29 กันยายน 2566

คัมภีร์อนุตรธรรมภาคจิตจักรวาล 29/09/2023


#คัมภีร์อนุตรธรรมภาคจิตจักรวาล
(เพื่อยุวจิตจักรวาลยุคสุดท้าย)
 
พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
 
จิตวิญญาณผู้เป็นตัวตนแก่นแท้ของพวกคุณนั้น
อาสามาเกิดเป็นคนสองมิติเพื่อคนตนเองให้เป็นมนุษย์
ด้วยการใช้ความรักเพื่อให้สั่นสะเทือนขันธ์ห้า
ผลิตพลังงานไฟฟ้าแม่เหล็กด้านบวกที่สะอาดให้โลก
เพื่อช่วยทำให้โลกหมุนรอบตัวเองอย่างต่อเนื่องได้
ทั้งยังให้ช่วยค้ำจุนความสมดุลของโลกเอาไว้ด้วย
โดยทำให้โลกเหวี่ยงหมุนรอบตัวเองด้วยอัตราเร็วคงที่
 
เพื่อให้โลกผลิตก๊าซออกซิเจนออกมาจากแกนโลก
ช่วยให้โลกผลิตสนามแม่เหล็กออกมาห่อหุ้มโลกไว้
เมื่อโลกพามนุษย์หมุนตัดผ่านสนามแม่เหล็กดังกล่าว
ทำให้กายสังขารมนุษย์เกิดไฟฟ้าเหนี่ยวนำขึ้นในระบบ
เซลล์ร่างกายและอวัยวะภายในก็สามารถทำงานได้
เพราะมีไฟฟ้าเหนี่ยวนำเป็นพลังงานในการขับเคลื่อน
พวกคุณจึงมีชีวิตรอดอยู่ได้โดยไม่ต้องตายเลย
 
ปรากฏการณ์ที่เรากล่าวมาเหล่านี้
เป็นบทบาทหน้าที่หลักของจิตวิญญาณมนุษย์ทุกคน
ในการเป็น #เพื่อนร่วมงานกับโลก คนสำคัญยิ่ง
ซึ่งโลกได้ประโยชน์จากมนุษย์ทุกคนที่ช่วยกันทำ
ด้วยการหมุนธรรมจักรเพราะรักกันและรักโลก
ขณะที่มนุษย์ทุกคนก็ได้ประโยชน์จากโลกเช่นกัน
คือได้อาหารน้ำยาสมุนไพรรักษาโรคอากาศหายใจ
ได้สนามแม่เหล็กที่ช่วยเหนี่ยวนำให้เกิดกระแสไฟฟ้า
ไหลเวียนภายในร่างกายทั้งยามตื่นและยามหลับ
ทำให้อวัยวะต่างๆสามารถทำงานได้ตลอดเวลา
โดยไม่มีไฟฟ้าดับมอดหรือไฟฟ้าตกจนเสียสมดุลไป
 
ทั้งสนามแม่เหล็กโลกยังช่วยป้องกันโลกและมนุษย์
ให้อยู่รอดปลอดภัยจากอุกกาบาตขนาดน้อยใหญ่
ไม่ให้พุ่งเข้ามาชนโลกได้ง่ายๆจนเกิดอันตรายได้
ซึ่งอุกกาบาตจะเสียดสีกับสนามแม่เหล็กโลกจนร้อน
แล้วลุกไหม้หมดหรือเกือบหมดก่อนจะตกลงถึงพื้นโลก
ที่สำคัญคือ “โลก” เป็นสถานที่ทำงานของพวกคุณ
ถ้าไม่มีโลกดวงนี้พวกคุณก็ไม่มีภารกิจใดที่จะต้องทำ
เมื่อไม่มีภารกิจต้องทำจิตวิญญาณคุณก็ไม่ต้องมาเกิด
มนุษย์กับโลกจึงเป็นเพื่อนร่วมงานกันนั่นเอง
 
การทำหน้าที่เป็นเพื่อนร่วมงานกับโลก
แปลว่าทั้งมนุษย์และโลกต่างมีหน้าที่ต้องทำร่วมกัน
โลกจะเทมนุษย์ทั้งโลกหรือใครบางคนทิ้งไปก็ไม่ได้
ขณะที่มนุษย์โลกทุกคนหรือบางคนจะละทิ้งโลกก็ไม่ได้
มนุษย์จะต้องอยู่ประจำทำงานเฝ้าโลกอยู่ตลอดเวลา
เพื่อช่วยให้โลกหมุนและค้ำจุนสมดุลโลกเอาไว้ให้ได้
โดยจะตายหายไปจากโลกเพื่อไปตกนรกก็ไม่ควรทำ
จะตายไปเกิดบนสวรรค์มายาที่พระเจ้ามิได้สร้าง
เพื่อไปนั่งนอนเสวยสุขเสพกิเลสมารอยู่บนนั้นก็ไม่ได้
เพราะหน้าที่หลักคือหมุนธรรมจักรพิทักษ์สมดุลโลก
 
ถ้าพวกคุณได้รับอนุญาตจากพระเจ้าให้เข้ามาเกิด
เพื่อรับบทบาทเป็น “เพื่อนร่วมงานกับโลก” แล้วไม่ทำ
จะด้วยความไม่รู้หรือถูกหลอกให้หลงทางกันก็ตาม
เท่ากับว่าพวกคุณเสียทีที่ได้มาเกิดเป็นมนุษย์แน่นอน
ภาษานักเลงโลกเขาเรียกว่า “เสียชาติเกิด” นั่นแหละ
 
ยิ่งถ้าปลายยุคพลังงานเก่านี้
ใครผู้ใดตกหลุมพรางพวกมาร คือ “ผีโสโครก”
ที่ถูกหลอกให้เสพติดเท็คนิกสมาธิหรือกรรมฐาน
เพราะเชื่อว่าเป็นแนวทางการปฏิบัติธรรมที่ถูกต้อง
ปฏิบัติแล้วสามารถนิพพานทุกอย่างได้สิ้นแน่ๆ
คือตายแล้วจิตวิญญาณจะหายสาบสูญไปเลย
ไม่กลับมาเกิดเป็นมนุษย์บนโลกนี้อีก
นี่เท่ากับว่ามนุษย์เสียท่ามารยิ่งกว่าเสียชาติเกิดอีกแน่ะ
 
วันๆหนึ่งจิตหยาบจะไม่ก้าวหน้าจนเสียเวลาเปล่า
เพราะไม่อาจยกระดับแรงสั่นสะเทือนของจิตหยาบ
ให้เป็นหนึ่งเดียวกันกับจิตวิญญาณของตนได้
เพราะถูกชวนให้ปลีกวิเวกสอนให้ปฏิบัติทำคนเดียว
โดยใช้ความสงบของจิตหยาบเป็นตัวตั้งเป็นที่หมาย
คล้ายกับว่าถูกสอนให้อยากไปสวรรค์คนเดียวเท่านั้น
มิได้ใช้ความรักเพื่อให้หรือเมตตาธรรมเป็นเป้าหมาย
เพื่อการหมุนธรรมจักรร่วมกันในการพิทักษ์สมดุลโลก
 
นอกจากนั้น
ในตอนที่แล้วเรายังเปิดเผยความจริงให้รู้ด้วยว่า
ถ้าคุณไม่หมุนธรรมจักรในตนเองและไม่หมุนร่วมกัน
โดยวันๆหันไปฝักใฝ่กับการแสวงหาความสงบของจิต
ด้วยการไปนั่งกดทับมันเอาไว้ให้นิ่งสงบชั่วคราว
ขยะในจิตหยาบรวมทั้งกรรมเวรที่จิตวิญญาณถืออยู่
มันจะเป็นขยะอันไม่พึงประสงค์ที่ยังอยู่ครบถ้วนดังเดิม
แถมมันรอวันที่จะเติมเพิ่มได้อีกต่างหากด้วย
 
นอกจากนั้นผีโสโครกผู้ไม่ประสงค์ดี
ก็จะคอย “ดักดูด” พลังจิตแบบลักลอบเพราะคุณไม่รู้
หรือจะอ้างการเชื่อมจิตกับตัวคุณเพื่อดูดรั้งพลังออกมา
ผ่านทางตาที่สามบริเวณหน้าผากระหว่างคิ้วของคุณ
เพราะคุณยอมพวกเขาเองจากความอยากรู้อยากลอง
ซึ่งเป็นการลงทุนแบบเสี่ยงโดยที่ยังไม่รู้อะไรเลย
ด้วยความที่หลงใหลในคำพูดจาที่ว่า “กรรมกรแสง”
จึงปลาบปลื้มจนลืมคิดไปว่าตนกำลังทำร้ายจิตวิญญาณ
ซึ่งเป็นตัวตนที่แท้จริงของตนเองอย่างโง่ง่ายอยู่
 
เราเตือนเรื่องนี้มาหลายครั้ง
ใครมีหูก็เชิญรับฟังกันเอาไว้บ้างเถิด
 
พวกท่านทุกคนนั้นต่างล้วนเป็นลูกแกะของพระเจ้า
มาเกิดในระบบโลกเพื่อเป็น “เพื่อนร่วมงานกับโลก”
ทำหน้าที่จนสิ้นยุคแล้วค่อยตายตาหลับเพื่อกลับบ้าน
มิใช่จะปีนรั้วเข้าคอกหรือทำตัวเป็นแกะหลงฝูง
โดยยอมตนเป็นทาสรับใช้ผีโสโครกเพราะนึกว่าโก้
 
เอเมน สาธุ
ถ่ายทอดคลื่นความคิดจากองค์จิตจักรวาล
โดย #ปัญญาวิสุทธิ์
29/09/2566