22 กันยายน 2566

คัมภีร์อนุตรธรรมภาคจิตจักรวาล 22/09/2023

#คัมภีร์อนุตรธรรมภาคจิตจักรวาล
(เพื่อยุวจิตจักรวาลยุคสุดท้าย)
 
พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
 
การลดน้ำหนักมวลบนโลกให้น้อยลง
เพื่อทำให้โลกมีพลังอำนาจมากขึ้นนั้น
นอกจาก 2 วิธีที่เรากล่าวผ่านมาแล้วนั้น
ซึ่งเป็นวิธีที่ใช้ภัยพิบัติจากการที่ธรรมชาติวิกฤต
จนเป็นเหตุให้ชาวดาวโลกที่ทำตนเป็น “คนขยะ”
รวมทั้ง “วัตถุเท็คโนโลยีขยะ” ที่มนุษย์สร้างขึ้นมา
เพื่อสนองกิเลสตัณหาของตนเองเพื่อทำร้ายกัน
ให้ล้มหายตายจากและเกิดการพังทลายไป
ครั้งละจำนวนนับหมื่นๆรายครั้งละนับพันหลังแล้ว
ยังมีวิธีที่สามที่จะจัดการได้อีก
 
3.การชำระจิตหยาบของมนุษย์ให้จิตใสใจสวย
เพื่อคัดคนที่มีคุณภาพอย่างแท้จริงเอาไว้
ให้ทำหน้าที่เป็นเพื่อนร่วมงานกับโลกกันต่อไปได้
 
1.ให้เรากลับมาสื่อพระโอวาทจากองค์จิตจักรวาล
ผู้ทรงเป็นพระบิดาแห่งจิตวิญญาณของคุณทุกคน
ผู้ทรงเป็นพระผู้เริ่มต้นและสิ้นสุดของทุกสรรพสิ่ง
ซึ่งเป็นอนุตรธรรมชั้นสูงสุดที่มนุษย์โลกไม่รู้ว่าไม่รู้
 
ทั้งยังให้เรามาช่วยไขสิ่งที่มนุษย์หลงผิดเชื่อผิด
เพราะถูกบิดเบือนผ่านคนนำทางตาบอดมายาวนาน
รวมทั้งทรงให้เราช่วยนำแสงสว่างมาสู่จักรวาลโลก
เพื่อติดอาวุธทางปัญญาผ่านกระบวนการไซโคโชว์
ในปฏิบัติการชำระจิตหยาบหรือจิตสามนึกที่ตกต่ำ
จากอำนาจกิเลสตัณหาที่ถูกมอมเมาให้หลงเสพสม
จนก่อให้เกิดพลังงานกรรมที่เป็น #ขยะรกโลก ด้วย
 
2.ให้เรากลับมาช่วยเติมเต็ม “อนุตรธรรม”
ซึ่งเป็น #ความรู้ใหม่ ที่ชาวดาวโลกทุกคนต้องรู้
หากใครไม่รู้ก็จะไม่อาจปฏิบัติหน้าที่คนสองมิติได้
 
ตัวอย่างเช่น
ถ้าไม่รู้ว่าจิตวิญญาณของตนเป็นใครมาจากไหน
คุณก็จะปฏิเสธพระบิดาผู้ให้กำเนิดจิตวิญญาณตนเอง
คุณจะทำตนเป็นดั่งเด็กกำพร้าไม่มีพ่อแม่บังเกิดเกล้า
ด้วยการปฏิเสธหรือลบหลู่พระเจ้าผู้ให้กำเนิดตนเอง
 
เพราะไม่รู้ว่าจิตวิญญาณคุณมาจากไหน
คุณจึงเข้าใจผิดคิดว่ามาเกิดแล้วเดี๋ยวคุณก็ตาย
เมื่อตายแล้วทุกอย่างก็จบลงที่ตรงนั้นเอง
คุณจึงไม่เคยคิดถึงบ้านและไม่คิดว่าคุณต้องกลับบ้าน
บ้านที่เป็นถิ่นกำเนิดของจิตวิญญาณก็คือตัวคุณเอง
จึงถูกหลอกให้เชื่อเรื่อง #นิพพานแบบตาลยอดด้วน
หลอกให้ตายแล้วไม่ต้องกลับมาเกิดเป็นมนุษย์อีก
โดยชักชวนให้ไปเกิดเพื่อเสวยสุขบนสวรรค์มายาแทน
ด้วยจิตที่ถูกอำนาจของ “กิเลสมาร” ครอบงำ
 
เราจึงต้องกลับมากล่าวความจริง
ด้วยการสื่อพระโอวาทมาจากพระเจ้า
ให้พวกคุณทั้งหลายได้รู้ความจริงเหล่านี้และอื่นๆ
จะได้ไม่หลงทางนิพพานไม่หลงทำในสิ่งที่ผิดบาป
ไม่ละทิ้งหน้าที่ของเพื่อนร่วมงานกับโลก
ไปเลือกที่จะนั่งๆนอนๆเสพติดกิเลสเพื่อบำรุงเนื้อหนัง
แล้วละทิ้งหรือทำการปฏิเสธ “ขนมปังของพระเจ้า”
ที่กินแล้วอายุวัฒนะมีชีวิตที่เป็นอมตะโดยไม่ต้องตาย
ซึ่งเราถือติดตัวมาแจกจ่ายแบ่งปันให้อย่างมีคุณค่า
 
3.ให้เราบอกกล่าวข่าวสารเรื่องปฏิบัติการชำระโลก
ที่มันจะเกิดถี่ขึ้นและรุนแรงขึ้นเรื่อยๆในรูปแบบต่างๆ
เราจะบอกกล่าวล่วงหน้าให้คุณรู้ด้วยสัญชาตญาณ
กับเข้าใจกันได้ง่ายด้วยสติปัญญาขั้นพื้นฐาน
 
ยกเว้นรายที่ไม่ใส่ใจจะรับฟังคำกล่าวของเรา
ซึ่งเป็นคนที่ทำตัวเหมือน “ไม่มีหู” จึงไม่ได้ยินเรา
เปรียบดั่งหม้อแกงหม้อข้าวที่ไม่มีหูอยู่ทั้งสองข้าง
หม้อแกงหรือหม้อข้าวนั้นก็จะไม่อาจยกย้ายอะไรได้
เพราะหม้อมันร้อนเมื่อไม่มีหูหม้อนั้นจึงไร้ประโยชน์
สู้ใช้หม้อที่มีหูสองข้างหุงข้าวต้มแกงเสียดีกว่า
พวกคุณก็เช่นกัน #จงอย่าทำตนเป็นหม้อที่ไม่มีหู
เพราะพ่อครัวแม่ครัวเขาจะแขวนทิ้งไว้ไม่ใช้งาน
ทิ้งไว้นานๆฝุ่นก็จับยิ่งทิ้งไว้นานกว่าก็จะเป็นสนิมได้
 
พวกคุณจึงต้องเป็นนักฟังที่ดีและขยันที่จะฟังซ้ำ
พวกคุณจึงต้องเป็นนักอ่านที่ดีและขยันอ่านบ่อยๆ
โดยที่ต้องอ่านให้เป็นและต้องฟังให้เป็นด้วย
การอ่านเป็นฟังเป็นก็คือ “คิดตาม” ที่อ่านที่ได้ยินนั้น
โดยทำความเข้าใจความหมายของสิ่งที่อ่านและฟัง
เพื่อการคิดวิเคราะห์พิจารณาอย่างมีเหตุและผล
เมื่อเข้าใจเบื้องต้นแล้วก็ให้คุณคิดเป็นภาพไปตามนั้น
สมองสองซีกทั้งซ้ายและขวาจะถูกกดปุ่มใช้งานทันที
 
พระโอวาทของพระเจ้า
ที่ทรงเมตตาพวกคุณสื่อผ่านมาทางเรานั้น
จะช่วยคุณยกระดับจิตปัญญาพัฒนาจิตสามนึกได้
อีกทั้งยังจะช่วยชำระกิเลสชุดใหญ่กับอนุสัยเล็กๆ
ที่ครอบงำจิตหยาบพวกคุณกันมาทุกภพทุกชาติ
จนงมงายงุ่มง่ามอยู่กับการเกิดการตายไม่รู้จบด้วย
เพราะจิตวิญญาณของคุณและคนที่คุณรักทั้งหลาย
ต้องจมดิ่งอยู่ในทะเลแห่งทุกข์หรือทะเลแห่งโลกียะ
จากความโง่เขลาเพราะมีปัญญาอยู่แต่ไม่รู้จักใช้มัน
 
ที่มีปัญญาอยู่แต่ไม่รู้จักใช้
เพราะจิตหยาบถูกกิเลสครอบงำอยู่
จิตหยาบที่ถูกกิเลสครอบงำไว้
กิเลสจะเป็นผู้พานึกพาคิดพาทำทุกสิ่งไปตามมัน
กิเลสจะแย่งชิงอำนาจทางปัญญาของสมองคุณไป
ถ้าคุณจะใช้ความฉลาดทางปัญญาของสมองได้
คุณจักต้องเอาชนะกิเลสในจิตหยาบให้ได้ก่อน
 
คุณจะเอาชนะกิเลสแบบชั่วคราวได้
เพื่อสร้างพลังอำนาจด้านการคิดด้วยจิตปัญญา
โดยฝึกครอง “มหาสติ” ตามมรรควิถีจิตจักรวาล
ที่พระเจ้าทรงเรียกว่า #ธรรมชาติสมาธิ
เพื่อการอบรมจิตให้มีพลังฌานและมีพลังปัญญา
ในขณะที่ไม่ต้องแกล้งทำเป็นคนหูตาจมูกลิ้นพิการ
ไม่ต้องปลีกวิเวกเพื่อปิดวาจาปิดเงื่อนไขภายนอก
ไม่ให้เข้าไปกระทบจิตจนถูกยั่วยุเย้ายวนให้จิตตก
เพราะไม่ต้องการให้ #สติแตก เพราะจิตตกนั่นเอง
 
ดังนั้น
มหาสติหรือธรรมชาติสมาธิจึงเหมาะกับชาวบ้าน
ที่จะสามารถปฏิบัติได้ในครอบครัวในสังคม
เพื่อชวนกันหมุนธรรมจักรมอบพลังงานสะอาดให้โลก
โดยไม่ทำตนเป็นแบบอยากไปสวรรค์คนเดียว
เพราะสมการ ∑βₓ สมการพลังงานร่วมด้านบวกนั้น
จะศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้ถ้าพวกคุณปลีกวิเวกละทิ้งสังคม
เพราะทรงกำหนดไว้ให้แล้วว่าตัว X เท่ากับ 3 ขึ้นไป
จะเป็นจำนวนสิบคนร้อยคนถ้ารักกันได้ก็ยิ่งดีใหญ่เลย
เพราะจำนวน 1% ของพลังงานที่พวกคุณผลิตได้
จะถูกเหนี่ยวรั้งลงไปยังแกนแม่เหล็กในใจกลางโลก
เพื่อช่วยให้โลกหมุนรอบตัวเองอย่างต่อเนื่องได้
 
ส่วนพลังงานที่เหลืออีก 99% ในทุกวินาที
จะหมุนวนอยู่ในอากาศเหนือพื้นที่ซึ่งพวกคุณอยู่
สภาพจะเป็นดั่งพายุหมุนแบบไต้ฝุ่นหรือไซโคลน
เพราะมันจะหมุนวนจากข้างล่างขึ้นสู่ข้างบน
โดยหมุนวนในระดับศีรษะพวกคุณขึ้นไปตลอดเวลา
 
ภายในกะโหลกศีรษะพวกคุณจะมีต่อมไร้ท่อ
ซึ่งเป็นที่ตั้งของจิตหยาบและจิตวิญญาณติดตั้งอยู่
พลังงานรวมจากจิตสามนึกด้านบวกในขณะนั้น
ซึ่งได้จากการที่พวกคุณหมุนธรรมจักรร่วมกันนี่แหละ
มันจะช่วยยกระดับการสั่นสะเทือนของจิตหยาบ
ในสภาวะจิตของแต่ละคนให้สูงจากเดิมของตนได้
โดยมันจะช่วยให้จิตหยาบของพวกคุณทุกคน
มีรูปทรงเรขาคณิตคือเหลี่ยมมุมมากขึ้นจากเดิมได้
นั่นคือเพิ่มมิติจากเดิมที่เป็นแค่ 4D ไปสู่ 5D ได้
 
โดยกระบวนการอัตโนมัติที่ว่านี้
มันคือการหมุนธรรมจักรร่วมกันด้วยความรัก
ซึ่งจะช่วยให้คุณก้าวหน้าทางจิตวิญญาณได้มากกว่า
ทั้งดีกว่าเหนือกว่าหมุนธรรมจักรอยู่คนเดียวหลายเท่า
 
พวกคุณจึงต้องรู้ว่าการปลีกวิเวกปฏิบัติธรรมนั้น
มันคือการปฏิบัติทำแบบเห็นแก่ตัวโดยแท้
 
บนพื้นที่โลกขนาด 33.33 ตร.กิโลเมตรขึ้นไป
ถ้ามนุษย์เกินสามคนขึ้นไปภายในวินาทีเดียวกันนั้น
แต่ละครอบครัวแต่ละสังคมจะมีสักกี่มากน้อยก็ตาม
หากสามารถหมุนธรรมจักรสร้างพายุหมุนร่วมกันได้
บริเวณท้องฟ้าเหนือศีรษะของพวกคุณ ณ ที่แห่งนั้น
มันจะเกิดพายุหมุนซึ่งเป็นพลังงานแห่งรักที่สะอาด
เป็นพลังงานหมุนที่สร้างสรรค์มิใช่พายุหมุนที่ทำลาย
มันจะเป็นพายุหมุนแห่งรักที่ยิ่งใหญ่กว่าทอร์นาโด
 
เมื่อพวกคุณหมุนธรรมจักรในตนเองได้สำเร็จแล้ว
คุณออกไปชวนคนข้างบ้านร่วมกันหมุนกับคุณด้วย
เราเคยกล่าวไว้นานมาแล้วว่าถ้าคุณรักคนในบ้านได้
คุณจะต้องรักลูกหลานคนข้างบ้านคุณด้วย
รักให้เหมือนกันกับที่รักลูกหลานในบ้านของตัวเอง
เพื่อร่วมกับคนข้างบ้านสร้างสนามพลังงานด้านบวก
ให้เกิดเป็นพายุหมุนทางพลังงานด้านดีปกคลุมไว้
 
หากพวกคุณทำได้จิตหยาบพวกคุณทุกคนที่รักกัน
จะได้รับประทานรางวัลจากพระเจ้าของคุณเอง
จะทรงเมตตาให้จิตหยาบพวกคุณถึงมิติที่ 5 เร็วขึ้น
เพราะพลังงานที่เหวี่ยงหมุนเหนือหัวนั้นมีอำนาจสูงล้ำ
 
ลองนึกคิดเห็นให้เป็นภาพดูเอาเองก็ได้ว่า
ถ้าคนทั้งโลกหมุนธรรมจักรได้สำเร็จนั้น
บนพื้นที่ทุกตารางกิโลเมตรของโลกเสรีนี้
จะเต็มไปด้วยพายุหมุนแห่งรักอันบริสุทธิ์ปกคลุมไว้
คนที่หมุนธรรมจักรไม่ได้หมุนไม่เป็นอีกมากมาย
ถ้าไม่เป็นคนชั่วไม่เป็นคนบาปจากการหมุนกรรมจักร
คนจำนวนมากเหล่านั้นก็จะได้รับผลดีตามไปด้วย
 
พายุหมุนที่เลวร้ายยังนำภัยวิบัติให้ทุกคนได้
ถ้าพายุหมุนรุนแรงพัดผ่านหรือเอาตัวเข้าไปผจญ
พายุหมุนด้านบวกซึ่งเป็นสิริมงคลนี้ก็เช่นเดียวกัน
จะช่วยให้ทุกคนบนโลกไปสวรรค์นิรันดรด้วยกันได้
เราจึงเตือนว่า “อย่าอยากไปสวรรค์คนเดียว”
 
พระเจ้าหรือพระบิดาแห่งจิตวิญญาณของพวกคุณ
ทรงรักลูกแกะทุกตัวของพระองค์ยิ่งนัก
ทรงรักพวกคุณมากกว่าที่คุณรักพระองค์กันเสียอีก
การที่ทรงออกแบบกำหนดเอาไว้ล่วงหน้าเช่นที่ว่านี้
ก็เพื่อให้พวกคุณที่หมุนธรรมจักรในตนเองสำเร็จ
มีส่วนร่วมในการใช้ความรักค้ำจุนสมดุลโลกได้แล้ว
ให้ช่วยกันออกมาปฏิบัติธรรมร่วมกันนอกบ้านด้วย
เพื่อช่วยยกระดับของจิตหยาบให้แก่กันและกัน
เพื่อช่วยกันค้ำจุนจิตหยาบตนเองให้สมดุลเอาไว้
โดยมีเวลาให้ปฏิบัตินานร่วม 6 หมื่นปีโลกนั่นแหละ
 
การร่วมด้วยช่วยกันแบบนี้
พระองค์ทรงมีต้นแบบให้พวกคุณได้ประจักษ์แล้วว่า
พลังงานร่วมแห่งรักของจิตวิญญาณผู้มาใหม่ในครรภ์
ปฏิสัมพันธ์กันกับความรักของพ่อและแม่ของผู้มาเกิด
รวมกันเป็น 3 รูปธรรมในสมการ ∑βx นี่แหละ
ทำให้ก้อนเลือดเล็กๆเติบโตเป็นทารกที่ในครรภ์
เพราะจิตหยาบยกระดับจากมิติที่ “ศูนย์D ถึงสี่D” ได้
 
พวกคุณรู้ความจริงเช่นว่านี้แล้ว
เตรียมตนเองและจิตหยาบให้พร้อมกลับบ้านกันเถอะ
โดยหันมาสร้างพายุหมุนแห่งรักเหนือบรรยากาศโลก
แทนพายุหมุนที่ทำให้โลกวิบัติเพราะภูมิอากาศวิกฤต
ด้วยการรักให้ได้แม้ใครคนนั้นจะทำตัวไม่น่ารัก
อภัยให้ได้แม้ใครคนนั้นทำตัวไม่น่าให้อภัยเอาเสียเลย
จงหันมาสร้างค่านิยมในการมองโลกกันใหม่ให้จงได้
 
มรรควิถีจิตจักรวาลเท่านั้นในยุคนี้
ที่จะช่วยนำพาจิตวิญญาณพวกคุณหลุดพ้นกลับบ้าน
ซึ่งเป็นแดนสุญตานอกระบบเอกภพที่คุณจากมาได้
 
เอเมน สาธุ
ถ่ายทอดคลื่นความคิดจากองค์จิตจักรวาล
โดย #ปัญญาวิสุทธิ์
22/09/2566