(เพื่อยุวจิตจักรวาลยุคสุดท้าย)
พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
คำว่า “อย่าเดินถ่างขา” นั้น
มิใช่การกล่าววาจาอันน่าเกลียดแต่อย่างใด
เพราะเรามิได้ให้พวกคุณคิดแบบจิตมนุษย์
โดยนำเอาลักษณะท่าทางการถ่างขาก้าวเดิน
ของคนที่ป่วยเป็นริดสีดวงหรือเป็นฝีที่ขาหนีบ
เนื่องจากเราไม่มีอะไรจะกล่าวให้พวกคุณฟัง
แต่คำว่าอย่าเดินถ่างขานี้
เราหมายถึงคุณต้องไม่ลังเลในการปฏิบัติธรรม
โดยเลือกหนทางเดินมากกว่าสองทางขึ้นไป
ซึ่งจะทำให้คุณย่างเดินลำบากมากเกินจำเป็น
ในอันที่จะทำให้เสียเวลาไปกับการสะเปะสะปะ
เสียเวลาไปกับการลองผิดลองถูกแล้วเริ่มใหม่
จนเสียเวลากว่าจะเข้าถึงจุดหมายปลายทางได้
ซึ่งในวันนั้นก็อาจจะเป็นวันที่สายเกินไปแล้ว
โดยเฉพาะการบรรลุมรรคผลนิพพาน
ซึ่งมีจุดหมายปลายทางอยู่ 2 จุดด้วยกัน
ที่พวกคุณทุกคนทุกชาติทุกศาสนาต้องไปให้ถึง
ปลายทางแรกคือ #นิพพานก่อนตาย
คำว่า “นิพพานก่อนตาย” หมายถึง
การดับการเกิดดับของ #กิเลส ในจิตหยาบให้สิ้น
เพราะกิเลสเป็นที่มาของตัณหาราคะอารมณ์ขยะ
ซึ่งกิเลสของจิตหยาบนี่แหละที่ทำให้จิตวิญญาณ
ต้องเป็นทาส #กฎแห่งกรรม จนต้องมีภพชาติ
ต้องเวียนว่ายตายเกิดอยู่ซ้ำซากทั้งต้องมีสังสารวัฏ
ต้องเสียเวลากับการเกิดใหม่เพื่อแก้ไขหรือแก้แค้น
ต้องกลับมาเกิดใหม่เพื่อชำระขยะพลังงานกรรม
ที่ตนเป็นผู้ผลิตพลังงานสกปรกจนรกโลกนั้นเอาไว้
ต้องกลับมาเกิดใหม่เพื่อที่จะได้เริ่มต้นใหม่
ด้วยจิตหยาบซึ่งเป็นกลุ่มพลังงานกลุ่มใหม่
ที่จิตวิญญาณแก่นแท้ของคุณจะได้รับโอกาส
ให้แบ่งภาคพลังงานออกมาอีกเป็น 189 กลุ่ม
เพื่อให้ทำหน้าที่แทนตนเองในภพชาติใหม่ได้
เพราะจิตหยาบกลุ่มเดิมเหลวไหลจึงล้มเหลว
จนไม่สามารถยกระดับตนเองจาก 4D สู่ 5D ได้
จึงต้องตายเพื่อส่งจิตวิญญาณไปเยียวยาในนรก
เพื่อขอโอกาสให้ได้มาเกิดใหม่จะได้แก้ตัวใหม่
ด้วยจิตหยาบกลุ่มใหม่ที่เป็นจิตวิญญาณดวงเดิม
เพราะจิตหยาบ “นิพพานกิเลส” ไม่สำเร็จนี่แหละ
พวกคุณจึงไม่สามารถหมุนธรรมจักรในตนเองได้
อีกทั้งยังร่วมกันหมุนธรรมจักรแบบหมู่คณะก็ไม่ได้
เมื่อทำไม่ได้ภารกิจของจิตวิญญาณที่ขันอาสามา
จึงต้องล้มเหลวเพราะว่าทำตามพันธะสัญญาไม่ได้
กล่าวคือผิดสัจจะที่ให้ไว้ต่อพระเจ้านั่นเอง
ปลายทางที่สองของ “นิพพาน” ก็คือ
เมื่อนิพพานกิเลสในจิตหยาบจนหมดสิ้นแล้ว
คุณก็สามารถหมุนธรรมจักรได้อย่างไร้อุปสรรค
เพราะเข้าถึงการสั่นสะเทือนเป็นรักเพื่อให้กันได้
เมื่อทุกคนหมุนธรรมจักรในตนเองกันได้แล้ว
ต่างคนต่างก็จะร่วมกันหมุนธรรมจักรไปด้วยกัน
โดยเป็นเงื่อนไขด้านบวกด้วยการคิดดีพูดดีทำดี
ทำให้ทุกคนคิดดีพูดดีทำดีตอบสนองกันง่ายขึ้น
หรือถ้าใครทำไม่ดีกับคุณแต่คุณก็ทำดีตอบ
คุณก็สามารถยกระดับจิตหยาบของคุณเองได้
แถมยังจะช่วยยกระดับจิตหยาบของคนชั่วคนนั้น
ให้มันสั่นสะเทือนสูงขึ้นทางด้านบวกได้อีกด้วย
นี่คืออีกความหมายหนึ่งของประโยคสำคัญที่ว่า
#เด็ดดอกไม้สั่นสะเทือนถึงดวงดาว
แปลว่าถ้าคุณหมุนธรรมจักรได้สำเร็จด้วยจิตคุณ
มันจะสามารถสั่นสะเทือนถึงจิตหยาบของคนอื่น
ที่กำลังอยู่ในมิติของเหตุการณ์หรือเรื่องราวนั้นๆ
ร่วมกันกับตัวคุณด้วยเสมอ
#พระเจ้าทรงออกแบบไว้ให้เป็นเช่นนี้เอง
เราเคยกล่าวให้พวกคุณรู้มาแล้วว่า
ถ้าพวกคุณช่วยเหลือตนเองให้หมุนธรรมจักร
เพื่อยกระดับมิติของจิตหยาบให้สูงขึ้นได้แล้ว
ในภพชาติปัจจุบันคุณจะไม่มีวันต้องตายเลย
เพราะคุณสามารถเป็นหนึ่งเดียวกันกับโลกได้
เนื่องจากโลกเสรีนี้กับจิตหยาบของคุณนั้น
มันสั่นสะเทือนจนกลมกลืนเป็นหนึ่งเดียวกันได้
เวลาของจิตหยาบคุณกับเวลาโลกจึงไร้ช่องถ่าง
เมื่อไม่มีช่องถ่างกาลเวลาของจิตหยาบจึงไม่มี
เมื่อจิตหยาบของคุณกับโลกไม่มีช่องถ่าง
กายหยาบของคุณกับโลกจึงไม่มีช่องถ่างด้วย
ดังนั้น
ตัวคุณเองในสองมิติกับดาวโลกเสรีดวงนี้
จึงอยู่ในมิติแห่งกาลเวลาที่เป็นหนึ่งเดียวกันพอดี
ยังผลให้เวลาของคุณจะมีค่าเท่ากับหนึ่งไปตลอด
ซึ่งเป็นมิติแห่งกาลเวลาของจักรวาลไปแล้ว
โดยที่คุณไม่ต้องใช้เวลาทางกายภาพอีกต่อไป
คุณจึงไม่ต้องมีอายุขัยจึงไม่ต้องแก่ชราจนตาย
จิตวิญญาณสามารถมีชีวิตอยู่ได้นานนับหมื่นปีโลก
ยิ่งถ้าคุณไม่กินเลือดเนื้อของสัตว์บำรุง DNA มอด
มันก็จะไม่มีวันเกิดขึ้นเหมือนอดีตที่ผ่านมา
เมื่อคุณอ่านมาจนถึงบรรทัดนี้แล้ว
คุณจะพบว่านี่เป็นอนุตรธรรมแท้จากพระเจ้า
ที่เราช่วยสื่อจากพระองค์มาเพื่อแจกพวกคุณ
คุณที่เป็น “วิสุทธิชนยุคสุดท้าย” หรือยุวจิตฯ
ให้รับรู้รับเอาเพื่อเรียนรู้สู่การปฏิบัติในชีวิตจริง
“อนุตรธรรม” จากพระเจ้าที่ทรงสื่อผ่านเรามา
เป็นสัจธรรมฉบับเดียวที่รวมสัจธรรมไว้ทุกระดับ
ที่พวกคุณไม่รู้ว่าคุณยังไม่รู้
ที่พวกคุณไม่รู้ว่าคุณจะต้องรู้
ที่พวกคุณไม่รู้ว่าคุณยังหลงเชื่อผิดอยู่
ที่พวกคุณอยากรู้แต่ยังไม่รู้ว่าจะถามใคร
นอกจากองค์ความรู้ทั้ง 4 ประเภทแล้ว
มรรควิถีจิตจักรวาลยังมีแสงสว่างทางปัญญา
พร้อมน้ำมันใส่ตะเกียงให้พวกคุณอีกด้วย
คำว่า “แสงสว่าง” คือ ความฉลาดทางปัญญา
คำว่า “น้ำมันใส่ตะเกียง” คือ พลังจิตเพื่อการคิด
ถ้าคุณตัดสินใจก้าวเดินมาทางเรา
เพื่อตามเราไปกราบพระบาทพระบิดาเจ้าแล้ว
คุณจะไม่มีวันหลงทางหลงธรรมหลงมายาลวง
จนเป็นเหยื่อของผีโสโครกหรือต้องถูกระเบิดทิ้ง
การเดินถ่างขาจึงหมายถึง
เมื่อได้มีโอกาสพบพระโอวาทของพระองค์
เมื่อได้รับโอกาสให้มาใกล้พระบาทพระเจ้าแล้ว
ยังเสียดายของเก่าเสียดายเกียรติมายาที่ลวงตา
จนไม่กล้าตัดสินใจหันมาทางนี้อย่างเต็มตัวแล้ว
นั่นคือคุณกำลังตกหลุมดำอำพรางตาของกิเลส
ที่มอดมารได้ขุดหลุมดักล่อหลอกเอาไว้โดยแท้
เราจะกล่าวความจริงให้พวกคุณรู้ว่า
โลกกำลังสิ้นยุคพลังงานเก่าแล้ว
พระเจ้าทรงพิพากษาโลกเพื่อชำระโลกแล้วด้วย
พวกคุณโชคดีที่ชาตินี้ได้เกิดเป็นมนุษย์กันอยู่
รีบทำในสิ่งสมควรทำกันดีกว่า
อย่ามัวแต่เดินตามคนนำทางตาบอด
อยู่ในท่ามกลางความมืดกันอีกต่อไปเลย
เรากลับมาช่วยเหลือพวกคุณ...และเราอยู่ที่นี่แล้ว
สื่อถ่ายทอดคลื่นความคิดในระบบจิตสู่จิต
จากองค์จิตจักรวาลดวงใหญ่
ปัญญาวิสุทธิ์
22/06/2566
พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
คำว่า “อย่าเดินถ่างขา” นั้น
มิใช่การกล่าววาจาอันน่าเกลียดแต่อย่างใด
เพราะเรามิได้ให้พวกคุณคิดแบบจิตมนุษย์
โดยนำเอาลักษณะท่าทางการถ่างขาก้าวเดิน
ของคนที่ป่วยเป็นริดสีดวงหรือเป็นฝีที่ขาหนีบ
เนื่องจากเราไม่มีอะไรจะกล่าวให้พวกคุณฟัง
แต่คำว่าอย่าเดินถ่างขานี้
เราหมายถึงคุณต้องไม่ลังเลในการปฏิบัติธรรม
โดยเลือกหนทางเดินมากกว่าสองทางขึ้นไป
ซึ่งจะทำให้คุณย่างเดินลำบากมากเกินจำเป็น
ในอันที่จะทำให้เสียเวลาไปกับการสะเปะสะปะ
เสียเวลาไปกับการลองผิดลองถูกแล้วเริ่มใหม่
จนเสียเวลากว่าจะเข้าถึงจุดหมายปลายทางได้
ซึ่งในวันนั้นก็อาจจะเป็นวันที่สายเกินไปแล้ว
โดยเฉพาะการบรรลุมรรคผลนิพพาน
ซึ่งมีจุดหมายปลายทางอยู่ 2 จุดด้วยกัน
ที่พวกคุณทุกคนทุกชาติทุกศาสนาต้องไปให้ถึง
ปลายทางแรกคือ #นิพพานก่อนตาย
คำว่า “นิพพานก่อนตาย” หมายถึง
การดับการเกิดดับของ #กิเลส ในจิตหยาบให้สิ้น
เพราะกิเลสเป็นที่มาของตัณหาราคะอารมณ์ขยะ
ซึ่งกิเลสของจิตหยาบนี่แหละที่ทำให้จิตวิญญาณ
ต้องเป็นทาส #กฎแห่งกรรม จนต้องมีภพชาติ
ต้องเวียนว่ายตายเกิดอยู่ซ้ำซากทั้งต้องมีสังสารวัฏ
ต้องเสียเวลากับการเกิดใหม่เพื่อแก้ไขหรือแก้แค้น
ต้องกลับมาเกิดใหม่เพื่อชำระขยะพลังงานกรรม
ที่ตนเป็นผู้ผลิตพลังงานสกปรกจนรกโลกนั้นเอาไว้
ต้องกลับมาเกิดใหม่เพื่อที่จะได้เริ่มต้นใหม่
ด้วยจิตหยาบซึ่งเป็นกลุ่มพลังงานกลุ่มใหม่
ที่จิตวิญญาณแก่นแท้ของคุณจะได้รับโอกาส
ให้แบ่งภาคพลังงานออกมาอีกเป็น 189 กลุ่ม
เพื่อให้ทำหน้าที่แทนตนเองในภพชาติใหม่ได้
เพราะจิตหยาบกลุ่มเดิมเหลวไหลจึงล้มเหลว
จนไม่สามารถยกระดับตนเองจาก 4D สู่ 5D ได้
จึงต้องตายเพื่อส่งจิตวิญญาณไปเยียวยาในนรก
เพื่อขอโอกาสให้ได้มาเกิดใหม่จะได้แก้ตัวใหม่
ด้วยจิตหยาบกลุ่มใหม่ที่เป็นจิตวิญญาณดวงเดิม
เพราะจิตหยาบ “นิพพานกิเลส” ไม่สำเร็จนี่แหละ
พวกคุณจึงไม่สามารถหมุนธรรมจักรในตนเองได้
อีกทั้งยังร่วมกันหมุนธรรมจักรแบบหมู่คณะก็ไม่ได้
เมื่อทำไม่ได้ภารกิจของจิตวิญญาณที่ขันอาสามา
จึงต้องล้มเหลวเพราะว่าทำตามพันธะสัญญาไม่ได้
กล่าวคือผิดสัจจะที่ให้ไว้ต่อพระเจ้านั่นเอง
ปลายทางที่สองของ “นิพพาน” ก็คือ
เมื่อนิพพานกิเลสในจิตหยาบจนหมดสิ้นแล้ว
คุณก็สามารถหมุนธรรมจักรได้อย่างไร้อุปสรรค
เพราะเข้าถึงการสั่นสะเทือนเป็นรักเพื่อให้กันได้
เมื่อทุกคนหมุนธรรมจักรในตนเองกันได้แล้ว
ต่างคนต่างก็จะร่วมกันหมุนธรรมจักรไปด้วยกัน
โดยเป็นเงื่อนไขด้านบวกด้วยการคิดดีพูดดีทำดี
ทำให้ทุกคนคิดดีพูดดีทำดีตอบสนองกันง่ายขึ้น
หรือถ้าใครทำไม่ดีกับคุณแต่คุณก็ทำดีตอบ
คุณก็สามารถยกระดับจิตหยาบของคุณเองได้
แถมยังจะช่วยยกระดับจิตหยาบของคนชั่วคนนั้น
ให้มันสั่นสะเทือนสูงขึ้นทางด้านบวกได้อีกด้วย
นี่คืออีกความหมายหนึ่งของประโยคสำคัญที่ว่า
#เด็ดดอกไม้สั่นสะเทือนถึงดวงดาว
แปลว่าถ้าคุณหมุนธรรมจักรได้สำเร็จด้วยจิตคุณ
มันจะสามารถสั่นสะเทือนถึงจิตหยาบของคนอื่น
ที่กำลังอยู่ในมิติของเหตุการณ์หรือเรื่องราวนั้นๆ
ร่วมกันกับตัวคุณด้วยเสมอ
#พระเจ้าทรงออกแบบไว้ให้เป็นเช่นนี้เอง
เราเคยกล่าวให้พวกคุณรู้มาแล้วว่า
ถ้าพวกคุณช่วยเหลือตนเองให้หมุนธรรมจักร
เพื่อยกระดับมิติของจิตหยาบให้สูงขึ้นได้แล้ว
ในภพชาติปัจจุบันคุณจะไม่มีวันต้องตายเลย
เพราะคุณสามารถเป็นหนึ่งเดียวกันกับโลกได้
เนื่องจากโลกเสรีนี้กับจิตหยาบของคุณนั้น
มันสั่นสะเทือนจนกลมกลืนเป็นหนึ่งเดียวกันได้
เวลาของจิตหยาบคุณกับเวลาโลกจึงไร้ช่องถ่าง
เมื่อไม่มีช่องถ่างกาลเวลาของจิตหยาบจึงไม่มี
เมื่อจิตหยาบของคุณกับโลกไม่มีช่องถ่าง
กายหยาบของคุณกับโลกจึงไม่มีช่องถ่างด้วย
ดังนั้น
ตัวคุณเองในสองมิติกับดาวโลกเสรีดวงนี้
จึงอยู่ในมิติแห่งกาลเวลาที่เป็นหนึ่งเดียวกันพอดี
ยังผลให้เวลาของคุณจะมีค่าเท่ากับหนึ่งไปตลอด
ซึ่งเป็นมิติแห่งกาลเวลาของจักรวาลไปแล้ว
โดยที่คุณไม่ต้องใช้เวลาทางกายภาพอีกต่อไป
คุณจึงไม่ต้องมีอายุขัยจึงไม่ต้องแก่ชราจนตาย
จิตวิญญาณสามารถมีชีวิตอยู่ได้นานนับหมื่นปีโลก
ยิ่งถ้าคุณไม่กินเลือดเนื้อของสัตว์บำรุง DNA มอด
มันก็จะไม่มีวันเกิดขึ้นเหมือนอดีตที่ผ่านมา
เมื่อคุณอ่านมาจนถึงบรรทัดนี้แล้ว
คุณจะพบว่านี่เป็นอนุตรธรรมแท้จากพระเจ้า
ที่เราช่วยสื่อจากพระองค์มาเพื่อแจกพวกคุณ
คุณที่เป็น “วิสุทธิชนยุคสุดท้าย” หรือยุวจิตฯ
ให้รับรู้รับเอาเพื่อเรียนรู้สู่การปฏิบัติในชีวิตจริง
“อนุตรธรรม” จากพระเจ้าที่ทรงสื่อผ่านเรามา
เป็นสัจธรรมฉบับเดียวที่รวมสัจธรรมไว้ทุกระดับ
ที่พวกคุณไม่รู้ว่าคุณยังไม่รู้
ที่พวกคุณไม่รู้ว่าคุณจะต้องรู้
ที่พวกคุณไม่รู้ว่าคุณยังหลงเชื่อผิดอยู่
ที่พวกคุณอยากรู้แต่ยังไม่รู้ว่าจะถามใคร
นอกจากองค์ความรู้ทั้ง 4 ประเภทแล้ว
มรรควิถีจิตจักรวาลยังมีแสงสว่างทางปัญญา
พร้อมน้ำมันใส่ตะเกียงให้พวกคุณอีกด้วย
คำว่า “แสงสว่าง” คือ ความฉลาดทางปัญญา
คำว่า “น้ำมันใส่ตะเกียง” คือ พลังจิตเพื่อการคิด
ถ้าคุณตัดสินใจก้าวเดินมาทางเรา
เพื่อตามเราไปกราบพระบาทพระบิดาเจ้าแล้ว
คุณจะไม่มีวันหลงทางหลงธรรมหลงมายาลวง
จนเป็นเหยื่อของผีโสโครกหรือต้องถูกระเบิดทิ้ง
การเดินถ่างขาจึงหมายถึง
เมื่อได้มีโอกาสพบพระโอวาทของพระองค์
เมื่อได้รับโอกาสให้มาใกล้พระบาทพระเจ้าแล้ว
ยังเสียดายของเก่าเสียดายเกียรติมายาที่ลวงตา
จนไม่กล้าตัดสินใจหันมาทางนี้อย่างเต็มตัวแล้ว
นั่นคือคุณกำลังตกหลุมดำอำพรางตาของกิเลส
ที่มอดมารได้ขุดหลุมดักล่อหลอกเอาไว้โดยแท้
เราจะกล่าวความจริงให้พวกคุณรู้ว่า
โลกกำลังสิ้นยุคพลังงานเก่าแล้ว
พระเจ้าทรงพิพากษาโลกเพื่อชำระโลกแล้วด้วย
พวกคุณโชคดีที่ชาตินี้ได้เกิดเป็นมนุษย์กันอยู่
รีบทำในสิ่งสมควรทำกันดีกว่า
อย่ามัวแต่เดินตามคนนำทางตาบอด
อยู่ในท่ามกลางความมืดกันอีกต่อไปเลย
เรากลับมาช่วยเหลือพวกคุณ...และเราอยู่ที่นี่แล้ว
สื่อถ่ายทอดคลื่นความคิดในระบบจิตสู่จิต
จากองค์จิตจักรวาลดวงใหญ่
ปัญญาวิสุทธิ์
22/06/2566
