#คัมภีร์อนุตรธรรมภาคจิตจักรวาล
(เพื่อยุวจิตจักรวาลยุคสุดท้าย)
พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
พระเจ้าทรงกำหนดออกแบบเอาไว้ให้
จิตหยาบโดยจิตวิญญาณของคุณที่เป็นพ่อแม่ลูกกัน
มีความคล้ายคลึงทางด้านบุคลิกระหว่างกันอยู่แล้ว
คำว่า “คล้ายคลึงกันทางด้านบุคลิก” หมายถึง
จิตวิญญาณจะมีแรงสั่นสะเทือนของเมอร์คขะบาห์
ซึ่งเป็นกลุ่มพลังงานในส่วนของเปลือกนอกสุด
เมื่อมาเกิดเป็นมนุษย์แล้วก็ทำหน้าที่เป็นจิตใต้สำนึก
ที่อยู่ในระดับคลื่นความถี่ย่านเดียวกันหรือเท่าๆกัน
พระเจ้าทรงกำหนดออกแบบไว้ให้เป็นเช่นนี้
เพราะพลังอำนาจของเมอร์คขะบาห์ทั้งของพ่อแม่ลูก
ที่มีความ #คล้ายคลึงกัน เพราะมีความถี่ใกล้เคียงกัน
จะเกิดการ “สั่นสะเทือน” ถึงกันได้โดยอัตโนมัติเสมอ
ตัวอย่างเช่น
ถ้าใครคนใดคนหนึ่งในระหว่างพ่อแม่ลูก
สั่นสะเทือนจิตหยาบให้เกิดจิตสามนึกด้านบวกหรือลบ
เพื่อการทำบุญสุนทานหรือการสร้างบาปกรรมทำเข็ญ
จิตใต้สามนึกของหนึ่งในผู้ก่อการที่สั่นสะเทือนอยู่นั้น
จะเป็นเงื่อนไขให้จิตใต้สามนึกของคนในครอบครัว
เกิดการสั่นสะเทือนตามไปด้วยเสมือนก่อการเองทุกครั้ง
ไม่ว่าสามคนพ่อแม่ลูกนั้นจะอยู่ไกลหรือใกล้กันก็ตาม
กระบวนการแบบนี้
เป็นกระบวนการสัมพันธ์ทางจิตวิญญาณ
ที่พระเจ้าทรงออกแบบเอาไว้ให้ตั้งแต่แรกจับคู่กัน
โดยร่วมวางแผนกันว่าจะมาเป็นสามีภรรยาและบุตร
ตั้งแต่ภพชาติแรกก่อนที่จะมาเกิดเป็นมนุษย์โลก
ณ วิหารสีขาว ตรงด่านนภาลัยที่เป็นประตูคอกแกะแล้ว
เมื่อมาเกิดเป็นมนุษย์แล้วจิตวิญญาณของผู้มาใหม่
จะใช้เมอร์คขะบาห์ของตนร่วมกับของพ่อแม่ด้วย
สั่นสะเทือนเป็นความรักร่วมฟักจิตหยาบจากมิติศูนย์
โดยจิตหยาบของผู้มาเกิดใหม่นี้เป็นกลุ่มพลังงาน
189 กลุ่มที่จิตวิญญาณของผู้มาใหม่แบ่งภาคออกมา
เพื่อให้ทำหน้าที่แทนตนเองขณะมีภพชาติเป็นมนุษย์
ที่กล่าวว่าจิตหยาบมีมิติที่ “ศูนย์” หรือ 0D
จิตหยาบจึงยังไม่มีรูปทรงเรขาคณิตเป็นของตนเอง
จำนวนเหลี่ยมมุมยังไม่มีปรากฏเกิดขึ้นจึงมีมิติเป็นศูนย์
เมื่อพ่อแม่สั่นสะเทือนจิตหยาบเป็นความรักเพื่อให้
ร่วมกันกับจิตวิญญาณของผู้มาเกิดใหม่ที่ในครรภ์
ตามสมการพลังงานรวม ∑βₓ เหมือนดั่งแม่ไก่ที่กกไข่
เพื่อฟักไข่ให้ออกลูกมาเป็นตัวเป็นตนต่อไปได้
จะยังผลให้จิตหยาบของจิตวิญญาณผู้มาเกิดใหม่นั้น
ยกระดับแรงสั่นสะเทือนสูงขึ้นจากมิติที่ศูนย์ถึง 4D
กระบวนการตั้งครรภ์เริ่มจากเลือดเพียงหยดเดียว
แล้วเปลี่ยนเป็นตัวอ่อนจนพัฒนาเป็นทารกในครรภ์ได้
ล้วนจิตวิญญาณโดยจิตใต้สามนึกหรือเมอร์คขะบาห์
ของพ่อแม่ลูกสามรูปธรรมมีการสั่นสะเทือนร่วมกัน
ด้วยการหมุนธรรมจักรร่วมกันโดยแท้
เมื่อลูกของคุณคลอดออกมาแล้ว
ปฏิบัติการทางจิตวิญญาณตั้งแต่ในครรภ์ที่ว่านี้
ก็จะยังคงเป็นไปได้อยู่เป็นจริงอยู่จนกว่าจะสิ้นยุค
อันเป็นที่มาของคำว่า “ความคล้ายคลึง” ด้านบุคลิก
ดังนั้น
เมื่อพ่อแม่ทำความดีงามด้วยจิตสามนึกที่รู้สำนึก
จิตใต้สามนึกของพ่อแม่ผู้สั่นสะเทือนจิตสามนึกนั้น
มันก็จะสั่นสะเทือนตามด้วยในทันทีโดยไม่มีรีรอ
เพื่อสร้างกระบวนการสองมิติในมิติของแก่นแท้ด้วย
ซึ่งมันจะยังผลให้จิตใต้สามนึกของลูกที่คลอดแล้ว
เกิดการสั่นสะเทือนทางจิตวิญญาณตามไปด้วย
โดยแม้ว่าจิตหยาบของลูกที่คลอดแล้วและเติบโตแล้ว
จะไม่อาจรับรู้ความจริงเบื้องหลังมิติโลกนี้เลยก็ตาม
แต่จิตวิญญาณของลูกคุณเขาจะทำหน้าที่รับรู้ได้
เมื่อจิตหยาบของลูกคุณ
สามารถรับรู้แรงสั่นสะเทือนจากจิตวิญญาณตนเอง
ด้วยพลังอำนาจของเมอร์คขะบาห์ที่ว่านี้ได้
ก็จะยกระดับแรงสั่นสะเทือนให้สูงขึ้นทางด้านบวก
โดยที่พ่อแม่จะต้องรักลูกของตนไว้ตลอดเวลา
ขณะที่ลูกก็จะต้องรักพ่อแม่ของตนตลอดไปด้วย
พลังร่วมแห่งรักตามสมการ ∑βₓ โดยเอ็กซ์เท่ากับสาม
มันจะทำให้จิตหยาบของพ่อแม่และลูก
ยกระดับจากมิติที่ 4D ขึ้นสู่ 5D และ 6D ได้ในที่สุด
จะได้ประโยชน์จากความรักเพื่อให้ไปด้วยกันนั่นเอง
แต่หน้าที่ของพวกคุณที่จะต้องรู้กันไว้ก็คือ
ถ้าเอ็กซ์มีค่ามากกว่า 3 พลังอำนาจด้านบวกจะสูงขึ้น
มันก็จะแผ่ออกไปครอบคลุมพื้นที่ได้ถึง 33.33 ตร.กม.
เพราะพวกเขาจะอาศัยพลังร่วมของพวกคุณนี่แหละ
เป็นเงื่อนไขในการยกระดับจิตหยาบให้สูงขึ้นได้ด้วย
นี่จึงเป็นการออกแบบไว้มิให้คุณไปสวรรค์คนเดียวไงล่ะ
เนื่องจากทรงออกแบบเอาไว้ว่า
ถ้าจิตวิญญาณคุณจะหลุดพ้นกลับบ้านแดนสุญตาได้
จิตหยาบคุณต้องยกระดับถึง 6 เหลี่ยมมุมให้ได้ก่อน
หลังคลอดแล้วก็ต้องหมุนร่วมกันอย่างต่อเนื่องเรื่อยไป
ทั้งต้องชวนคนข้างบ้านและคนใกล้ตัวมาร่วมหมุนด้วย
หรือเมื่อใครมาชวนคุณหมุนด้วยเงื่อนไขที่คุณไม่ชอบ
คุณก็ต้องสอบผ่านบททดสอบนั้นไปให้ได้ทุกครั้งครา
โดยคิดเสียว่าเขาเมตตามาช่วยคุณกระตุ้นธรรมจักร
เพื่อให้คุณรักเขาให้ได้อภัยเขาให้เป็นนั่นแหละ
ถ้าคุณต่อสู้ตอบโต้ต่อต้านหรือเลิกคบหาเขา
แสดงว่าคุณโง่เขลาเบาปัญญาเพราะว่าไม่มีมหาสติ
จึงละทิ้งโอกาสดีๆที่สุดในชีวิตนั้นไปอย่างไม่ใยดี
เพราะคนที่เจตนาจะกล้าทำชั่วกับตัวคุณนั้นมีน้อย
เขากล้าทำชั่วโดยยื่นเงื่อนไขที่ไม่ดีมาให้คุณนั้น
เป็นเพราะว่าจิตวิญญาณของเขารักคุณ
จึงกล้าแสดงออกหรือกระทำในสิ่งที่คุณไม่ชอบ
เพื่อช่วยให้คุณสั่นสะเทือนจิตหยาบด้านบวกให้จงได้
นั่นคือ อดทน อดกลั้น และให้อภัยอย่างไม่มีเงื่อนไข
โดยที่ถ้าคุณไม่รักเขาคุณจะอดทั้งสามอดที่ว่านี้ไม่ได้
ถ้าไม่รักมากคุณจะอดทนอดกลั้นและอภัยได้ยากด้วย
คำว่า “รักมาก” นี่แหละเป็นตัวแปรสำคัญ
เพราะมันจะทำให้จิตหยาบคุณสั่นสะเทือนขันธ์ห้า
ให้สูงขึ้นทางด้านบวกสูงสุดเท่าที่คุณจะเข้าถึงได้
มันจะยิ่งช่วยให้ทุกคนยกระดับแรงสั่นสะเทือนสูงขึ้น
จนทำให้จิตหยาบเข้าถึงมิติที่สูงกว่าได้เรื่อยไป
ยิ่งถ้าพวกคุณหมั่นหมุนธรรมจักรร่วมกันแบบนี้ทั้งวัน
โดยไม่เปิดโอกาสให้กิเลสมารเข้ามาแทรกจนจิตตก
จิตหยาบของคุณก็จะไม่เสื่อมค่าต่ำชั้นลงจากเดิม
จากมิติที่ 4D ไม่ต่ำชั้นลงมาอยู่ที่ 3D จนเป็นคนเอ๋อ
เพราะการหมุนธรรมจักรร่วมกันกับคนอื่นไว้เสมอ
มันคือการ “ค้ำจุน” สมดุลของจิตหยาบพวกคุณด้วย
จิตหยาบเข้าถึงมิติเท่าไหร่ก็จะสมดุลอยู่เท่านั้นตลอด
ดังนั้น
คนในครอบครัวพ่อแม่ลูกและคนใกล้ตัว
จึงเป็นผู้ที่มีประโยชน์และมีคุณค่าต่อกันเสมอ
หมายเหตุ:
พระโอวาทบทนี้
อนุญาตให้แชร์ได้
เอเมน สาธุ
ถ่ายทอดคลื่นความคิดจากองค์จิตจักรวาล
โดย #ปัญญาวิสุทธิ์
2/10/2566