#คัมภีร์อนุตรธรรมภาคจิตจักรวาล
พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
ประโยชน์ใหญ่ของการ “หมุนธรรมจักร”
ของคุณ
นอกจากจะทำให้ครอบครัวสงบเย็นเป็นสุขแล้ว
ในมิติทางพลังงานเบื้องหลังมิติโลกทางกายภาพนั้น
พลังงานจิตที่คุณผลิตร่วมกันออกมาได้เกือบทั้งหมด
จะช่วยยกระดับแรงสั่นสะเทือนทางจิตสำนึกของโลก
ให้สูงขึ้นได้อีกต่างหากด้วย
แรงสั่นสะเทือนทางจิตสำนึกของโลกหมายถึง
การสั่นสะเทือนขึ้นๆลงๆของสนามแม่เหล็กโลก
ที่เหวี่ยงออกมาจากแกนโลกแล้วหุ้มห่อระบบโลกไว้
ลักษณะคล้ายตะแกรงตาข่ายที่ปกคลุมโลกเอาไว้
โดยจะเต้นยกตัวขึ้นๆลงๆเป็นจังหวะอยู่ตลอดเวลา
ความถี่ของการสั่นสะเทือนหรือการเต้นขึ้นๆลงๆ
กับความสูงที่สนามแม่เหล็กโลกยกตัวสูงขึ้นจากพื้น
จะแปรตามการสั่นสะเทือนทางจิตสามนึกของมนุษย์
ที่สามารถหมุนธรรมจักรร่วมกันได้ในทุกวินาที
ตัวอย่างเช่น
ถ้าพวกคุณทุกคนบนโลกเสรีนี้
มีจิตสามนึกตกต่ำเพราะตกเป็นทาสของกิเลสมาร
เข้าถึงการสั่นสะเทือนขันธ์ห้าด้วยรักเพื่อให้ไม่ได้
จะยังผลให้จิตสำนึกของโลกพลอยตกต่ำตามไปด้วย
แปลว่าโครงข่ายสนามแม่เหล็กโลกจะเสียสมดุล
โดยมันจะเต้นยกตัวขึ้นได้ในระดับที่ต่ำกว่าปกติ
คือมีอาการคล้ายคนหายใจกระตุกเมื่อตอนใกล้ตาย
หรือมีอาการเหมือนคนหายใจกระตุกจนอกกระเพื่อม
ระดับความสูงของโครงข่ายสนามแม่เหล็กโลกนี้
ปกติจะต้องยกตัวสูงถึง 6
หมื่นกิโลเมตรจากพื้นโลก
ถ้าจิตสามนึกมนุษย์ตกต่ำมันจะยกตัวได้ไม่ถึงระดับนี้
ที่เราเคยกล่าวว่าสนามแม่เหล็กโลกเสียสมดุลนั่นเอง
เมื่อระบบโครงข่ายสนามแม่เหล็กโลกตกต่ำ
แสดงว่าค่าความเข้มสนามแม่เหล็กโลกตกต่ำลงด้วย
ถ้าทั้งระบบโครงข่ายและความเข้มสนามแม่เหล็กโลก
เกิดอาการเสียสมดุลหรือตกต่ำอย่างต่อเนื่องยาวนาน
พวกคุณจะต้องรู้ว่าทุกคนที่อยู่บนโลกเสรีนี้จะมีภัย
โดยภัยที่จะเกิดขึ้นมีดังต่อไปนี้ คือ
1.พวกคุณจะเข้าถึงความฉลาดของสมองได้ยากขึ้น
ต้องใช้พลังจิตในการคิดแต่ละเรื่องมากขึ้นกว่าปกติ
คุณจะคิดอะไรได้ยากขึ้นหรือคิดไม่ค่อยออกมึนศีรษะ
ใช้สมองคิดนิดๆหน่อยๆก็จะเกิดอาการเครียดแล้ว
2.ตาที่สามของคุณจะรั่วเป็นบางเวลา
จะเห็นภาพนั่นโน่นนี่จนเห็นภาพจิตวิญญาณหรือผีได้
ในขณะที่ภาพดังกล่าวนั้นคนอื่นๆเขามองไม่เห็นกัน
จะเห็นภาพบางอย่างที่น่ากลัวน่าหวาดเสียวอยู่แวบๆ
จะได้ยินเสียงประหลาดเช่นเสียงดนตรีไทยบรรเลง
ได้ยินแต่เสียงโดยไม่รู้ว่าเสียงมาจากไหนใครบรรเลง
จะได้ยินเสียงสนทนาของผู้คนแต่คุยกันว่าอะไรก็ไม่รู้
จะได้ยินเสียงคำพูดเหมือนชี้นำหรือสั่งให้ตนทำนั่นนี่
จะได้ยินคำสอนหรือคำพูดจาเป็นภาษาแปลกๆ
จะได้ยินเสียงเหมือนมีครูหรือผู้รู้มาสอนธรรมะให้
จะล่วงรู้สภาวะจิตของคนอื่นได้ในบางเวลาว่า
ขณะนั้นเขากำลังนึกคิดอะไรอยู่
จะรู้เหตุการณ์บางอย่างได้ล่วงหน้าว่า
เขาคนนั้นจะนึกคิดพูดหรือทำสิ่งใดต่อไป
บางคนก็จะสามารถระลึกชาติของตนได้ด้วย
บางคนก็จะสามารถล่วงรู้อนาคตได้อีกต่างหาก
การทำตนเป็นผู้วิเศษล้วนมาจากเหตุเหล่านี้ทั้งสิ้น
ทั้งหมดที่กล่าวมานั้นเป็นเพียงตัวอย่าง
ที่จะเกิดขึ้นกับใครก็ได้ที่จิตหยาบอ่อนแออยู่แล้ว
ซึ่งกำลังอยู่ในบริเวณที่สนามแม่เหล็กโลกมีปัญหา
คนบางคนจะเกิดความกลัวคิดว่าตัวเองป่วยทางจิต
คนบางคนจะเกิดความกลัวคิดว่าตนถูกผีหลอก
คนบางคนก็จะหลงตัวเองว่าตนนั้นเป็นผู้วิเศษ
เพราะสามารถสื่อสารกับสิ่งที่มองไม่เห็นได้
คนบางคนก็จะหลงผิดคิดว่าครูที่ล่วงลับกลับมาสอน
ทั้งๆที่เหตุเกิดจากสนามแม่เหล็กโลกเสียสมดุลชั่วครู่
จนยังผลให้ตาที่สามรั่วและมิติเกิดการสับสนชั่วขณะ
พวกคุณทุกคนตามปกตินั้นพระเจ้าทรงออกแบบให้
ความเข้มสนามแม่เหล็กโลกปิดตาที่สามเอาไว้ให้
ถ้าค่าความเข้มเปลี่ยนไปในทางต่ำคืออำนาจลดลง
ตาที่สามของคุณก็จะเกิดอาการรั่วซึมได้เสมอ
ที่ต้องทรงปิดมิติของพวกคุณไว้ก็เพื่อไม่ให้ล่วงรู้
ทั้งอดีตชาติและอนาคตของคุณที่มันยังมาไม่ถึง
เพื่อช่วยให้แผนการมาเกิดเป็นมนุษย์ของคุณไม่รั่วไหล
เพราะการรู้ทั้งอดีตและอนาคตของตนล่วงหน้า
ก็ไม่ต่างไปจากนักเรียนคนที่รู้ข้อสอบล่วงหน้านั่นล่ะ
จะไม่อาจชี้วัดภูมิรู้ภูมิธรรมภูมิปัญญาอะไรได้ว่า
นักเรียนคนนั้นฉลาดจริงหรือไม่เก่งจริงหรือเปล่า
ที่หมอดูมีผู้นิยมกันมาก
เพราะว่าพวกคุณส่วนใหญ่อยากรู้อดีตและอนาคต
ซึ่งตนไม่อาจสามารถเข้าถึงมันได้ด้วยตัวเอง
เนื่องจากความเข้มสนามแม่เหล็กโลกคอยกำกับอยู่
3.รั้วของโลกคือระบบโครงข่ายสนามแม่เหล็กโลก
จะกลายเป็นรั้วที่อ่อนแอคือเป็นรั้วที่ไม่แข็งแรงทันที
ถ้าจิตสามนึกของพวกคุณทั้งโลกพากันตกต่ำ
เพราะตกเป็นทาสของกิเลสมารกันมากขึ้น
พวกคุณหมุนกรรมจักรมากกว่าจะหมุนธรรมจักร
เพราะรักกันไม่ได้อภัยกันไม่เป็นมีแต่คนเห็นแก่ตัว
ถ้าคนชอบธรรมลดจำนวนน้อยลงไปจากเดิมเรื่อย
ๆ
ถ้ามีคนโง่ง่ายและงมงายเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อย
ๆ
ถ้าพายุหมุนแห่งธรรมจักรของโลกเริ่มลดพลังลงไป
ภัยที่จะเกิดขึ้นกับชาวโลกก็คือ
แขกไม่ได้เชิญจะบุกรุกเข้ามาในระบบโลกของคุณ
เช่น อุกกาบาต ดาวตก ศัตรูจากต่างดาว
เป็นต้น
ซึ่งแขกไม่มีเกียรติทั้งหลายเหล่านี้มาร้ายกันทั้งนั้น
เพราะแขกที่จะมาดีที่พระเจ้าทรงรับทราบและรับรู้
จะรู้จักและคุ้นเคยกันกับสนามแม่เหล็กโลกนี้ดีพอ
พวกเขารู้ว่าต้องใช้เส้นแรงสนามแม่เหล็กเส้นไหน
เป็นถนนเพื่อสัญจรหรือเดินทางเข้าออกระบบโลก
โดยไม่ต้องเสี่ยงภัยเหมือนแขกที่ไม่ได้เชิญ
ถ้าโลกมีรั้วที่แข็งแกร่ง
เพราะจิตสำนึกของโลกสั่นสะเทือนด้านบวกได้
เนื่องจากจิตสามนึกโดยรวมของชาวโลกที่สมดุล
คอยทำหน้าที่ “ค้ำจุน” ความสมดุลนั้นอยู่
แขกที่ไม่ได้เชิญทุกแบบจะบุกรุกมาไม่ถึงตัวพวกคุณ
เพราะสนามแม่เหล็กโลกจะ “เผามัน”
ด้วยไฟร้อน
ให้มอดไหม้จนหมดสิ้นก่อนที่จะตกลงมาถึงพื้นดิน
แต่ถ้ารั้วของโลกไม่แข็งแรง
มันก็ไม่ต่างจากรั้วบ้านของพวกคุณนั่นแหละ
ขโมยขโจรมันก็จะตัดช่องย่องเบาหรือว่าย่องหนัก
ฝ่ารั้วบุกรุกเข้าไปในบ้านของคุณได้อย่างง่ายดาย
ถ้าพวกมันมาร้ายแล้วคุณจะปลอดภัยกันไหมล่ะ
โดยเฉพาะในยามวิกาลหรือตอนที่พวกคุณเผลอ
ดังนั้น
ไม่ว่าชาวดาวโลกหรือว่าชาวดาวไหน
จงอย่าคิดที่จะบุกรุกก้าวร้าวเพื่อจะยึดดาวดวงอื่น
เพราะพระบิดาหรือพระเจ้าท่านทรงสร้างรั้วไว้ให้แล้ว
โดยทุกดวงที่มีสิ่งมีชีวิตดำรงอยู่บนดาวดวงนั้น
จะมีความเข้มสนามแม่เหล็กห่อหุ้มดาวดวงนั้นไว้
แต่ละดวงจะมีค่าความเข้มของดาวไม่เท่ากัน
เพื่อป้องกันมิให้เกิดการบุกรุกแย่งดาวกันนั่นแหละ
ถ้าคุณจะเดินทางไปอยู่นานๆที่ดาวอังคาร
เซลล์อวัยวะร่างกายคุณมันจะหยุดทำงานหรือเพี้ยน
เพราะค่าความเข้มสนามแม่เหล็กของดาวดวงนั้น
ไม่สอดคล้องต้องกันกับกลไกที่เรียกว่า #ดิจิตัลลิส
ซึ่งเป็นชุดเส้นใยเกลียวแม่เหล็กต้นกำเนิดพลังงาน
ที่เป็นไฟฟ้าเหนี่ยวนำของอวัยวะร่างกายได้ใช้งาน
ขืนขึ้นไปใช้ชีวิตอยู่นานๆถ้าไม่เกิดการเอ๋อก็ต้องตาย
ชาวดาวอื่นที่บุกรุกดาวโลกก็จะมีอาการแบบเดียวกัน
พวกเขาที่มีเท็คโนโลยีสูงจึงต้องใช้วิธีว้าปไปว้าปมา
หรือขับยานขึ้นไปลอยแช่อยู่ในอวกาศนอกระบบโลก
เมื่อพวกเขาเดินทางมาก็จะพาสนามแม่เหล็กของดาว
ติดมาพร้อมกับยานพาหนะของเขาด้วยเสมอ
กราบพระบาทพระบิดาที่ทรงเมตตา
เอเมน สาธุ
19/04/2567