#คัมภีร์อนุตรธรรมภาคจิตจักรวาล
(เพื่อยุวจิตจักรวาลยุคสุดท้าย)
พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
พวกคุณทุกคนล้วนมีจิตวิญญาณเป็นแก่นแท้
โดย “แก่นแท้” ที่ว่านี้เป็นรูปธรรมทางพลังงาน
ซึ่งมีรูปทรงเรขาคณิต 6 เหลี่ยมมุมเท่ากันทุกคน
ถ้าเรียกเป็นภาษาชาวต่างดาวก็เคลมได้ว่ามี
6D
โดยที่จิตวิญญาณคือตัวคุณเองที่แท้จริงนั้น
เดิมเป็นรูปธรรมที่มีพลังอำนาจเต็มล้นอยู่ในตนเอง
พลังอำนาจของจิตวิญญาณก็คือ #เมอร์คขะบาห์
ซึ่งเป็นเปลือกพลังงานชั้นนอกสุดของรูปธรรม
เมื่อเข้ามาเกิดเป็นมนุษย์แล้วเมอร์คขะบาห์ที่ว่านี้
ก็จะทำหน้าที่ใหม่ในบทบาทของ #จิตใต้สำนึก
“จิตใต้สำนึก” หรือ “จิตใต้สามนึก” ก็คือ
เป็นกลุ่มพลังงานซึ่งเป็นเครื่องมือของจิตวิญญาณ
ที่จะคอยทำหน้าที่สั่นสะเทือนตาม #จิตสามนึก
เพื่อให้การสั่นสะเทือนทางจิตสามนึกของจิตหยาบ
เกิดการสั่นสะเทือนในมิติของจิตวิญญาณไปด้วย
เพราะพระเจ้าทรงกำหนดให้จิตหยาบเป็นตัวแทน
โดยทำหน้าที่ในนามของจิตวิญญาณด้วยจิตสามนึก
เมื่อได้โอกาสให้มีภพชาติเป็น “คนสองมิติ” เสมอ
จิตใต้สำนึกจึงเป็นเครื่องมือของพวกคุณทุกคน
ผู้คอยทำหน้าที่สั่นสะเทือนตามจิตหยาบ
เพื่อให้เกิดการสั่นสะเทือนในมิติของจิตวิญญาณ
ซึ่งเป็นมิติคู่ขนานกับมิติของจิตหยาบกับกายหยาบ
ในบริบทของมนุษย์ซึ่งเป็น “คนสองมิติ” นั่นเอง
โดย “จิตใต้สำนึก” จะมีคุณสมบัติที่สำคัญก็คือ
1.จิตใต้สำนึกจะนึกเองเพื่อคิดเองไม่เป็น
จะสั่นสะเทือนตามหรือทำตามจิตสามนึกเท่านั้น
2.จิตใต้สำนึกจะไม่รู้สำนึกถูกผิดดีชั่ว
ถ้าจิตหยาบหรือจิตสามนึกสั่นสะเทือนเป็นลบ
จิตใต้สำนึกก็จะสั่นสะเทือนเป็นลบตามทันที
เพราะไม่สามารถคิดเองเป็นและเห็นเองก็ไม่ได้
จะสั่นสะเทือนตามเพื่อทำตามจิตหยาบเท่านั้น
จิตใต้สำนึกจึงเป็นผู้ตามที่ดีเสมอ
3.จิตใต้สำนึกเป็นเครื่องมือของจิตวิญญาณ
โดยทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยเหลือจิตสามนึกอีกแรงหนึ่ง
ในทุกสิ่งทุกเรื่องราวที่จิตสามนึก “ต้องการ”
ซึ่งจิตใต้สำนึกจะดลบันดานเหนี่ยวรั้งเข้ามาในชีวิต
เพื่อตอบสนองความต้องการของคุณในทุกเรื่อง
ไม่ว่าเรื่องนั้นมันจะเป็นเรื่องดีหรือเรื่องร้ายก็ตาม
สิ่งที่คุณพร่ำบ่นอยู่บ่อยๆ
สิ่งที่คุณพูดซ้ำๆอยู่ตลอด
สิ่งที่คุณอุทานจนเคยปากเคยตัว
สิ่งที่คุณมักจะนึกถึงมันอยู่เสมอ
ฯลฯ
ไม่ว่ามันจะเป็นเรื่องดีหรือเรื่องร้าย
ไม่ว่ามันจะเป็นสิ่งที่คุณรักหรือชิงชัง
ไม่ว่ามันจะเป็นสิ่งที่คุณรังเกียจหรือขลาดกลัว
แรงสั่นสะเทือนของจิตหยาบเหล่านี้
มันจะหล่นลงสู่จิตใต้สำนึกของจิตวิญญาณในทันที
จิตใต้สำนึกของจิตวิญญาณของคุณผู้เมตตาการุณ
ก็จะถือเป็น “คำสั่ง” พิเศษที่ตนจะต้องเป็นผู้รับใช้
โดยเหวี่ยงพลังออกไปดึงดูดเหนี่ยวรั้งสิ่งนั้นมาให้
ดังนั้น
ถ้าคุณเป็นคนที่มีนิสัยชอบนึกลบหรือคิดลบ
เป็นคนชอบมองโลกคือตนเองและผู้อื่นในแง่ร้าย
นั่นเท่ากับว่าคุณกำลังนำสิ่งเลวร้ายมาสู่ตนเอง
เพราะจิตใต้สำนึกจะเหนี่ยวรั้งนำพามันมาให้คุณ
แม้ว่าตัวคุณจะมิได้ตั้งใจมิได้ปรารถนามันเลยก็ตาม
ใครที่ชอบอุทานจนติดปากว่า
ซวยแน่ๆ...แย่แล้วเรา
ชิบหายแล้ว... ทำไม่ได้แน่ ๆ... ล้มเหลวแหงๆ
ล้มเหลวแน่นอน... คงผิดหวังอีก... สู้เขาไม่ได้แน่
คงแพ้เขาอีกตามเคย... ตายแล้ว ๆ... ตายแหงแก๋
ตายอย่างเขียด... เจอแต่คนหลอกลวง...
ปวดหัวชิบเป๋ง... มันยากเกิน... กลัวจะผิดพลาดอีก
ฯลฯ
วิถีชีวิตของคุณจะพบเจอแต่เรื่องร้ายๆเหล่านี้
เพราะจิตใต้สำนึกจะช่วยน้อมนำมาให้คุณเอง
ไม่ว่ามันจะช้าหรือเร็วก็ตาม
ถ้าคุณฉลาดพอและรู้ความลับเหล่านี้
จงจำไว้ว่าอย่านึกลบคิดลบพูดลบและทำสิ่งที่เป็นลบ
เพราะการสั่นสะเทือนจิตหยาบและกายหยาบด้านลบ
จะทำให้จิตใต้สำนึกของจิตวิญญาณสั่นสะเทือนตาม
เพื่อช่วยทำการตอบสนองโดยนำสิ่งนั้นมาให้คุณเสมอ
ในทางกลับกันคุณก็ควรนึกคิดพูดทำแต่ด้านบวกให้ได้
โดยให้จิตใต้สำนึกของจิตวิญญาณสั่นสะเทือนตาม
เพื่อตอบสนองความต้องการด้านบวกนั้นให้คุณแทน
จงอย่าใช้จิตใต้สำนึกด้วยการสั่งให้เขา
ช่วยนำเอาความร่ำรวย เงินทองหรือโภคทรัพย์มาให้
โดยที่ตัวคุณเองไม่ยอมลงทุนหรือลงแรงอะไรเลย
คงใช้กิเลสหลอกจิตใต้สำนึกให้ทำงานให้คุณร่ำไป
เพราะนั่นเป็นการทำร้ายจิตวิญญาณของคุณเองให้เสื่อม
เนื่องจากจิตใต้สำนึกจะทำตามจิตสำนึกของคุณเท่านั้น
ถ้าจิตสามนึกไม่สั่นสะเทือนตามขั้นตอนที่กำหนดไว้
จิตใต้สำนึกจะสิ้นเปลืองพลังอำนาจไปค่อนข้างมาก
เพราะถูกใช้ไปโดยไม่สามารถเติมเต็มทดแทนได้นั่นเอง
หากคุณใช้จิตใต้สำนึกผิดวิธีเพราะชอบสั่งจิตใต้สำนึก
จิตวิญญาณของคุณก็จะเสื่อมพลังอำนาจเร็วมาก
เมื่อตายจิตวิญญาณจะดีดตนเองเพื่อทิ้งสังขารไม่ไหว
หรือทิ้งกายสังขารออกไปได้แต่จะไปไหนต่อก็ไม่ได้
ตายอยู่ตรงไหนจิตวิญญาณก็จะติดค้างกันอยู่ตรงนั้น
เพราะจิตวิญญาณโดยเมอร์คขะบาห์หมดสภาพไร้พลัง
การใช้จิตใต้สำนึกของจิตวิญญาณผิดวิธีนั้น
นอกจากติดนิสัยสั่งจิตใต้สำนึกให้ทำรวยแก่ตนแล้ว
พวกที่ชอบใช้มนต์ดำเวทย์มนต์คุณไสยของมาร
จากตำนานที่เป็นตำราของประดาผีโสโครก
พวกที่ชอบก่อกรรมทำเวรกับเพื่อนร่วมโลกเป็นนิจ
พฤติกรรมอันไม่พึงประสงค์ของจิตหยาบเหล่านี้
ล้วนเป็นภัยต่อพลังอำนาจทางจิตวิญญาณทั้งสิ้น
พวกชนชาวต่างดาวที่จิตวิญญาณตกชั้นลงมา
จากเดิม 6D จนเหลือแค่ 5D ในทุกวันนี้นั้น
เป็นเพราะใช้จิตใต้สำนึกไม่ถูกต้องและใช้พร่ำเพรื่อ
เนื่องจากพวกเขาไม่มีจิตหยาบเหมือนชาวโลก
พวกเขาจึงไม่มีจิตสามนึกทำหน้าที่แทนจิตวิญญาณ
จะทำสิ่งใดก็ต้องสั่นสะเทือนจิตวิญญาณทุกครั้งไป
เพราะจิตวิญญาณมีอภิญฤทธิ์เป็นคุณสมบัติอยู่
โอกาสพลั้งเผลออวดอุตริแสดงฤทธิ์อำนาจจึงมีสูง
พวกเขาจึงเสื่อมฤทธิ์เสื่อมอำนาจเหลือแค่ 5D แล้ว
เพราะเหตุนี้แหละ
พระเจ้าจึงทรงออกแบบให้พวกคุณเป็นเผ่าเดียว
ที่จิตวิญญาณผู้อาสามาเกิดเป็นคนสองมิติบนโลกนี้
มี “จิตหยาบ” ช่วยทำหน้าที่แทนขณะเกิดเป็นมนุษย์
เพื่อให้จิตวิญญาณแก่นแท้ปลอดภัยไม่มีวันเสื่อม
นอกจากเสียสมดุลแล้วส่งไปนรกเพื่อซ่อมแซมรักษา
เมื่อรักษาจนหายแล้วค่อยให้กลับมาเกิดใหม่
จะได้กลับบ้านแดนสุญตาอย่างสง่างามเมื่อสิ้นยุค
ถ่ายทอดคลื่นความคิดจากองค์จิตจักรวาล
เพื่อวิสุทธิชนยุคสุดท้ายผู้เป็นลูกแกะของพระเจ้า
เอเมน
สาธุ
ปัญญาวิสุทธิ์
2/09/2566
(เพื่อยุวจิตจักรวาลยุคสุดท้าย)
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
โดย “แก่นแท้” ที่ว่านี้เป็นรูปธรรมทางพลังงาน
ซึ่งมีรูปทรงเรขาคณิต 6 เหลี่ยมมุมเท่ากันทุกคน
เดิมเป็นรูปธรรมที่มีพลังอำนาจเต็มล้นอยู่ในตนเอง
พลังอำนาจของจิตวิญญาณก็คือ #เมอร์คขะบาห์
ซึ่งเป็นเปลือกพลังงานชั้นนอกสุดของรูปธรรม
เมื่อเข้ามาเกิดเป็นมนุษย์แล้วเมอร์คขะบาห์ที่ว่านี้
ก็จะทำหน้าที่ใหม่ในบทบาทของ #จิตใต้สำนึก
เป็นกลุ่มพลังงานซึ่งเป็นเครื่องมือของจิตวิญญาณ
ที่จะคอยทำหน้าที่สั่นสะเทือนตาม #จิตสามนึก
เพื่อให้การสั่นสะเทือนทางจิตสามนึกของจิตหยาบ
เกิดการสั่นสะเทือนในมิติของจิตวิญญาณไปด้วย
เพราะพระเจ้าทรงกำหนดให้จิตหยาบเป็นตัวแทน
โดยทำหน้าที่ในนามของจิตวิญญาณด้วยจิตสามนึก
เมื่อได้โอกาสให้มีภพชาติเป็น “คนสองมิติ” เสมอ
ผู้คอยทำหน้าที่สั่นสะเทือนตามจิตหยาบ
เพื่อให้เกิดการสั่นสะเทือนในมิติของจิตวิญญาณ
ซึ่งเป็นมิติคู่ขนานกับมิติของจิตหยาบกับกายหยาบ
ในบริบทของมนุษย์ซึ่งเป็น “คนสองมิติ” นั่นเอง
โดย “จิตใต้สำนึก” จะมีคุณสมบัติที่สำคัญก็คือ
จะสั่นสะเทือนตามหรือทำตามจิตสามนึกเท่านั้น
2.จิตใต้สำนึกจะไม่รู้สำนึกถูกผิดดีชั่ว
ถ้าจิตหยาบหรือจิตสามนึกสั่นสะเทือนเป็นลบ
จิตใต้สำนึกก็จะสั่นสะเทือนเป็นลบตามทันที
เพราะไม่สามารถคิดเองเป็นและเห็นเองก็ไม่ได้
จะสั่นสะเทือนตามเพื่อทำตามจิตหยาบเท่านั้น
จิตใต้สำนึกจึงเป็นผู้ตามที่ดีเสมอ
โดยทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยเหลือจิตสามนึกอีกแรงหนึ่ง
ในทุกสิ่งทุกเรื่องราวที่จิตสามนึก “ต้องการ”
ซึ่งจิตใต้สำนึกจะดลบันดานเหนี่ยวรั้งเข้ามาในชีวิต
เพื่อตอบสนองความต้องการของคุณในทุกเรื่อง
ไม่ว่าเรื่องนั้นมันจะเป็นเรื่องดีหรือเรื่องร้ายก็ตาม
สิ่งที่คุณพูดซ้ำๆอยู่ตลอด
สิ่งที่คุณอุทานจนเคยปากเคยตัว
สิ่งที่คุณมักจะนึกถึงมันอยู่เสมอ
ฯลฯ
ไม่ว่ามันจะเป็นสิ่งที่คุณรักหรือชิงชัง
ไม่ว่ามันจะเป็นสิ่งที่คุณรังเกียจหรือขลาดกลัว
มันจะหล่นลงสู่จิตใต้สำนึกของจิตวิญญาณในทันที
จิตใต้สำนึกของจิตวิญญาณของคุณผู้เมตตาการุณ
ก็จะถือเป็น “คำสั่ง” พิเศษที่ตนจะต้องเป็นผู้รับใช้
โดยเหวี่ยงพลังออกไปดึงดูดเหนี่ยวรั้งสิ่งนั้นมาให้
ถ้าคุณเป็นคนที่มีนิสัยชอบนึกลบหรือคิดลบ
เป็นคนชอบมองโลกคือตนเองและผู้อื่นในแง่ร้าย
นั่นเท่ากับว่าคุณกำลังนำสิ่งเลวร้ายมาสู่ตนเอง
เพราะจิตใต้สำนึกจะเหนี่ยวรั้งนำพามันมาให้คุณ
แม้ว่าตัวคุณจะมิได้ตั้งใจมิได้ปรารถนามันเลยก็ตาม
ซวยแน่ๆ...แย่แล้วเรา
ชิบหายแล้ว... ทำไม่ได้แน่ ๆ... ล้มเหลวแหงๆ
ล้มเหลวแน่นอน... คงผิดหวังอีก... สู้เขาไม่ได้แน่
คงแพ้เขาอีกตามเคย... ตายแล้ว ๆ... ตายแหงแก๋
ตายอย่างเขียด... เจอแต่คนหลอกลวง...
ปวดหัวชิบเป๋ง... มันยากเกิน... กลัวจะผิดพลาดอีก
ฯลฯ
เพราะจิตใต้สำนึกจะช่วยน้อมนำมาให้คุณเอง
ไม่ว่ามันจะช้าหรือเร็วก็ตาม
จงจำไว้ว่าอย่านึกลบคิดลบพูดลบและทำสิ่งที่เป็นลบ
เพราะการสั่นสะเทือนจิตหยาบและกายหยาบด้านลบ
จะทำให้จิตใต้สำนึกของจิตวิญญาณสั่นสะเทือนตาม
เพื่อช่วยทำการตอบสนองโดยนำสิ่งนั้นมาให้คุณเสมอ
ในทางกลับกันคุณก็ควรนึกคิดพูดทำแต่ด้านบวกให้ได้
โดยให้จิตใต้สำนึกของจิตวิญญาณสั่นสะเทือนตาม
เพื่อตอบสนองความต้องการด้านบวกนั้นให้คุณแทน
ช่วยนำเอาความร่ำรวย เงินทองหรือโภคทรัพย์มาให้
โดยที่ตัวคุณเองไม่ยอมลงทุนหรือลงแรงอะไรเลย
คงใช้กิเลสหลอกจิตใต้สำนึกให้ทำงานให้คุณร่ำไป
เพราะนั่นเป็นการทำร้ายจิตวิญญาณของคุณเองให้เสื่อม
เนื่องจากจิตใต้สำนึกจะทำตามจิตสำนึกของคุณเท่านั้น
ถ้าจิตสามนึกไม่สั่นสะเทือนตามขั้นตอนที่กำหนดไว้
จิตใต้สำนึกจะสิ้นเปลืองพลังอำนาจไปค่อนข้างมาก
เพราะถูกใช้ไปโดยไม่สามารถเติมเต็มทดแทนได้นั่นเอง
จิตวิญญาณของคุณก็จะเสื่อมพลังอำนาจเร็วมาก
เมื่อตายจิตวิญญาณจะดีดตนเองเพื่อทิ้งสังขารไม่ไหว
หรือทิ้งกายสังขารออกไปได้แต่จะไปไหนต่อก็ไม่ได้
ตายอยู่ตรงไหนจิตวิญญาณก็จะติดค้างกันอยู่ตรงนั้น
เพราะจิตวิญญาณโดยเมอร์คขะบาห์หมดสภาพไร้พลัง
นอกจากติดนิสัยสั่งจิตใต้สำนึกให้ทำรวยแก่ตนแล้ว
พวกที่ชอบใช้มนต์ดำเวทย์มนต์คุณไสยของมาร
จากตำนานที่เป็นตำราของประดาผีโสโครก
พวกที่ชอบก่อกรรมทำเวรกับเพื่อนร่วมโลกเป็นนิจ
พฤติกรรมอันไม่พึงประสงค์ของจิตหยาบเหล่านี้
ล้วนเป็นภัยต่อพลังอำนาจทางจิตวิญญาณทั้งสิ้น
จากเดิม 6D จนเหลือแค่ 5D ในทุกวันนี้นั้น
เนื่องจากพวกเขาไม่มีจิตหยาบเหมือนชาวโลก
พวกเขาจึงไม่มีจิตสามนึกทำหน้าที่แทนจิตวิญญาณ
จะทำสิ่งใดก็ต้องสั่นสะเทือนจิตวิญญาณทุกครั้งไป
เพราะจิตวิญญาณมีอภิญฤทธิ์เป็นคุณสมบัติอยู่
โอกาสพลั้งเผลออวดอุตริแสดงฤทธิ์อำนาจจึงมีสูง
พวกเขาจึงเสื่อมฤทธิ์เสื่อมอำนาจเหลือแค่ 5D แล้ว
พระเจ้าจึงทรงออกแบบให้พวกคุณเป็นเผ่าเดียว
ที่จิตวิญญาณผู้อาสามาเกิดเป็นคนสองมิติบนโลกนี้
มี “จิตหยาบ” ช่วยทำหน้าที่แทนขณะเกิดเป็นมนุษย์
เพื่อให้จิตวิญญาณแก่นแท้ปลอดภัยไม่มีวันเสื่อม
นอกจากเสียสมดุลแล้วส่งไปนรกเพื่อซ่อมแซมรักษา
เมื่อรักษาจนหายแล้วค่อยให้กลับมาเกิดใหม่
จะได้กลับบ้านแดนสุญตาอย่างสง่างามเมื่อสิ้นยุค
เพื่อวิสุทธิชนยุคสุดท้ายผู้เป็นลูกแกะของพระเจ้า
ปัญญาวิสุทธิ์
2/09/2566