10 กันยายน 2566

คัมภีร์อนุตรธรรมภาคจิตจักรวาล 10/09/2023


#คัมภีร์อนุตรธรรมภาคจิตจักรวาล
(เพื่อยุวจิตจักรวาลยุคสุดท้าย)
 
พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราเคยกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายเอาไว้ว่า
 
ปีพ.ศ.2566 หรือ ค.ศ.2023 นี้จะเป็นปีแห่งภัยพิบัติ
ตามแผนปฏิบัติการชำระโลก ครั้งที่ 4 ของพระเจ้า
ซึ่งเรากล่าวไว้ในช่วงส่งท้ายปีเก่าเพื่อรับศักราชใหม่
หวังว่าชาวยุวจิตจักรวาลทั้งหลายจะยังคงจำกันได้ดี
หรือใครที่จำไม่ได้ก็ลองกลับไปค้นหาข้อมูลกันดูเถิด
 
คำว่า “ภัยพิบัติ” กับคำว่า “ภัยธรรมชาติ”
ทั้งสองคำนี้มีนัยความหมายแตกต่างกันอย่าได้สับสน
เพราะภัยธรรมชาตินั้นเป็นสิ่งที่คุ้นหูของพวกคุณ
ส่วนคำว่าภัยพิบัตินั้นพวกคุณไม่คุ้นชินกันสักเท่าไหร่
แม้ภัยทั้งสองอย่างนี้จะเกิดจากดินน้ำลมไฟเหมือนกัน
แต่นัยความหมายของการเกิดนั้นกลับต่างกันสิ้นเชิง
 
กรณี #ภัยธรรมชาติ
หมายถึงสิ่งที่ทำให้โลกและมนุษย์เป็นอันตราย
จนถึงขั้นเสียหายหรือเสียชีวิตเมื่อเกิดเหตุเภทภัยขึ้น
จากกรณีแผ่นดินไหว แผ่นดินยุบ-แยก แผ่นดินสไลด์
ภูเขาถล่ม เขื่อนแตก-ร้าว อาคารบ้านเรือนพังทลาย
 
จากอุทกภัยคือเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก
จากวาตภัยคือเกิดพายุหมุน พายุไต้ฝุ่น เกิดฟ้าผ่า
จากปรากฏการณ์เอลนินโญ่และลานินญ่า เป็นต้น
จากเหตุอัคคีภัยในชุมชนบ้านในเมืองใหญ่ในพงป่า
ไฟร้อนก็ล้วนนำเอาหายนะภัยมาให้มนุษย์ได้ทั้งนั้น
 
โดย “ภัยธรรมชาติ” จากดินฟ้าอากาศวิปริตเหล่านี้
เป็นภัยที่เกิดขึ้นใกล้ตัวพวกคุณซึ่งเกิดอยู่เป็นประจำ
จึงทำให้พวกคุณล้วนคุ้นชินและคุ้นเคยกันกับมันมาก
จนหลายคนนึกคิดว่าเป็นภัยธรรมชาติบันดาลให้เกิด
ยังผลให้คำว่า “ธรรมชาติ” ถูกบิดเบือนกันมาตลอด
กลายเป็นว่าธรรมชาติของพระเจ้าช่างโหดร้ายยิ่ง
ทั้งๆที่ธรรมชาติซึ่งเป็น “สัจธรรม” อันแท้จริงนั้น
มันคือความสวยงามจากความแตกต่างกันที่สมดุล
ผู้ใดกลมกลืนกับธรรมชาติได้ผู้นั้นย่อมสมดุลเสมอ
เป็นทำนอง “เข้าเมืองตาหลิ่วจึงต้องหลิ่วตาตาม”
ก็เพื่อสร้างความเป็นหนึ่งเดียวกับคนรอบข้างให้ได้
ไม่ทำตัวแปลกแยกต่างพวกแตกเผ่าไปจากคนอื่นๆ
ทำให้เข้ากันกับทุกคนได้อยู่ร่วมกันอย่างเป็นสุขได้
 
พวกคุณจึงต้องรู้ว่า #ถ้าไม่มีมูลหมาไม่ขี้
แปลว่าถ้าไม่มีเป็นสาเหตุผลของมันก็จะต้องไม่เกิด
“ภัย” จากดินน้ำลมไฟในธรรมชาตินี่ก็เช่นเดียวกัน
หากสังเกตให้ดีคุณจะพบว่ามันเป็น #อุบัติภัย ทั้งสิ้น
 
คำว่า “อุบัติภัย” หมายถึง สิ่งเลวร้ายชนิดนั้นๆ
เป็นปรากฏการณ์หรือสถานการณ์ที่มันเกิดขึ้นฉับพลัน
จะเกิดแบบปัจจุบันทันด่วนจนแทบไม่รู้ตัวล่วงหน้า
จนไม่สามารถเตรียมตัวรับมือล่วงหน้าได้เลยด้วยซ้ำ
ภัยบางชนิดนักพยากรณ์อากาศอาจรู้ว่าจะเกิดล่วงหน้า
แต่ว่าเป็นภัยชนิดที่มาเร็วไปเร็วแบบ Fast Track
จนเตรียมการตั้งรับเพื่อผจญภัยดังกล่าวนั้นไม่ทันก็มี
 
ภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นในอดีตที่ผ่านมาทุกรูปแบบนั้น
ล้วนมีสาเหตุแห่งการเกิดมาจากฝีมือมนุษย์โลก
ที่เป็นผู้ทำลายระบบของตนจนเสียสมดุลไปจากเดิม
 
เริ่มจากตัดโค่นต้นไม้ทำลายป่าเพื่อเอาต้นไม้มาใช้
สัตว์ป่าจึงไม่มีที่อยู่อาศัยดำรงชีวิตพวกเขาก็สูญพันธุ์
ต้นไม้เป็นแหล่งต้นกำเนิดของแม่น้ำลำธารของโลก
เมื่อถูกตัดโค่นเผาทิ้งจนสิ้นแม่น้ำลำธารก็เหือดแห้ง
 
เมื่อแม่น้ำลำธารเหือดแห้ง
ต้นไม้ใหญ่และป่าไม้ที่เคยอุดมสมบูรณ์ก็แคระแกร็น
เพราะไม่มีน้ำที่นำพาเอาปุ๋ยอินทรีย์ไหลหลากมาให้
ยังผลให้ป่าดงดิบกลายเป็นป่า “เส็งเคร็ง” กันไปหมด
 
ภูเขากับเทือกเขาที่มีหินเป็นองค์ประกอบหลัก
ก็ถูกมนุษย์ระเบิดทำลายเสียจนราบเป็นหน้ากลอง
เพื่อนำเอาหินดินทรายจากภูเขาย้ายไปใช้ที่ในเมือง
โดยนำไปสร้างบ้านสร้างตึกสร้างอาคารหรือสร้างเมือง
ซึ่งไม่ต่างจากการย้ายพิกัดที่ตั้งของภูเขาของพระเจ้า
จากสถานที่เดิมที่มันควรตั้งอยู่ตรงนั้นแล้วผันไปที่อื่น
เพราะความโลภและเห็นแก่ตัวจึงคิดกันแบบไร้จิตสำนึก
โดยไม่ตระหนักรู้บ้างเลยว่าการย้ายภูเขาของพระเจ้า
ด้วยการระเบิดทำลายเพื่อให้ได้ประโยชน์อย่างหนึ่ง
มนุษย์ต้องแลกกับความสูญเสียอะไรบ้างและคุ้มหรือไม่
 
กรณีระเบิดภูเขาทิ้งแล้วย้ายไปสร้างเมืองนี้
เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้โลกหมุนไปแกว่งส่ายไป
จนยังผลให้แกนหมุนของโลกเสียสมดุลไปจากเดิม
ทำให้เกิดเหตุการณ์กลางวันกลางคืนยาวไม่เท่ากัน
บางวันมืดช้าบางวันมืดเร็วบางวันสว่างช้าบางวันก็เร็ว
ทั้งๆที่เป็นช่วงฤดูกาลเดียวกันและอยู่ในเดือนเดียวกัน
อาการที่โลกหมุนไปแกว่งไปดังเช่นที่ว่านี้คือเสียสมดุล
ที่โลกเสียสมดุลด้วยอาการนี้ก็มีเหตุจากการย้ายภูเขา
 
การย้ายภูเขาไปจากที่เดิมมันคือ “เหตุ”
การแกว่งส่ายของโลกขณะเหวี่ยงหมุนก็คือ “ผล”
 
ถ้าคุณไม่เชื่อในสิ่งที่เรากล่าวนี้
ลองไปถามช่างร้านขายยางรถยนต์ร้านไหนก็ได้ว่า
เขาใช้ตะกั่วชิ้นเล็กๆหนักไม่กี่กรัม “ถ่วงล้อ” กันทำไม
 
เขาถ่วงเพื่อช่วยให้ล้อรถนั้นเวลาหมุนไปขณะรถวิ่ง
ไม่แกว่งหรือไม่ส่ายจนทำให้ยางรถสึกไม่เท่ากัน
อีกทั้งไม่ทำให้น็อตยึดกระทะล้อนั้นคลายออกจนหลุด
จนต้องซื้อยางใหม่ให้เสียตังค์เพิ่มเร็วเกินไป
จนต้องเสี่ยงตายจากอุบัติเหตุเพราะล้ออาจหลุดได้
การเสียเงินเพิ่มเพื่อซื้อยางเส้นใหม่เร็วกว่ากำหนด
กับการเสี่ยงภัยเสี่ยงชีวิตจากอุบัติเหตุสองกรณีที่ว่านี้
มันคือ “กรรม” ที่เกิดจากเหตุและผลดังกล่าวนั่นเอง
 
ดาวเคราะห์โลกที่มนุษย์เฝ้าประจำกันอยู่นี้
มีลักษณะคล้ายทรงกลมและเหวี่ยงหมุนไปเรื่อยๆ
เพื่อมิให้โลกหมุนไปแกว่งส่ายไปจนเสียสมดุล
ทำให้พวกคุณและทุกสิ่งที่ดำรงอยู่ในระบบโลก
ต้องเกิดอาการเสียสมดุลตามโลกของคุณไปด้วย
พระเจ้าจึงทรงออกแบบและติดตั้งภูเขาเอาไว้บนโลก
คล้ายกับช่างถ่วงล้อรถยนต์เมื่อเปลี่ยนยางเส้นใหม่
เขาก็จะใช้ตะกั่วชิ้นเล็กๆ “ติดตั้ง” ไว้กับกระทะล้อด้วย
 
ถ้าล้อรถยนต์นั้นยิ่งมีขนาดใหญ่มากเท่าใด
ชิ้นตะกั่วอาจต้องนำมาใช้ติดตั้งมากกว่าหนึ่งชิ้น
แต่ละชิ้นก็จะมีน้ำหนักมากน้อยแตกต่างกันออกไป
ซึ่งช่างถ่วงล้อเท่านั้นที่จะรู้ว่าจะต้องติดตั้งตรงไหน
จะต้องใช้ชิ้นตะกั่วชิ้นนั้นๆหนักเท่าใดจึงจะพอ
คำว่า “พอ” หมายถึงเมื่อติดตั้งแล้วล้อรถนั้นจะสมดุล
ซึ่งช่างถ่วงล้อก็จะต้องทดลองเสียบทดลองติดตั้ง
โดยใช้เครื่องกลทำให้ล้อหมุนเสมือนวิ่งบนถนนจริง
จนมั่นใจว่าใช้การได้แน่แล้วจึงนำไปติดตั้งจริงกับรถ
ก่อนอนุญาตให้ลูกค้านำรถออกไปใช้บนถนนได้
 
พระเจ้าหรือพระผู้สร้างก็เช่นกัน
ก่อนจะทรงอนุญาตให้พวกคุณมาเกิดในระบบโลก
ก็ทรงทดลองติดตั้งภูเขาและเทือกเขาไว้บนโลก
เพื่อให้ภูเขาและเทือกเขาทำหน้าที่เป็นดั่งชิ้นตะกั่ว
ใช้ถ่วงโลกขณะเหวี่ยงหมุนไปไม่ให้เสียสมดุลนั่นเอง
 
เพราะพื้นที่ตรงพิกัดที่ตั้งของภูเขากับเทือกเขานั้น
เป็นพื้นที่บนโลกซึ่งมีน้ำหนักมวลมากกว่าบริเวณอื่น
ภูเขาหนึ่งลูกหรือเทือกเขาหนึ่งเทือกที่อยู่บนโลก
เมื่อเปรียบเทียบกับโลกแล้วแม้จะมีพื้นที่อันน้อยนิด
ก็ไม่ต่างจากชิ้นตะกั่วชิ้นเล็กๆแต่ละชิ้นบนกระทะล้อ
ที่สามารถช่วยให้ล้อรถยนต์นั้นหมุนอย่างสมดุลได้
 
ดังนั้น
พื้นที่บริเวณภูเขาสูงและเทือกเขาหนาแน่นบนโลกนี้
จึงมีประโยชน์ต่อมนุษย์และทุกสรรพสิ่งในระบบโลก
เพราะช่วยค้ำจุนสมดุลโลกขณะหมุนรอบตัวเองได้
โดยที่มนุษย์และสิ่งมีชีวิตทั้งหลายช่วยให้โลกหมุน
โดยใช้ความรักที่บริสุทธิ์และความใจบุญสุนทาน
หมุนธรรมจักรร่วมกันเพื่อผลิตพลังงานสะอาดให้โลก
นำไปใช้ในการบิดตัวของแกนแม่เหล็กที่ใจกลางโลก
 
ถ้าโลกเกิดอาการแกว่งส่ายไปในขณะเหวี่ยงหมุน
เพราะภูเขาและเทือกเขาถูกทำลายและย้ายพิกัดที่ตั้ง
โดยมนุษย์โลกเองที่ขาดจิตสามนึกเป็นผู้กระทำแล้ว
มันจะมีผลกระทบต่อกระแสไฟฟ้าเหนี่ยวนำในร่างกาย
ที่เกิดจากขั้วต่างทางไฟฟ้าในระดับเซลล์ให้เสียสมดุล
เพราะว่าโลกจะพาให้มนุษย์บนโลกแกว่งตามไปด้วย
การเคลื่อนที่ของขั้วต่างที่ตัดผ่านสนามแม่เหล็กโลก
จะพลอยเสียสมดุลเพราะความไม่คงที่เช่นเดียวกัน
 
พวกคุณทุกคนจักต้องรู้ไว้ว่า
กลไกอวัยวะและต่อมไร้ท่อของคุณทั้งหลาย
ที่ประกอบขึ้นเป็นเครื่องยนต์แห่งกรรมรูปธรรมมนุษย์
จะต้องมีกระแสไฟฟ้าเหนี่ยวนำใช้ได้อย่างเพียงพอ
จึงจะสามารถทำหน้าที่สั่นสะเทือนทั้งสองมิติได้
ถ้าพลังงานไฟฟ้าเหนี่ยวนำในร่างกายคุณขาดพร่อง
อวัยวะภายในและต่อมไร้ท่อต่างๆจะทำงานผิดพลาด
พวกคุณก็จะมีอวัยวะภายในบางชิ้นทำงานบกพร่อง
เช่น โรคหัวใจเต้นไม่เป็นปกติ ตับไตไส้พุงพิการ ฯลฯ
ที่สำคัญก็คือ สมองทึบ ปัญญาทึบ สุขภาพเสื่อม
จนในที่สุดสังขารร่างกายก็จะชราเร็วกว่าอายุจริง
นั่นคือจะตายเร็วหรืออายุขัยสั้นกว่าอายุขัยจริงนั่นล่ะ
 
(ยังมีตอนต่อไป)
 
เอเมน สาธุ
ถ่ายทอดคลื่นความคิดจากองค์จิตจักรวาล
โดย #ปัญญาวิสุทธิ์
10/09/2566