#คัมภีร์อนุตรธรรมภาคจิตจักรวาล
พี่ๆน้อง
ๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
ถ้าคุณปรารถนาจะเป็นคนชอบธรรมที่แท้จริง
คุณยังต้องรู้ความจริงในสิ่งต่อไปนี้อีกด้วยก็คือ
#ต้องรู้ว่าจะคนตนเองเพื่อเป็นมนุษย์ได้อย่างไร
คำว่า
“คนตนเอง” คือ #การหมุนธรรมจักรในตนเอง
คำว่า
“หมุนธรรมจักร” นั้นหมายถึงหมุนตามธรรมชาติ
คำว่า
“หมุนตามธรรมชาติ” หมายถึงการหมุนอายตนะ
คำว่า
“อายตนะ” คือ อวัยวะภายนอกที่ใช้สัมผัสสิ่งเร้า
อันประกอบด้วยตาหูจมูกลิ้นและผิวกายของคุณนั่นเอง
ดังนั้น
การหมุนอายตนะเหล่านี้ไปตามธรรมชาติจึงหมายถึง
การใช้มันสัมผัสรับรู้ดูเห็นสิ่งเร้าต่างๆจากภายนอก
ที่เป็นตัวตนรูปธรรมรสชาติกลิ่นเสียงเย็นร้อนอ่อนแข็ง
โดยมีจิตหยาบทำหน้าที่เป็นจุดศูนย์กลางของการรับรู้
เมื่อรับรู้แล้วจิตหยาบก็จะสั่นสะเทือนให้เกิดการเรียนรู้
เพื่อให้รู้ว่าสิ่งที่คุณสัมผัสนั้นอะไรเป็นอะไรและอย่างไร
ทุกขั้นตอนพอสังเขปที่ว่านี้เป็นกระบวนการอัตโนมัติ
ที่เป็นการทำงานร่วมกันระหว่างอายตนะกับจิตและสมอง
การที่คุณมีอายตนะทั้งห้าที่ยังใช้การได้ดีอยู่
แต่คุณกลับไม่ใช้มันโดยแกล้งทำเป็นหูหนวกตาบอด
คุณมีครอบครัวมีคนรอบข้างมากมายอยู่ในสังคม
แล้วกลับพาตัวเองหนีไปอยู่ในห้องปฏิบัติธรรมตามลำพัง
หรือนำพาตนเองละทิ้งสังคมไปแสวงหาวิเวกอยู่คนเดียว
นั่นคือการพยายามทำให้ตนเองเป็นเหมือนดั่งคนพิการ
กับการทำตนเป็นคนละทิ้งสังคมเพื่อจะไปสวรรค์คนเดียว
จะเรียกว่า
“หมุนธรรมชาติ” ไม่ได้เพราะมันผิดธรรมชาติ
ที่เรากล่าวว่ามันผิดธรรมชาติก็เพราะเหตุผล
2 ข้อคือ
ข้อแรกคนปกติธรรมดาทั่วไปไม่มีใครมีอายตนะพิการ
ยกเว้นคนที่จิตวิญญาณถือกฎแห่งกรรมติดตัวมาด้วย
เพื่อการเรียนรู้และเพื่อการแก้ไขจิตสามนึกที่บกพร่อง
ผิดธรรมชาติในข้อสองก็คือเพราะมนุษย์เป็นสัตว์สังคม
การพาตนเองแยกออกจากคนอื่นเพื่อไปอยู่คนเดียวนั้น
ก็ไม่ต่างจากการถูกคนอื่นละทิ้งหรือไม่มีใครคบหาด้วย
ถ้าไม่เป็นคนปฏิเสธสังคมก็ต้องเป็นคนที่สังคมรังเกียจ
แล้วอย่างนี้จะให้เรียกว่าเป็นผู้ปฏิบัติธรรมกันได้อย่างไร
เพราะแค่เริ่มต้นก็ทำตนผิดธรรมชาติไปแล้ว
พระบิดาแห่งจิตวิญญาณหรือองค์จิตจักรวาล
จึงทรงกำหนดสร้างให้พวกคุณมีเพศชายกับเพศหญิง
เสือสิงห์ลิงค่างบ่างชะนีหมีหมูเม่นยังมีตัวผู้กับตัวเมีย
เกสรดอกไม้ก็ยังมีเกสรตัวเมียและเกสรตัวผู้เช่นกัน
คือการออกแบบวางแผนกำหนดให้ทุกคนทุกตัวทุกต้น
เรียนรู้ที่จะสร้างสัมพันธ์กันให้เกิดสังคมขึ้นมาให้ได้
จากการที่ต้องพึ่งพาอาศัยกันเพื่อสร้างสิ่งใหม่ร่วมกัน
นั่นคือการสร้างครอบครัวที่เป็นสังคมของตัวผู้กับตัวเมีย
ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของสังคมที่จะเป็นพ่อแม่ลูกหลานได้
ด้วยเหตุนี้เอง
การคนตนเองเพื่อเป็นมนุษย์จึงเป็นหน้าที่เบื้องต้น
ที่พวกคุณทุกคนจะต้องรับผิดชอบตนเองให้ได้
ก่อนจะร่วมกันคนกับคนอื่นในครอบครัวคุณขั้นต่อไป
โดยวิธี
“คนในตนเอง” เพื่อเป็นมนุษย์ต้องทำดังนี้
1.เปิดอายตนะห้าช่องทางหรือหน้าต่างทั้ง 5 บานไว้
ให้พร้อมที่จะรับรู้เพื่อการเรียนรู้สิ่งเร้ารอบตัวได้ทุกสิ่ง
2.ฝึกใช้อายตนะทั้งห้าให้ได้ใช้ให้เป็นใช้ให้ถูกต้อง
อย่าปล่อยให้มันใช้การได้แต่แบบอัตโนมัติอย่างเดียว
เด็กยังต้องหัดพูดหัดใช้มือจับขวดนมหัดใช้มือเขียน
พวกคุณที่เป็นผู้ใหญ่ก็ต้องฝึกใช้กลไกอายตนะเช่นกัน
3.ฝึกตนเองให้เป็นคนฉลาดรับรู้สิ่งเร้าต่างๆ
โดยให้เลือกรับรู้แต่สิ่งที่เกิดประโยชน์ต่อการเรียนรู้
เพื่อเพิ่มพูนภูมิรู้ภูมิธรรมและภูมิปัญญาของคุณเท่านั้น
อย่าใส่ใจใฝ่เรียนรู้ในสิ่งที่จะก้าวล่วงผู้อื่นให้ผิดบาป
เช่น
เรื่องส่วนตัวหรือความลับที่คนอื่นเขาสงวนอยู่
ในลักษณะของ
“สู่รู้” หรือ “เสือกรู้” หรือ “สอดเห็น”
ทั้งสาม
“สอ” นี้ไม่สมควรประพฤติโดยเด็ดขาด
4.ฝึกการควบคุมจิตให้สงบเอาไว้ให้ได้ตลอดเวลา
เพื่อมิให้จิตหยาบเกิดการสั่นไหวไปตามสิ่งเร้านั้น
โดยใช้
#มหาสติ คอยกำกับควบคุมมันเอาไว้ให้ได้
“มหาสติ” ประกอบด้วย
1.#ต้องรู้สติ คือ
รู้ว่าปัจจุบันคุณกำลังทำอะไรอยู่
รู้ว่าอดีตที่ผ่านนั้นคุณได้ทำอะไรมา
รู้ว่าอนาคตข้างหน้าคุณต้องทำอะไรอย่างไร
2.#ต้องมีสติ คือ
รู้รับรู้เพื่อรู้รับเอามาเรียนรู้
ถ้าเป็นความรู้ใหม่
รู้รับรู้โดยไม่รับเอามาเรียนรู้
ถ้าเคยเรียนรู้มาแล้ว
รู้รับรู้รู้ไม่รับเอามาปรุงแต่งให้จิตตกเพราะเกิดกิเลส
รู้ไม่รับรู้รู้ที่จะไม่รับเอาให้รกจิตรกสมองถ้าไร้สาระ
3.#ต้องใช้สติ คือ
ต้องนึกด้วยจิตเพื่อตั้งคำถามให้สมองคิด
ต้องคิดให้รอบครอบก่อนจะแสดงออกมาข้างนอก
ต้องคิดเพื่อให้หรือคิดด้านบวกก่อนแสดงออกเสมอ
ต้องคิดด้านลบเพื่อป้องกันตนเองเอาไว้ล่วงหน้า
ต้องไม่คิดลบโดยมองโลกหรือมองผู้อื่นในแง่ร้าย
ถ้าคุณครองมหาสติทั้ง
3 สตินี้เอาไว้ได้
คุณก็จัดเป็น
#คนชอบธรรม ที่ปฏิบัติตนได้ดีแล้ว
โดยไม่ต้องแกล้งทำตนเป็นคนหูหนวกตาบอด
ไม่ต้องพาตนหนีสังคมเพื่อไปปลีกวิเวกอยู่คนเดียว
หรือทำตนเป็นคนเหมือนไม่มีใครคบหาสมาคมด้วย
จนสมการพลังงานทางช้างเผือก
Σβx เกิดขึ้นไม่ได้
เพราะตัวเอ็กซ์แทนค่าด้วย
“หนึ่ง” ไม่ใช่ “สาม”
ตามที่พระเจ้าทรงออกแบบกำหนดเอาไว้ให้แล้ว
จนทำให้โลกขาดพลังงานเพื่อการค้ำจุนให้สมดุล
ซึ่งนับวันโลกจะเสียสมดุลกันมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ
เพราะคนชอบธรรมรักที่จะเข้าป่าเข้าถ้ำปลีกวิเวก
ก้าวตามคนนำทางตาบอดกรรมกรชราของมารกัน
เพราะไม่มีทางเลือกอื่นใดที่เห็นว่าพอจะมีเหตุผล
ให้ยอมรับและปฏิบัติตามอย่างมั่นใจได้มากกว่า
พวกคุณจักต้องรู้ว่า
การครองมหาสติในชีวิตประจำวันได้นี่แหละ
พระบิดาทรงเรียกว่า
#ธรรมชาติสมาธิ
ซึ่งคุณสามารถปฏิบัติแทนเท็คนิกสมาธิได้เลย
ทั้งยังจะช่วยให้คุณชำนาญการใช้อายตนะมากกว่า
ยิ่งใช้มากคุณก็จะยิ่งมีทักษะในการใช้มากยิ่งขึ้น
ยิ่งเขียนมากก็ยิ่งเขียนคล่องเขียนสวยมากยิ่งขึ้น
การหมุนธรรมจักรในตนเองนี่ก็เช่นกัน
ถ้าคุณครองมหาสติเอาไว้ได้ตลอดแล้ว
คุณจะเข้าถึงความรักเพื่อให้และการใช้ปัญญา
ทำการขับเคลื่อนขันธ์ห้าในสองมิติได้อย่างเป็นเลิศ
การที่จิตหยาบจะเป็นหนึ่งเดียวกับจิตวิญญาณ
ด้วยการเข้าถึงมิติที่
6 จึงอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม
กราบพระบาทพระบิดาทรงเมตตา
เอเมน
สาธุ
23/03/2567