#คัมภีร์อนุตรธรรมภาคจิตจักรวาล
พี่ๆน้อง
ๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
ถ้าคุณปรารถนาจะเป็นคนชอบธรรมที่แท้จริง
คุณยังต้องรู้ความจริงในสิ่งต่อไปนี้อีกด้วยก็คือ
#ต้องรู้ว่าคุณต้องคนตนเองเพื่อเป็นมนุษย์
ตั้งแต่จิตวิญญาณคุณปฏิสนธิอยู่ในครรภ์มารดา
จิตหยาบกับจิตวิญญาณคุณต้องคนกันมาตลอด
โดยมีจิตหยาบของมารดากับบิดาผู้ให้กำเนิด
เป็นผู้ช่วยออกแรงแห่งรักทำการ
“คน” กับคุณด้วย
รวมเป็นสามแรงแข็งขันตั้งแต่วันแรกปฏิสนธิแล้ว
ปฏิบัติการ
“คน” ร่วมกันนี้
พระบิดาแห่งจิตวิญญาณทรงเรียกว่า
กระบวนการหมุนธรรมจักรเพื่อยกระดับจิตหยาบ
ให้มีมิติเพิ่มจาก
“ศูนย์” เป้าหมายคือ “สาม” ให้ได้
นั่นคือการสร้างให้มีตัวตนเริ่มจากเลือดหยดเดียว
ให้พัฒนาการเป็นตัวตนรูปลักษณ์ของ
“ทารก”
ที่มีความกว้างคูณยาวและคูณหนาในท่านอนให้ได้
โดยใช้เวลาคนร่วมกันนานราว
6-9
เดือน
หลังจากคลอดออกมาแล้ว
ปฏิบัติการคนของคุณที่เป็นกุมารน้อยยังคงมีต่อไป
โดยทั้งมารดาบิดาและคนรอบข้างที่รักและเอ็นดู
ตั้งแต่สามคนขึ้นไปเป็นอย่างน้อยจะร่วมด้วยช่วยกัน
ทำการหมุนธรรมจักรไปกับจิตหยาบของคุณ
ที่จะใช้สัญชาตญาณของจิตวิญญาณของคุณเอง
ในการรักตัวเองรักมารดาบิดารักหมอนหรือผ้าห่ม
รวมทั้งรักของเล่นที่จับถือแล้วลื่นมือสบายมือ
รักของเล่นที่เอาเข้าปากแล้วทำให้รู้สึกเพลิดเพลิน
รักของเล่นที่เอาเข้าปากเป่าแล้วเกิดเสียงแปลกๆ
พลังร่วมแห่งรักเพื่อให้อันผ่องใสพิสุทธิ์นี้
เป็นรักที่มิได้เกิดจากกิเลสแอบแฝงแต่อย่างใด
ทั้งรักจากผู้บังเกิดเกล้าและรักจากสัญชาตญาณ
รวมกันแล้วทำให้เกิดสมการพลังร่วมแห่งรัก
Σβx
เกิดเป็น
“สมการพลังงานทางช้างเผือก” ขึ้นมาได้
โดยตัวแปรคือ
“เอ็กซ์” แทนค่าด้วยสามคนขึ้นไป
พลังงานที่เกิดขึ้นจากความรักบริสุทธิ์ดังกล่าวนี้
จะช่วยยกระดับแรงสั่นสะเทือนให้แก่จิตหยาบคุณ
ซึ่งเป็นผู้ถูกคลอดออกมาเป็นกุมารน้อยแบเบาะนั้น
ขึ้นสู่มิติที่สูงขึ้นจากสามเป็นสี่ได้ภายในไม่กี่วัน
คุณจะสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ว่านี้ได้
ด้วยการที่กุมารน้อยมีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม
โดยมีพัฒนาการจากเดิมที่นอนท่าไหนก็อยู่ท่านั้น
จะเปลี่ยนเป็นตะแคงข้างแล้วพลิกคว่ำพลิกหงาย
ถัดไปก็เป็นตั้งไข่ล้มต้มไข่ลุกยืนนั่งย่างเหยาะ
มายานี้ชี้ว่าจิตหยาบยกระดับเข้าสู่
#มิติที่สี่ แล้ว
โดยมีความกว้างความยาวความหนาและความสูง
ปรากฏเป็นมายาในมิติแห่งเนื้อหนังกันอย่างชัดเจน
ดังนั้น
เด็กที่คลอดออกมาใหม่ๆจึงมีความน่ารักกันทุกคน
เพราะต้องการใช้ความน่ารักน่าเอ็นดูนั้นเป็นจุดขาย
เพื่อน้าวโน้มจิตใจให้ใครที่ได้เห็นได้สัมผัสมารุมรัก
ซึ่งมีความสุขในจิตใจของใครที่มารุมรักรุมเมตตา
เป็นรางวัลตอบแทนให้โดยไม่มีสิ่งอื่นใดแอบแฝง
คุณจึงต้องรู้ว่า
หน้าที่ของจิตวิญญาณผู้อาสามาเกิดเป็นคนสองมิติ
รวมทั้งพวกคุณทุกคนที่เป็นพ่อแม่เพื่อนพ้องน้องพี่
ที่มีจิตหยาบทำหน้าที่แทนจิตวิญญาณผู้เป็นแก่นแท้
ล้วนต้อง
“หมุนธรรมจักร” ด้วยความรักบริสุทธิ์เสมอ
ทั้งหมุนภายในตนเองและหมุนร่วมกันด้วยสมการ
Σβx
ตั้งแต่แรกปฏิสนธิในครรภ์มารดาจนถึงคลอดออกมา
ตราบกระทั่งวันสิ้นลมหายใจตายไปจากภพชาตินั้น
โดยพวกคุณมีเวลา
“หมุนธรรมจักร” ร่วมกัน
เพื่อคนตนเองทั้งสองมิติให้เป็นหนึ่งเดียวกัน
นั่นคือการยกระดับแรงสั่นสะเทือนของจิตหยาบ
เพื่อทำให้จิตหยาบของตนมีหกเหลี่ยมมุมให้ได้
การที่จิตหยาบเป็นรูปธรรมที่มีหกเหลี่ยมมุมนี่แหละ
คือการยกระดับจากมิติที่
4 จนเข้าถึงมิติที่ 6 ได้
ซึ่งหมายถึงจิตหยาบนั้นจะเป็นรูปดาวหกแฉก
หรือสามเหลี่ยมด้านเท่า
2 รูปอยู่ในวงกลมเดียวกัน
คำว่า
“เป็นหนึ่งเดียวกัน” จึงหมายถึง
#จิตหยาบ ที่เริ่มจากการไม่มีตัวตนคือเป็นอนัตตา
แล้วพัฒนาขึ้นมามีอัตตาเป็น
“ดาวหกแฉก” ได้
จากกระบวนการหมุนธรรมจักรในชีวิตประจำวัน
โดยมีมารดาบิดาและตนเองกับคนรอบข้างทุกคน
ต่างร่วมด้วยช่วยกันสนับสนุนกันด้วย
#รักเพื่อให้
ซึ่งมีอัตตารูปลักษณ์เหมือนกับจิตวิญญาณแก่นแท้
ที่มีคุณสมบัติทุกสิ่งอย่างเหมือนกันทั้งหมดทั้งสิ้น
ขณะที่ความจริงของพวกคุณมันเป็นเช่นว่านี้
แต่สิ่งที่พวกคุณทำคือหมุนธรรมจักรร่วมกันอยู่นั้น
พลังจิตที่ผลิตจากขันธ์ห้าจำนวน
1%
ในทุกวินาที
มันจะถูกเหนี่ยวรั้งลงไปยังแกนแม่เหล็กโลก
ซึ่งในแกนโลกพระองค์ทรงติดตั้งธาตุออกซิเจนไว้
เป็นธาตุบริสุทธิ์
100%
และเหนียวหนืดคล้ายตังเม
พลังงานจิตจากความรักบริสุทธิ์ที่มีประจุไฟฟ้าบวก
จะเข้าทำปฏิกิริยานิวเคลียร์กับอะตอมธาตุออกซิเจน
จนเกิดการระเบิดอย่างต่อเนื่องแบบปฏิกิริยาลูกโซ่
ยังผลให้ก้อนธาตุในแกนโลกเกิดการบิดตัวสลับกัน
ด้วยปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นแบบกลางวันกลางคืน
โลกจึงเหวี่ยงหมุนรอบตัวเองได้ต่อเนื่องมาจนบัดนี้
นี่จึงเป็นที่มาของคำว่า
#คุณทุกคนต้องคนตนเองเพื่อเป็นมนุษย์
กราบพระบาทพระบิดาที่ทรงเมตตา
เอเมน
สาธุ
22/03/2567