#คัมภีร์อนุตรธรรมภาคจิตจักรวาล
พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
คำว่า “ธรรมะ” นั้นมาจากคำเต็มว่า
#ธรรมชาติ
การ “ปฏิบัติธรรม” จึงหมายถึงการอยู่ในธรรมชาติ
การอยู่ในธรรมชาติก็คือการไม่ทำพฤติกรรมอุตริ
คือไม่แสดงออกหรือกระทำในสิ่งที่ผิดมนุษย์มนา
ให้เป็นที่แปลกหูแปลกตาไปจากชาวบ้านทั่วไป
ตัวอย่างการทำตนผิดมนุษย์ที่อุตริเช่น
การเอามือสองข้างเดินต่างเท้า
การเอาสองเท้าชี้ขึ้นฟ้าแล้วเอาศีรษะปักทิ่มลงดิน
การคลานโดยเอาลำตัวขนานไปกับพื้นเหมือนสัตว์
การนอนหลับด้วยการเอาหัวห้อยลงเหมือนค้างคาว
การใช้เท้ากินข้าวเขียนหนังสือทั้งๆที่สองมือยังดีอยู่
การไม่ยอมคบหาใครในสังคม
การทำตนน่ารังเกียจจนไม่มีใครอยากคบด้วย
การอยากให้คนอื่นรักแต่ตัวเองไม่ยอมรักใคร
การอยากให้ผู้อื่นอภัยแต่ตนเองให้อภัยใครไม่เป็น
การอยากได้ของดีๆสิ่งดีๆจากผู้อื่น
แต่ตนเองไม่เคยหยิบยื่นสิ่งดีๆให้ผู้อื่นบ้างเลย
การอยากได้น้ำใจจากคนอื่นๆบ้าง
แต่ตนเองนั้นกลับไม่เคยมีน้ำใจให้ใครเลย
การอยากให้คนอื่นจดจำความดีงามของตนไว้
แต่ตนเองไม่เคยจดจำความดีงามของผู้อื่นบ้างเลย
การอยากให้คนอื่นลืมความไม่ดีของตัวเองทิ้งไป
แต่ตนเองกลับจำความไม่ดีงามของเขาไว้ไม่รู้ลืม
ทั้งหมดที่เรายกมากล่าวเป็นตัวอย่างไว้ข้างต้นนั้น
เป็นเรื่องของการปฏิบัติตนแบบผิดธรรมชาติทั้งสิ้น
ซึ่งในคนปกติโดยทั่วไปไม่มีใครเขาทำกันแบบนั้น
เพราะมันผิดธรรมชาติจึงเรียกว่าปฏิบัติธรรมไม่ได้
ถ้าใครฝืนทำก็ถือเป็นการอวดอุตริมนุษยธรรมนั่นเอง
เราจึงขอกล่าวความจริงต่อพวกคุณว่า
ถ้าจิตวิญญาณพวกคุณอาสามาเกิดเป็นคนสองมิติ
เพื่อทำหน้าที่หมุนธรรมจักรช่วยพิทักษ์สมดุลโลก
แต่กลับชวนกันหมุน #กรรมจักร ด้วยกิเลสมารแทน
คุณลองพิจารณาดูสิว่าแบบนี้คือ #ปฏิบัติธรรมไหม
ถ้าพวกคุณเป็นสัตว์สังคม
ต้องใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันโดยต่างต้องพึ่งพาอาศัยกัน
แต่กลับละทิ้งสังคมไปใช้ชีวิตอยู่ลำพังคนเดียว
อ้างว่า “มากคนมากความ”
มีแต่ทุกข์มีแต่วุ่นวาย
สู้ปลีกวิเวกอยู่ป่าอยู่ถ้ำคนเดียวไม่ยุ่งเกี่ยวกับใคร
ยังผลให้สมการ Σβx สมการพลังงานทางช้างเผือก
ซึ่งเกิดจากจิตสามนึกของคนสามคนขึ้นไปที่รักกัน
ไม่อาจศักดิ์สิทธิ์สัมฤทธิผลเกิดขึ้นมาได้เลย
ทำให้โลกขาดพลังงานในการบิดแกนแม่เหล็กโลก
ทำให้โลกเหวี่ยงหมุนช้าลงจนแกนหมุนแกว่งส่าย
เมื่อแกนหมุนเกิดการแกว่งส่ายโลกจึงเสียสมดุล
เมื่อโลกเสียสมดุลภัยพิบัติน้อยใหญ่จึงรุนแรงขึ้น
คนที่จะเดือดร้อนและตกอยู่ในอันตรายคือพวกคุณ
เราขอถามว่าสิ่งที่พวกคุณต้องทำแล้วไม่ยอมทำ
คือการใช้ความรักเพื่อให้หมุนธรรมจักรร่วมกัน
แต่กลับทำในสิ่งที่มิใช่หน้าที่คือการหมุนกรรมจักร
แบบนี้ยังจะเรียกว่า
“ปฏิบัติธรรม” ได้อยู่อีกไหม?
พระพุทธองค์สอนเรื่อง #อริยสัจสี่ ไว้ให้แล้ว
โดยอริยสัจสามประการคือวิธีจัดการกับทุกปัญหา
ที่นำพาความทุกข์มาให้กับพวกคุณได้เบ็ดเสร็จ
กับอริยสัจประการที่สี่ก็คือ
“มรรคมีองค์ 8”
ซึ่งเป็นวิธีป้องกันตัวไม่ให้สร้างปัญหาให้ตนเอง
แบบหาทุกข์มาใส่ตัวหรือหาเหามาใส่หัวนั่นแหละ
พระพุทธองค์ทรงตรัสสอนไว้ชอบแล้วดีแล้ว
ยังดันทุรังเบื่อสังคมเบื่อโลกและกลัวความทุกข์อีก
จนทิ้งสังคมหนีเข้าป่าปลีกวิเวกจะไปสวรรค์คนเดียว
แบบนี้ยังจะเรียกว่า
“ปฏิบัติธรรม” ได้อยู่อีกไหม?
ที่สำคัญมากที่สุดก็คือ
ถ้าเกิดมาหูไม่หนวกตาไม่บอดปากไม่เป็นใบ้
แสดงว่าเป็นคนไม่พิการไม่ทุภพลภาพใช่หรือไม่ล่ะ
แล้วกลับเสแสร้งแกล้งทำเป็นคนที่มีอายตนะพิการ
โดยปิดช่องทางการรับรู้เพื่อเรียนรู้ของตนเอาไว้เอง
แบบนี้ยังจะเรียกว่า
“ปฏิบัติธรรม” ได้อยู่อีกไหม?
ทั้งๆที่ปกติแล้ว
ตาสองข้างก็มองเห็นอยู่แต่กลับไม่รู้เห็นก็ยังมี
หูสองข้างก็ได้ยินได้ฟังอยู่แต่กลับไม่รู้ฟังก็ยังมี
หนึ่งปากก็ยังพูดได้อยู่แต่กลับไม่รู้พูดไม่รู้ถามก็ยังมี
หนึ่งจิตที่ตนมีใช้อยู่แต่กลับไม่รู้จักกำหนดนึกก็ยังมี
หนึ่งสมองที่มีใช้อยู่แต่กลับไม่รู้จักกดปุ่มใช้มันก็ยังมี
แต่กลับปิดตาปิดหูปิดวาจาปิดจิตให้อยู่กับตนเอง
ทำให้ตัวกระตุ้นต่อมรักและต่อมคิดมันพิการไปด้วย
แบบนี้ยังจะเรียกว่า
“ปฏิบัติธรรม” ได้อยู่อีกไหม?
พวกคุณถูกคนนำทางตาบอด
พาให้หลงทำจนหลงทางนิพพานกลับบ้านไม่ได้
เพราะเข้าใจวิธีการปฏิบัติธรรมแบบไม่ถูกต้อง
จึงใช้ชีวิตกันแบบไม่ถูกทำนองคลองธรรมตลอดมา
ถึงเวลาตื่นรู้ตื่นแจ้งกันได้เสียทีนะพี่น้องนะว่า
เจ้าบ่าวมาถึงและวางศีรษะอยู่บนโลกตั้งนานแล้ว
แต่เจ้าสาวยังหลับใหลตะเกียงดับเพราะน้ำมันหมด
โลกก็จวนมืดค่ำนาน 56 วัน 8 ราตรีแล้วด้วย
พวกศัตรูกับภัยร้ายก็กำลังจะมาถึงอีกต่างหาก
กราบพระบาทพระบิดาที่ทรงเมตตา
เอเมน สาธุ
15/04/2567