11 เมษายน 2567

คัมภีร์อนุตรธรรมภาคจิตจักรวาล 11/04/2024

 #คัมภีร์อนุตรธรรมภาคจิตจักรวาล

 

พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย

เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า

 

จิตวิญญาณตัวตนแก่นแท้ของคุณ

ขันอาสาพระบิดาแห่งจิตวิญญาณหรือพระเจ้า

มาเกิดเป็นคนสองมิติเพื่อคนตนเองให้เป็นมนุษย์

โดยใช้เครื่องยนต์แห่งกรรมรูปธรรมมนุษย์ของตน

สั่นสะเทือนจิตสามนึกเพื่อขับเคลื่อน “ขันธ์ 5”

ด้วย “ความรักเพื่อให้” ในการผลิตพลังงานสะอาด

ให้โลกใช้เป็นพลังบิดแกนแม่เหล็กในใจกลางโลก

เพื่อช่วยให้โลกหมุนรอบตัวเองอย่างต่อเนื่องได้

ซึ่งเรียกว่า “การหมุนธรรมจักร” ร่วมกันนั่นเอง

 

ขณะที่พวกคุณในหลายพันปีที่ผ่านมา

ถูกคนนำทางตาบอดกรรมกรของมารคือผีโสโครก

หลอกให้เสพติดกิเลสจนจิตหยาบถูกมารครอบงำ

ทำให้ไม่อาจสามารถเข้าถึงความรักเพื่อให้นั้นได้

นานวันเข้าพวกคุณก็ไม่รู้จักกันแล้วว่ารักแท้คืออะไร

จำไม่ได้กันแล้วว่าจิตวิญญาณของตนมาเกิดทำไม

เกิดเพื่อสนองความต้องการของตนหรือทำเพื่อใคร

ส่วนใหญ่แล้วเข้าใจผิดคิดว่ามาเกิดเป็นมนุษย์โลก

ด้วยการทำทุกสิ่งเพื่อตนเองและพวกตัวกันทั้งนั้น

 

พวกคุณใช้สัญชาตญาณในการเอาชีวิตรอด

ในขณะที่จิตหยาบกำลังถูกฟูมฟักให้เติบโตขึ้น

ตั้งแต่วันแรกที่ปฏิสนธิอยู่ในครรภ์มารดาจนชินแล้ว

เริ่มจากจิตหยาบยังเป็นอนัตตาคืออยู่ในมิติที่ศูนย์

แล้วใช้เวลาฟักตัวอยู่เหมือนฟักไข่นานราว 9 เดือน

จนจิตหยาบของคุณยกระดับถึงมิติที่สี่หรือ 4D ได้

จึงจะคลอดเป็นตัวเป็นตนออกมาจากครรภ์มารดา

 

เมื่อคลอดออกมาได้เพียงไม่กี่สัปดาห์

จิตหยาบของคุณก็ยังยกระดับหรือพัฒนา

ให้มีมิติที่สูงกว่าสี่อย่างต่อเนื่องอยู่ต่อไปอีกคือ 5D

สิ่งที่ปรากฏในมิติแห่งเนื้อหนังหรือมิติทางกายภาพ

คือเจ้าทารกน้อยคนนั้นจะเปลี่ยนเป็นกุมารน้อยแทน

ด้วยการมีความกว้างความยาวความหนาและความสูง

จนสามารถยืนนั่งลุกวิ่งกลิ้งนอนตีลังกาได้สารพัด

ไม่ต่างจากเด็กโตหรือผู้ใหญ่ทั้งหลายนั่นแหละ

 

พวกคุณจะต้องรู้ว่าการยกระดับมิติของจิตหยาบ

เพื่อให้เข้าถึงมิติเดียวกันกับจิตวิญญาณของคุณนั้น

จะต้องถูกฟูมฟักประคบประหงมโดยมารดาและบิดา

ตั้งแต่ปฏิสนธิภายในครรภ์เมื่อวันแรกนั่นแล้ว

เมื่อคลอดออกมาลืมตาดูโลกตั้งแต่วินาทีที่ตกฟาก

ตั้งแต่สายสะดือยังไม่ทันถูกตัดขาดออกจากรกเลย

ทารกนั้นจะถูกฟูมฟักด้วยความรักจากคนรอบข้าง

เพื่อยกระดับจากมิติที่สี่สู่มิติที่ห้าอย่างต่อเนื่องแล้ว

โดยที่ปรากฏการณ์นี้มันเกิดขึ้นในมิติของแก่นแท้

ซึ่งสองตาเปล่าของคุณและคนอื่นๆมองไม่เห็นหรอก

พระบิดาจึงทรงออกแบบให้คุณเห็นมายานั้นแทน

 

เพราะพลังอำนาจแห่งความรักที่ใช้ฟูมฟัก

เพื่อช่วยให้จิตหยาบของจิตวิญญาณผู้อาสามาเกิด

สามารถเจริญเติบโตจากมิติที่ศูนย์จนถึงมิติที่ห้าได้

เป็นความลับเบื้องหลังมิติโลกซึ่งพวกคุณต้องรู้

แต่ที่ผ่านมาเพราะพวกคุณชาวโลกมีศัตรูผู้ไม่หวังดี

ทั้งปิดบังทั้งบิดเบือนไม่ให้คุณรู้ความจริงเหล่านี้

จนทำให้พวกคุณเห็นคุณค่าของธรรมจักรเป็นแค่ธง

โดยมีนัยะของธงอยู่ที่จำนวนซี่ของกงล้อกันเท่านั้น

 

เราจะกล่าวความจริงให้พวกคุณรู้ว่า

ความรักที่ต้องใช้ในการฟูมฟักจิตหยาบของทุกคน

ให้เจริญเติบโตในด้านมิติทางพลังงานนั้น

มันจะต้องเป็นพลังงานสะอาดและบริสุทธิ์เท่านั้น

เพราะพลังงานสะอาดคือคลื่นพลังงานของจิต

ที่ผลิตโดยขันธ์ห้าของจิตหยาบในกายสังขารคุณนี่ล่ะ

มันจะเป็นคลื่นความถี่ทางไฟฟ้าแม่เหล็กระบบหนึ่ง

แบบเดียวกันกับความถี่ของสนามแม่เหล็กโลกนั่นเอง

 

ทันที่คุณหมุนธรรมจักร

มอบความรักความเมตตาความเอ็นดูต่อลูกหลาน

ขันธ์ห้าของคนนั้นก็จะสั่นสะเทือนเพื่อทำงานเสมอ

คลื่นไฟฟ้าแม่เหล็กที่เกิดขึ้นก็จะถูกเหวี่ยงออกมา

โดยมันจะเป็นตัวกระตุ้นหรือปลุกเร้าให้จิตหยาบ

ทั้งของเด็กน้อยแรกเกิดและของทุกคนที่อยู่ตรงนั้น

เกิดการสั่นสะเทือนด้วยแรงสั่นที่เพิ่มสูงขึ้นจากเดิม

มันจะยังผลให้จิตหยาบของเด็กน้อยและของทุกคน

สามารถเพิ่มมิติให้สูงขึ้นจาก 4D เป็น 5D-6D ได้

แต่มีเงื่อนไขว่ามันต้องเป็น #รักเพื่อให้เท่านั้น

 

พวกคุณจึงต้องรู้ว่ารักเพื่อให้คืออย่างไรใช่มั้ย?

 

#พระเยซู ทรงตรัสสอนเอาไว้แล้วว่า “รักเพื่อให้”

หมายถึงการอดทน อดกลั้นและให้อภัยต่อกัน

#พระพุทธเจ้า ทรงตรัสสอนไว้ว่า “รักเพื่อให้”

หมายถึงการมีเมตตา กรุณาและมุทิตาต่อสัตว์โลก

 

#องค์จิตจักรวาล พระบิดาแห่งจิตวิญญาณ

พระผู้สร้างทุกสรรพสิ่งในอนันตจักรวาลอันไพศาลนี้

ทรงตรัสสอนเอาไว้ว่า “รักเพื่อให้” นั้น

นอกจากที่พระศาสดาทรงตรัสสอนเอาไว้ให้แล้ว

พระองค์ทรงเน้นย้ำเพิ่มเติมว่ารักนั้นต้องสะอาดด้วย

 

ความรักที่สะอาดหมายถึง

1.#ต้องรักโดยไม่มีเงื่อนไข

คุณสามารถรักเมตตาและเอ็นดูเด็กน้อยได้ทุกคน

โดยไม่เลือกว่าจะเป็นลูกหลานตนหรือลูกหลานใคร

ไม่เลือกรักจำเพาะเด็กน้อยที่หน้าตาน่ารักไม่น่ารัก

ไม่เลือกรักจำเพาะเด็กน้อยเพศหญิงหรือชาย

 

2.#ต้องรักได้โดยไม่หวังสิ่งใดตอบแทน

ไม่รักจำเพาะคนที่เคยดีกับตนเท่านั้น

คนที่ไม่เคยทำดีกับตนก็จะทำเป็นวางเฉย

คนที่เคยทำร้ายตนก็จะทำเป็นเฉยเมย

คนที่มองแล้วว่าไม่มีประโยชน์ตนก็จะทำวางเฉย

จะรักจำเพาะคนที่ตนเห็นว่ามีประโยชน์เท่านั้น

 

3.#ต้องทำบุญโดยไม่ร้องขอส่วนบุญที่คุณทำ

เพราะคุณทำบุญคุณต้องได้รับผลบุญนั้นอยู่แล้ว

ผลบุญที่จะได้รับนั้นเป็นไปได้ทั้งชาตินี้และชาติหน้า

จะมีใครมาแย่งผลบุญที่คุณทำนั้นไปจากคุณไม่ได้

คุณจึงไม่จำเป็นต้องร้องขอส่วนบุญนั้นก็ได้

 

4.#ต้องทำบุญโดยไม่ต้องอุทิศให้พ่อแม่หรือใครๆ

เพราะพ่อแม่ลูกหลานที่เป็นสายเลือดเดียวกัน

ต่างมีคุณสมบัติของเมอร์คขะบาห์คล้ายคลึงกัน

ซึ่งมันจะสั่นสะเทือนถึงกันเป็นระบบอัตโนมัติอยู่แล้ว

 

เมื่อใครคนไหนทำบุญทำบาป

ด้วยการสั่นสะเทือนผ่านจิตสามนึกของตนเมื่อไหร่

จิตใต้สำนึกของจิตวิญญาณของแต่ละคน

มันจะสั่นสะเทือนถึงกันพร้อมกันทั้งหมด

ไม่ว่าใครจะยังมีชีวิตอยู่ที่ไหนบนโลกใบนี้

หรือว่าใครบางคนอาจจะตายไปจากโลกนี้แล้ว

พวกคุณจึงไม่จำเป็นต้องอุทิศให้ท่านอีก

 

พวกคุณต้องรู้ว่า

ถ้าพวกคุณละเลยไม่ใส่ใจในสิ่งที่เรากล่าวมานี้

คลื่นพลังงานจิตของคุณที่ขันธ์ห้าจะผลิตมันออกมา

แม้จะเป็นพลังงานด้านบวกที่บริสุทธิ์ก็จริงอยู่

แต่มันจะกลายเป็นพลังงานที่ไม่สะอาดไปทันที

เพราะมีรหัสบางสิ่งเจือปนอยู่กับพลังงานนั้นด้วย

มันคือ #รหัสกรรม จากการทำบุญทำดีเพื่อจะเอา

 

ทุกสิ่งที่คุณกล่าวหรือคุณทำไม่ว่าจริงหรือเท็จ

ในมิติของแก่นแท้นั้นเมื่อคุณสั่นสะเทือนขึ้นมาแล้ว

ไม่ว่าจะเป็นมโนกรรม กายกรรม หรือ วจีกรรม

กรรมทุกสิ่งอย่างของคุณล้วนเป็น “สัจจะ” ทั้งหมด

ถ้าคุณกล่าวความจริงความจริงนั้นมันก็เป็นสัจจะ

ถ้าคุณกล่าวเท็จความเท็จนั้นมันก็เป็นสัจจะเช่นกัน

นี่คือสัจธรรมในมิติทางพลังงานด้านของแก่นแท้

ที่เรื่องนี้พวกคุณจะคิดแบบจิตมนุษย์กันไม่ได้

 

การทำบุญสร้างกุศลแล้วร้องขอผลตอบแทน

ทำบุญเบื้องล่างเอาไปสร้างวิมานไว้เบื้องบน

ทำบุญหลายหนเพื่อจะได้บุญกุศลหลายๆครั้ง

ทำบุญสร้างกุศลในชาตินี้เพื่อที่จะรับผลในชาติหน้า

ทำบุญแล้วเจาะจงให้คนนั้นคนนี้ที่จะเป็นผู้รับ

พฤติกรรมการกระทำเช่นนี้เป็นการทำดีที่เสียของ

เพราะพลังงานจิตที่พวกคุณผลิตขึ้นมานั้น

มันมิใช่พลังงานในแบบที่โลกต้องการนำไปใช้เลย

โลกจะนำไปใช้ไม่ได้เพราะเป็นพลังงานที่มีเจ้าของ

เนื่องจากพวกคุณที่เป็นคนทำได้ใส่รหัสกำกับไว้

จงอย่าถูกพวกผีโสโครกมันหลอกอีกต่อไปเลย

 

กราบพระบาทพระบิดาทรงเมตตา

เอเมน สาธุ

#ปัญญาวิสุทธิ์

11/04/2567