07 เมษายน 2567

คัมภีร์อนุตรธรรมภาคจิตจักรวาล 7/04/2024

 #คัมภีร์อนุตรธรรมภาคจิตจักรวาล

 

พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย

เราจะกล่าวความจริงเพิ่มเติมต่อท่านทั้งหลายว่า

 

เพื่อช่วยให้เห็นภาพด้วยสมองซีกขวาของคุณ

เกี่ยวกับวิธีการทำให้ #กาแล็กซี่ธารสายน้ำนม

ซึ่งเป็นกาแล็กซี่ใหญ่ที่สุดใน 12,500 ล้านระบบ

ที่พระองค์ได้ทรงออกแบบสร้างให้มันทำหน้าที่

เป็นเส้นผ่านศูนย์กลางแนวระนาบของ “เอกภพ”

เพื่อให้มันหมุนกวาดไปในแนวระนาบอย่างต่อเนื่อง

โดยมีจุดศูนย์กลางในการเหวี่ยงหมุนอยู่คงที่ได้

พระองค์ทรงกระทำดังต่อไปนี้

 

1.ทรงกำหนดให้โลกเป็นผู้นำดาวเคราะห์อีก 8 ดวง

พร้อมดวงจันทร์ที่เป็นดาวเพื่อนของดาวทั้งแปดนั้น

โดยให้โลกนำพาทุกดวงโคจรวนไปรอบดวงอาทิตย์

ให้มีความสอดคล้องกันกับอัตราเร็วการเหวี่ยงหมุน

ของเส้นผ่านศูนย์กลางคือธารสายน้ำนมตลอดเวลา

 

สาเหตุที่ระบบสุริยะทุกวันนี้

ดาวเคราะห์ทั้งเก้าดวงต่างมีวงโคจรเป็นของตัวเอง

โดยไม่มีภาพของโลกกำลังฉุดรั้งดาวทั้งแปด

ให้โคจรวนไปรอบดวงอาทิตย์ให้พวกคุณได้เห็น

เพราะแต่ละดวงมีขนาดและน้ำหนักมวลต่างกัน

แต่ละดวงมีวงโคจรเป็นของตนเองในแนวระนาบ

ทุกดวงต่างล้วนมีทิศทางการเคลื่อนที่ไปข้างหน้า

ซึ่งโลกเป็นผู้พานำและพาทำอยู่เช่นนั้นตลอดมา

การเฉี่ยวชนกันกับการปะทะกันจึงไม่เคยเกิดขึ้นเลย

 

ดาวเคราะห์แต่ละดวงจะโคจรร่วมกันอย่างเป็นระบบ

ที่มีความสมดุลกันอยู่ได้ก็เพราะแรงดึงดูดเหนี่ยวรั้ง

ที่ดวงอาทิตย์และทุกดวงรักกันและเหนี่ยวรั้งกันไว้

โดยมีดาวเคราะห์โลกดวงนี้เป็นผู้นำของระบบนั่นเอง

 

2.ทรงออกแบบกำหนดให้โลกเป็นผู้นำของระบบ

โดยมีดวงอาทิตย์เป็นจุดศูนย์กลางของระบบสุริยะนี้

ตลอดเวลาและตลอดไปขณะกาแล็กซี่ธารสายน้ำนม

มีการโคจรหมุนวนไปรอบแกนกลางอย่างต่อเนื่องนั้น

พระองค์ทรงกำหนดให้ดาวเคราะห์โลกเสรีดวงนี้

ทำหน้าที่เป็นจุดศูนย์กลางของเอกภพที่ทรงสร้างขึ้น

นั่นคือให้โลกทำหน้าที่ค้ำจุนความสมดุลของเอกภพ

ในอีกบทบาทหนึ่งซึ่งสำคัญไม่น้อยไปกว่ากันด้วย

 

ถ้าวงกลมวงหนึ่งจะไม่บูดเบี้ยวโย้เย้หรือไม่เสียทรง

วงกลมวงนั้นจะต้องมีจุดศูนย์กลางคงที่ตลอดเวลา

ระยะทางจากจุดศูนย์กลางไปยังเส้นรอบวงทุกเส้น

ต้องมีความยาวเท่ากันหรือ “มีค่าคงที่” เท่ากันเสมอ

 

สำหรับเอกภพที่เป็นห้องทดลองของพระองค์

ซึ่งเป็นรูปทรงรีหรือทรงลูกหนำเลี้ยบก็เช่นเดียวกัน

จุดศูนย์กลางของรูปทรงหรือรูปธรรมดังกล่าวนี้นั้น

มันจะเป็นจุดที่เส้นผ่านศูนย์กลางในแนวระนาบ

กับเส้นผ่านศูนย์กลางในแนวดิ่งตัดผ่านกันนั่นเอง

โดยทั้งรูปธรรมจะมีจุดตัดนี้แค่เพียงจุดเดียวเท่านั้น

ถ้าจุดศูนย์กลางของรูปธรรมแบบสามมิติดังกล่าวนี้

โยกย้ายเปลี่ยนที่ไปเรื่อยๆรูปทรงนี้ก็จะไม่คงที่ด้วย

 

ด้วยเหตุนี้เอง

พระองค์จึงต้องทรงกำหนดให้โลกทำหน้าที่สำคัญ

ในการช่วยค้ำจุนเอกภพที่เป็นห้องทดลองนี้ไว้ให้ได้

โดยให้มีพลังอำนาจในการเป็นผู้นำดาวทั้งแปดดวง

โคจรอย่างเป็นระบบวนรอบดวงอาทิตย์ให้ต่อเนื่อง

 

3.ทรงออกแบบให้กาแล็กซี่ที่เป็นเส้นผ่านศูนย์กลาง

ให้เป็นกาแล็กซี่เดียวแต่มีระบบสุริยะอยู่สองระบบ

ระบบแรกเป็นระบบที่มีโลกกับดาวเพื่อนอีกแปดดวง

ระบบที่สองเป็นระบบที่มีดาวเพื่อนรวมทั้งสิ้นห้าดวง

 

คุณจะสังเกตได้ว่า

ระบบสุริยะทั้งสองระบบนี้พระองค์ทรงออกแบบให้

มีพิกัดอยู่คนละด้านกันกับจุดกึ่งกลางของกาแล็กซี่

โดยสุริยะจักรวาลโลกจะมีดาวเคราะห์ครบเก้าดวง

แต่อีกระบบสุริยะหนึ่งจะมีดาวเคราะห์เพียงแค่ห้าดวง

ซึ่งพวกคุณจะต้องรู้ว่าเลข 9 กับเลข 5 ที่ว่านี้นั้น

เป็นเครื่องบ่งชี้ว่าถ้าเป็นจำนวนเท่าของ 3 ก็คือ 9

หมายถึงระบบนั้นมีความสมดุลของระบบดีอยู่แล้ว

แต่ถ้าจำนวน 9 ดวงแต่ลดไปหนึ่งจะเหลืออยู่แค่ 8

พลังอำนาจของระบบก็จะลดน้อยลงไปทันที

 

ขณะเดียวกันกับที่

อีกระบบสุริยะหนึ่งซึ่งเดิมมีดาวเคราะห์อยู่แค่ 5 ดวง

ระบบสุริยะด้านนี้จะมีพลังอำนาจน้อยเพราะไม่สมดุล

ถ้าทรงกำหนดให้มีดาวเคราะห์เพิ่มเข้าไปอีก 1 ดวง

พลังอำนาจของระบบนี้ก็จะเพิ่มขึ้นมาได้ในทันที

เพราะระบบสุริยะนี้จะมีดาวเคราะห์รวมกันเป็น 6 ดวง

ซึ่ง 6 จะเป็นจำนวนเท่าของ 3 คือสมดุลนั่นเอง

 

เมื่อทรงออกแบบให้ทั้งสองระบบสุริยะดังกล่าว

ผลัดกันมีพลังอำนาจเพิ่มขึ้นกับลดลงอย่างต่อเนื่อง

จนมีลักษณะคล้ายการเล่นกระดานหกของเด็กๆแล้ว

มันจะยังผลให้กาแล็กซี่ที่เป็นเส้นผ่านศูนย์กลางนั้น

เหวี่ยงหมุนรอบจุดกึ่งกลางกาแล็กซี่อย่างต่อเนื่องได้

 

ในการเริ่มเล่นกระดานหกของคนสองคนนั้น

จะมีฝ่ายหนึ่งทำการออกแรงโยกกระดานก่อน

เพื่อให้กระดานของอีกฝ่ายหนึ่งโยกตัวขึ้นลงได้

ถ้าฝ่ายเริ่มต้นเป็นผู้ที่มีแรงหรือมีพลังมากกว่าแล้ว

ผู้เล่นทางฝ่ายนั้นก็จะเป็นผู้เริ่มต้นออกแรงดีดตัวขึ้น

เพื่อทำให้ผู้เล่นด้านตรงข้ามโยกตัวเองลดต่ำลง

เมื่อกระดานหกยกตัวขึ้นจนสูงสุดได้เรียบร้อยแล้ว

ผู้เล่นทางด้านที่มีน้ำหนักมวลมากกว่าที่ยกตัวสูงอยู่

จะถูกแรงความโน้มถ่วงดึงดูดให้ตกลงมาสู่จุดเริ่มต้น

ทำให้ผู้เล่นกระดานหกอีกฝ่ายหนึ่งที่มีมวลน้อยกว่า

จะถูกชักพาให้ยกระดับกลับขึ้นมาสู่ด้านบนแทน

 

ปรากฏการณ์ลักษณะนี้เรียกว่า #กระดานหกโมเดล

ซึ่งมันจะหกขึ้นหกลงอย่างต่อเนื่องอยู่ตลอดเวลา

การหกขึ้นหกลงนี้แหละที่มันจะต้องมีผู้รับผิดชอบ

แน่นอนว่าผู้รับผิดชอบก็คือพวกคุณชาวโลกนี้ไงล่ะ

เพราะไม่เช่นนั้นแล้วเอกภพระบบใหญ่ก็สมดุลไม่ได้

 

1.ถ้าคุณฆ่ากันเองตายฆ่าสัตว์ตายโค่นต้นไม้ตาย

ทำให้จำนวนรูปธรรมที่จะเป็นเพื่อนร่วมงานกับโลก

เพื่อร่วมกันหมุนธรรมจักรด้วยความรักจนลดน้อยลง

 

2.ถ้าพวกคุณทำให้ตนเองต้องมีอายุขัย

จนไม่สามารถจะมีอายุยืนยาวอยู่ในระบบโลกนี้ได้

คุณก็จะไม่อาจเป็นเพื่อนร่วมงานกับโลกนี้ได้เลย

 

3.ถ้าพวกคุณถูกหลอกให้หนีทุกข์เพราะกลัวทุกข์

เพื่อไปเสวยสุขอยู่บนสวรรค์มายาหรือว่าไปตกนรก

คุณก็จะใช้เมตตาธรรมค้ำจุนสมดุลโลกไม่ได้อีก

เพราะคุณไม่ได้ทำเพื่อโลกแต่ทำเพื่อตนเองเท่านั้น

 

ทั้งสามประการที่ว่านี้

ล้วนเป็นสาเหตุที่ทำให้โลกนี้เสียสมดุล

จนทำให้กาแล็กซี่เส้นผ่านศูนย์กลางเสียสมดุลตาม

ในที่สุดแล้วจะลุกลามจนทำให้เอกภพเสียหายด้วย

 

#ดาวพลูโต

ถูกออกแบบให้ทำหน้าที่เป็นเหมือนผู้เล่นกระดานหก

เป็นฝ่ายที่มีน้ำหนักมวลน้อยกว่าทางด้าน #ดาวโลก

โดยทรงกำหนดให้มีวงโคจรเป็นรูปเลข 8 แนวนอน

ซึ่งมีนามเรียกขานว่า “อินฟินิตี้” (Infinity)

วงกลมด้านหนึ่งของเลข 8 คือวงโคจรรอบโลก

ส่วนวงกลมอีกด้านหนึ่งของเลขแปดนั้น

จะเป็นวงโคจรของดาวพลูโตรอบระบบสุริยะ

ในอีกระบบหนึ่งซึ่งอยู่ด้านตรงกันข้ามนั่นเอง

 

ภารกิจในการกำหนดให้มันโคจรแบบอินฟินิตี้นี้

เป็นภารกิจของพระเจ้าที่ทรงเป็นพระผู้สร้างเอง

พวกคุณที่เป็นมนุษย์จะรับผิดชอบแค่หมุนธรรมจักร

โดยใช้ความรักเพื่อให้ค้ำจุนโลกให้สมดุลไว้เท่านั้น

คุณว่ามันยาก…เกิ๊น! เช่นนั้นหรือ?

 

กราบพระบาทพระบิดาทรงเมตตา

เอเมน สาธุ

#ปัญญาวิสุทธิ์

7/04/2567