17 เมษายน 2567

คัมภีร์อนุตรธรรมภาคจิตจักรวาล 17/04/2024

 

#คัมภีร์อนุตรธรรมภาคจิตจักรวาล

 

พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย

เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า

ทำไมพวกคุณจึงต้อง #นิพพานก่อนตาย

มิใช่ “ตายแล้วนิพพาน” เหมือนอย่างที่หลายคนคิด

แทนที่จะหมกมุ่นวุ่นวายอยู่กับคำถามไร้สาระว่า

#แดนนิพพานนั้นอยู่ที่ไหนกันแน่

 

คำว่า “ไร้สาระ” ในที่นี้เราหมายความว่า

มันเป็นความจริงในระดับ “อนุตรธรรม”

ซึ่งคนธรรมดาทั่วไปที่มีปัญญาจากสมองสองซีกนั้น

ไม่มีทางจะเข้าถึงความจริงกันได้ง่ายๆเลย

เพราะเซลล์สมองมีขีดจำกัดในการคิดรู้ในเรื่องนี้

นอกจากนั้นแม้ว่าคุณจะได้คำตอบที่ถูกต้องก็ตาม

แต่แม้จะรู้แล้วคุณก็จะยังไม่ได้ประโยชน์อะไรอยู่ดี

สู้เร่งทำความเข้าใจเรื่องที่ “ไม่ไร้สาระ” กันจะดีกว่า

 

คุณจะต้องรู้ว่า

คำว่า “นิพพานก่อนตาย” ความหมายที่แท้จริงก็คือ

ก่อนที่จิตวิญญาณของคุณจะตายไปจากภพชาตินี้

ตัวแทนของจิตวิญญาณคือ #จิตหยาบ ของคุณนั้น

ต้อง “ดับการเกิดดับ” ของ #กองกิเลส ให้หมดสิ้น

 

คำว่า “กองกิเลส” ที่ว่านี้ เราหมายถึง

ตัวกิเลสเองที่เป็น #ความรู้สึก

ตัวตัณหาที่เป็น #ความอยากไม่อยาก

ตัวราคะจริตที่เป็น #ความชอบไม่ชอบ

ตัวอารมณ์ขยะที่เป็น #โลภโกรธหลงลังเลใจ

โดยทั้งหมดที่กล่าวนี้ล้วนมีเหตุมาจากกิเลสทั้งนั้น

หรือทั้งกองก็ล้วนมีกิเลสเป็นสารตั้งต้นนั่นแหละ

 

พวกคุณคงจำได้ว่า

องค์จิตจักรวาลพระบิดาแห่งจิตวิญญาณพวกคุณ

ทรงออกแบบให้พวกคุณใช้จิตหยาบหมุนธรรมจักร

เพื่อสั่นสะเทือนให้เกิดขันธ์ห้าด้วยรักเพื่อให้

โดยต้องสั่นสะเทือนร่วมกันให้จงได้ในระหว่างวัน

จะได้ช่วยกันใช้เครื่องยนต์แห่งกรรมรูปธรรมมนุษย์

ผลิตพลังงานสะอาดในแบบที่โลกต้องการ

แล้วช่วยกันเหวี่ยงมันออกมาในอวกาศในระบบโลก

ซึ่งปริมาณ 1% ของพลังงานที่ผลิตได้ในทุกวินาที

เป็นพลังงานที่โลกจะนำไปใช้เพื่อการเหวี่ยงหมุน

นอกจากนั้น 99% ของที่เหลือจากที่ผลิตได้

มันจะแผ่กระจายขยายตัวแบบเดียวกันกับพายุหมุน

เกิดเป็นสนามพลังงานครอบคลุมพื้นที่รอบๆพิกัดนั้น

วัดเป็นขนาดพื้นที่ได้ถึง 33.33 ตารางกิโลเมตร

 

พี่ๆน้องๆเพื่อนร่วมโลกทุกคนทุกเพศทุกวัย

ที่กำลังใช้ชีวิตอยู่ในปัจจุบันขณะบนพื้นที่ดังกล่าว

จะพลอยได้รับอานิสงส์จากคลื่นพลังงานธรรมจักร

ที่มีอย่างน้อยสามคนขึ้นไปร่วมปฏิบัติการกันอยู่

โดยจิตหยาบของทุกคนจะถูกกระตุ้นหรือปลุกเร้า

ให้สั่นสะเทือนเป็นความถี่เท่าเดิมหรือเพิ่มสูงขึ้นได้

เพราะจิตหยาบที่เป็นตัวแทนของแก่นแท้ในทุกคน

มันจะต้องสั่นสะเทือนอย่างต่อเนื่องโดยตลอด

ตั้งแต่แรกปฏิสนธิในครรภ์ของมารดามาแล้ว

ถ้าจิตหยาบหยุดสั่นสะเทือนหัวใจก็จะหยุดเต้นทันที

 

ดังนั้น

ตราบใดที่มีคนบนโลกนี้รวมตัวกันอยู่เป็นสังคม

โดยทุกคนร่วมกันหมุนธรรมจักรด้วยความรักเพื่อให้

หรือตราบเท่าที่โลกนี้ยังมีคนดีหรือคนชอบธรรมอยู่

ผู้คนส่วนใหญ่จะมีอายุขัยยืนยาวคนอายุสั้นจะมีน้อย

เพราะได้รับอานิสงส์ในเรื่องนี้จาก #พายุธรรมจักร

 

นอกจากจะช่วยค้ำจุนแรงสั่นสะเทือนของจิตหยาบ

ให้มีการสั่นสะเทือนอย่างต่อเนื่องได้ดังกล่าวแล้ว

คนทุกคนทุกเพศทุกวัยบนพื้นที่ขนาดดังกล่าวนั้น

จะยกระดับแรงสั่นสะเทือนจิตหยาบของแต่ละคน

ให้สั่นด้วยคลื่นความถี่ที่เพิ่มสูงขึ้นจากเดิมได้ด้วย

 

พวกคุณคงจำได้ว่า

เมื่อคลอดออกมาเป็น #ทารกแรกเกิด นั้น

จิตหยาบของทารกจะมีแรงสั่นสะเทือนแค่ระดับสาม

ทารกคนนั้นจึงทำได้แค่นอนเหยียดแบอยู่บนเบาะ

เพราะจิตหยาบสามารถสั่นสะเทือนได้เพียงสามมิติ

กายสังขารหรือเครื่องยนต์แห่งกรรมของทารกน้อย

จึงมีแค่เพียงความยาวความกว้างและหนาให้เห็น

ผ่านไปไม่กี่เดือนทารกน้อยจะเปลี่ยนเป็นกุมารน้อย

โดยเขาจะพลิกคว่ำพลิกหงายยืนนั่งตั้งไข่คืบคลาน

ปีนป่ายวิ่งกลิ้งหกคะเมนตีลังกาทำได้ทุกท่าทาง

 

อาการเหล่านี้เป็นตัวชี้วัดว่า

ตั้งแต่แรกคลอดจนอายุถึงสามขวบปีบริบูรณ์

จิตหยาบของเจ้ากุมารน้อยคนนั้น

ได้ยกระดับแรงสั่นสะเทือนสูงขึ้นไปจากเดิมแล้ว

โดยก้าวหน้าจากการสั่นสะเทือนเป็นสามมิติ (3D)

จนเข้าถึงการสั่นสะเทือนเป็นสี่มิติเรียบร้อยแล้ว

ซึ่งกุมารน้อยจะยืนยื่นศีรษะเข้าหาพระบิดาเพิ่มมาได้

คือมีความยาวความกว้างความหนาและความสูงแล้ว

 

เราจะเฉลยความจริงให้พวกคุณรู้ว่า

คำว่าสั่นสะเทือนเป็น 3D หรือ 4D หมายถึงอะไร

 

คำว่า 3D หมายถึงจิตหยาบที่เดิมเป็นกลุ่มพลังงาน

เริ่มต้นจากมีศูนย์มิติคือ 0D เพราะยังไม่มีรูปธรรม

ยังเป็นแค่เพียงอนุภาคของพลังงานกลุ่มหนึ่งเท่านั้น

เมื่อมีการกระตุ้นให้สั่นสะเทือนด้วยพลังความรัก

อนุภาคของจิตหยาบกลุ่มนี้จึงค่อยๆก้าวหน้าเรื่อยมา

โดยพัฒนาจากเดิมที่ไม่มีมิติเพิ่มเป็น 1 มิติคือ 1D

จากหนึ่งมิติคือจุดเล็กจุดเดียวที่เป็นเลือดหยดเดียว

ก้าวหน้าเป็นสองมิติคือสั่นสะเทือนกลับไปกลับมา

แสดงว่ากลุ่มอนุภาคจิตหยาบนั้นมีสองมิติคือ 2Dแล้ว

ด้านเนื้อหนังก็จะเกิดเป็นมายาของตัวอ่อนให้เห็น

 

ในที่สุดจิตหยาบนั้นก็จะก้าวหน้าเป็นสามมิติคือ 3D

ด้านเนื้อหนังก็จะเกิดเป็นมายาของตัวเต็มวัยให้เห็น

ครบเก้าเดือนจึงพร้อมที่จะคลอดออกมาลืมตาดูโลก

นี่แสดงว่าอนุภาคพลังงานของจิตหยาบของผู้มาเกิด

สั่นสะเทือนเป็นรูปทรงสามเหลี่ยมเรขาคณิตแล้ว

 

เราจะกล่าวความจริงให้รู้ว่า

พระเจ้าหรือองค์จิตจักรวาลดวงใหญ่

ทรงออกแบบให้ทุกๆคนเป็นสัตว์สังคมไม่ปลีกวิเวก

สังคมแรกก็คือ “ครอบครัว” พ่อแม่ลูกสามคนขึ้นไป

ทุกคนต้องรักกันเพื่อหมุนธรรมจักรร่วมกัน

จะได้ร่วมกันสร้างสนามพลังงานแห่งธรรมจักร

ให้ครอบคลุมพื้นที่ 33.33 ตารางกิโลเมตรไว้ให้ได้

โดยมีที่ตั้งคือครอบครัวของตัวเองเป็นศูนย์กลาง

จะได้ร่วมด้วยช่วยกันสร้างสมการพลังงาน Σβx

ซึ่งเป็นสมการพลังงานธารสายน้ำนมขึ้นในทุกวินาที

 

เพราะพลังงานร่วมจากการหมุนธรรมจักรนี่แหละ

ที่ช่วยให้โลกและกาแล็กซี่เหวี่ยงหมุนต่อเนื่องได้

ที่ช่วยให้หัวใจพวกคุณเต้นได้ต่อเนื่องไม่รู้หยุดพัก

ยังผลให้พวกคุณมีชีวิตอมตะโดยไม่ต้องตายเลย

 

พระมหาปรีชาญาณเยี่ยงนี้

หากมิใช่พระบิดาแห่งจิตวิญญาณพวกคุณแล้ว

ยังจะมีผู้ใดที่ยิ่งใหญ่เหนือกว่าพระองค์อีกหรือ

 

กราบพระบาทพระบิดาทรงเมตตา

เอเมน สาธุ

#ปัญญาวิสุทธิ์

17/04/2567