#คัมภีร์อนุตรธรรมภาคจิตจักรวาล
พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงเพิ่มเติมต่อท่านทั้งหลายว่า
เพื่อช่วยให้เห็นภาพด้วยสมองซีกขวาของคุณ
เกี่ยวกับวิธีการทำให้ #กาแล็กซี่ธารสายน้ำนม
ซึ่งเป็นกาแล็กซี่ใหญ่ที่สุดใน 12,500 ล้านระบบ
ที่พระองค์ได้ทรงออกแบบสร้างให้มันทำหน้าที่
เป็นเส้นผ่านศูนย์กลางแนวระนาบของ
“เอกภพ”
เพื่อให้มันหมุนกวาดไปในแนวระนาบอย่างต่อเนื่อง
โดยมีจุดศูนย์กลางในการเหวี่ยงหมุนอยู่คงที่ได้
พระองค์ทรงกระทำดังต่อไปนี้
1.ทรงกำหนดให้โลกเป็นผู้นำดาวเคราะห์อีก
8 ดวง
พร้อมดวงจันทร์ที่เป็นดาวเพื่อนของดาวทั้งแปดนั้น
โดยให้โลกนำพาทุกดวงโคจรวนไปรอบดวงอาทิตย์
ให้มีความสอดคล้องกันกับอัตราเร็วการเหวี่ยงหมุน
ของเส้นผ่านศูนย์กลางคือธารสายน้ำนมตลอดเวลา
สาเหตุที่ระบบสุริยะทุกวันนี้
ดาวเคราะห์ทั้งเก้าดวงต่างมีวงโคจรเป็นของตัวเอง
โดยไม่มีภาพของโลกกำลังฉุดรั้งดาวทั้งแปด
ให้โคจรวนไปรอบดวงอาทิตย์ให้พวกคุณได้เห็น
เพราะแต่ละดวงมีขนาดและน้ำหนักมวลต่างกัน
แต่ละดวงมีวงโคจรเป็นของตนเองในแนวระนาบ
ทุกดวงต่างล้วนมีทิศทางการเคลื่อนที่ไปข้างหน้า
ซึ่งโลกเป็นผู้พานำและพาทำอยู่เช่นนั้นตลอดมา
การเฉี่ยวชนกันกับการปะทะกันจึงไม่เคยเกิดขึ้นเลย
ดาวเคราะห์แต่ละดวงจะโคจรร่วมกันอย่างเป็นระบบ
ที่มีความสมดุลกันอยู่ได้ก็เพราะแรงดึงดูดเหนี่ยวรั้ง
ที่ดวงอาทิตย์และทุกดวงรักกันและเหนี่ยวรั้งกันไว้
โดยมีดาวเคราะห์โลกดวงนี้เป็นผู้นำของระบบนั่นเอง
2.ทรงออกแบบกำหนดให้โลกเป็นผู้นำของระบบ
โดยมีดวงอาทิตย์เป็นจุดศูนย์กลางของระบบสุริยะนี้
ตลอดเวลาและตลอดไปขณะกาแล็กซี่ธารสายน้ำนม
มีการโคจรหมุนวนไปรอบแกนกลางอย่างต่อเนื่องนั้น
พระองค์ทรงกำหนดให้ดาวเคราะห์โลกเสรีดวงนี้
ทำหน้าที่เป็นจุดศูนย์กลางของเอกภพที่ทรงสร้างขึ้น
นั่นคือให้โลกทำหน้าที่ค้ำจุนความสมดุลของเอกภพ
ในอีกบทบาทหนึ่งซึ่งสำคัญไม่น้อยไปกว่ากันด้วย
ถ้าวงกลมวงหนึ่งจะไม่บูดเบี้ยวโย้เย้หรือไม่เสียทรง
วงกลมวงนั้นจะต้องมีจุดศูนย์กลางคงที่ตลอดเวลา
ระยะทางจากจุดศูนย์กลางไปยังเส้นรอบวงทุกเส้น
ต้องมีความยาวเท่ากันหรือ
“มีค่าคงที่” เท่ากันเสมอ
สำหรับเอกภพที่เป็นห้องทดลองของพระองค์
ซึ่งเป็นรูปทรงรีหรือทรงลูกหนำเลี้ยบก็เช่นเดียวกัน
จุดศูนย์กลางของรูปทรงหรือรูปธรรมดังกล่าวนี้นั้น
มันจะเป็นจุดที่เส้นผ่านศูนย์กลางในแนวระนาบ
กับเส้นผ่านศูนย์กลางในแนวดิ่งตัดผ่านกันนั่นเอง
โดยทั้งรูปธรรมจะมีจุดตัดนี้แค่เพียงจุดเดียวเท่านั้น
ถ้าจุดศูนย์กลางของรูปธรรมแบบสามมิติดังกล่าวนี้
โยกย้ายเปลี่ยนที่ไปเรื่อยๆรูปทรงนี้ก็จะไม่คงที่ด้วย
ด้วยเหตุนี้เอง
พระองค์จึงต้องทรงกำหนดให้โลกทำหน้าที่สำคัญ
ในการช่วยค้ำจุนเอกภพที่เป็นห้องทดลองนี้ไว้ให้ได้
โดยให้มีพลังอำนาจในการเป็นผู้นำดาวทั้งแปดดวง
โคจรอย่างเป็นระบบวนรอบดวงอาทิตย์ให้ต่อเนื่อง
3.ทรงออกแบบให้กาแล็กซี่ที่เป็นเส้นผ่านศูนย์กลาง
ให้เป็นกาแล็กซี่เดียวแต่มีระบบสุริยะอยู่สองระบบ
ระบบแรกเป็นระบบที่มีโลกกับดาวเพื่อนอีกแปดดวง
ระบบที่สองเป็นระบบที่มีดาวเพื่อนรวมทั้งสิ้นห้าดวง
คุณจะสังเกตได้ว่า
ระบบสุริยะทั้งสองระบบนี้พระองค์ทรงออกแบบให้
มีพิกัดอยู่คนละด้านกันกับจุดกึ่งกลางของกาแล็กซี่
โดยสุริยะจักรวาลโลกจะมีดาวเคราะห์ครบเก้าดวง
แต่อีกระบบสุริยะหนึ่งจะมีดาวเคราะห์เพียงแค่ห้าดวง
ซึ่งพวกคุณจะต้องรู้ว่าเลข 9 กับเลข 5 ที่ว่านี้นั้น
เป็นเครื่องบ่งชี้ว่าถ้าเป็นจำนวนเท่าของ
3 ก็คือ 9
หมายถึงระบบนั้นมีความสมดุลของระบบดีอยู่แล้ว
แต่ถ้าจำนวน 9 ดวงแต่ลดไปหนึ่งจะเหลืออยู่แค่ 8
พลังอำนาจของระบบก็จะลดน้อยลงไปทันที
ขณะเดียวกันกับที่
อีกระบบสุริยะหนึ่งซึ่งเดิมมีดาวเคราะห์อยู่แค่
5 ดวง
ระบบสุริยะด้านนี้จะมีพลังอำนาจน้อยเพราะไม่สมดุล
ถ้าทรงกำหนดให้มีดาวเคราะห์เพิ่มเข้าไปอีก
1 ดวง
พลังอำนาจของระบบนี้ก็จะเพิ่มขึ้นมาได้ในทันที
เพราะระบบสุริยะนี้จะมีดาวเคราะห์รวมกันเป็น
6 ดวง
ซึ่ง 6 จะเป็นจำนวนเท่าของ 3 คือสมดุลนั่นเอง
เมื่อทรงออกแบบให้ทั้งสองระบบสุริยะดังกล่าว
ผลัดกันมีพลังอำนาจเพิ่มขึ้นกับลดลงอย่างต่อเนื่อง
จนมีลักษณะคล้ายการเล่นกระดานหกของเด็กๆแล้ว
มันจะยังผลให้กาแล็กซี่ที่เป็นเส้นผ่านศูนย์กลางนั้น
เหวี่ยงหมุนรอบจุดกึ่งกลางกาแล็กซี่อย่างต่อเนื่องได้
ในการเริ่มเล่นกระดานหกของคนสองคนนั้น
จะมีฝ่ายหนึ่งทำการออกแรงโยกกระดานก่อน
เพื่อให้กระดานของอีกฝ่ายหนึ่งโยกตัวขึ้นลงได้
ถ้าฝ่ายเริ่มต้นเป็นผู้ที่มีแรงหรือมีพลังมากกว่าแล้ว
ผู้เล่นทางฝ่ายนั้นก็จะเป็นผู้เริ่มต้นออกแรงดีดตัวขึ้น
เพื่อทำให้ผู้เล่นด้านตรงข้ามโยกตัวเองลดต่ำลง
เมื่อกระดานหกยกตัวขึ้นจนสูงสุดได้เรียบร้อยแล้ว
ผู้เล่นทางด้านที่มีน้ำหนักมวลมากกว่าที่ยกตัวสูงอยู่
จะถูกแรงความโน้มถ่วงดึงดูดให้ตกลงมาสู่จุดเริ่มต้น
ทำให้ผู้เล่นกระดานหกอีกฝ่ายหนึ่งที่มีมวลน้อยกว่า
จะถูกชักพาให้ยกระดับกลับขึ้นมาสู่ด้านบนแทน
ปรากฏการณ์ลักษณะนี้เรียกว่า #กระดานหกโมเดล
ซึ่งมันจะหกขึ้นหกลงอย่างต่อเนื่องอยู่ตลอดเวลา
การหกขึ้นหกลงนี้แหละที่มันจะต้องมีผู้รับผิดชอบ
แน่นอนว่าผู้รับผิดชอบก็คือพวกคุณชาวโลกนี้ไงล่ะ
เพราะไม่เช่นนั้นแล้วเอกภพระบบใหญ่ก็สมดุลไม่ได้
1.ถ้าคุณฆ่ากันเองตายฆ่าสัตว์ตายโค่นต้นไม้ตาย
ทำให้จำนวนรูปธรรมที่จะเป็นเพื่อนร่วมงานกับโลก
เพื่อร่วมกันหมุนธรรมจักรด้วยความรักจนลดน้อยลง
2.ถ้าพวกคุณทำให้ตนเองต้องมีอายุขัย
จนไม่สามารถจะมีอายุยืนยาวอยู่ในระบบโลกนี้ได้
คุณก็จะไม่อาจเป็นเพื่อนร่วมงานกับโลกนี้ได้เลย
3.ถ้าพวกคุณถูกหลอกให้หนีทุกข์เพราะกลัวทุกข์
เพื่อไปเสวยสุขอยู่บนสวรรค์มายาหรือว่าไปตกนรก
คุณก็จะใช้เมตตาธรรมค้ำจุนสมดุลโลกไม่ได้อีก
เพราะคุณไม่ได้ทำเพื่อโลกแต่ทำเพื่อตนเองเท่านั้น
ทั้งสามประการที่ว่านี้
ล้วนเป็นสาเหตุที่ทำให้โลกนี้เสียสมดุล
จนทำให้กาแล็กซี่เส้นผ่านศูนย์กลางเสียสมดุลตาม
ในที่สุดแล้วจะลุกลามจนทำให้เอกภพเสียหายด้วย
ถูกออกแบบให้ทำหน้าที่เป็นเหมือนผู้เล่นกระดานหก
เป็นฝ่ายที่มีน้ำหนักมวลน้อยกว่าทางด้าน
#ดาวโลก
โดยทรงกำหนดให้มีวงโคจรเป็นรูปเลข
8 แนวนอน
ซึ่งมีนามเรียกขานว่า
“อินฟินิตี้” (Infinity)
วงกลมด้านหนึ่งของเลข 8 คือวงโคจรรอบโลก
ส่วนวงกลมอีกด้านหนึ่งของเลขแปดนั้น
จะเป็นวงโคจรของดาวพลูโตรอบระบบสุริยะ
ในอีกระบบหนึ่งซึ่งอยู่ด้านตรงกันข้ามนั่นเอง
ภารกิจในการกำหนดให้มันโคจรแบบอินฟินิตี้นี้
เป็นภารกิจของพระเจ้าที่ทรงเป็นพระผู้สร้างเอง
พวกคุณที่เป็นมนุษย์จะรับผิดชอบแค่หมุนธรรมจักร
โดยใช้ความรักเพื่อให้ค้ำจุนโลกให้สมดุลไว้เท่านั้น
คุณว่ามันยาก…เกิ๊น! เช่นนั้นหรือ?
กราบพระบาทพระบิดาทรงเมตตา
เอเมน สาธุ
7/04/2567