08 เมษายน 2567

คัมภีร์อนุตรธรรมภาคจิตจักรวาล 8/04/2024

 #คัมภีร์อนุตรธรรมภาคจิตจักรวาล

 

พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย

เราจะกล่าวความจริงเพิ่มเติมต่อท่านทั้งหลายว่า

 

พระบิดาแห่งจิตวิญญาณคือองค์จิตจักรวาลดวงใหญ่

ทรงบัญชาให้เรากล่าวซ้ำย้ำเติมเรื่อง #ธรรมจักร

ให้ได้รับรู้เรียนรู้โดยทั่วกันตลอดสองสามวันที่ผ่านมา

เราเชื่อมั่นว่าพวกคุณต้องเข้าใจถูกต้องตรงกันแล้วว่า

การหมุนธรรมจักรในตนเองและหมุนร่วมกันให้ได้นั้น

มันคือหน้าที่หลักที่สำคัญของมนุษย์ทุกคนนั่นเอง

 

ดังนั้น

ไม่ว่าคุณจะเป็นใครสัญชาติไหนรับถือศาสนาใด

ไม่ว่าคุณจะได้รับโอกาสให้มาเกิดแล้วกี่ภพกี่ชาติ

ไม่ว่าคุณจะเปลี่ยนศาสนานับถือมาแล้วสักกี่ศาสนา

 

พวกคุณล้วนมีจิตวิญญาณถือพันธะสัญญา 6 มาเกิด

เพื่อทำหน้าที่ในบทบาทของ #คนสองมิติ กันทั้งนั้น

ซึ่งพวกคุณจะต้องทำตามพันธะสัญญาให้ครบถ้วน

พวกคุณจะต้องทำมันให้บังเกิดผลสำเร็จจนสุดจิตใจ

โดยพวกคุณจะละเลยเหลวไหลกันไม่ได้แม้สักข้อ

ซึ่งมีเหตุผลสำคัญอยู่ 3 ประการ คือ

 

#เหตุผลประการแรก

เพราะคุณให้สัจจะต่อพระบิดาแห่งจิตวิญญาณไว้ว่า

ถ้าทรงให้โอกาสคุณมาเกิดในเอกภพอยู่ในระบบโลก

คุณจะทำตามหน้าที่ทั้ง 6 ประการนี้ให้สำเร็จให้จงได้

 

#เหตุผลประการที่สอง

เพราะว่าจิตวิญญาณผู้เป็นตัวตนแก่นแท้ของคุณนั้น

เป็นหนึ่งในจำนวนของผู้ขันอาสาที่ทรงอนุญาตให้มา

โดยจำนวนผู้ขันอาสาเข้ามาทำหน้าที่นี้มีจำกัดจำนวน

แปลว่าจำนวนเพื่อนร่วมงานของโลกมีจำนวนจำกัด

ใครบางคนจะเหลวไหลหรือทำหน้าที่บกพร่องมิได้

ไม่ต่างจากลูกสูบของเครื่องยนต์เครื่องหนึ่งที่มี 4 สูบ

โดยผู้สร้างเครื่องยนต์นั้นออกแบบไว้ให้มันมี 4 สูบ

เพื่อให้พลังแก่เครื่องยนต์เครื่องนั้นเต็มที่สี่สูบพอดี

ถ้าเครื่องยนต์นั้นลูกสูบพังไปหรือใช้การไม่ได้สูบหนึ่ง

อีกสามสูบที่เหลือจะไม่อาจทำหน้าที่ให้พลังแทนได้

เครื่องยนต์เครื่องนั้นมันก็จะมีพลังอำนาจลดน้อยลง

มีสมรรถนะเครื่องยนต์จะตกต่ำลงไปจากเดิมที่มันเป็น

 

ดังนั้น

คุณก็เป็นหนึ่งในจิตวิญญาณที่ได้รับโอกาส

จะปล่อยวางโอกาสให้กลายเป็นคนเสียชาติเกิดไม่ได้

 

#เหตุผลประการที่สาม

เพราะว่า “จิตวิญญาณของคุณ” แต่ละคน

เป็น “ผู้ขันอาสา” เข้ามาทำหน้าที่สำคัญยิ่งนี้กันเอง

โดยพระเจ้าหรือองค์จิตจักรวาลดวงใหญ่นั้น

มิได้ทรงบังคับให้พวกคุณเข้ามาทำกันแต่อย่างใด

เมื่อขันอาสามาเองแล้วไม่ว่าภารกิจจะยากหรือง่าย

พวกคุณจะปฏิเสธไม่ยอมทำมันโดยอ้างว่าทำยาก

อันเป็นการปฏิเสธความรับผิดชอบนั้นกันดื้อๆไม่ได้

 

การที่คุณได้รับโอกาสให้มาเกิดแล้วไม่ยอมทำ

นอกจากคุณจะเสียทีที่ได้มาเกิดเป็นคนสองมิติ

เพื่อคนตนเองให้เป็นมนุษย์ให้จงได้แล้ว

คุณจะเป็นคนหนึ่งที่ทำให้ภารกิจพระองค์ล้มเหลว

 

เอาล่ะหลายพันปีที่ผ่านมา

พวกคุณถูกหลอกให้เวียนตายเวียนเกิดกันมาแล้ว

ทั้งๆที่จิตวิญญาณคุณไม่มีใครมีหน้าที่ต้องตายเลย

 

พวกคุณยังถูกหลอกให้หลงทางนิพพาน

หลอกให้เสพกิเลสที่เป็นเศษสุขอยู่บนสวรรค์มายา

จนทิ้งหน้าที่ใช้เมตตาธรรมค้ำจุนสมดุลโลกนี้ไป

โดยขึ้นไปรับบทเป็นกรรมกรแสงให้ผีโสโครกแทน

เพราะจิตวิญญาณพวกคุณมีขันธ์ห้าเป็นเครื่องมือ

ที่สามารถผลิตสร้างพลังงานไฟฟ้าด้านบวกขึ้นมาได้

แต่พวกมารทั้งหลายนั้นไม่มีเครื่องมือนี้ให้ใช้

เพื่อชาร์จพลังงานเติมเต็มให้จิตวิญญาณของตน

ที่ถูกใช้แสดงฤทธิ์อุตริจนเสื่อมพลังไปเกือบหมดได้

รายการผีหลอกคนอย่างพวกคุณที่โง่ง่ายจึงเกิดขึ้น

ตั้งแต่หลายพันปีที่พวกคุณถูกหลอกมาจนบัดนี้แล้ว

สมัยพระพุทธเจ้ามีหลักฐานว่ามนุษย์โลกถูกหลอก

ด้วยพระวจนะที่พระองค์ทรงกล่าวเตือนสติเอาไว้ว่า

#จงอย่าหลงทางนิพพานแบบตาลยอดด้วน

 

พระองค์ทรงหมายถึง

จิตวิญญาณของคุณมาจากไหนต้องกลับไปที่นั่น

เพราะสวรรค์มายาเป็นภพภูมิที่พระองค์มิได้สร้างไว้

จิตวิญญาณของพวกคุณมิได้มาจากที่นั่น

เมื่อตายไปจากการเป็นมนุษย์แล้ว

จะลอยขึ้นไปติดค้างอยู่บนนั้นกันไม่ได้เลย

 

ไม่ต่างจากตาลต้นหนึ่งที่ถูกปลูกขึ้นไว้บนพื้นโลก

เมื่อมันเจริญเติบโตขึ้นเป็นตาลต้นสูงใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ

ทั้งโคนต้นและลำต้นไปจนถึงยอดตาลต้นนั้น

มันก็จะยังคงดำรงตนเองให้แลเห็นได้อยู่ดังเดิม

ใช่ว่าเมื่อลำต้นสูงใหญ่แล้วยอดตาลจะด้วนหายไป

 

จิตวิญญาณของมนุษย์ก็เช่นเดียวกันกับต้นตาล

เมื่อพระบิดาอนุญาตให้นำเมล็ดพันธุ์มาปลูกบนโลก

พอเติบโตขึ้นมาแล้วจะตายหายไปจากโลกกันดื้อๆ

ไม่ย้อนกลับมาเกิดเป็นมนุษย์บนโลกเสรีนี้อีก

ด้วยหลงเชื่อว่าตน “นิพพาน” ไปอยู่สวรรค์มายาแล้ว

ซึ่งเพียงใช้สมองคิดตรึกตรองก็จะรู้ได้เองว่าถูกหลอก

 

คุณลองหลับตานึกภาพนาฬิกาแบบแขนด็ก็ได้ว่า

ลูกตุ้มนาฬิกานั้นมันจะแกว่งไปแกว่งมาอยู่เสมอ

แกว่งมาจากตรงไหนเมื่อไปจนสุดทางแล้ว

ลูกตุ้มนาฬิกานั้นก็จะแกว่งกลับคืนมาสู่จุดเริ่มต้นใหม่

แบบว่า #มาจากทางไหนก็จะกลับไปทางนั้น เสมอ

ไม่มีการแกว่งมาสุดทางแล้วหายไปเลยว่ามั้ย?

 

กราบพระบาทพระบิดาทรงเมตตา

 

เอเมน สาธุ

#ปัญญาวิสุทธิ์

8/04/2567