#คัมภีร์อนุตรธรรมภาคจิตจักรวาล
พี่ๆน้อง
ๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
#ธรรมชาติเป็นโลกุตรธรรมความจริงของ #พระบิดา
#ธรรมดาเป็นโลกียะธรรมความจริงของ #คนสองมิติ
ในที่นี้คำว่า
“พระบิดา” เราหมายถึง
พระบิดาแห่งจิตวิญญาณของ
“สัตว์ทั้งหลาย”
พระบิดาก็คือพระผู้ทรงสร้างจิตวิญญาณของสัตว์
โดยคำว่า
“สัตว์ทั้งหลาย” นั้นจะประกอบด้วย
สิ่งมีชีวิตที่เป็น
#สัตว์ประจำโลก ซึ่งอยู่ในระบบโลก
กับสิ่งมีชีวิตที่เป็น
#สัตว์ประจำดาว อยู่บนดาวดวงอื่น
รวมทั้งสิ่งมีชีวิตที่มีเครื่องยนต์แห่งกรรมลักษณะมนุษย์
กับสิ่งมีชีวิตที่มีเครื่องยนต์แห่งกรรมคล้ายมนุษย์
รวมทั้งสิ่งมีชีวิตที่มีเครื่องยนต์แห่งกรรมต่างจากมนุษย์
ประดาสรรพสัตว์ทั้งหลายทั่วทั้งเอกภพอันไพศาล
ที่พระองค์ทรงกำหนดสร้างเอาไว้ในระบบดาวต่างๆนั้น
จะมีมายาภายนอกเป็นเครื่องยนต์แห่งกรรมจำเพาะเผ่า
และมีรูปธรรมทางพลังงานที่เป็น
#จิตวิญญาณ
ทำหน้าที่ขับเคลื่อนเครื่องยนต์แห่งกรรมนั้นอยู่ข้างใน
ยกเว้นสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า
“คน” บนดาวโลกเสรีนี้เท่านั้น
ซึ่งเป็นเมล็ดพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตที่มาจาก
“ดาวลูกไก่”
ที่ต้องแสดงบทบาท
#คนสองมิติ เพื่อทำหน้าที่พิเศษ
จึงเป็นสิ่งมีชีวิตลักษณะมนุษย์แค่เพียงชนิดเดียว
ที่ทรงกำหนดให้มี
#จิตวิญญาณ ทำหน้าที่เป็นแก่นแท้
และทรงกำหนดให้
#จิตหยาบ เป็นผู้รับมอบอำนาจให้
มีหน้าที่ขับเคลื่อนเครื่องยนต์แห่งกรรมของคนผู้นั้นแทน
ขณะได้รับโอกาสให้มาเกิดอยู่บนโลกเสรีนี้
เพราะเหตุนี้เอง
พวกคุณจึงมีเครื่องยนต์แห่งกรรมรูปธรรมเป็นมนุษย์
ซึ่งเป็นรูปธรรมที่ทรงออกแบบให้เป็น
“คนสองมิติ”
ที่มีมิติของแก่นแท้คือมิติทางพลังงานด้านจิตวิญญาณ
เป็น
“กล่องพลังงาน” รูปทรงเรขาคณิต 6 เหลี่ยมมุม
ผู้ที่พระบุตรเอกทุกพระองค์ต่างเรียกว่า
“พระจิต”
โดยพระจิตของพวกคุณนั้นแบ่งภาคมาจาก
“พระบุตร”
ซึ่งเป็นจิตจักรวาลดวงเล็กที่มีรูปทรง
11
เหลี่ยมมุม
เพื่อความเหมาะสมต่อการข้ามมิติเข้ามาจุติในระบบโลก
เพื่อเข้ามาใช้เมตตาธรรมค้ำจุนสมดุลของระบบโลก
โดยทรงกำหนดให้จิตหยาบทำหน้าที่แทนจิตวิญญาณ
ภายในกำหนดเวลาของการมาเกิดเพื่อทำหน้าที่ดังกล่าว
มีกำหนดการยาวนาน
6 หมื่นปีคือ 1 ยุคโดยไม่ต้องตาย
พวกคุณอาจจะถามว่า
ทำไมสิ่งมีชีวิตชนิดอื่นบนดาวอื่นและสัตว์ประจำโลก
จึงมีแต่จิตวิญญาณทำหน้าที่เป็นแก่นแท้อยู่ข้างในเท่านั้น
โดยไม่มีจิตหยาบเป็นผู้มีอำนาจให้ทำหน้าที่แทน
เป็นเพราะทรงมีเหตุผลสำคัญอยู่ประการหนึ่งก็คือ
ประดาสิ่งมีชีวิตทั้งหลายในสากลจักรวาลเหล่านั้น
เป็น
“สัตว์ทดลองของพระองค์” ในการค้นหาต้นแบบ
ซึ่งถูกสร้างขึ้นและทดลองจนได้ต้นพันธุ์คนสองมิติ
คือสิ่งมีชีวิตที่มีเครื่องยนต์แห่งกรรมรูปธรรมมนุษย์
เผ่าดาวลูกไก่ที่มีนามว่า
#พลียะเดี้ยนส์ นั่นเอง
เนื่องจากสิ่งมีชีวิตที่ทรง
“กำหนด” สร้างขึ้นมานั้น
จะต้องขับเคลื่อนเครื่องยนต์แห่งกรรมด้วยจิตวิญญาณ
ถ้ามีแต่รถขุดรถตักดินที่มีกลไกในการทำงานอยู่พร้อม
แต่ไม่มี
“คนขับ” ทำหน้าที่บังคับขับเคลื่อนมัน
รถขุดรถตักดินคันนั้นก็ทำงานด้วยตัวมันเองไม่ได้
จึงต้องทรงยอมให้จิตจักรวาลดวงเล็กคือ
“พระบุตร”
เป็นผู้ขันอาสาแบ่งภาคตนเองออกมาเป็น
“พระจิต”
เดินทางเข้ามาทำหน้าที่ตามน้ำพระทัยของพระองค์
เพื่อค้นหารูปแบบและบทบาทของรูปธรรม
ที่เหมาะสมต่อการเข้ามาใช้เมตตาธรรมค้ำจุนโลก
เพื่อให้โลกทำหน้าที่ช่วยค้ำจุนสมดุลของระบบเอกภพ
ซึ่งทรงออกแบบให้
“เอกภพ” เป็นห้องทดลองใหญ่
เพื่อใช้ทดลองเรียนรู้ว่าพระองค์จะทรงทำสิ่งใดได้บ้าง
เมื่อทรงค้นพบเครื่องยนต์แห่งกรรมรูปธรรมมนุษย์
ที่เหมาะสมต่อการส่งเข้ามาทำหน้าที่อยู่ในระบบโลก
แต่กว่าจะทรงค้นพบความจริงและทรงทำสำเร็จได้นั้น
พระองค์ต้องทรงอนุญาตให้พระบุตรเป็นจำนวนมาก
อาสาแบ่งภาคตนเองออกมาเป็นพระจิตในสัดส่วน
1:1
ถ้ามองในมิติทางกายภาพคือการลดหรือการสิ้นเปลือง
นี่จึงเป็นที่มาของการกำหนดสร้างเผ่าดาวโลก
ให้มีคุณสมบัติพิเศษต่างจากที่ทรงสร้างไว้บนเผ่าดาวอื่น
ความแตกต่างที่ชัดเจนมีดังต่อไปนี้
คือ
1.ให้มีจิตหยาบเป็นผู้ทำหน้าที่แทนจิตวิญญาณ
สิ่งใดที่จิตหยาบกระทำจิตวิญญาณต้องรับผิดชอบ
2.ต้องมีนรกเอาไว้บำบัดรักษาจิตวิญญาณที่หลงมิติ
ซึ่งอาการหลงมิติของจิตวิญญาณจะเกิดขึ้นได้เสมอ
ถ้าจิตหยาบของคนผู้นั้นสั่นสะเทือนเป็นแต่
#กิเลส
3.เพราะชาวเผ่าดาวโลกใช้จิตหยาบแทนจิตวิญญาณ
พวกคุณจึงต้องมี
#จิตสามนึก เป็นเครื่องมือสั่นสะเทือน
เมื่อได้รับสิ่งเร้าจากภายนอกโดยกลไกอายตนะทั้งห้า
เป็นผู้สัมผัสรูปรสกลิ่นเสียงเย็นร้อนอ่อนแข็งส่งเข้าไปให้
เพื่อกระตุ้นให้เกิด
“ขันธ์ห้า” ทำการขับเคลื่อนทั้งสองมิติ
แทนที่จะเป็นหน้าที่ของจิตวิญญาณโดยตรง
แบบเดียวกับสิ่งมีชีวิตที่ทรงกำหนดสร้างไว้บนดาวอื่น
4.เพราะจิตวิญญาณพวกคุณ
มีหน้าที่มาเกิดเพื่อเป็น
“เพื่อนร่วมงานกับโลก”
จิตวิญญาณพวกคุณจึงตายไม่ได้หรือไม่มีหน้าที่ต้องตาย
สิ่งมีชีวิตทั้งหลายยกเว้นสัตว์ประจำโลกประจำดาวเท่านั้น
ที่จิตวิญญาณพวกเขาสามารถจะล้มหายตายจากได้
เพื่อควบคุมจำนวนประชากรที่มีผลต่อน้ำหนักมวลบนโลก
ป้องกันมิให้ดาวโลกเสียสมดุลขณะเหวี่ยงหมุนรอบตัวเอง
เนื่องจากน้ำหนักมวลบนพื้นโลกเกินกว่าที่ทรงกำหนดไว้
แต่กำหนดการเป็นเพื่อนร่วมงานกับโลกนั้น
จิตวิญญาณที่ขันอาสามาได้ให้สัจจะต่อพระองค์ไว้ว่า
จะมีชีวิตอมตะอยู่บนโลกเสรีนี้เพื่อทำหน้าที่ของตน
อย่างต่อเนื่องยาวนานร่วม
#หกหมื่นปีโลก เลยทีเดียว
โดยจะไม่มีภพชาติคือเกิดแล้วไม่ต้องแก่ชราและไม่ตาย
เพราะถ้าตายแล้วจะไม่อาจใช้เมตตาธรรมค้ำจุนโลก
โดยการใช้ขันธ์ห้าของจิตหยาบร่วมกันหมุนธรรมจักร
ด้วยรักเพื่อให้หรือด้วยความเมตตาแก่กันและกันได้
เพราะการสั่นสะเทือนขันธ์ห้าเพื่อค้ำจุนดาวโลกนั้น
ถ้ามีแต่จิตหยาบหรือมีแต่จิตวิญญาณอย่างเดียวแล้ว
คุณจะไม่อาจผลิตพลังงานในแบบที่โลกต้องการได้
พลังงานจากจิตมนุษย์ในแบบที่โลกต้องการ
ที่ได้จากการหมุนธรรมจักรก็คือ
#พลังงานสะอาด
ในที่นี้
“พลังงานสะอาด” เราหมายถึง
4.1
เป็นพลังงานที่ #ไม่มีผู้สร้างเป็นเจ้าของ
แปลว่าทำบุญหรือทำดีแล้วไม่ร้องขอสิ่งตอบแทน
4.2
เป็นพลังงานที่ #ผู้สร้างไม่อุทิศให้ใครอื่น
แปลว่าทำบุญหรือทำดีแล้วไม่เจาะจงว่าทำให้ใคร
แต่เป็นการทำเพื่อ
“โลก” อันหมายถึงเพื่อใครก็ได้
พลังงานบุญกุศลที่เกิดขึ้นต้องเหมือนก๊าซออกซิเจน
ที่ใครๆก็สามารถนำไปใช้หายใจได้เพราะไร้เจ้าของ
4.3
เป็นพลังงานด้านบวกหรือที่เป็นด้านดีเท่านั้น
เช่น
ลักขโมยของคนรวยเพื่อเอามาช่วยคนยากจน
พลังงานจิตที่เกิดขึ้นจากขันธ์ห้านี้มิใช่พลังงานบวก
หรือซื้อหวยใต้ดินแล้วถูกหวยรวยเงินทอง
จึงเอาเงินที่ได้จากการเสี่ยงโชคนั้นมาทำบุญ
พลังบุญที่เกิดขึ้นจากขันธ์ห้านี้ก็มิใช่พลังงานบวก
พวกคุณไม่จำเป็นต้องอุทิศส่วนบุญกุศลที่ทำ
ให้แก่จิตวิญญาณพ่อแม่พี่น้องบุตรหลานของคุณก็ได้
เพราะว่าจิตวิญญาณพวกคุณทุกคนที่เกี่ยวกรรมกันมา
มีความคล้ายคลึงกันทางด้านบุคลิกกันอยู่แล้ว
แปลว่าเมิร์คขะบาห์ของพวกคุณมีความถี่ใกล้เคียงกัน
เมื่อใครคนใดคนหนึ่งสั่นสะเทือนทางจิตวิญญาณขึ้นมา
ไม่ว่าจะเป็นด้านบวกหรือด้านลบก็ตามแต่
จิตวิญญาณของคนเหล่านั้นจะสั่นสะเทือนตามเสมอ
แปลว่าพ่อแม่ลูกพี่ๆน้องๆในครอบครัวเดียวกัน
จิตวิญญาณพวกคุณจะสามารถรับรู้ถึงกันตลอด
ใครทำดีหรือทำบุญคนอื่นๆก็จะได้รับผลกรรมดีนั้นด้วย
ใครทำชั่วหรือทำบาปคนอื่นๆก็จะรับผลกรรมชั่วนั้นด้วย
พวกคุณไม่ต้องทำตามคนนำทางตาบอดที่ถูกมารหลอก
ให้ร้องขอส่วนบุญหรือให้อุทิศส่วนบุญให้กันและกันก็ได้
เพราะการทำบุญหรือทำดีแล้วมีการอุทิศหรือร้องขอ
มันจะทำให้พลังงานนั้นกลายเป็นพลังงานที่ไม่สะอาด
โลกและสรรพสัตว์ทั้งหลายที่คุณมิได้ระบุหรือเจาะจงไว้
ก็จะนำเอาพลังงานที่คุณผลิตออกมาไปใช้ประโยชน์ได้
น่าเสียดายไหมที่มันจะกลายเป็นพลังงานขยะที่รกโลก
อันเกิดจากความไม่รู้และความงมง่ายของพวกคุณเอง
5.เพราะจิตวิญญาณพวกคุณเมื่อครบกำหนด
ในการทำหน้าที่ประจำโลกนาน
6 หมื่นปีจนสิ้นยุคแล้ว
พวกคุณทุกคนก็จะต้อง
“กลับบ้าน” หรือกลับสู่มาตุภูมิ
เนื่องจากดาวโลกเสรีนี้มิใช่บ้านเกิดเมืองนอนของคุณ
โอกาสที่จิตวิญญาณจะหลงมิตินั้นยังเป็นไปได้สูงอยู่
เมื่อใดที่จิตหยาบสั่นสะเทือน
“จิตสามนึก”
จะยังผลให้จิตวิญญาณสั่นสะเทือน
“จิตใต้สำนึก” ตาม
ถ้าจิตหยาบสั่นสะเทือน
“จิตไร้สำนึก” ด้วยกิเลสบ่อยๆ
การเสียสมดุลเพราะหลงมิตินั้นจะส่งผลถึงแก่นแท้ด้วย
พระองค์จึงต้องกำหนดสร้าง
“นรก” และกฎแห่งกรรมขึ้น
โดยสิ่งมีชีวิตลักษณะคล้ายมนุษย์บนดาวอื่นเขาไม่มี
เนื่องจากจิตวิญญาณของพวกเขาทั้งหลายบนดาวอื่น
มิได้ถือพันธะสัญญา
6 ว่าหมดหน้าที่แล้วต้องกลับบ้าน
ถ้าจิตวิญญาณเสียสมดุลไปจากเดิมก็กลับบ้านไม่ได้
ทั้งหมดนี้เป็นความจริงที่พวกคุณไม่รู้ว่าต้องรู้
ถ้าไม่รู้ก็เป็นมนุษย์แห่งดาวโลกเสรีไม่ได้
กราบพระบาทพระบิดาที่ทรงเมตตา
เอเมน
สาธุ
4/03/2567