวงเล็กหรือพระบุตรทุกรูปธรรม
ต่างมีคุณสมบัติจำเพาะตนเป็น
 #สุญตา ด้วยกันทั้งสิ้น
พระเจ้าจึงทรงเรียกสถานที่แห่งนี้ว่า
 #แดนสุญตา
แปลความว่า “ดินแดนของผู้อิ่มเอิบอยู่กับความว่าง”
 
ถ้าถามว่า “แดนสุญตา”
สถานที่แห่งนั้นมันอยู่ที่ไหนกันหนอ
คำตอบที่ถูกต้องตรงจริงที่เป็น
 #อนุตรธรรม ก็คือ
เป็นบริเวณที่อยู่นอก
 “เอกภพ” หรือนอกห้องทดลอง
เพราะพระองค์ทรงสร้างห้องทดลองเอาไว้บนพระอุระ
เหมือนแม่แมงมุมที่จะอุ้มถุงไข่ของตนไว้แนบอก
เพื่อถ่ายทอดความรักและสื่อสารกับลูกอย่างใกล้ชิด
โดยภายในถุงไข่คือสิ่งที่แม่แมงมุมให้กำเนิดไว้ทั้งสิ้น
ทุกสิ่งในเอกภพพระเจ้าก็ทรงให้กำเนิดไว้เช่นเดียวกัน
 
ห้องทดลองขนาดใหญ่ที่เรียกว่าเอกภพนี้
พระองค์ทรงสร้างประตูมิติเพื่อเป็นช่องทางเข้าออก
ที่จิตวิญญาณของพวกคุณผู้ขันอาสาเข้ามาทำหน้าที่
ตามพันธะสัญญา 6 ประการที่ให้สัจจะต่อพระองค์ไว้
ประตูมิตินี้จะทรงเป็นผู้เปิดปิดด้วยพระองค์เองเท่านั้น
ซึ่งพระเยซูเรียกว่า
 #ประตูคอกแกะ และ #ประตูหอ
 
ที่ทรงเรียกว่า “ประตูคอกแกะ”
สำหรับกรณีที่พระเจ้าหรือพระบิดาแห่งจิตวิญญาณ
ทรงเปิดประตูมิตินี้ให้ประดาลูกแกะทุกตัวของพระองค์
คือจิตวิญญาณหรือพระจิตผู้อาสามาเกิดเป็นมนุษย์
ให้ก้าวผ่านช่องทางนี้เข้ามาในเอกภพสู่ระบบโลก
ซึ่งพระเจ้าหรือเจ้าของฝูงแกะทรงมอบหมายให้เรา
เป็นผู้เลี้ยงฝูงแกะด้วยขนมปังของพระองค์
เป็นผู้ดูแลแกะตัวที่เจ็บป่วยและหลงทางเพราะตาบอด
ให้รู้จักรู้จำเจ้าของแกะจำคนเลี้ยงแกะและประตูคอกได้
 
โดยไม่ทำตนเป็นแกะหลงฝูง
ไม่ทำตนเป็นเหมือนดั่งลูกกำพร้าพ่อแม่
ไม่หลงไปก้าวตามพวกมารซึ่งเป็นผีโสโครก
ที่หลอกให้หลงทางนิพพานด้วยการปีนรั้วเข้าคอก
 
ที่พระเยซูทรงเรียกประตูมิตินี้ว่า “ประตูหอ”
เพราะก่อนที่พระองค์จะเสด็จกลับไปกราบพระบิดา
เมื่อถึงคราแสดงสัจจะเพื่อให้เป็นแบบอย่างแก่มนุษย์
โดยทรงยอมสละชีพให้พวกมารบนไม้กางแขนนั้น
พระองค์ทรงเตือนชาวโลกในครั้งกระนั้นว่า
ให้ทุกคนเตรียมตะเกียงใส่น้ำมันและจุดรอเอาไว้
หมายถึงให้ฝึกใช้ปัญญาของสมองไว้รอท่าพระองค์
จะเสด็จกลับมารับทุกคนกลับไปหาพระบิดาในไม่ช้า
 
ให้ทุกคนรอคอยพระองค์เหมือนเจ้าสาวที่รอเจ้าบ่าว
เป็นการรอคอยอย่างมีความหวังรอคอยอย่างมีปิติยินดี
เป็นการรอที่มีการเตรียมตัวเตรียมใจเอาไว้พร้อมสรรพ
มิใช่นอนรอจนหลับใหลโดยไม่เตรียมตัวอะไรเลย
แม้พระองค์เสด็จกลับมารับตั้งนานแล้วก็ยังไม่รู้ตัว
จึงเป็นที่มาของประโยคศักดิ์สิทธิ์ที่ว่า
 
#คนที่มาก่อนจะได้กลับแดนสุญตากันทีหลัง
เพราะคนพวกนี้รอนานจนหลับใหลไม่รู้ตัวว่า
ทรงเสด็จกลับมาวางพระเศียรอยู่บนโลกตั้งนานแล้ว
 
#คนที่มาทีหลังจะได้กลับบ้านแดนสุญตาก่อน
 
นั่นคือคนที่เพิ่งได้รับโอกาสจากพระเจ้าให้ได้มาพบ
จะเป็นผู้ที่ได้รับแสงสว่างทางปัญญาและอนุตรธรรม
ที่สื่อถ่ายทอดจากพระเจ้าโดยตรงเป็นครั้งแรกในชีวิต
จึงเรียนรู้เร็วเข้าใจเรื่องยากๆได้ง่ายภายในสามนาที
บรรลุอนุตรธรรมชั้นสูงได้ทันทีเพราะไม่มีอะไรยึดติด
 
ประตูมิติช่องทางที่เรียกว่า “ประตูหอ” นี้
พระเยซูทรงเรียกจำเพาะกรณีที่จิตวิญญาณพวกคุณ
จะหลุดพ้นออกไปจากแรงดึงดูดของโลกและเอกภพ
เพื่อกลับคืนบ้านเกิดหรือบ้านเดิมของจิตวิญญาณ
ซึ่งประตูมิตินี้พระบิดาทรงให้เราเรียกว่า
 #ด่านนภาลัย
 
(ยังมีตอนต่อไป)
 
เอเมน สาธุ
 
ถ่ายทอดคลื่นความคิดจากองค์จิตจักรวาล
โดย
 #ปัญญาวิสุทธิ์
25/10/2566