(เพื่อยุวจิตจักรวาลยุคสุดท้าย)
พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
พลังงานแม่เหล็กไฟฟ้าที่พวกคุณเหวี่ยงออกมา
จากการปฏิบัติกรรมฐานที่เป็น #เท็คนิกสมาธิ นั้น
คลื่นความถี่ทางพลังงานนี้มันสำคัญอย่างไร
พวกจิตวิญญาณผีโสโครกที่อยู่เบื้องหลังมิติโลก
จึงต้องคอย “ดักดูด” หรือ “หลอกดูด” เอาไปใช้
คำตอบชัดๆก็คือว่า
พวก “คนยักษ์” ที่ถูกชำระกายสังขารทิ้งจำนวนมาก
ในปฏิบัติการชำระโลกยุคโนอาห์ด้วยภัยน้ำท่วมโลก
จิตวิญญาณพวกคนยักษ์นี้มิใช่จิตวิญญาณมนุษย์
แต่เป็นจิตวิญญาณของศัตรูผู้ก้าวล่วงมาจากดาวอื่น
จากการสมสู่กันทางเพศระหว่างตัวผู้ที่มีปีกบินได้
ซึ่งถูกไล่ออกมาจากดาวอื่นเพราะฝ่าฝืนกฎพระเจ้า
กับหญิงสาวชาวดาวโลกเพราะหลงใหลในรูปงาม
ด้วยเข้าใจว่าพวกตัวผู้ลักษณะคล้ายมนุษย์ที่มีปีกนี้
เป็นเทพบุตรหรือเป็นชาวฟ้าเพราะว่าบินลงมาจากฟ้า
เมื่อสมสู่กับหญิงสาวชาวดาวโลกแล้วตั้งครรภ์
การตัดตอนทางพันธุกรรมจึงเกิดขึ้นเป็นอัตโนมัติ
ตามที่พระเจ้าทรงออกแบบเอาไว้ล่วงหน้าแล้วดังนี้
1.จิตวิญญาณแก่นแท้ของมนุษย์
ไม่สามารถเข้าปฏิสนธิกับตัวอ่อนในครรภ์นั้นได้
เพราะบุคลิกที่คล้ายคลึงกันทางจิตวิญญาณ
ระหว่างผู้เป็นแม่กับเชื้อของคนแปลกหน้านั้นไม่มี
มนุษย์ต้องผสมพันธุ์กับมนุษย์มีลูกเป็นมนุษย์เท่านั้น
มนุษย์จะผสมพันธุ์กับสัตว์แล้วมีลูกเป็นมนุษย์ไม่ได้
2.จิตวิญญาณพวกสัตว์ตัวผู้ที่มีปีกบินได้ที่ตายไป
เพราะกายสังขารเสื่อมลงแม้ยังมีปีกแต่ก็บินอีกไม่ได้
หรือตัวที่เกิดการแก่ชราแล้วต้องตายไปในที่สุดนั้น
จะเป็นผู้เข้าทำการปฏิสนธิกับตัวอ่อนในครรภ์นั้นแทน
เนื่องจากพวกนี้กำลังต้องการหาร่างใหม่อาศัยอยู่พอดี
ที่ลูกตายก่อนจะคลอดออกมาก็มีมาก
ที่คลอดยากเพราะเด็กตัวโตมากจนแม่ต้องตายก็มี
ที่ต้องตายทั้งแม่และลูกก็มีอยู่ไม่น้อยเช่นเดียวกัน
เนื่องจากเด็กตัวโตมากจนแม่เบ่งคลอดตามปกติไม่ได้
จึงต้องใช้วิธีดิบๆคือ “ผ่าท้อง” ควักเอาเด็กออกมาแทน
ซึ่งวิธีการนี้แม่ตายทุกรายโดยเด็กจะพอมีรอดกันได้บ้าง
นี่จึงเป็นที่มาของมนุษย์พันธุ์ใหม่
จากการผสมพันธุ์แบบข้ามดาวที่เรียกว่า “ไฮบริด”
ซึ่งเกิดขึ้น by fluke ไม่ใช่ by choose หรือเลือกใช้
จนเป็นที่ตาพองของเผ่าดาวอื่นที่รู้เห็นมาจนถึงทุกวันนี้
ที่พยายามจะสร้างไฮบริดระหว่างพวกตนกับมนุษย์บ้าง
เพราะพวกตนมีชีวิตอมตะไม่ต้องตายแต่สืบพันธุ์ไม่ได้
ขณะที่ต้องการจะอยู่ในระบบโลกร่วมกับมนุษย์ให้ได้
จึงต้องหาทางสร้างตัวอ่อนเทียมบ้างไรบ้างเรื่อยมา
วิทยาการผสมเทียมของมนุษย์ที่เป็นเด็กหลอดบ้าง
วิทยาการใช้สเต็มเซลล์สร้างตัวอ่อนของวัวบ้างแกะบ้าง
จึงล้วนเป็นวิทยาศาสตร์เท็คโนโลยีของพวกนี้ทั้งสิ้น
โดยพวกเขาพยายามทดลองกับสัตว์โลกและมนุษย์ก่อน
โชคดีของโลกที่สิ่งที่พวกเขาทำนั้นมันยังไม่ได้ผล
และโชคร้ายเป็นของพวกเขาอยู่เพราะไม่มีทางสำเร็จ
เนื่องจากจิตวิญญาณของมนุษย์หรือสัตว์ที่มาเกิดกายได้
จะเป็นแต่จิตวิญญาณของสัตว์โลกที่มิใช่ของพวกตน
ซึ่งทุกวันนี้พวกเขาก็ยังมีความเพียรพยายามกันอยู่
เมื่อจิตวิญญาณของผู้บุกรุกก้าวล่วงชาวโลก
ที่กายสังขารเสื่อมเพราะจิตวิญญาณเสื่อมจึงต้องตาย
เหตุที่จิตวิญญาณพวกนี้เสื่อมเพราะว่าไม่มีจิตหยาบ
ช่วยทำหน้าที่แทนเหมือนกับชาวดาวโลกเสรี
กับอีกอย่างหนึ่งพวกเขาใช้พลังทางจิตวิญญาณไปมาก
เนื่องจากเพลิดเพลินกับการใช้ฤทธิ์อภิญญา 6 ที่ตนมี
เพื่อหลอกลวงให้มนุษย์งมงายลุ่มหลงในอุตริต่างๆ
ซึ่งเป็นของแปลกประหลาดและน่าทึ่งอย่างมาก
เพราะพวกคุณที่เป็นมนุษย์ทำไม่เป็นและเห็นไม่ได้
จึงพากันไปซูฮกยกย่องรูปธรรมเหล่านี้ดั่งเป็นผู้วิเศษ
สาเหตุแห่งความเสื่อมของจิตวิญญาณมากที่สุด
ก็เกิดจากการที่สิ่งมีชีวิตลักษณะคล้ายมนุษย์พวกนี้
มีความทะเยอทะยานทางเพศสูงมากจึงขยันเสพสม
จนเป็นสาเหตุหนึ่งที่ถูกไล่ออกมาจากดาวของตนเอง
เมื่อโบยบินมาถึงดาวโลกสันดานก็ไม่เคยเปลี่ยน
จึงมาก่อวีรกรรมกับหญิงชาวโลกตามที่เรากล่าวมา
จนสร้างปัญหาให้แก่มนุษย์โลกในเรื่องของคนยักษ์
ทำให้จิตวิญญาณที่แท้จริงของมนุษย์มาเกิดยากขึ้น
เพราะจิตวิญญาณของผู้พลัดถิ่นเข้ามาแย่งซีนไปหมด
เมื่อกาลเวลาโลกผ่านไปนานนับพันปี
พระเจ้าจึงทรงพิพากษาด้วยมหันตภัยให้น้ำท่วมโลก
เพื่อจัดการ “ขยะ” ที่เป็นคนยักษ์ออกไปจากระบบโลก
เพราะคนยักษ์มีรูปร่างสูงใหญ่จนผิดมนุษย์โดยทั่วไป
พระองค์จึงทรงบันดาลให้น้ำท่วมโลกสูงมากกว่าปกติ
ทุกวันนี้จิตวิญญาณของพวกเขาที่จมน้ำตาย
จึงได้แต่ล่องลอยสัญจรไปในเอกภพและในระบบโลก
เนื่องจากดีดตนเองออกไปจากโลกและเอกภพไม่ได้
เพราะจิตวิญญาณมีพลังอำนาจที่เสื่อมลงไปจากเดิม
เหตุจากใช้พลังงานภายในตนเองไปในทางที่มิชอบ
จนยังผลให้แรงสั่นสะเทือนของเมอร์คขะบาห์ตกต่ำลง
ขณะที่ไม่มีเครื่องยนต์แห่งกรรมห่อหุ้มจิตวิญญาณไว้
พลังทางจิตวิญญาณที่เสื่อมจึงชาร์ทเพิ่มเติมเต็มมิได้
เนื่องจากจำบ้านเกิดเมืองนอนของจิตวิญญาณไม่ได้
จำพระเจ้าพระผู้ให้กำเนิดจิตวิญญาณของตนก็ไม่ได้
จึงดำรงตนเองอยู่ในเอกภพอย่างลูกกำพร้าตลอดมา
โดยไม่เคยรู้ว่าพวกตนเกิดมามีตัวตนรูปธรรมกันทำไม
พวกตนเมื่อเกิดมาแล้วมีหน้าที่จะต้องทำอะไรกันบ้าง
เพราะในเผ่าดาวของตนไม่มีพระศาสดาเสด็จลงมาจุติ
เพื่อทำหน้าที่เป็นผู้นำทางจิตวิญญาณเหมือนดาวโลก
พวกเขาทั้งหลายจึงไม่มีคำตอบในอนุตรธรรมเหล่านี้
เมื่อพบว่าพลังอำนาจทางจิตวิญญาณของตนลดลง
จากที่เคยมีรูปทรงเรขาคณิต 6 เหลี่ยมมุมหรือ 6D
ปัจจุบันลดเหลือแค่เพียง 5 เหลี่ยมมุมหรือ 5D เท่านั้น
มีแนวโน้มว่าจะลดจำนวนเหลี่ยมมุมน้อยลงเรื่อยๆด้วย
ซึ่งอิทธิฤทธิ์หรือว่า “อภิญญา” จากแต่เดิมที่ตนเคยมี
ก็ลดทอนพลังอำนาจลงหรือเสื่อมลงไปด้วยอีกเช่นกัน
จึงต้องดิ้นรนทุกวิถีทางเพื่อชาร์ทพลังเพิ่มให้แก่ตนเอง
นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นอันเป็นที่มาของฉายาว่า “ผีโสโครก”
สิ่งที่จิตวิญญาณผีโสโครกหรือจิตวิญญาณคนยักษ์
ใช้เป็น “อุบาย” เพื่อหลอกลวงหรือหลอกล่อมนุษย์คือ
1.หลอกลวงว่าตนเองเป็นเทพเจ้า
เพื่อจูงใจให้มนุษย์นับถือหลงใหลและมอบศรัทธาให้
โดยใช้อิทธิฤทธิ์และคุณวิเศษเป็นเครื่องมือจูงใจบ้าง
ด้วยการทำให้มนุษย์ขลาดกลัวบ้าง เป็นต้น
2.ยืมมือมนุษย์บางคนเป็นทางผ่านของตน
ในลักษณะของการทรงเจ้าเข้าผีอวดแสดงฤทธิ์เดช
จนแม้กระทั่งการสำแดงคุณวิเศษที่คนทั่วไปทำไม่ได้
รวมทั้งการเผยแพร่ลัทธิเท็คนิกสมาธิตามสำนักต่างๆ
โดยใช้คนนำทางตาบอดเป็นเครื่องมือ
3.สอนให้คนชอบธรรมมุ่งกระทำในสิ่งที่ตนชอบ
ด้วยการปฏิบัติเท็คนิกสมาธิในป่าในถ้ำตามลำพัง
แล้วคอยลักลอบ “ดักดูด” เอาพลังจิตที่เป็นคลื่นไฟฟ้า
ซึ่งคนๆนั้นผลิตออกมาได้ไปเป็นประโยชน์ของตัวเอง
4.ด้วยการ “อวตาร” ลงมาเกิดกายเป็นมนุษย์
เพื่อทำตัวเป็นผู้สื่อสารกับเทพเจ้าที่อยู่เบื้องบน
โดยใช้ธรรมะพระศาสดาเป็นสิ่งจูงใจผู้คนให้สนใจ
จนเกิดความเชื่อมั่นและศรัทธาอย่างงมงาย
แล้วสอนให้มนุษย์ที่มีกายหยาบทำหน้าที่แทนกายตน
โดยใช้จิตหยาบปฏิบัติเท็คนิกสมาธิผลิตพลังงานจิต
ในรูปของพลังงานแสงที่เป็นคลื่นไฟฟ้าแม่เหล็กให้
แล้วพวกตนก็จะคอย “เชื่อมจิต” กับตาที่สามของคุณ
ทำตัวเป็นปลิงเพื่อคอยดักดูดพลังงานที่คุณสร้างขึ้น
ซึ่งทำกันเป็นล่ำเป็นสันมาช้านานแล้วโดยไม่มีผู้ใดรู้
มาภายหลังเมื่อมีผู้นิยมชมชอบปฏิบัติกรรมฐานมากขึ้น
พวกจิตวิญญาณของอดีตคนยักษ์ลูกผสมเหล่านี้
ก็จะใช้วิธีชักชวนมนุษย์ให้ทำสมาธิหมู่มาอยู่ทำร่วมกัน
เพราะรู้ว่าคนสามคนขึ้นไปจะสร้างพลังงานได้มากกว่า
ซึ่งพวกเขาจะดักดูดพลังงานรวมได้ทีละมากกว่าด้วย
นี่ยังไม่นับการขายความศรัทธาให้กับคนบ้าหวย
การขายความศรัทธาในวิชาที่อ้างว่าทำให้ร่ำรวยได้
ขายความศรัทธาที่รักษาโรคและเจ็บป่วยให้หายได้
ขายความศรัทธาที่สามารถขับไล่ภูตผีปีศาจที่เข้าสิงได้
ฯลฯ
พฤติกรรมการจูงใจด้วยสิ่งลวงๆเหล่านี้
เป็นสิ่งที่พระเจ้าทรงจัดว่าเป็นสิ่ง #โสโครก สกปรก
อันไม่ควรข้องแวะแต่อย่างใดทั้งสิ้น
มีแต่จะดึงรั้งให้จิตวิญญาณของคุณตกต่ำลงเรื่อยๆ
พวกผีเหล่านี้จะทำทุกอย่างเพื่อยกระดับตนเอง
กลับคืนสู่รูปธรรมที่มี 6 มิติ คือ 6 เหลี่ยมมุมดังเดิม
ซึ่งจะทำเองก็ไม่ได้เพราะไม่มีจิตหยาบกับกายหยาบ
วิธีลัดสั้นก็คือ “หลอกลวง” มนุษย์ที่งมงายให้โง่ง่าย
เพื่อเป็นกรรมกรแสงของตนอย่างที่ทำกันอยู่ทุกวันนี้
ภัยพิบัติโลกกำลังรุนแรงขึ้น
เพราะมนุษย์เสพติดกิเลสกันมากขึ้น
จนหมุนกันแต่กรรมจักรโดยเข้าถึงธรรมจักรไม่ได้
ปฏิบัติการชำระโลกเพื่อขจัดขยะออกไปจากระบบ
นับวันจะยิ่งรุนแรงและเกิดเร็วกว่ากำหนดอีกด้วย
พวกผีโสโครกและชาวกรรมกรแสงทั้งหลาย
ที่ทำให้จิตวิญญาณมนุษย์หลงทางนิพพานตลอดมา
น่าจะเร่งระวังตนเองกันเอาไว้ได้แล้วล่ะนะ
เอเมน สาธุ
ถ่ายทอดคลื่นความคิดจากองค์จิตจักรวาล
โดย #ปัญญาวิสุทธิ์
30/09/2566