04 กันยายน 2566

คัมภีร์อนุตรธรรมภาคจิตจักรวาล 4/09/2023






#คัมภีร์อนุตรธรรมภาคจิตจักรวาล
(เพื่อยุวจิตจักรวาลยุคสุดท้าย)
 
พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
 
คุณสมบัติของจิตใต้สำนึกประการที่ 3 ก็คือ
 
3.เป็นตัวบันทึกความทรงจำของ “จิตวิญญาณ” ว่า
จิตหยาบโดยจิตสามนึกนั้นสั่นสะเทือนอะไรอย่างไร
 
คำว่า “สั่นสะเทือนอะไร” มี 2 อย่าง คือ
อย่างแรกจะเป็นพฤติกรรมทางอารมณ์รู้สึกนึกคิด
พระพุทธองค์ทรงเรียกการจำอารมณ์นี้ว่า #หมายรู้
ส่วนอย่างที่สองนั้นเป็นพฤติกรรมทางกายและวาจา
พระพุทธองค์ทรงเรียกการจำพฤติกรรมนี้ว่า #จำได้
โดยจิตใต้สำนึกจะบันทึกข้อมูล (Data) พวกนี้เอาไว้
ซึ่งเรียกรวมกันว่า “การจำได้หมายรู้” นั่นเอง
 
ดาต้าหรือข้อมูลทั้งหมดที่ถูกบันทึกไว้นี้
เป็นประสบการณ์ชีวิตในการทำหน้าที่ของจิตหยาบ
ซึ่งสั่นสะเทือนแทนจิตวิญญาณมาตั้งแต่อายุสามขวบ
เพื่อให้จิตวิญญาณคุณรับรู้รับผิดชอบในการกระทำ
ในฐานะของผู้มอบอำนาจให้จิตหยาบกระทำการแทน
ทั้งเรื่องราวและเหตุการณ์อย่างละเอียดครบถ้วน
ไม่ว่าคุณได้ทำอะไรกับใครที่ไหนเมื่อไหร่อย่างไร
 
จิตใต้สำนึกเป็นเหมือน “กล่องดำ” ของรูปธรรมมนุษย์
โดยรูปธรรมมนุษย์ของคุณก็คือ #เครื่องยนต์แห่งกรรม
ที่มีกัปตันก็คือ “จิตหยาบ” รับหน้าที่บังคับขับเคลื่อนมัน
ไม่ว่ากัปตันจะสื่อสารผ่านวิทยุกับใครว่าอย่างไรเวลาใด
ทั้งเป็นสาระและไร้สาระกล่องดำจะบันทึกข้อมูลไว้หมด
บางเรื่องกัปตันหรือจิตหยาบที่เป็นจิตสามนึกลืมไปแล้ว
แต่ว่ากล่องดำหรือจิตใต้สำนึกจะจำได้ไม่รู้ลืมเลือน
ซึ่งข้อมูลที่ถูกบันทึกเอาไว้ก็คือ #ข้อมูลกรรม นั่นเอง
 
ข้อมูลกรรม” ที่จิตหยาบเป็นผู้ก่อเอาไว้ในทุกกรณี
เป็น “ผลกรรม” ที่จิตวิญญาณจักต้องรับผิดชอบชดใช้
โดยตายไปจากโลกมนุษย์เพื่อขอรับโอกาสมาเกิดใหม่
กลับมาชำระขยะพลังงานกรรมที่ตนก่อไว้ในระบบโลก
ทั้งผลกรรมดีที่เป็นกลุ่มพลังงานบริสุทธิ์แต่ไม่สะอาด
เพราะทำบุญสุนทานด้วยกิเลสทำแล้วขอสิ่งตอบแทน
เนื่องจากทำบุญสร้างกุศลให้เป็นสาธารณะไม่เป็น
ผลกรรมทางพลังงานนั้นจึงมีรหัสกรรมเป็นคุณสมบัติอยู่
ซึ่งเป็นพลังงานแบบที่ “โลก” และทุกสิ่งนำไปใช้ไม่ได้
เพราะผลกรรมดีที่คุณผลิตได้นั้นมันเป็นสมบัติส่วนตัว
ต่างจากก๊าซออกซิเจนที่ไม่มีเจ้าของใครๆก็ใช้หายใจได้
เพราะพระเจ้าทรงกำหนดให้เป็นสมบัติส่วนรวมนั่นเอง
 
สรรพสิ่งต่างๆที่มีอยู่ในธรรมชาติทั่วๆไป
ทั้งบนบกหรือบนแผ่นดินที่เป็นทรัพย์ในดินสินในน้ำ
พระเจ้าทรงอนุญาตให้พวกคุณเป็นเจ้าของร่วมกัน
โดยทั่วแผ่นดินโลกพวกคุณจะย่างเดินไปที่ไหนก็ได้
แผ่นดินเดียวกันทะเลหรือมหาสมุทรก็แผ่นเดียวกัน
ท้องฟ้าเมฆหมอกและอากาศล้วนเป็นผืนเดียวกัน
ทุกคนมีสิทธิ์ใช้สมบัติส่วนกลางเหล่านี้ได้เสมอกัน
เพราะทุกคนทุกชาติพันธุ์เป็นมนุษย์โลกเสรีกันทั้งสิ้น
พระเจ้าทรงสร้างสิ่งต่างๆขึ้นเพื่อลูกทุกคนนั่นเอง
 
เพราะพวกคุณโดยจิตวิญญาณ
มีจิตใต้สำนึกคอยเป็นกล่องดำบันทึกข้อมูลทุกสิ่งไว้
โดยจิตสามนึกของจิตหยาบมีการสั่นสะเทือนเมื่อใด
จิตใต้สำนึกของจิตวิญญาณจะสั่นสะเทือนตามเสมอ
 
ที่มีการสั่นสะเทือนไปตามจิตสามนึก
เพราะต้องการ “บันทึกกรรม” นั้นๆเอาไว้
เพื่อให้จิตวิญญาณผู้เป็นตัวตนแก่นแท้รับผิดชอบ
ซึ่งความรับผิดชอบก็คือ #แก้ไขใหม่ กับ #ชดใช้มัน
โดยจะต้องแลกกันอย่างน้อย 1 ภพชาติเลยทีเดียว
 
นอกจากนั้น
จิตใต้สำนึกของจิตวิญญาณแก่นแท้ของคุณเอง
ยังจะมีหน้าที่ยึดเหนี่ยวเกี่ยวรั้งคุณไว้กับทุกคนทุกสิ่ง
นับตั้งแต่เซลล์นับล้านเซลล์และอวัยวะภายในทุกชิ้น
เพื่อให้เครื่องยนต์แห่งกรรมของคุณทำงานร่วมกันได้
อีกทั้งจิตใต้สำนึกยังมีหน้าที่ “เชื่อมตัวคุณ” เอาไว้
กับทุกคนทุกสรรพสิ่งในธรรมชาติจนเป็นหนึ่งเดียวกัน
ภายใต้นิยามที่ว่า #เราคือโลก #โลกคือเรา ที่คุณก็รู้
 
ดังนั้น
จักรวาลภายในคือตัวคุณ
สามารถเป็นหนึ่งเดียวกันกับจักรวาลภายนอก
อันหมายถึง “อนันตะจักรวาล” 12,500 ล้านระบบได้
ในลักษณะของระบบเล็กจะเชื่อมต่อกับระบบใหญ่
โดยระบบใหญ่จะเชื่อมต่อกับระบบที่ใหญ่กว่าเรื่อยๆได้
ล้วนเกิดจากพลังอำนาจของแก่นแท้ในสิ่งนั้นทั้งสิ้น
ถ้าเป็นมนุษย์อำนาจของแก่นแท้ก็คือพลังจิตใต้สำนึก
 
ปฏิบัติการเชื่อมต่อดังกล่าวนี้
เป็นปรากฏการณ์ตามธรรมชาติที่พระเจ้าทรงกำหนดไว้
โดยที่ทุกคนทุกสรรพสิ่งไม่ต้องจูนจิตเชื่อมจิตให้วุ่นวาย
หน้าที่คุณคือการทำตนให้เป็นคนสองมิติที่สมดุลเอาไว้
นั่นคือ #การหมั่นหมุนธรรมจักร ให้ได้ทุกลมหายใจ
ไม่ว่าจะหมุนคนเดียวหรือหมุนร่วมกับคนรอบข้างทุกคน
โดยใช้ความรักเพื่อให้สั่นสะเทือนขันธ์ห้าของจิตหยาบ
ด้วยมหาสติและมีปณิธานแห่งนิพพานในชาตินี้ก็พอแล้ว
 
หากคุณทำเช่นนี้ได้
คุณก็จะเป็นมนุษย์ที่สมดุลคือเป็นคนได้อย่างเต็มตัว
ยิ่งถ้าคุณสามารถหมุนธรรมจักรกับทุกคนได้ตลอดเวลา
คุณก็จะได้ชื่อว่าเป็น #มนุษย์ ที่สมบูรณ์ในสองมิติแล้ว
 
ถ้าคุณต้องการที่จะนิพพานสังสารวัฏ
คือต้องการจะดับการเกิดดับของจิตวิญญาณ
เพื่อไม่ต้องการตายแล้วเกิดใหม่ไม่ต้องการมีชาติหน้า
คุณจะต้องคนตนเองในสองมิติให้เป็นหนึ่งเดียวกัน
ด้วยการเป็นมนุษย์ที่สมดุลเพื่อเป็นคนที่สมบูรณ์ให้ได้
จากการใช้ความรักบริสุทธิ์สะอาดปราศจากเงื่อนไข
สั่นสะเทือนขันธ์ห้าของจิตหยาบของตัวเองให้สำเร็จ
แล้วเป็นเงื่อนไขให้คนรอบข้างมารวมกันหมุนไปกับคุณ
ด้วยการแสดงออกหรือกระทำเป็นกายกรรมวจีกรรม
โดยไม่เก็บงำวาจาที่ดีเก็บงำพฤติกรรมที่ดีเอาไว้กับตน
ทำตัวเหมือนว่าอยากจะไปสวรรค์คนเดียวนั่นแหละ
 
เราจะกล่าวความจริงให้คุณรู้ว่า
การหมุนธรรมจักรในตนเองเพื่อยกระดับจิตหยาบ
ให้มีมิติที่สูงขึ้นคือมีจำนวนเหลี่ยมมุมมากขึ้นให้ได้นั้น
มันสู้ชวนคนรอบข้างมาช่วยกันหมุนร่วมกันไม่ได้
ตอนที่คุณเป็นทารกอยู่ในครรภ์ของแม่นั้น
จิตวิญญาณคุณเองกับจิตหยาบของพ่อแม่ที่เขารักคุณ
เป็นผู้มีส่วนทำให้สมการซัมเบต้าเอ็กซ์ศักดิ์สิทธิ์ได้
อย่างน้อยตัว X ก็แทนค่าด้วยจำนวนเท่ากับสามได้
 
ถ้าตัวเอ็กซ์ถูกแทนค่าได้มากกว่าสามขึ้นไป
พลังอำนาจของพลังร่วมก็จะมีค่ามากยิ่งขึ้น
จิตหยาบของทุกคนที่ร่วมกันสั่นสะเทือนด้านบวก
ก็จะได้ประโยชน์ร่วมกันในการยกระดับจิตหยาบ
จากปัจจุบันอยู่ที่ 4D ให้สูงถึง 5D และ 6D ได้ง่ายๆ
ที่มันง่ายเพราะพระองค์ทรงออกแบบไว้ให้แล้ว
ที่ยากเพราะความไม่รู้จึงไปคิดให้มันยากกันเองแหละ
 
เพียงแค่คุณหมั่นหมุนธรรมจักรได้สำเร็จ
คุณก็จะพิสูจน์อำนาจในตนเองได้เลยว่า
สิ่งที่เรากล่าวมาหลายสิบปีที่ผ่านมานั้นจริงยิ่งกว่าจริง
 
จะพบว่าตนสามารถพึ่งพาหนึ่งสมองสองมือกับหนึ่งจิต
เพื่อการดำเนินชีวิตในสองมิติได้อย่างเป็นสุขสงบสันติ
คุณจะมีอายุขัยยืนยาวได้โดยไม่มีหน้าที่ต้องตายอีก
คุณจะมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงไม่อ่อนแอไม่ขี้โรค
เพราะคนที่อ่อนแอหรือยามเจ็บป่วยทางร่างกายนั้น
จะ “ขาดการเชื่อมต่อ” กับจักรวาลของพระเจ้าทันที
คุณก็จะเป็นแบบเดียวกันกับก้อนอุจจาระก้อนหนึ่ง
หรือเป็นดั่งกอสวะที่ไหลลอยไปตามกระแสน้ำ
 
ถ่ายทอดคลื่นความคิดจากองค์จิตจักรวาล
เพื่อวิสุทธิชนยุคสุดท้ายผู้เป็นลูกแกะของพระเจ้า
 
เอเมน สาธุ
ปัญญาวิสุทธิ์
04/09/2566