05 มีนาคม 2567

คัมภีร์อนุตรธรรมภาคจิตจักรวาล 5/03/2567

 #คัมภีร์อนุตรธรรมภาคจิตจักรวาล

 

พี่ๆน้อง ๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย

เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า

 

#ธรรมดาเป็นโลกียะธรรมความจริงของคนสองมิติ

 

โดยคำว่า “คนสองมิติ” หมายถึงรูปธรรมที่มีสองมิติ

คือมิติแห่งเนื้อหนังที่เป็นเปลือกหุ้มห่ออยู่ภายนอก

ซึ่งเปลือกนอกเป็น “เงามายา” ของตัวตนที่แท้จริง

กับมิติทางพลังงานด้านของแก่นแท้ที่เร้นอยู่ภายใน

ตัวตนที่แท้จริงก็คือ “จิตวิญญาณ” ผู้ขันอาสามาเกิด

ซึ่งเป็นรูปธรรมทางพลังงานที่มีรูปทรง 11 เหลี่ยมมุม

 

เมื่อได้รับโอกาสให้มีภพชาติเป็น “คนสองมิติ”

พระองค์ทรงกำหนดให้จิตวิญญาณแบ่งภาคออกมา

เป็น #กลุ่มพลังงาน เพื่อให้ทำหน้าที่แทนจิตวิญญาณ

โดยปฏิบัติตนไปตามเงื่อนไขในพันธะสัญญา 6 ข้อ

ที่จิตวิญญาณของพวกคุณให้สัจจะต่อพระองค์เอาไว้

ก่อนจะเดินทางข้ามมิติเข้ามาเกิดบนโลกในชาติแรก

ซึ่งหนึ่งในหกข้อก็คือ

 

#จะเป็นเพื่อนร่วมงานกับโลก

หมายถึงพวกคุณจะมาทำหน้าที่ใช้ #ความรักเพื่อให้

ที่พระพุทธเจ้าทรงเลือกใช้คำว่า #เมตตาธรรม

เพื่อผลิต “พลังจิต” ในรูปคลื่นไฟฟ้าแม่เหล็กด้านบวก

ที่เป็น #พลังงานสะอาด ไม่มีสิ่งใดเจือปนอยู่ในนั้น

โดยใช้ขันธ์ห้าสั่นสะเทือนจิตตปัญญาด้วยรักเพื่อให้

อันหมายถึง #หมุนธรรมจักรในตนเอง ตลอดวันเวลา

 

ในการสั่นสะเทือนจิตสามนึกด้วยความรักเพื่อให้

เพื่อหมุนธรรมจักรในตนเองด้วยกระบวนการขันธ์ห้า

มันจะทำให้เกิดการสั่นสะเทือนร่วมกันทั้งสองมิติ

คือมิติของจิตหยาบหรือจิตวิญญาณกับมิติกายหยาบ

ถ้าคนสองมิติให้เข้ากันจนเป็นหนึ่งเดียวกันได้เมื่อไหร่

จิตหยาบกับจิตวิญญาณคุณจะสั่นสะเทือนพร้อมกัน

เพราะจิตหยาบยกระดับจากมิติที่สี่เป็นมิติที่ 6 ได้แล้ว

แต่แม้ว่าจะประทานเวลาในการยกระดับเอาไว้ให้

นานต่อหนึ่งยุคคือ 60,000 ปีโลกสำหรับทุกคนก็ตาม

เพื่อประกันความผิดพลาดจากการคาดหมายเอาไว้

พระองค์จึงทรงออกแบบกำหนดให้พวกคุณทุกคน

หมุนธรรมจักรร่วมกันเพื่อช่วยยกระดับจิตหยาบ

ด้วยพลังร่วมจากจิตสามนึกด้านบวกของคนใกล้ตัว

โดยกำหนดให้เป็นจริงได้ก็ต่อเมื่อมีคนสามคนขึ้นไป

มาร่วมกันหมุนธรรมจักรด้วยรักเพื่อให้เท่านั้น

 

พลังงานร่วมที่เกิดขึ้นดังกล่าวนี้

จะเป็นไปตามสมการศักดิ์สิทธิ์ที่คนทั้งโลกไม่รู้มาก่อน

นั่นคือ Σβx ═ 3X²(β₁+β₂+β₃+…+βX) มีหน่วยเป็น Mhz.

โดย Σβx หมายถึงพลังงานทางช้างเผือกจากคน X คน

ซึ่งต้องไม่ต่ำกว่า 3 คนขึ้นไปเท่านั้นจึงจะศักดิ์สิทธิ์ได้

 

พลังงานร่วมที่ได้จากจิตสามนึกด้านบวกดังกล่าวนี้

จำนวน 1% ในทุกวินาทีที่พวกคุณหมุนธรรมจักรกันอยู่

จะถูกเหนี่ยวรั้งลงไปยังแกนแม่เหล็กโลกที่ใจกลางโลก

เพื่อทำการจุดระเบิดอะตอมของธาตุออกซิเจน

ที่บริสุทธิ์ 100% ซึ่งมีลักษณะเหนียวหนืดคล้ายตังเม

จนเกิดเป็นปฏิกิริยานิวเคลียร์เรียกว่า Nuclear Fission

ซึ่งกระบวนการนี้จะเกิดทางซีกโลกด้านกลางวันเท่านั้น

 

ผลลัพธ์จากการระเบิดที่เกิดขึ้นในแกนโลก

จะยังผลให้ก้อนธาตุออกซิเจนที่เป็นแกนแม่เหล็กโลก

เกิดการ “บิดตัว” อย่างต่อเนื่องจนโลกเหวี่ยงหมุนได้

ถ้ามนุษย์คนละซีกโลกร่วมกันหมุนธรรมจักรอย่างเต็มที่

พลังงานร่วมจากการหมุนธรรมจักรจะมีค่าคงที่อยู่ตลอด

พวกคุณทั้งโลกก็จะช่วยกันทำให้โลกหมุนรอบตัวเองได้

ตราบใดที่พวกคุณทั้งโลกไม่เหลวไหลในการทำหน้าที่

ดาวเคราะห์โลกดวงนี้ก็จะเกิดความสมดุลได้อย่างยั่งยืน

 

สำหรับพลังงานร่วมที่พวกคุณผลิตกันได้อีก 99% นั้น

จะเกิดเป็นดั่งพายุหมุนเป็นรูปปากแตรหรือ #กรวยหงาย

โดยสนามพลังงานนี้จะแผ่ปกคลุมพื้นที่ 33.33 ตร.กม.

จะยังผลให้คนอย่างน้อยสามคนขึ้นไปที่ร่วมใจกันหมุน

กับผู้คน “ทุกคน” ที่ใช้ชีวิตอยู่บนพื้นที่นั้นในปัจจุบันขณะ

จะได้รับอานิสงส์ร่วมกันในการยกระดับจิตหยาบของตน

ให้มีแรงสั่นสะเทือนสูงขึ้นจากมิติที่ 4 แต่เดิมสู่มิติที่ห้า

จนในที่สุดอีกไม่ช้านานก็จะยกระดับถึงมิติที่ 6 ได้สำเร็จ

แต่มีเงื่อนไขสำคัญอยู่ประการหนึ่งซึ่งพวกคุณต้องรู้ว่า

ทุกคนต้องสอบผ่าน #บททดสอบจิตสามนึก กันให้ได้

บททดสอบจิตสามนึกจะมีทั้งเงื่อนไขด้านบวกและลบ

ที่คนใกล้ตัวและคนรอบข้างของพวกคุณนั้นหยิบยื่นให้

 

เงื่อนไขด้านบวกก็คือ #ใครบางคนจะทำดีกับคุณ

คุณก็ต้องสั่นสะเทือนจิตสามนึกตอบสนองเป็นบวก

ด้วยความรักเพื่อให้คือเมตตากรุณามุทิตาอุเบกขา

จิตหยาบโดยขันธ์ห้าจะผลิตพลังจิตด้านบวกออกมาให้

 

ส่วนเงื่อนไขด้านลบก็คือ #ใครบางคนจะทำชั่วกับคุณ

คุณก็จะต้องสั่นสะเทือนจิตสามนึกตอบสนองเป็นบวก

จะตอบสนองด้วย #จิตไร้สำนึก ในผิดชอบดีชั่วไม่ได้

เพื่อให้จิตหยาบใช้เงื่อนไขด้านลบที่เขาหยิบยื่นมานั้น

หมุนธรรมจักรด้วยความรักเพื่อให้นั่นคือ

อดทน อดกลั้น ให้อภัย ตอบสนองเขากลับคืนไป

จิตหยาบคุณก็จะผลิตพลังจิตด้านบวกออกมาได้สำเร็จ

 

หากคุณสามารถปฏิบัติต่อกันลักษณะนี้ได้

สมการ Σβx ที่คุณร่วมกันสร้างพลังงานทางช้างเผือก

ด้วยขันธ์ห้าจากจิตสามนึกด้านบวกจะศักดิ์สิทธิ์ได้

มันจะช่วยให้พวกคุณยกระดับจิตหยาบสู่มิติที่สูงขึ้นได้

จากวันเป็นเดือนจากเดือนเป็นปีจากปีเป็นหลายๆปี

ในที่สุดจิตหยาบก็จะเข้าถึง “มิติที่ 6” เป็นผลสำเร็จ

ถึงตอนนั้นจิตหยาบกับจิตวิญญาณแก่นแท้ของคุณ

ก็จะสั่นสะเทือนร่วมกันเป็นหนึ่งเดียวได้ในที่สุด

นี่คือภารกิจของจิตหยาบที่พวกคุณทุกคนจะต้องทำ

เพื่อนำพาจิตวิญญาณของตนหลุดพ้นกลับบ้านให้ได้

 

กราบพระบาทพระบิดาที่ทรงเมตตา

 

เอเมน สาธุ

#ปัญญาวิสุทธิ์

5/03/2567